AZURE
Group Blog
 
All Blogs
 
เที่ยวสิงคโปร์ หน้าฝน ตอนที่ 2

หลังจากเมื่อคืนทานอาหารดึกมาก คือ เกือบตี1 บ้านเค้าไม่ค่อยหลับนอนกันค่ะ หรือว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ป่าว ไม่รู้ เค้าเลยพักผ่อนกันเต็มที่

วันนี้ เรา plan ว่าจะต้องหาที่พักให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวค่ะ ระหว่างทางเลยขอเดินเล่น แถว little india ก่อน เพราะว่าเดินไปไม่ไกลมาก อีกอย่างถือโอกาสเดินชมเมืองด้วยค่ะ บ้านเมืองเค้าสวยดีค่ะ สีสันสดใสดี แต่ภายใน เห็นคนอินเดียเค้าอยู่กันแออัดเหมือนกันนา

เราเดินไปถึง little india ว่าจะแวะทานอาหาร ร้าน banana leaf อะไรสักอย่างแหล่ะ แต่ปรากฏว่า ยังไม่เปิดค่ะ เวลาตอนนั้นก็ 10 โมงแล้วด้วย ไม่เห็นร้านไหน เปิดกันสักร้านเลย

ไม่ไหว ฝนก็ตกหน่อยๆ แล้ว เลยเดินไปขึ้น MRT ดีกว่า เพราะไม่รู้จะดูไร เล่นไม่เปิดกันสักร้านเลยแหะ

ถึง MRT เรานั่งไปลง china town ค่ะ เพราะจะไปหาที่พักที่นั่นด้วย ปรากฏว่า ที่พักแพงไปหน่อยอะ คืนละ 1000 บาท ต่อคนนะคะ ด้วยว่า ทริปนี้ตั้งใจให้เป็น Budget trip ไม่ใช่ hiso backpacker ค่ะ เลยต้องจรลี หนีจาก china town มา

china town เหมือน little india ค่ะ คือ มานยังไม่เปิดร้านขายของกานเลย ยกเว้นร้านอาหารที่สิงคโปร์หาไม่ยาก เปิดกัน 24 ชั่วโมง กินกันได้ทั่งวันทั้งคืน ทั้งอาหารสไตล์แขก จีน มีให้เลือกหมดค่ะ

China town นี่เดินกันนานมากอะ ก็ยังไม่ได้ที่พัก เข้าทะลุแทบทุกซอยเลย สุดท้าย เพื่อนสาวบอกว่า ไม่มีแรงเหวี่ยงแล้ว กระเป๋าก็หนักมาก พวกเราเลยตัดสินใจไปหาแถว Bugis ต่อค่ะ เป็นงัยหล่ะ ครึ่งเช้าผ่านที่เที่ยวมา 3 แห่งเลยนา

ที่ Bugis เรามาโดย MRT เหมือนเดิมค่ะ ก็หาร้านก๋วยเตี๋ยวกินกลางวันกันก่อน ร้านค้าทุกร้านที่สิงคโปร์ เค้าให้จ่ายตังค์ก่อนค่ะ ถึงจะได้อาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านในห้องแอร์ หรือร้านข้างทางก็ตามค่ะ

ที่ Bugis เค้าว่าเหมือน จตุจักร บ้านเราค่ะ แต่ห้างตอนที่เราออกจาก MRT มา บังเอิญเห็นร้าน TOPSHOP กำลัง on sale เลยแหล่ะ ราคาที่ราวก็ประมาณ 1000 กว่าบาทไทย ถือว่าถูกนะ แต่ข้าเจ้าก็ไม่ได้ซืออะ เพราะแบบเสื้อยังไม่แจ่มเท่าไหร่

นี่ต้องข้ามมาตรงข้าม MRT เค้าค่ะ ตรง Bugis นี่แหล่ะ เดินไปรอบๆ ถนน เหอะ มีร้านเสื้อผ้าตามตรอกซอยเยอะแยะ เห็นเสื้อตัวนึงมี hood ลายตุ๊กตาหมี น่ารักดีอะ ราคาแค่ 200 บาทไทยเองค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ กะว่าเผื่อเจอน่ารักกว่านี้อีก ปรากฏว่าไม่เจอแล้วก็ขี้เกียจกลับไปซ์อแล้วอะ อดเลย กลับมาไทยซื้อเสื้อมี hood ของ Esprit on sale แล้วก็ยัง 700 บาท เฮ้อ ตอนนั้น ตรูน่าจะซื้อมาว่ะ

