ค่อยๆ แต่งเติมกันไป.....ตอน ในที่สุด...เบาะก้อมาตามนัด

กำลังจะเข้านอนแล้วค่ะ

แต่ขอแว้บเข้ามาอัพบลอคซักนิ้ดด ตามประสาคนขี้เห่อ

เมื่อเย็นก่อนเราออกไปเวียนเทียนที่วัดแถวๆ บ้าน

ร้านตัดเบาะโทรเข้ามาบอกว่า กำลังจะเอาเบาะมาส่งนะคร้าบบ

วีดวิ้ววว.....และในที่สุด โซฟาของเราก้อมีเบาะแว้ววว






รูปนี้ถ่ายตอนกลางคืนแล้วค่ะ สีอาจจะเพี้ยนๆ ไปนิ้ดนึง

พี่ที่ร้านเบาะบอกว่า ฟองน้ำและหนังเทียมหุ้มเบาะสีม่วงเหลือ

เด๋วจะทำเบาะนั่งอันเล็กๆ แถมให้อีกนะครับ ว้าวว ใจดีจังอ่ะ






ค่ำๆ ได้เวลาออกไปเวียนเทียน

ส่งท้ายด้วยภาพหิ้งพระของที่บ้านนะคะ

ให้สมกับวันนี้เป็นวันพระใหญ่ ต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์ งดเว้นการทำบาป

Create Date : 27 กรกฎาคม 2553 Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 1:38:02 น. Counter : 2088 Pageviews.		17 comment
Share Tweet

ค่อยๆ แต่งเติมกันไป.....ตอน หมอนน้อยคอยเบาะ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากลับไปนอนเล่นที่บ้านแม่ที่บางนามาค่ะ

นอนเล่นคุยกันเพลินๆ ก้อเลยถามแม่ว่า

"แม่ๆ แถวบ้านเรายังมีร้านขายผ้าสวยๆ เหมือนเดิมป่าวคะ"

แม่ถามกลับมาว่า "จะไปร้านผ้าทำไมอ่ะ จะตัดเสื้อเหรอ

ลดความอ้วนก่อนเถอะ แม่ขี้เกียจวัดตัวใหม่"

(หมายเหตุ.....แม่เป็นช่างตัดเสื้อค่ะ แต่ก่อนเคยเปิดร้านตัดเสื้อเลย

แต่ตอนนี้แม่บอกว่า อยากอยู่บ้านเฉยๆ ให้ลูกหาเลี้ยง )

เราตอบไปว่า "ป่าวว แหมม อย่าทับถมกันนักจิกับเรื่องความอ้วนของบีง่ะ

บีอยากทำหมอนอิงอ่ะแม่ ไปเดินดูตามร้านขายของแต่งบ้านมันแพง ซื้อไม่ลง"

แม่ตอบว่า "ก้อ งกไม่เลิกอ่ะดิ"

เราตอบว่า "ม่ายช่ายย แหมม เค้าเรียกว่ารู้จักใช้เงินตะหาก "

ว่าแล้วสองคนแม่ลูกเลยตกลงจะช่วยกันทำหมอนอิง

แม่บอกว่าที่บ้านแม่มีเศษผ้าเยอะ เด๋วค้นๆ ดูเผื่อเจอผ้าสวยๆ จะได้ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อ

