จัดสวนให้น้องเผือกหิมะ (1)
วันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2553......
วันนี้ที่นอนสลัมเบอร์แลนด์มาส่งให้ที่บ้านตามนัดแล้วค่ะ ที่นอนอันนี้เป็นของห้องแม่ แต่ห้องแม่ยังไม่ได้ติดแอร์ เราก้อเลยขอยืมที่นอนแม่มาใช้ก่อนในห้องเรา ![]() เอามาปูแทนแก้ขัดไปก่อนแระกันนะจ้ะ ![]() ช่วงเย็นเริ่มว่าง วันนี้นอนค้างที่บ้านนี้ค่ะ ทีวีก้อยังไม่มี ว่าแล้วหาอะไรทำ ชวนคุณแฟนไปดูต้นไม้ที่คลอง 15 ดีกว่า ![]() ขับรถไปเรื่อยๆ เส้นองค์รักษ์น่ะค่ะ จนถึงป้ายเข้าเขตนครนายกก้อจะถึงคลอง 15 แล้ว มีป้ายบอกชัดเจนค่ะ อยู่ทางซ้ายมือ เป็นศูนย์ไม้ดอกไม้ประดับ ดอกไม้ไม่เยอะเท่าไร เราก้อเลยขับเข้าถนนที่เขียนว่า ทางไปวัดประสิทธิเวช (ชื่อประมาณนี้นะคะ จำไม่ค่อยจะได้ ![]() พอขับเข้ามาเจอสวนขายดอกไม้ตรึมเรยอ่ะ เลือกไม่ถูกกันทีเดียว สุดท้ายเลยได้มาพอสมควรเหมือนกัน (นี่ขนาดเลือกไม่ค่อยจะถูก + ไม่มีเวลาเลือกมากนะเนี่ย เพราะใกล้ค่ำแล้ว) ได้ดอกฟอร์เก็ตมีนอทสีชมพูกับสีม่วงอย่างละ 20 ต้น ต้นละ 5 บาทค่ะ ต้นโขมแดง 20 ต้น ต้นละ 2 บาท ต้นบานบุรีสีม่วง 2 ต้น ต้นละ 50 บาท ต้นมะลิ 1 ต้น ต้นละ 20 บาท ต้นเดซี่ 10 ถุง ถุงละ 10 บาท ต้นผีเสื้อ 10 ถุง ถุงละ 10 บาท ต้นคอสมอส 10 ถุง ถุงละ 10 บาท ปุ๋ยเร่งใบเร่งดอก 1 ถุง ถุงละ 20 บาท ดินปลูกต้นไม้ 2 ถุง ถุงละ 10 บาท กลับบ้านโลด พรุ่งนี้เช้ามีโปรแกรมจัดสวนกันจ้า ![]() ตื่นมาเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2553 เหมือนมาค้างที่รีสอร์ทต่างจังหวัดเลยค่ะ อากาศดีมากกก ตื่นแต่เช้ามานั่งกินกาแฟ ดูต้นไม้ใบหญ้าในบ้าน ดูหมอกที่บ้านตอนเช้าๆ สดชื่นดีนะคะ ![]() คว้ากล้องมาถ่ายรูปน้องเผือกหิมะเวลาเช้าๆ ดีกว่า (ไม่ค่อยจะเห่อบ้านเลยนะนี่ อิอิ) ![]() เมื่อสัปดาห์ก่อน หนีงานไปเที่ยวปายมา เลยได้ของฝากมาให้น้องเผือกหิมะด้วย เป็นนาฬิกาค่ะ สีม่วงเข้าคอนเซปต์ ![]() ![]() รูปสนามหน้าบ้านก่อนลงมือแปลงโฉม ![]() ![]() ![]() ![]() เริ่มลงมือกันดีกว่าค่ะ ![]() บานบุรีซื้อมา 2 ต้นเอง ![]() คุณแฟนยังไม่ตื่นค่ะ เพราะเมื่อคืนทำงานดึก เราก้อเลยจัดการขุดๆ ปลูกๆ พรวนดินอยู่คนเดียว ได้มุมหน้าบ้านหน้าตาประมาณนี้ แต่น..แตน..แต๊น.. ![]() อ่างน้ำล้นสีม่วงและตุ๊กตาไก่คู่ซื้อมาจากที่ไปเที่ยวด่านเกวียนเมื่อเดือนธันวา เลยจัดการเอามาตั้งตามฮวงจุ้ยของคุณนายแม่ (ที่สั่งมา) ซ้ายมือของหน้าบ้านค่ะ แล้วเอาดอกเดซี่มาปลูกล้อมรอบค่ะ ![]() พอคุณแฟนตื่นนอนแล้ว พอดีกับช่างที่ตกแต่งบิ้วอินมาประเมินราคาบ้านด้วย เที่ยงๆ ช่างมุ้งลวดมาตีราคาต่ออีกค่ะ จนบ่ายเสร็จธุระเรื่องช่างทั้งหลายแล้ว คุณแฟนชวนไปซื้อต้นไม้ต่อ (ติดใจล่ะสิ) เย็นๆ กลับมาปลูกดอกไม้ ต้นไม้กันต่อค่ะ เพราะไปซื้อต้นไม้มาเพิ่มอีกเพียบ ปลูกต้นไม้กันสองคนจนมืดค่ำ ยังไม่เสร็จดีเลย เหลืออีกนิดเดียวค่อยทำต่อ ถ้าจัดสวนเสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวจะอัพบลอคลงรูปเพิ่มนะคะ ![]() ความหมายของไหว้ในวันเข้าบ้านใหม่