หลังจากเติมพลังข้าวกลางวันกันแล้ว เราก็นั่ง MRT ต่อ ค่ะ เพื่อหาที่พักต่อไป หนนี้ ได้ราคาถูกหลายแห่งเลยค่ะ เพราะโรงแรมแถว altunaid ตั้งอยู่ห่างตัวเมือง ประมาณ 2-3 สถานี ค่ะ สุดท้ายเราก็ได้ Minvah hotel ค่ะ ราคาคืนละ เกือบ 500 บาท ไม่แพงค่ะ สำหรับการพักต่างประเทศ เนอะ

เวลาที่เจอที่พักคือ บ่ายสองค่ะ OH MY GOD ก็ยังดีฟระที่ยังหาเจอ

ช่วงบ่ายเราไป Sentosa กันค่ะ เพราะว่าเลยช่วงเที่ยงมาแล้ว สมควรแก่เวลาในการไปเที่ยวได้แล้วค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าที่นั่น ร้อนมาก

เรามาเสียตังค์ที่ sentosa กันเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะค่าเข้าแต่ละแห่งของเค้าเป็นเงินไปหมดเลยค่ะ ตั้งแต่นั่ง Cable car ก็เกือบ 500 กว่าบาทแล้ว แล้วก็ค่าขึ้นเกาะด้วยค่ะ อีก 2 USG แล้วเราก็ขึ้น Tower ของเค้าด้วยค่ะ เพื่อชมวิว 360 องศา ขึ้นไปประมาณ 20 นาทีค่ะ กับสตางค์ค่าขึ้นไปอีก 12 USG (มั้ง) เช่นกันคร้าบ

ที่สิงคโปร์ นอกจากร้านกาแฟ Starbucks ที่เห็นกันเกลื่อนเมืองแล้ว ยังมีร้านกาแฟ ชื่อ Coffee Beans ที่เห็นกันมากเหมือนกันค่ะ แถมยังตั้งใกล้ๆ กันแทบทุกแห่งด้วย เราลองกิน cappuchino ของเพื่อน รสชาติก็ทั่วๆ ไปค่ะ ไม่ได้มีกลิ่นหอมมาก แต่ก็ไม่ได้ลองอย่างอื่นของเค้านะคะ แต่เห็นว่าน้ำผลไม้ของเค้าราคาถูกดีค่ะ ขวดอย่างโตเลย ดื่มหมดขวดคาดว่าจะอิ่มได้เป็นชั่วโมง
บนเกาะ Sentosa นอกจากร้านกาแฟ แล้วก็มีร้านไอติม Natural from Natherland มั้ง จำไม่ได้แล้วอะ แต่ที่กรุงเทพฯ ก็มี เรากินตั้งแต่มันเพิ่งเข้ามาในไทยแล้วแหล่ะ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เฉยๆ แต่ว่าอากาศที่นี่มันร้อนชะมัด เลยต้องขอซื้อกินสักโคนหน่อยเหอะ ก็ตก โคนละ เกือบ 100 ค่ะ (มั้ง)

ใครที่จะมาเที่ยว Sentosa ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเข้าชมที่ไหนดี ค่อยซื้อตั๋วบนเกาะก็ได้ค่ะ ราคาเท่ากัน แต่ถ้าใครรู้แน่ๆ แล้วว่า ชั้นจะเข้าที่ไหนบ้าง ก็ซื้อตั๋วได้ตั้งแต่ข้างล่างเลยค่ะ

Hilighted ของ Sentosa Island คือ Merlion ค่ะ Big สุดของทุกตัวใน Singapore แล้วค่ะ ถ้าจะเข้าไปในตัวมันก็ 8 USG ค่ะ แต่เราไม่ได้เข้าไปค่ะ มี Under Water World ด้วย ก็ไม่ได้เข้าเหมือนกัน เพราะว่าเข้าของไทยที่ Parogon มาแล้ว เค้าว่าของบ้านเราใหญ่กว่าบ้านเค้า เลยไม่เข้าดีก่า

วิธีการเดินทางมายังเกาะ Sentosa ก็เหมือนหลายคนที่ รีวิวกันมา เราเลือกนั่ง MRT มาลงที่ Habour front ก็จะออกมาโผล่ที่ห้าง แล้วก็เดินไปตามลูกศรชี้ทางไปนั่ง Cable car ค่ะ เส้นนี้ เดินทางสะดวกเหมือนกัน ไม่ต้องต่อรถอะไรให้มากมาย เหมือนตอนไปฮ่องกง ที่จะไปวัดใหญ่ น่ะค่ะ ออกจาก MRT ก็เจอห้าง เดินไปหน่อยเพื่อขึ้น cable car เด๊ะๆ เลย