.....จะว่าไป เรานี่ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจิงๆ

ค้นไป ค้นมาก้อเจอค่ะ ได้ผ้าสวยๆ ถูกใจ คราวนี้มาถึงตัวหมอน

แม่ชวนออกไปที่ตลาดไปซื้อใยโพลิเอสเตอร์มาทำหมอนเอง

ซื้อมา 5 กิโล กิโลละ 100 บาท รวมๆ แล้วก้อ 500 บาท

ผ้าทำหมอนไม่ต้องซื้อ ปลอกหมอนไม่ต้องซื้อ ซิปใส่ปลอกหมอนไม่ต้องซื้อ

ที่บ้านแม่มีอยู่แล้ว กลับมาถึงบ้าน สองคนแม่ลูกเริ่มลงมือทำหมอนตั้งแต่บ่ายสอง

พอเย็นๆ คุณแฟนของเรากลับมาจากบ้านเค้า เห็นเรากำลังทำหมอนกันอยู่

เลยมาช่วยยัดไส้หมอนอีกคน เพราะเรายัดไว้ไม่เรียบ คุณแฟนรื้อมาตีใยให้มันฟูๆ

ส่วนแม่ก้อเย็บปลอกไปเรื่อยๆ เสร็จตอนสองทุ่มค่ะ

ได้หมอนอิงมา 7 ใบ ในราคา 500 บาท

.....กลับบ้านเรา เอาหมอนมาวางก่อน แบบว่าขี้เห่อ

เบาะรองนั่งยังไม่มา แต่หมอนอิงมาแว้ววววว






.....หมอนอิงมีสองแบบ แบบที่หนึ่ง สีม่วงล้วนๆ ให้เค้ากับคอนเซปต์ของห้อง






แบบที่สองเป็นสีเหลืองไข่ไก่และมีลายดอกไม้เพิ่มความสดใส






จริงๆ แล้ว เรื่องของเรื่องเอาเศษผ้าที่เหลือๆ มาทำน่ะค่ะ

เลยทำเป็นลายเดียวไม่ได้เพราะผ้าไม่พอ เราก้อเลยมีหมอนอิงสองแบบ

วางสลับๆ กันไป แทนแล้วกัน ^^






เช้าวันจันทร์ที่ 26 กรกฎา.....วันอาสาฬหบูชา ไม่ได้ตื่นไปใส่บาตร

เพราะเมื่อคืนไปงานถ่ายทอดสดกับคุณแฟนมา

คุณแฟนไปทำรายการถ่ายทอดสดที่ช่อง 11 มาค่ะ

กว่าจะกลับมาถึงบ้านก้อตีหนึ่งกว่าๆ เข้าไปแว้ววว

เย็นนี้เลยตั้งใจจะไปเวียนเทียนกันที่วัดกลางคลองสี่ อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

ตื่นนอนตอนสายๆ ลงไปรดน้ำต้นไม้ เก็บใบไม้ร่วงๆ กินกาแฟชมนกชมไม้

เป็นกิจกรรมที่ชื่นชอบเป็นที่สุดในวันหยุดแบบนี้

มองดูดอกไม้ในสวนที่กำลังบาน คิดถึงคำแนะนำจากพี่ที่มาตัดหญ้าให้เมื่อเดือนก่อน

พี่เค้าบอกมาว่า หน้าฝนต้นไม้จะแตกยอด ออกดอกกันเยอะ

ถ้าเราอยากให้มันแตกพุ่มก้อควรจะตัดแต่งกิ่งมันบ้าง

ไม้ดอกก้อเหมือนกัน ถ้ามันออกดอกแล้ว เราก้อควรตัดมันบ้าง

แล้วมันจะออกดอกใหม่เรื่อยๆ .....

ว่าแล้ว เราก้อหยิบกรรไกรตัดกิ่ง ลงไป ฉับ...ฉับ....ฉับ ดีกว่าค่ะ

.....ดอกไฮเดรนเยีย ที่หน้าบ้านออกดอกบานมาหลายสัปดาห์แล้ว

ใกล้จะโรยแล้ว ตัดดีกว่า....






ค้นตู้ในครัว หาแจกันใส่ดอกไม้ แล้วก้อจัดการเอาดอกไม้ใส่แจกันโลดดด






เอาดอกไม้ใส่แจกันเสร็จแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเอาแจกันไปวางไว้ตรงไหน

อนาจใจที่บ้านมีตู้เพียงตู้เดียว คือตู้วางทีวีสีขาว

ขออิงแอบวางไว้ที่มุมนี้ก่อนแล้วกันนะ






อีกซักมุม.....ชอบจัง สวยดี






ขักสนุก เดินไปในสวนข้างบ้าน เล็งหาดอกไม้ในสวนบ้านตัวเองต่อไป

เจอกอธรรมรักษาค่ะ มีทั้งกำลังออกดอกและใกล้โรย






ตัดดอกธรรมรักษาออกมา ถือโอกาสริดใบไม่ให้กอต้นธรรมรักษามันรกเกินไปด้วย

เพิ่งซื้อแจกันไม้สีขาวทรงสูงมาพอดี หากระป๋องพลาสติกใส่น้ำวางในแจกันอีกชั้นนึง

เพื่อไม่ให้แจกันมันชื้นเพราะทำมาจากไม้ แล้วค่อยจัดดอกไม้ลงไปค่ะ






วางไว้ที่มุมห้องที่ว่างๆ ตรงโต๊ะทานข้าว ได้มุมพอดีเลย ^^






มองออกไปที่ต้นไผ่ ตรงหน้าต่างหลังบ้าน.....

อ๊ะ...อ๊ะ...บ้านเรามีต้นพลับพลึงด้วยเหรอนี่ เพิ่งรู้ตัว






โครงการปลูกไว้ให้นานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เราซื้อบ้านนั่นแหล่ะ

เมื่อก่อนก้อไม่รู้ว่าคือต้นอะไร เห็นแต่ใบเป็นกอๆ

วันนี้เค้าออกดอกมาให้ดู เลยได้รู้ว่า เป็นต้นพลับพลึงขาว สวยเชียว






ต้นพลูทอง ที่อยู่บนโต๊ะอาหาร แต่ก่อนเราปลูกในแจกันสีดำใส่น้ำไว้

คุณแฟนจัดการเปลี่ยนแจกัน ใส่เจลสีฟ้าที่เป็นเหมือนดินวิทยาศาสตร์

รักษาความชุ่มชื่น เราจะได้ไม่ต้องเติมน้ำในแจกันทุกวัน

ก้อสวยไปอีกแบบนะคะ สีฟ้าของเจลทำให้โต๊ะอาหารดูสดใสดี






ต้นออมเงินก้อเช่นกันค่ะ แต่ก่อนปลูกในกระถางใส่ดินไว้

เป็นต้นไม้ที่ปลูกในบ้านเพราะเค้าไม่ชอบแดด

คุณแฟนเปลี่ยนใส่แจกัน แล้วใส่เจลสีเขียว วางไว้ที่ตู้วางทีวีสีขาว

พอวางไปแล้ว สดชื่นดี เรากำลังจะเอาต้นออมเพชร ออมทอง ออมนาค

ที่เราปลูกไว้ที่ออฟฟิศ ขนกลับมาบ้านพอดี (กำลังขนของกลับบ้าน )

ได้ที่วางบรรดาต้นออมต่างๆ พอดีเป๊ะ เพราะตู้วางทีวีมีชั้นเล็กๆ 4 ชั้น

พอดีกับต้นออมเพชร ต้นออมทอง ต้นออมเงินและต้นออมนาคเลย ^^






บ้านเราไม่ค่อยมีของแต่งบ้านมากนัก (เพราะไม่มีตังค์ซื้อ )

จะมีก้อแต่หนังสือและต้นไม้ ดอกไม้จากในสวนนี่แหล่ะค่ะ

กอพุดซ้อนกำลังออกดอกกันเยอะเชียว

สัปดาห์หน้าคงได้เปลี่ยนแจกันดอกไฮเดรนเยียเป็นแจกันดอกพุดซ้อนแทน

แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ

Create Date : 26 กรกฎาคม 2553 Last Update : 26 กรกฎาคม 2553 12:28:38 น. Counter : 7746 Pageviews.		8 comment
Share Tweet

บิ้วอินห้องรับแขกเสร็จแว้ววววว

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2553.....

วันนี้ช่างบิ้วอินมาทำเพียงคนเดียว เพราะงานบิ้วอินใกล้จะเสร็จแล้ว

เหลืองานเก็บสี เก็บความเรียบร้อยอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง

ห้องรับแขกชั้นล่างเสร็จแล้วค่ะ.....หลังจากที่รอคอยมาร่วมสี่เดือนเต็มๆ






ด้านโซฟาเบย์วิวค่ะ






โซฟาเบย์วิวสีขาวสะอาดตา ชอบจริงๆ เลย

ใต้โซฟามีลิ้นชักเก็บของ 6 ลิ้นชัก ข้าวของต่างๆ บ้านเราเยอะจัด

เพราะคุณแฟนบ้าสมบัติ อะไรต่อมิอะไร พี่ทั่นเก็บหมด

ส่วนเราชอบแอบเก็บไปทิ้งเพราะรกบ้าน

..........บ่ายนี้จะออกไปร้านตัดเบาะค่ะ

คงไม่นาน โซฟาสีขาวแบบเปลือยๆ จะได้มีเบาะรองนั่งกับหมอนอิงซะที






ด้านตรงข้ามของโซฟาเบย์วิวเป็นตู้ทีวีค่ะ






ยังไม่มีทีวี.....เพราะตังค์หมด

ชั้นล่างห้องรับแขกเลยยังโล่งๆ อยู่เลยค่ะ รอเก็บตังค์ซัก 2-3 เดือนแล้วกันนะ

ตู้ทีวีส่วนที่มีบานปิด เป็นที่วางแผ่นดีวีดีได้เยอะเลยค่ะ

ส่วนของตู้กระจก ตั้งใจจะให้เป็นตู้โชว์ของแต่งบ้าน

และบรรดาของสะสม ตุ๊กตาม๋าน้อยของคุณแฟน






บิ้วอินห้องรับแขกมีเพียงเท่านี้ค่ะ งานช่างเสร็จแล้ว

เหลือตกแต่งบ้านของกระจุกกระจิกทั่วไปที่เป็นงานของเราเอง

.....เก้าอี้ไม้สนามที่ช่างบิ้วอินทำมาให้เรานั่งเล่นตรงระแนงไม้

ยังไม่ได้เอาไปวางตรงระแนงไม้เลย เพราะจะจัดสวนตรงนั้นด้วย

ตอนนี้ก้อเลยเอาเก้าอี้ไม้มาฝากไว้ที่โรงรถก่อนค่ะ






นั่งเล่นที่โรงรถ หันไปมองริมรั้วด้านข้าง.....ดอกชบาสีแดงออกดอกสวยเชียว






ริมรั้วหน้าบ้าน.....ต้นบานบุรี โตเร็วมาก สูงขึ้นเยอะเลย

คุณนายแม่สั่งมาว่า หน้าฝนนี้อย่าลืมตัดกิ่งต้นบานบุรีริมรั้วด้วยนะ

เค้าจะได้แตกพุ่ม ไม่สูงชะลูดจนโค่นหักลงมาซะก่อนเวลาเจอลมแรงๆ

คุณแฟนบอกว่า ตัดใจเลยนะเนี่ยที่ต้องตัดกิ่งบานบุรีน่ะ

เพราะเค้าออกดอกกันพรึ่บพรั่บออกซะขนาดนี้

แต่ยังงัยก็ต้องตัดอยู่ดี เพราะเค้าจะได้แตกกิ่งเป็นพุ่มอย่างที่แม่บอก






เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวกับเพื่อนมาค่ะ

(อยู่ในบลอคหมวดหัวใจสะพายเป้)

แวะกินมื้อเที่ยงกันที่สวนเมืองพร เราก้อเลยช้อปปิ้งต้นไม้ติดมือมาด้วย

.....เข็มอินเดีย ต้นละ 20 บาทค่ะ






.....ต้นหีบไม้งาม ต้นละ 5 บาท ซื้อมาจากคลอง 15 เมื่อสัปดาห์ก่อนนู้น






.....ปิดท้ายด้วยต้นไฮเดรนเยียที่เฝ้าประคบประหงมสุดฤทธ์เพราะเป็นต้นไม้ที่รักสุด..สุด..

Create Date : 17 กรกฎาคม 2553 Last Update : 17 กรกฎาคม 2553 12:53:23 น. Counter : 13626 Pageviews.		33 comment
Share Tweet

อยากให้ทุกวัน.....เป็นวันอาทิตย์.....

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้อยู่บ้านค่ะ

ช่างยังไม่เข้ามาทำบ้านเพราะรอช่างกระจกยังตัดกระจกไม่เสร็จ

งานบิ้วอินของเราก้อเลยยังไม่เสร็จซักกะที

เรากับคุณแฟนเลยขับรถไปเที่ยวตลาดต้นไม้คลองสิบห้าดีกว่าค่ะ

ไม่ได้ไปหลายเดือนแล้ว ไปกันตอนสายๆ กลับมาอีกทีก้อเที่ยงๆ

ขนต้นไม้ลงจากรถมากองๆ ไว้ก่อนค่ะ






แพรเซี่ยงไฮ้ค่ะ จะเอามาปลูกคลุมดินเลยซื้อมา 500 ต้น ต้นละ 80 สตางค์






ขนต้นไม้กองๆ ไว้ที่โรงรถ คุณแฟนบ่นว่าหิวเพราะเที่ยงกว่าแล้ว

เราก้อเลยไปค้นๆ ตู้เย็น เจอเนื้อวัวที่ซื้อมาจากแม็คโคร

หมักเนื้อใส่ตู้เย็นไว้ตั้งแต่วันก่อน เลยคิดเมนูเที่ยงนี้ได้เลยค่ะ

ทำสเต็กดีกว่า เครื่องเคียงอย่างอื่นก้อค้นๆ ของที่มีในตู้เย็นเอามาทำเลย

.....เนื้อวัว 2 ชิ้น (จำได้ว่า ตอนที่ซื้อมาจากแม็คโคร 4 ชิ้น 180 บาท)