ได้รับเมลล์มาถามหลายเมลล์อยู่เหมือนกันค่ะเรื่องของไหว้ในวันเข้าบ้านใหม่
![]() เราเลยคิดว่า มาเขียนในบลอคไว้เลยดีกว่า เป็นการแชร์ข้อมูลต่อกัน ต้องบอกก่อนนะคะว่า อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และก้อแล้วแต่ธรรมเนียมประเพณีของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ของบ้านเราทำแบบนี้ อาจจะไม่เหมือนกับบ้านอื่นๆ (แม้แต่บ้านของคุณแฟนยังไหว้ไม่เหมือนบ้านเราเลยค่ะ ![]() เริ่มจาก พระพุทธ เชื่อว่าทุกบ้านที่นับถือศาสนาพุทธต้องมีอยู่แล้วเนาะ กระถางธูป ธูป เทียน ก้อเป็นส่วนประกอบสำคัญของหิ้งพระอยู่แล้วนะคะ ดอกดาวเรือง = ความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ ดอกรัก = ความรัก ความผูกพัน ข้าวตอก ถั่ว งา = ความเจริญงอกงาม ถังน้ำ ถังข้าวสาร = ความอุดมสมบูรณ์ (น้ำและข้าวสารต้องเต็มถัง) ตะกร้าใส่หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง กะปิ น้ำปลา น้ำตาลทราย เกลือ = ข้าวปลาอาหารมีกินมีใช้ตลอดไป (ต้องเต็มตะกร้า) กระบุงใส่เงินเป็นแบงค์ 1,900 บาท เหรียญ 108 บาท = เงินมากมายร้อยแปดพันเก้า กล่องใส่ทองและเครื่องประดับ = ความมั่งมี ร่ำรวย ของไหว้เป็นผลไม้ 5 อย่าง คือ ส้ม = ผลไม้ที่แสดงถึงความสุข สดใส สมหวังในทุกสิ่ง ทับทิม = ผลไม้ที่แสดงถึงความร่ำรวยเงินทอง มะพร้าว = ผลไม้ที่แสดงถึงการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป กล้วย = ผลไม้ที่แสดงถึงราบรื่นในการใช้ชีวิต ไม่มีอุปสรรค แอปเปิ้ล/สาลี่/องุ่น = ผลไม้ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เจริญงอกงาม เครื่องดื่ม คือ น้ำองุ่น/น้ำผลไม้ = ความหวานชื่น บ้านเราใช้น้ำองุ่น แม่บอกว่า องุ่นมีลักษณะเป็นพวง หมายถึงการเจริญงอกงาม น้ำเปล่า = ความสดชื่น นมสด = ความอุดมสมบูรณ์ ขนมทองหยิบ ทองหยอด ถ้วยฟู = ขนมชื่อมงคลของไทย ความหมายทั้งหมดประมาณนี้อ่ะค่ะ และอีกข้อที่อาจจะไม่เหมือนธรรมเนียมบ้านอื่น คือบ้านเราไม่ไหว้ของคาว เพราะแม่บอกว่า ของคาวหมายถึงการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ตามความเชื่อ (ของแม่) การเบียดเบียนชีวิตจะส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านค่ะ ![]() สรุปค่าใช้จ่าย.....ตกแต่งบ้าน ครั้งที่ 1.....