พอ 6 โมงเย็น ก็สมควรแก่เวลาที่เราจะ move กันไปที่อื่นต่อค่ะ
เราตั้งใจว่าจะไปเอสพานาดค่ะและ Singapore frier (เขียนถูกป่าวหว่า)

หลังจากแทบจะงมเข็มในมหาสมุทรเพื่อหาทางไปไอ้ชิงช้าสวรรค์บ้านเค้าแหน่ะ หลงทางไปเป็นชั่วโมงแหน่ะ แต่ก็ได้ไปโผล่สถานที่เที่ยวที่อื่นของเค้าที่เราไม่ตั้งใจจะไปแหะ เช่น สถานที่เล่นว่าวบ้านเค้า design ได้สวยมากค่ะ เป็น stadium โค้งเป็นวงกลม ให้เดินเล่น หรือเล่นว่าวกันได้ตลอดทางเดินโค้งๆ นี่ค่ะ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำสิงคโปร์ค่ะ

อ้อ วันนี้เป็นวันชาติบ้านเค้าค่ะ จะเห็นใครๆ ก็ใส่เสื้อสีแดงกันทั้งนั้นเลยค่ะ

หลังจากถ่อหาทางไปนั่งเล่นชิงช้าสวรรค์ได้แล้ว อ้อ เราได้บัตรลดมาจากตอนเดินเล่นแถว little india แหล่ะ เลยลดค่านั่งไปได้ตรึมเลย จาก 69 USG เหลือแค่ 29 USG เอง ถือว่า save ไปได้เยอะเลย แต่ว่าเค้าไม่ให้เอาของกินเข้าไปนา โชคดีกะลังจะไปซื้อเบอร์เกอร์มากินแล้ว ดีนะที่ซื้อไม่ทัน ใครจะไปสิงคโปร์ ก็นั่งชิงช้าสวรรค์ ก็โอ อยู่ นะคะ ได้นั่งนานดีเหมือนกัน ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็ได้เห็นบ้านเมืองเค้าแบบเต็มๆ ในจุดที่สูงเลยค่ะ เราแอบเห็น Merlion อีกตัวด้วย แต่มันตัวเล็กมากๆ เลย ไว้พรุ่งนี้จะมาชมโฉมใกล้ๆ นะ คืนนี้ดึกแล้ว คงเดินไปดูไม่ไหวแล้วอะ อ้อ MRT ทีนี่ มีโบสถ์สวยนะ เป็นที่เที่ยวด้วย แต่จำชื่อไม่ได้อะ

ขากลับ เราลองนั่งรถเมล์ดูบ้างค่ะ ไปลงสถานี MRT แล้วก็ยิงยาวกลับที่พักเลยค่ะ คืนนี้ขอกินข้าวต้มกุ๊ยบ้านเค้าค่ะ ร้านข้างทางอย่างนี้ เค้าจะไม่พูดภาษาปะกิดค่ะ เค้าจะพูด Chinese กะเรา ซึ่งข้าเจ้าก็อุตส่าห์ไปเรียนมาบ้างเล็กน้อย ไม่กี่ชั่วโมง เลยยังจำอะไรไม่ได้ พอจะบอกเค้าว่า เอาข้าวต้ม ก็ไม่รู้ว่าต้องพูดว่า จุ้ยฟ่าน ป่าว 555 ตรงตัวกันไปเลยค่ะ ราคาข้าวต้มกุ้ย บ้านเค้าถูกมากๆๆ ค่ะ กินกันอิ่มเลย

เฮ้อ คืนนี้พอแค่นี้แหล่ะ เหนือยจะตายอยู่แล้ว เดินอย่างเดียวเลย ตั้งแต่เช้า





Create Date : 02 สิงหาคม 2552
Last Update : 2 สิงหาคม 2552 12:05:32 น. 0 comments
Counter : 1460 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

chocomania
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ได้เกิดเป็นคนทั้งที ใช้ชีวิตให้เต็มที่หน่อยดีมั๊ย

แต่ถ้ากระเป๋าตุง ก็คงทำได้อย่างใจอยากแล้วอะนะ
Friends' blogs
[Add chocomania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.