.....ผักรวมแช่แข็ง ซื้อมาจากแม็คโครราคาแพ็คละ 55 บาท มีแครอท ข้าวโพด ถั่วลันเตา

.....เนยสด มีติดตู้เย็นไว้อยู่แล้ว

เอาของมาวางไว้ เตรียมเข้าครัวเลยค่ะ






ลงมือกันเลยค่ะ เปิดเตาแก๊ส ใส่เนยสดลงไปนิดนึง

พอเนยละลายใส่เนื้อลงไปในกระทะเลยค่ะ

เร่งไฟนิดนึงเพื่อกันไม่ให้น้ำจากเนื้อไหลออกมาหมด เดี๋ยวเนื้อจะแข็ง จืดชืด

พอเนื้อด้านล่างเริ่มสุก กลับด้านเนื้ออีกข้างรอจนสุกแล้วค่อยเบาไฟลง

รอให้เนื้อสุกทั่วๆ กัน ตักขึ้นเลยค่ะ






สเต็กเสร็จแล้ว ทำเครื่องเคียงต่อเลย

เครื่องปรุงมีแค่พริกไทยกับเกลือป่นและผักแช่แข็ง

ใช้กระทะใบเดิมที่ทำสเต็กเนื้อค่ะ เพราะกระทะยังมีน้ำมันจากเนย+เนื้อวัว

ใส่ผักลงไป เราเติมเนยสดลงไปอีกนิดให้หอมๆ ผัดๆ จนผักสุก

ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยก้อเสร็จแล้วค่ะ






เครื่องเคียงอีกอย่างเป็นเฟรนช์ฟราย มีอยู่แล้วในตู้เย็น

แค่เอามาทอดให้สุกกรอบ โรยเกลือป่นเป็นอันเสร็จค่ะ






จัดสเต็กและเครื่องเคียงใส่จาน ลองหั่นเนื้อดู สุกกำลังดีเลยค่ะ

เนื้อตรงกลางมีสีแดงนิ้ดดดนึง กำลังดี

เนื้อไม่แข็งจนเกินไป ไม่เหนียวด้วยค่ะ ใช้ได้เลย






คุณแฟนอร่อยกับสเต็คแบบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย

แต่เราอยากกินแบบไทยๆ ให้หายเลี่ยน แต่ไม่อยากทำน้ำจิ้มแจ่ว

เราก้อเลยทำน้ำจิ้มแบบสูตรประจำของที่บ้านค่ะ

ที่ไม่ว่าจะทอดอะไรก้อตามแต่ ที่บ้านแม่จะทำน้ำจิ้มแบบนี้ไว้เสมอ

เครื่องปรุงมีแค่ กระเทียม พริก น้ำตาลปี๊บ มะนาว น้ำปลา

เริ่มแรกก้อโปขลกกระเทียม ตำพริกขี้หนู ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ






ปรุงด้วยน้ำปลา บีบมะนาวตามลงไป ใส่มากน้อยแล้วแต่ชอบค่ะ

ให้รสออกเปรี้ยว เค็ม หวาน กินกับสเต็คแก้เลี่ยนดีแท้

คุณแฟนลองหั่นเนื้อมาจิ้มแบบเราบ้าง ติดใจเลยสิ

บอกว่าเหมือนยำเนื้อย่างเลย






กินกันสองคน อิ่มอร่อยแบบไม่ต้องง้อร้านสเต็คเลย

บ่ายกว่าๆ ได้เวลาทำงานบ้านต่อค่ะ คุณแฟนเตรียมซักผ้า ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ

ส่วนเราเตรียมตัวลงสวนปลูกต้นไม้ต่อได้เลย

ริมรั้วหน้าบ้าน ใต้ต้นบานบุรีสีม่วงแต่ก่อนเคยปลูกถั่วบราซิลไว้

จู่ๆ น้องถั่วก้อพากันตายเรียบ เราเลยรื้อเตรียมปลูกอย่างอื่นแทนค่ะ






คุณแฟนเห็นเรา ขุดๆ จิ้มๆ ปลูกๆ อยู่พักใหญ่ เลยลงมาช่วยกันปลูกอีกแรง

จนเย็นค่ะ ถึงปลูกต้นไม้เสร็จพอดี






ต้นแพงพวยไทย เห็นดอกมันสีสันสดใส คุยกับป้าที่ขายต้นไม้

ป้าบอกว่า ปลูกง่าย ทนกว่าต้นแพงพวยฝรั่งที่ดอกจะสีสดกว่าแพงพวยไทย

เราเลยเลือกซื้อต้นแพงพวยไทยดีกว่า เพราะอึดกว่า

ต้นละ 10 บาทค่ะ ซื้อมา 20 ต้น สีขาวและสีชมพู

เอามาปลูกใส่กระถางที่มีอยู่แล้ว กะจะวางตรงสนามหญ้าหลังบ้าน

มุมกระจกตรงโต๊ะทานข้าว แต่ต้องวางอิฐเป็นฐานก่อนวางกระถางไม้

ยังหาอิฐไม่ได้เราก้อเลยเอากระถางแพงพวยไปวางฝากไว้ที่ระแนงไม้ก่อนค่ะ






กระถางปลูกบัวดินค่ะ คุณแฟนชอบมากกกกก

ชอบต้นอะไรก้อแล้วแต่ที่เป็นตระกูลบัว คุณแฟนชอบหมด

ที่บ้านเลยมีทั้ง ดอกบัวสวรรค์ ดอกบัวดิน ดอกบัวในอ่างปลา






ฝากวางไว้ที่ระแนงไม้ก่อนนะ เดี๋ยวจัดสวนตรงสนามหญ้าเสร็จแล้ว

จะเปลี่ยนมุมวางอีกที จริงๆ ยังมีต้นไม้อีกหลายต้นที่ซื้อมาค่ะ

อย่างเช่น ชบาสีขาวและชบาสีมพู ซื้อมาต้นละ 1 บาทเอง ยังไม่ได้ลงดินเลยค่ะ

กว่าจะทำสวนเสร็จ เย็นพอดี ฝนทำท่าจะตก ดีเหมือนกันไม่ต้องรดน้ำต้นไม้

เข้าบ้านอาบน้ำอาบท่า ค้นของกินในครัวนิดๆ หน่อยๆ

ก่อนจะอาบน้ำขึ้นห้องนอน ดูทีวีอย่างสบายใจ

.........มีความสุขกับการทำสวน อยู่บ้านจริงๆ

จนรู้สึกอยากให้ทุกวัน เป็นวันอาทิตย์จังเลย

Create Date : 28 มิถุนายน 2553 Last Update : 28 มิถุนายน 2553 18:48:12 น. Counter : 9783 Pageviews.		18 comment
Share Tweet

โคมไฟ....หิ้งพระ....ซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม.....

วันนี้วันอาทิตย์.....เป็นเวลาอัพบลอค

แต่ช่างไม่เข้ามาทำบ้านสองสัปดาห์แล้ว

เพราะช่างกำลังทำเก้าอี้สนามไม้ให้เราอยู่

สัญญาไว้ว่า สัปดาห์หน้าจะเอาเก้าอี้สนามมาให้

พร้อมเก็บงาน พ่นสีเฟอร์นิเจอร์เป็นรอบสุดท้ายแล้ว

ตื่นนอนตอนสาย คว้ากล้องลงไปถ่ายรูปเก็บภาพความเปลี่ยนแปลงภายในบ้านดีกว่า

.....ภาพแรก โคมไฟห้องรับแขกสีม่วงๆ ค่ะ

ตอนยังไม่เปิดไฟก้อดูธรรมดาๆ แต่พอเปิดไฟแล้ว.....

ผนังห้องสีขาวๆ กลายเป็นลายๆ เหมือนติดวอลเปเปอร์กระดาษสาสีม่วงอ่อนขึ้นมาทันที

เหตุก้อเพราะโคมไฟเป็นลายฉลุ เราชอบ.....แต่คุณแฟนบอกว่า ตาลายง่ะ ซะงั้น






.....ภาพที่สอง โคมไฟห้องอาหาร

เนื่องจากว่าโคมไฟห้องรับแขกสีม่วงเราเป็นคนเลือกซื้อเอง

โคมไฟห้องอาหารเลยตกเป็นหน้าที่ของคุณแฟนที่ต้องเป็นคนเลือก

แบ่งกันคนละห้อง โคมไฟห้องนี้พอติดแล้ว คุณแฟนเองกลับบ่นว่า

พลาดไปนิด คิดว่าเพดานห้องจะต่ำกว่านี้เลยเลือกโคมไฟแบบนี้มา

มันดูติดเพดานเกินไป ระยะห่างจากโต๊ะอาหารแลดูไม่สมดุลย์

เอาเข้าจริงน่าจะใช้โคมไฟที่เป็นโคมห้อยเรียงแถวหน้ากระดาน 3 ดวงมากกว่า

แต่ก้อเอาเถอะ ซื้อมาแว้วว ติดไปเรียบร้อยแล้ว

ไว้อีกหลายๆ เดือนหลังจากแต่งบ้านจุดอื่นๆ เสร็จแล้วค่อยเปลี่ยนใหม่

แล้วเอาโคมไฟอันนี้ไปไว้ที่บ้านแม่แทน อิอิ





.....ภาพที่สาม โคมไฟโถงบันไดที่ช่วยกันเลือกกับคุณแฟนสองคน

ถูกใจสุดๆ กันทั้งคู่ (เพราะไม่แพงด้วยค่ะ ประมาณพันห้าเอง)






หิ้งพระน้อยๆ ของเราค่ะ ที่บ้านหน้าต่างเยอะ

แล้วเราก้อบิ้วอินตู้หนังสือติดผนังทั้งสี่ด้าน

เลยทำให้เหลือพื้นที่ไม่มาก ติดหิ้งพระได้ขนาดเล็กๆ ค่ะ






ห้องครัวค่ะ.....หลังจากที่ทำห้องครัวเสร็จแล้วไปเมื่อสามสัปดาห์ก่อน

เก็บของใช้เข้าตู้ครัว ตู้ห้องครัวที่ว่าเยอะแล้ว เกือบจะไม่พอสำหรับเรา

เพราะเราบ้าสมบัติค่ะ ของใช้เยอะมากกกกกก

มีอะไรเก็บเข้าตู้หมด พอปิดตู้แล้วห้องครัวดูเรียบร้อยสวยงาม

แต่พอเปิดตู้แล้ว.....โห ของเพียบบบ






ตอนที่ทำห้องครัว ทางโครงการก่อปูนเป็นเคาท์เตอร์ไว้ให้พร้อมซิงค์

แล้วเรามาทำบิ้วอินครัวเอง (ตามกระทู้บิ้วอินครัววันก่อน)

เวลาล้างจานที คว่ำจานชามที่ซิงค์อะลูมิเนียม

น้ำไหลเลอะตู้บิ้วอิน เรากลัวตู้จะพังเร็วเพราะกลัวจะชื้นเปียก

ก้อเลยชวนคุณแฟนไปหาซื้อตะแกรงคว่ำจานที่โฮมโปรค่ะ






ตะแกรงคว่ำจาน มีที่ใส่ช้อนและถาดพลาสติกสีขาวรองน้ำเรียบร้อย






ได้ตะแกรงติดผนังไว้แขวนน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างมือ น้ำยาล้างผักผลไม้มาด้วยค่ะ






ในกระทู้บิ้วอินห้องครัว ลืมลงรูปสวิตซ์ไฟเปิด-ปิด หัวแก๊สกับไฟในห้องครัวค่ะ






ช่างบิ้วอินห้องครัว ทำสวิตซ์ไฟไว้ให้ที่ใต้ตู้ลอยค่ะ สะดวกดีเวลาที่ใช้งาน

ครัวที่บ้านจะเป็นเตาแก๊ส และมีระบบจุดแก๊สด้วยไฟฟ้า

ทางช่างบิ้วอินห้องครัวเลยทำสวิตซ์ไว้ให้เรียบร้อยเลยค่ะ






ของเข้าบ้านที่ซื้อเพิ่มเติม (จริงๆ ซื้อมาหลายเดือนแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้อัพบลอคห้องนอน)

คือ เตียงนอนในห้องนอนเรา ที่ได้มาจากความบังเอิญ

วันก่อนโน้นขับรถออกจากบ้านเราจะไปบ้านแม่ ไปทางวงแหวนตะวันออก

หรือถนนกาญจนาภิเษกที่ตัดถนนลำลูกกาตรงคลอง 5

ไหนๆ มาขับรถมาถึงนี่แล้ว เลยขับเลยออกไปอีกจิ๊ด ไปคลอง 6

แวะเข้าโรงงานสลัมเบอร์แลนด์ค่ะ เผื่อเจอของถูกใจ แล้วก้อเจอจนได้

เตียงนอนขนาด 6 ฟุต หัวเตียงบุหนังสีน้ำตาลเข้ม

เคยดูในห้างราคาเกือบๆ สามหมื่น ที่โรงงานขายหมื่นแปด....

กระบวนการคิดเลขในหัวสมองคำนวณแล้ว สารตะลดราคาไป 40% จากราคาเดิม

ถูกขนาดนี้เลยรูดปรื้ดดดดด ไปเรียบร้อย

ได้เตียงนอนมาแว้วว แต่ที่นอนยังไม่มีเพราะงบหมด

ตั้งใจจะซื้อของเข้าบ้านเดือนละชิ้นค่ะ จะได้ไม่กระทบกระเทือนเงินส่วนอื่นๆ ที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละเดือน

ว่าแล้วก้อแอบขโมยเอาที่นอนขนาด 5 ฟุต ของสลัมเบอร์แลนด์เหมือนกันในห้องนอนของแม่

ที่ซื้อมาตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านนี้ใหม่ๆ มาใช้ก่อน ผ้าปูที่นอน + ผ้านวมก้อเหมือนกันค่ะ

ขโมยของห้องนอนแม่มาใช้ก่อนแล้วกันนะแม่ นู๋ไม่มีตังค์แว้ววว

ปล. ชุดเครื่องนอนที่ใช้อยู่เลยเป็นสีเขียวเหลือง เพราะเป็นคอนเซปต์ห้องนอนแม่ค่ะ

ถ้าเป็นห้องนอนเราต้องเป็นสีม่วง เทา ดำ เท่านั้น ^^






หมดภายในบ้านแล้วค่ะ เดินออกไปนอกบ้านเจอระแนงไม้หลังบ้าน

ที่จวนจะเสร็จแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น คือ ทาสีขั้นตอนสุดท้าย

และทาสีรั้วซ่อมแซมส่วนที่เลอะเทอะ






นั่งเล่นที่ระแนงไม้หลังบ้าน มองไปทางสวนหน้าบ้าน






เดินไปหน้าบ้าน มองย้อนกลับมาที่ระแนงไม้






วันก่อนโน้น พายุเข้าฝนตกหนัก ที่บ้านต้นไม้ล้มระเนระนาดเยอะเหมือนกันค่ะ

โดยเฉพาะแปลงดอกฟอร์เก็ทมีนอทข้างบ้านที่ล้มไม่เป็นท่า

เราเลยตัดเล็มต้นฟอร์เก็ทมีนอทออกไปบ้าง ผ่านมาได้สัปดาห์นึง

ดอกฟอร์เก็ทมีนอทเริ่มทยอยกันออกดอกเหมือนเดิมแว้ววว






ผลพวงจากฝนที่ตกแทบทุกวัน

ดอกไม้ที่บ้านเลยแข่งกันออกดอก

.....บานบุรีสีม่วง ที่ริมรั้วหน้าบ้านค่ะ






.....แพรเซี่ยงไฮ้ที่พากันออกดอกพรึ่บพรั่บ (ชอบดอกสีส้มมากๆ สวยสดชื่นดีค่ะ)






.....ธรรมรักษาที่ขยันออกดอกไม่เคยขาด






.....ต้นชบาริมรั้ว ลงไว้ 6 ต้น 6 สี ขยันออกดอกไม่เคยขาดเหมือนกัน

ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก หน้าร้อน หน้าฝน ต้นชบาก้อยังคงออกดอกเสมอ






.....ดอกพุดจีบ ทยอยกันออกดอกค่ะ หลังจากเข้าหน้าฝนแล้ว






.....ดอกพุดเศรษฐีสยามก้อออกดอกเหมือนกันค่ะ

ดีจัง พอเข้าหน้าฝน ต้นไม้ก้อสดชื่นแข่งกันออกดอกเพียบบบ






.....ต้นหว้า ที่โครงการปลูกให้หน้าบ้าน เดิมทีจะเอาออกค่ะ

แต่พอเข้าหน้าฝน เค้าพากันแตกยอด ออกใบ ทำให้เราตัดใจไม่ลง

ไม่เอาออกแระ ปลูกไว้อย่างเดิมที่หน้าบ้านนี่แหล่ะ

มันไม่ได้เกะกะหน้าบ้านซักเท่าไร ถึงแม้ว่าจะมีเพื่อนทักมาว่า

ต้นไม้ที่หน้าบ้านผิดหลักฮวงจุ้ยนะแก มันขวางทางเงินเข้าบ้าน

เราก้อคิดซะว่า เอาน่าเงินก้อเดินเลี้ยวเข้าบ้านมานิดนึงก้อได้ ไม่เกะกะเท่าไรหรอก

แหม....ต้นไม้เค้าก้อมีชีวิต ถอนเค้าทิ้ง สงสารเค้าออก

ดูเขียวสดชื่นขนาดนี้ กิ่งก้านของเค้าก้อเอาไว้แขวนต้นไม้

บรรดากล้วยไม้ ไม้แขวนต่างๆ ที่กำลังจะทยอยขนมาจากบ้านแม่ก้อแล้วกันเนาะ






แต่ก่อน เราไม่ค่อยจะรู้เรื่องต้นไม้มากนัก

ทุกวันนี้ก้อยังไม่รู้อะไรมาก แต่รู้จากเดิมเพิ่มขึ้นอีกนิดนึง

พอมามีบ้านเป็นของตัวเอง สิ่งที่ไม่เคยรู้ก้อต้องสนใจหาความรู้เพิ่มเติม

โดยเฉพาะเรื่องต้นไม้ใบหญ้าที่เราเองชอบ แต่ไม่เคยลงมือเอง

ที่ปรึกษาส่วนตัวเลยก้อคือ แม่ของเรา

นอกนั้นก้อหาความรู้จากอินเตอร์เน็ตบ้าง ถามคนนู้น คนนี้ คนนั้นบ้าง

อีกหนึ่ง.....ที่ลืมไม่ได้เลย จากหนังสือเล่มนี้ล่ะค่ะ ที่เราเปิดอ่านบ่อยที่สุด

ปล. ฝนตั้งเค้าแต่ไกลมาแล้ว ขอตัวไปเก็บผ้าก่อนค่ะ

อยู่บ้านคนเดียวเพราะคุณแฟนไม่อยู่บ้านไปออกกองถ่ายงานที่อยุธยาโน่นแน่ะ

กว่าจะกลับก้อเย็นๆ วันนี้เราเลยเป็นนางแจ๋ว เก็บกวาดบ้านคนเดียว

แล้วจะมาอัพบลอคใหม่เมื่อมีอะไรในบ้านเพิ่มขึ้นนะคะ

Create Date : 06 มิถุนายน 2553 Last Update : 6 มิถุนายน 2553 22:57:13 น. Counter : 13991 Pageviews.		22 comment
Share Tweet