เลิกงานแล้ว อัพบลอคดีกว่าค่ะ.....
![]() เรื่องของเรื่อง คิดถึงบ้านง่ะ เลยมานั่งอ่านบลอคไปเรื่อยๆ ว่าแล้วก้ออัพบลอคซะหน่อยดีกว่า..... จะอัพเรื่องอะไรดี ![]() สรุปกันหน่อย ว่าควักกระเป๋าจ่ายไปกี่ตังค์แว้วววววว ก่อนจะได้บ้านจ่ายไป 234,613 บาท (สรุปไปแล้วเมื่อวันที่ 30/11/52) หลังจากนั้นเราก้อช้อปปิ่ง ซื้อของเข้าบ้านเรื่อยๆ (เมื่อมีโอกาส ![]() - TV = 9,490 - จานชามที่จตุจักร = 3,870 - รถตัดหญ้า = 2,990 - ของใช้ทำความสะอาดบ้าน = 2,515 - เฟอร์นิเจอร์ห้องแม่ = 20,500 - โต๊ะอาหาร = 17,900 - ผ้าม่าน = 38,500 - ที่นอนสลัมเบอร์แลนด์ = 15,250 - ชุดเครื่องนอน 2 ห้องนอน = 8,900 - ของแต่งบ้านจากด่านเกวียน = 1,500 - เตาแก๊ส + ที่ดูดควัน = 19,900 - โคมไฟโถงบันได + โต๊ะอาหาร = 3,383 - พัดลม = 788 - ไมโครเวฟ = 1,990 - พรมรองโต๊ะอาหาร = 429 รวมจ่ายตังค์ค่าตกแต่งงวดที่ 1 เป็นเงินทั้งหมด 147,905 บาท รวมกับของเดิมที่จ่ายไปแล้วก่อนจะได้บ้านอีก 234,613 บาท ทั้งหมดก็เท่ากับ 382,518 บาท ![]() โอ้ววพระเจ้า....สามเดือนที่ผ่านมา ใช้ตังค์ไปขนาดนี้เลยหรือนี่ เหงื่อตกเรย ![]() นี่ยังไม่รวมค่าตกแต่งอื่นที่กำลังเริ่มทยอยทำในเดือน ม.ค.-ก.พ. อีกนะเนี่ย ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ ห้องรับแขก จัดสวน ป้าดดดติโธ่ ![]() หาเรื่องเสียตังค์ 9.....ซื้อของเข้าบ้านกับของชิ้นต่อมา..... ^^
หลังจากติดผ้าม่านเสร็จแล้ว ก้อเย็นๆแล้วล่ะ สี่-ห้าโมงเย็นได้
ตั้งใจจะกลับบ้านบางนา แต่ขอแวะโฮมโปรแถวๆ รังสิตก่อน อยากได้พรมค่ะ จะเอาไว้รองโต๊ะอาหาร กลัวพื้นจะเป็นรอย เดี๋ยวกระเบื้องปูพื้นจะหมดงามก่อนวัยอันควร ![]() ว่าแล้วไปเดินโฮมโปรต่อ (รถติดมากมาย ถนนสายองค์รักษ์เนี่ย) เลือกไปเลือกมา สุดท้ายได้พรมสีเทาๆ ขนาด 120 x 180 ในราคา 429 บาท ![]() ซื้อพรมเสร็จ หิวข้าว แวะกินข้าวที่ร้านอาหารในโฮมโปร รังสิต ส้มตำไทยอร่อยมากก (ชักนอกเรื่อง เรื่องแต่งบ้านแระ ![]() อิ่มท้องแล้ว เกิดอาการขี้เห่อ อยากเอาพรมไปปูเลย อ้อนคุณแฟนให้ขับรถเข้าไปหาน้องเผือกหิมะอีกรอบ คุณแฟนโอเช (จริงๆ ก้อขี้เห่อเหมือนเค้านั่นแหล่ะ อยากเอาพรมไปปูเหมือนกั๊น) พอปูเสร็จแล้ว วี้ดวิ้ววว ชอบค่ะ สวยดี ![]() ![]() จากนั้นคุณแฟนเริ่มอยากถูบ้าน เพราะเห็นบ้านมีฝุ่นหลังจากที่ติดผ้าม่านไปตอนเย็น ทั้งๆ ที่ช่างผ้าม่านเค้าก้อเก็บงาน กวาดบ้านให้เราด้วยนะ แต่คุณแฟนเกิดอาการไม่สบายใจขั้นรุนแรง อาจถึงขั้นนอนไม่หลับถ้าไม่ได้ถูบ้าน เราก้อโอเช เอาเรยจิ ตามสบาย พี่ถูไปนะ เด๋วน้องนั่งกินกาแฟขอเป็นกำลังใจให้ ![]() กว่าจะเสร็จเรียบร้อยสองทุ่มแระ มองหน้ากัน ตัดสินใจใหม่ โทรไปหาแม่ หนูนอนค้างบ้านนี้อีกคืนนะแม่ ขี้เกียจขับรถ มันดึกแว้วว แม่โอเช บอกว่า เออ ดีแล้ว ดึกแล้วไม่ต้องมาหรอก นอนเฝ้าบ้านอ่ะแหล่ะ แป่ววว..... ในที่สุด.....เราก้อได้นอนค้างที่บ้านนี้สองคืนติดกันจนได้ แม้ว่าห้องหับยังไม่เรียบร้อย ห้องนอนเรายังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ซักชิ้น (นอกจากผ้าม่าน) มีแค่ที่นอนปิคนิก หมอน ผ้านวม (ตามตำราเสื่อผืนหมอนใบ) แต่เราก้อสบายใจ ที่ได้นอนที่ "บ้านของเรา" ![]() ปล. สัปดาห์หน้าคาดว่าจะตกแต่งต่อในเรื่องไฟค่ะ จะติดไฟดาวน์ไลท์ที่ห้องรับแขก ห้องนอนแม่และห้องนอนเรา และก้อติดโคมไฟ 3 จุดที่ มุมรับแขก มุมทานข้าว โถงบันได รวมถึงไฟนอกบ้าน คือ โคมไฟลีลาวดีตรงเสารั้วบ้าน 2 ด้านและ โคมไฟหินทรายฉลุลายลีลาวดี (ของฝากจากด่านเกวียน) ติดที่สนามหลังบ้าน โปรดติดตาม.....ตอนต่อไป..... ![]() ติดผ้าม่านให้น้องเผือกหิมะแว้วววว
เมื่อกลางเดือนธันวา เราไปเลือกผ้าม่านจากร้านผ้าม่านบริเวณใกล้ๆ หมู่บ้านค่ะ
จ่ายมัดจำไป 15,000 บาท โดยเลือกผ้าม่านลายและแบบต่างๆ ![]() ราคาผ้าม่านค่ะ ![]() 1 เดือนผ่านไป.....และแล้วก้อถึงเวลานัดค่ะ ช่างมาติดผ้าม่านให้บ้านเราแล้วววว ![]() จุดแรกที่ติด คือ ประตูหน้าบ้าน เป็นแบบม่านจีบค่ะ สีครีมขลิบม่วง เรื่องของเรื่อง คือว่า ทั้งเราและคุณแฟนชอบสีม่วงกันทั้งคู่ หลายสิ่ง หลายอย่างที่เราเลือกจึงเป็นสีม่วงเป็นหลัก แต่ถ้าจะติดผ่าม่านสีม่วงทั้งผืนเราก้อกลัวห้องจะดูแคบไป ก้อเลยอยากได้สีที่ดูสว่างๆ ไม่ครีมก้อขาว เรื่องสกปรกง่ายคงไม่เท่าไร เพราะบ้านเราไม่มีเด็กเล็ก ค่อนข้างจะรักความสะอาดด้วยกันทั้งคู่ เราชอบเก็บ ชอบจัดของ ในขณะที่คุณแฟนชอบล้าง ชอบเช็ดถู ก้อเลยตัดสินใจเลือกสีนี้แหล่ะ บ้านจะได้ดูโปร่งๆ สบายตาดี ![]() ![]() พอปิดผ้าม่าน จะได้หน้าตาประมาณนี้ค่ะ ![]() ประตูบ้านตรงห้องทานอาหารก้อเหมือนกัน เป็นม่านจีบสีครีมขลิบม่วง ![]() รูปนี้ตอนปิดผ้าม่าน ประตูห้องทานข้าว หน้าตาเหมือนประตูหน้าบ้านแต่จะเล็กกว่าหน่อยนึง ![]() ![]() ส่วนประกอบของผ้าม่านจีบค่ะ ![]() ส่วนด้านนี้เป็นของหน้าต่างเบย์วิว มุมรับแขกค่ะ ใช้ผ้าม่านแบบพับ สีครีมกุ๊นม่วงเหมือนเดิม ![]() พอดึงสายร้อยผ้าม่านปิด จะออกมาหน้าตาประมาณนี้ค่ะ ![]() หน้าต่างหลังบ้าน ตรงโต๊ะทานอาหารก้อเช่นกัน เป็นม่านพับสีครีมกุ๊นม่วงค่ะ ![]() ดึงสายร้อยปิดผ้าม่าน..... ![]() ภาพรวมผ้าม่านที่ชั้นล่างอีกซักรูป ชอบจริงๆ เล้ยย สีครีมม่วงอ่ะ ![]() กระจกที่โถงบันได ใช้ผ้านม่านจีบเช่นกันค่ะ สีครีมขลิบม่วง ดูหวานซะ ![]() ![]() ขึ้นชั้นบนกันดีกว่าค่ะ.....ห้องนอนใหญ่ ก้อ คือห้องนอนเราเอง ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตั้งใจจะต่อห้องตรงระเบียง ให้กลายเป็น walk in closet แต่ตอนนี้งบหมด อิอิ เลยต้องเลื่อนไปนานหน่อย ก้อแหม ต่อเติมบ้านมันใช้ตังค์เยอะกว่าตกแต่งนี่นา..... ![]() แต่ก้อนั่นแหล่ะ ถึงยังไม่มีเฟอร์ แต่ก้อควรติดผ้าม่านให้เค้านิดนึงนะ เด๋วโป๊ ![]() ![]() เป็นผ้าม่านแบบพับค่ะ เนื้อผ้าหนานิดนึงเพราะจะได้กรองแสงห้องนอน (ถ้าเป็นวันหยุด ปกติตื่นสายง่ะ ติดผ้าม่านแบบหนาแสงจะได้ไม่แยงตา ![]() เนื้อผ้าม่านประมาณนี้ สีม่วงเช่นเดิม แต่คนละเนื้อผ้ากับชั้นล่างที่เป็นผ้าไหม ![]() มาต่อที่ห้องนอนแม่ค่ะ เนื่องจากว่า ห้องนอนคุณนายติดวอลเปเปอร์สีครีม และคุณนายเอง ก้อเลือกเฟอร์นิเจอร์สีไม้ทั้งนั้น ตอนไปเลือกผ้าม่าน คุณนายก้อเลือกลายผ้าม่านเอง ออกแนวๆ สีน้ำตาลทอง ![]() ห้องแม่ติดผ้าม่านแบบพับ ปกติแม่อยู่บ้านบางนา จะมาค้างที่นี่อาทิตย์ละครั้ง วันนี้ที่ติดผ้าม่าน เราโทรไปบอกแม่ว่า ผ้าม่านห้องแม่ติดเสร็จแล้วนะ แม่ถามว่า สวยป่าวว เราบอกว่า สวยดีแม่ ห้องแม่เหมือนดงดอกเหมยเรย ![]() บรรยากาศเหมือนจีนๆ เพราะสีน้ำตาลทองด้วยมั้ง แถมเป็นลายดอกไม้อีก ![]() ![]() อีกห้องที่เหลือ คือ ห้องนอนเล็กที่เราทำเป็นห้องทำงาน วอลเปเปอร์ห้องนี้สีครีม มีลายสีเขียวเล็กๆ เราก้อเลยเลือกผ้าม่านสีน้ำตาลและมีสีเขียวปนด้วยหน่อยๆ ![]() เป็นผ้าม่านแบบพับเช่นกันค่ะ ลายผีเสื้อ มีลายเส้นโค้งๆ ให้ดูอ่อนช้อยนิดนึง แอบหวาน ![]() ![]() ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณสามชั่วโมง ช่างละเอียดมากกก ฝีมือดีและรับผิดชอบงานมากค่ะ ติดไป วัดไปตลอด เบี้ยวนิด เบี้ยวหน่อยไม่ได้เลย ![]() และแล้ว.....น้องเผือกหิมะของเราก้อมีเสื้อผ้าใส่เหมือนบ้านอื่นซักที ไม่โป๊แล้วลูกเอ๋ย ![]() ![]() |
chicken demon
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog
All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |