ยำผักบุ้งทอดกรอบ
วันหยุดทั้งที ขี้เกียจออกจากบ้าน

เพราะวันธรรมดาก็ต้องออกจากบ้านไปทำงานอยู่แล้ว

ได้นอนตื่นสาย ได้เดินเล่นชมนก ชมไม้ที่สวนบ้านตัวเอง และที่สำคัญ

ได้มีเวลาเข้าครัวทำกับข้าว ทำขนม กิจกรรมยามว่างที่เราชอบที่สุด

...... บอกก่อนเลยว่า เราไม่ใช่เซียนทำกับข้าว หรือทำขนมแต่อย่างใด

อาศัยครูพักลักจำคนอื่นเค้ามาทั้งสิ้น อิอิ แล้วก็ลองอาศัยทดลองทำดู

กินได้บ้าง กินไม่ได้บ้าง ถือว่าเป็นการเรียนรู้อย่างนึง ^^

เกริ่นมาซะยาว วันหยุดแบบนี้ลองมาทำอาหารที่เราไม่รู้สูตรที่แน่นอน

แต่เดาๆ ส่วนประกอบเอาเองจากที่เคยลองชิมตามร้านอาหาร

แล้วมาลองทำให้คนที่บ้านชิมดูบ้าง ปรากฎว่าผ่าน และคนที่บ้านชอบมาก

เลยกลายเป็นเมนูยอดฮิตประจำครอบครัวอีกเมนูนึงค่ะ ....... ยำผักบุ้งทอดกรอบ

ส่วนประกอบหรือวัตถุดิบเท่าที่มี คือ

ผักบุ้ง กำนึง

หมูสับ นิดนึง

กุ้งแห้ง (ที่จริงต้องใช้กุ้งสด แต่เราไม่ได้ไปตลาดเลยใช้กุ้งแห้งก้นครัวแทนค่ะ)

เม็ดมะม่วงหิมพานต์หรือถั่วลิสง (ในครัวมีติดไว้ทำคุ้กกี้ค่ะ)

และแป้งทอดกรอบ

ส่วนน้ำยำใช้ มะนาว หอมแดง พริกขี้หนู กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ






กุ้งแห้ง เอาลงทอดไฟอ่อนๆ ระวังไหม้นะคะ เดี๋ยวจะขม

(ถ้าใช้กุ้งสด ก็เอาไปลวกเตรียมไว้แทนค่ะ)

เอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงทอดต่อเลย






หมูสับเอาไปรวนให้สุก ใส่ถ้วยเตรียมไว้ค่ะ






ทำน้ำยำเตรียมไว้ก่อนทอดผักบุ้งค่ะ

เอากระเทียมกับหอมแดงใส่ครกเลย โขลกหอมแดงให้เข้ากับกระเทียม

หั่นพริกขี้หนูก่อนตำ จะได้โขลกง่ายๆ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู ตำเสร็จแล้ว

ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปค่ะ (บ้านเราชอบหวานนำ เลยใส่เยอะนิดนึง)

แล้วปรุงรสด้วยมะนาวกับน้ำปลา ชิมดูให้ได้สามรสค่ะ เปรี้ยว เค็ม หวาน (เผ็ดนิดนึง)






ตักน้ำยำใส่ถ้วยหมูสับรอไว้เลยค่ะ






ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็น ให้ข้นนิดนึงนะคะ แป้งจะได้ติดผัก

เอาผักบุ้งที่เตรียมไว้ลงชุบแป้งค่ะ ลงกระทะ ทอดให้เหลืองกรอบ






ทอดไปเรื่อยๆ แป๊บเดียว ได้ผักบุ้งทอดจานเบ้อเร่อเลย






ผักบุ้งทอดเสร็จแล้ว น้ำยำก็เตรียมไว้แล้ว

เอากุ้งแห้งทอดและเม็ดมะม่วงใส่ลงไปในน้ำยำ

เพิ่มความเข้มข้นและหอมกุ้งแห้งค่ะ






ยำผักบุ้งทอดกรอบเสร็จแล้วค่ะ พร้อมหม่ำได้

เราไม่ได้ราดน้ำยำลงไปในจานผักบุ้งทอดนะคะ

กลัวทิ้งไว้นานแล้วจะไม่กรอบ เลยใช้วิธีตักน้ำยำราด กินทีละคำ ^^




Create Date : 21 มกราคม 2555
Last Update : 21 มกราคม 2555 15:53:54 น.
Counter : 3376 Pageviews.

5 comment
หมูผัดกะปิ / ปีกไก่ทอดน้ำปลา
ไม่ได้เข้ามาโพสต์เรื่องกับข้าวมาหลายสัปดาห์เลยค่ะ

เพราะช่วงเดือนพฤษภาที่ผ่านมางานเข้า ^^

แต่วันเสาร์อาทิตย์ ก็ยังคงไปเดินตลาดซื้อของสดมาทำกับข้าวเช่นเคย

วันหยุดที่ผ่านมา ทำหมูผัดกะปิ กับปีกไก่ทอดน้ำปลา ค่ะ

เริ่มจาก ปีกไก่ ซื้อจากตลาดมาครึ่งกิโล

แต่เอามาหมักน้ำปลา ครึ่งนึง (ประมาณ 2 -3 ขีด) ทิ้งไว้ซักพัก

แล้วก็เอาลงทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบเลยค่ะ

ง่ายสุดๆ เพราะไม่ได้ปรุงรสอะไรเลยนอกจากน้ำปลา ^^






แม่ทำต้มยำมาปลาช่อนมาให้ จัดการอุ่นซะ กลายเป็นอีก 1 เมนูที่ไม่ได้ทำเอง ^^






ต่อด้วยน้ำพริกไข่ปูที่ซื้อมาจากอ่างศิลา อร่อยมากกกกก






อีกเมนู คือ หมูผัดกะปิ ...... จานนี้ลงมือทำเองค่ะ เพราะคนใกล้ตัวบ่นอยากกิน ^^

เริ่มจากสันคอหมู 1 ชิ้น ประมาณเกือบครึ่งกิโลได้ค่ะ เอามาหั่นเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้






ส่วนผสมอื่นๆ ก็มี

- หอมแดง ประมาณ 3-4 หัว หั่นซอยเล็กๆ

- ตะไคร้ 2-3 ต้น หั่นซอยเล็กๆ

- ใบมะกรูด 1 ก้าน ฉีกเป็นชิ้นๆ

- พริกขี้หนู 15 เม็ด หั่นซอยเล็กๆ






เริ่มจากการเจียมหอมแดงซะก่อน กลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั้งบ้าน

ซักพักก็ได้หอมเจียว เหลืองๆ กรอบๆ






เริ่มลงมือผัด .......

ที่บ้านใช้น้ำมันหมูผัดกับข้าวค่ะ เราว่ามันเข้ากันดี ^^

ตั้งกระทะ ตักน้ำมันหมูที่เจียวเก็บไว้ในกระปุก เอาออกมาใช้ประมาณ 1 ช้อนกินข้าว

แล้วเอาตะไคร้ลงผัดน้ำมันให้ตะไคร้กรอบค่ะ

น้ำมันในกระทะจะมีกลิ่นตะไคร้ด้วย จะได้ดับคาวกลิ่นกะปิ






พอตะไคร้เริ่มกรอบ ก็เอาหมูลงผัดค่ะ






ผัดจนหมูเริ่มสุก

พระเอกของจานนี้ ....... กะปิค่ะ ได้มาจากชุมพร กะปิหอมมากกกกก






ตักกะปิใส่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวพยายามยีๆ กะปิให้เข้ากับหมู

ผัดจนกะปิเข้ากับหมูแล้วใส่พริกขี้หนูลงไปผัดด้วยค่ะ






ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บประมาณ 1 ช้อนกินข้าว ผัดในกระทะให้เข้ากัน

แล้วใส่ใบมะกรูดตามลงไปค่ะ






ตามด้วยหอมเจียว






ปิดไฟ บีบมะนาวลงไปซัก 1 ซีกนะคะ

แล้วใช้ตะหลิวผัดในกระทะให้เข้ากันอีกครั้ง ก่อนตักใส่จาน




Create Date : 01 มิถุนายน 2554
Last Update : 21 มกราคม 2555 15:55:56 น.
Counter : 1549 Pageviews.

4 comment
น้ำพริกกะปิ / ไข่ทอดชะอม / มะเขือยาวชุบไข่ทอด / แกงจืดหัวไชเท้า / บลอคโคลี่ผัดแฮม
วันทำงานปกติเลิกงานดึก ต้องอาศัยกินข้าวนอกบ้านตามร้านอาหารแถวๆ ออฟฟิศทุกวัน

พอวันหยุด ได้ทีค่ะ เข้าครัวทำกับข้าวกินเองให้สะใจกันไปเลย

เมนูตอนกลางวันเป็นมักกะโรนีผัดกุ้ง อาหารจานเดียวไปแล้ว

เมนูตอนเย็นเลยจัดหนัก เป็นกับข้าวไปเลยค่ะ (แบบว่าเก็บกด อิอิ)






เริ่มด้วยแกงจืดหัวไชเท้าก่อนค่ะ เพราะต้องใช้เวลาในการต้มหัวไชเท้า

ขั้นแรก ..... ล้างกระดูกหมูให้สะอาดก่อน แล้วเรียงกระดูกหมูวางลงในหม้อเลย

จากนั้นก็เติมน้ำใส่ลงไปซักครึ่งหม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ ค่ะ ไม่ต้องปิดฝาหม้อ






เตรียมเครื่องปรุงต่อไป คือ

- ผักชีพร้อมราก ล้างให้สะอาด

- กุ้งแห้งหยิบมือนึง (ไม่ต้องเยอะค่ะ) ล้างให้สะอาดเช่นกัน

- ตังฉ่าย นิดหน่อย

- พริกไทยเม็ดและกระเทียม






หัวไชเท้าปอกเปลือก ล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ แช่น้ำไว้

พอน้ำซุปกระดูกหมูเริ่มเดือด ใส่กุ้งแห้งกับตังฉ่ายลงไปในหม้อ

เดือดอีกครั้งก็ใส่หัวไชเท้า






ตั้งไฟอ่อนๆ ไปเรื่อยๆ ค่ะ ต้มไปเรื่อยๆ เพื่อให้หัวไชเท้าสุกใส นิ่มๆ หวานๆ

ระหว่างต้มก็คอยช้อนฟองทิ้งไปด้วยนะคะ ไม่ต้องปิดฝาหม้อระหว่างต้มค่ะ

ช่วงนี้ก็ทำกับข้าวอย่างอื่นต่อค่ะ

........ มะเขือยาวชุบไข่ทอด

- มะเขือยาวลูกนึง หั่นเป็นชิ้นบางๆ แช่น้ำเกลือไว้

- ไข่ไก่ 2 ฟอง ตีไข่เตรียมรอไว้เลยค่ะ

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน ก็เอามะเขือยาวชุบไข่ลงทอดค่ะ






เสร็จแล้วววว มะเขือยาวชุบไข่ ^^






ไข่ที่เหลือจากการชุบมะเขือยาวทอดแล้วมีอีกนิดหน่อย

ตอกไข่เพิ่มอีก 1 ฟอง แล้วเด็ดชะอม 1 กำ แช่น้ำล้างให้สะอาดหลายๆ รอบค่ะ






เหยาะน้ำปลาลงไปนิดนึงในไข่ แล้วใส่ลงไปในชามชะอม

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน เทไข่กับชะอมลงไปในกระทะเลยค่ะ

พอสุกแล้วก็ยกลง ตักใส่จาน






ทั้งมะเขือทอด ทั้งชะอมทอด ทำเสร็จไปแล้ว แต่ยังต้มหัวไชเท้าไม่เสร็จเลย

มันยังไม่ใสเท่าไรเลย เราไม่รีบค่ะ ต้มไฟอ่อนต่อไปเรื่อยๆ ทำกับข้าวอย่างอื่นต่อ

........ น้ำพริกกะปิ

เริ่มจากการต้มไข่เค็ม เพราะเพิ่งได้ไข่เค็มแบบดิบๆ มาจากใต้ค่ะ เลยเอามาต้มก่อน






เครื่องปรุงของน้ำพริกกะปิ สำหรับสูตรบ้านเรานะคะ

มีกะปิ น้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนู มะนาว กระเทียม






เริ่มต้นด้วยการตำกระเทียมก่อนเลย ใช้กระเทียมประมาณหัวนึงค่ะ

แล้วก็ตักกะปิใส่ลงไป จริงๆ ที่บ้านแม่จะเอากะปิไปย่างไฟด้วย

แต่นาทีนี้ ..... เริ่มขี้เกียจแว้ววว ใช้กะปิสดๆ ตักจากกกระปุกเลยค่ะ

กะปิหอมเชียว ซื้อมาจากชุมพรเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ

ตักใส่ลงไปในครกประมาณ 2 ช้อนกลาง แล้วก็ตำกะปิกับกระเทียมให้เข้ากัน






พริกขี้หนูเด็ดขั้ว ล้างให้สะอาดประมาณ 25 เม็ด ใส่ตามลงไปในครก

พอบุบๆ ค่ะ ไม่ได้ตำแหลก

เคยเจอบางคนจะใช้วิธีตำกระเทียมกับพริกขี้หนูก่อนแล้วค่อยใส่กะปิ

พอถามแม่ แม่บอกว่า อันนั้นไว้สำหรับตำกระเทียมพริกไว้ผัด

ถ้าตำน้ำพริกกะปิ ควรตำกระเทียมให้เข้ากับกะปิก่อนเพื่อให้กระเทียมดับคาวกะปิ

แล้วค่อยบุบพริกขี้หนูตามหลังให้หอมพริก

แม่บอกมาแบบนี้ ..... เราก็เลยคิดว่า สูตรน้ำพริกกะปิแต่ละบ้านคงไม่เหมือนกันมั้งคะ ^^






จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและมะนาว

อย่าลืมล้างมะนาวก่อนหั่นมะนาวบีบลงไปนะคะ จะได้ไม่ขม

กว่าจะตำน้ำพริกเสร็จถึงขั้นตอนนี้ ไข่เค็มที่ต้มไว้สุกพอดี

หั่นไข่เค็มแยกเป็นสองส่วน แล้วใช้ช้อนตักเฉพาะไข่แดง

บังเอิญว่า ..... เราตักไข่ขาวติดมาด้วย ก็เลย เลยตามเลยค่ะ ^^

ถ้าใช้ไข่เค็มที่ซื้อมาจากตลาดเลยก็ไม่ต้องต้ม ง่ายกว่านี้อีก

ใส่ไข่แดง ของไข่เค็มลงไปในน้ำพริกเพื่อให้น้ำพริกข้นๆ มันๆ ค่ะ






ตำๆ โขลกๆ ให้น้ำพริกเข้ากันค่ะ ตักใส่ถ้วยเสร็จแล้ว






เมนูสุดท้ายสำหรับมื้อนี้ค่ะ ..... บลอคโคลี่ผัดแฮม

เริ่มต้นจากการล้างผักแล้วหั่นผักบลอคโคลี่เตรียมไว้

เกรงว่าจานนี้จะเขียวเกิ๊น เราเลยขอเพิ่มแครอทอีกครึ่งหัวหั่นเตรียมไว้เช่นกัน

แฮม 3 แผ่น หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

(ใช้แฮมเพราะเหลือติดตู้เย็นค่ะ กลัวหมดอายุเลยรีบมาทำกับข้าวซะก่อน)

กระเทียมทุบประมาณ 1 หัว






เครื่องปรุงรส มีน้ำปลา ซีอิ๊วขาวและน้ำมันงา

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอร้อน ใส่กระเทียมเจียวให้หอมค่ะ






ตามด้วยแฮมลงไปผัดให้สุก แล้วก็ใส่บลอคโคลี่ลงผัด






ใส่แครอทค่ะ ใช้ไฟแรงๆ ผัดเร็วๆ

ปรุงรสด้วยน้ำปลาและซีอิ๊วขาว ปิดไฟแล้วเหยาะน้ำมันงาลงไปนิดนึงให้หอมๆ






กับข้าวเสร็จเกือบหมดแล้ว แกงจืดหัวไชเท้ายังต้มอยู่เลย ^^

โขลกพริกไทยเม็ด กระเทียม รากผักชีที่เตรียมไว้ตั้งแต่ตอนแรกให้เข้ากัน

แล้วใส่ลงไปในหม้อแกงจืดค่ะ เหยาะเกลือลงไปด้วยนิดนึงแล้วปิดไฟ

ยกลงตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชี




Create Date : 09 พฤษภาคม 2554
Last Update : 21 มกราคม 2555 15:59:32 น.
Counter : 10331 Pageviews.

5 comment
มักกะโรนีผัดกุ้ง
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์แบบนี้ ไม่ได้ออกไปไหนเพราะตื่นสาย

(จริงๆ ต้องบอกว่า ตื่นเกือบเที่ยงเลยต่างหาก แบบว่า .... ก็เป็นวันหยุดนี่นา อิอิ)

ตื่นมาแล้วก็หิว ค้นตู้เย็นดูเผื่อจะเจอของกิน ค้นไปค้นมา เลยได้เมนูนี้ขึ้นมาแบบง่ายสุดๆ ค่ะ

เครื่องปรุงไม่มีอะไรมาก

- ไข่ไก่ 2 ฟอง

- กุ้งสดแช่แข็ง 7-8 ตัว (ซื้อติดตู้เย็นช่องฟรีซไว้อยู่แล้วค่ะ)

- หอมใหญ่ 1 หัว

- เส้นมักกะโรนี 1 ห่อ

- ผักแช่แข็ง นิดหน่อย (ซื้อติดตู้เย็นช่องฟรีซไว้เหมือนกันค่ะ)

- น้ำตาลทราย เกลือ ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช






ของพร้อมแล้วลงมือได้ค่ะ

(ไม่ได้ล้าง หั่น เตรียมอะไรมากเลย แค่ค้นๆ ของในตู้เย็นมาเตรียมไว้เท่านั้นเอง อิอิ)

........ เริ่มจากการต้มน้ำค่ะ พอน้ำเดือด ใส่เส้นมักกะโรนีประมาณครึ่งห่อลงไปต้ม

เหยาะเกลือลงไปจิ๊ดนึง ต้มประมาณ 12 นาที ตามคำแนะนำข้างซองมักกะโรนี

12 นาทีผ่านไป ......

เส้นเริ่มนิ่มแล้วค่ะ เอาน้ำออก แล้วเทน้ำมันพืชลงไปนิดนึง คลุกเส้นให้เข้ากันเตรียมไว้ค่ะ






ช่วงระหว่างที่ต้มเส้นมักกะโรนี หั่นหัวหอมใหญ่เป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้ค่ะ






ตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไปนิดนึง และหัวหอมใหญ่ ผัดให้พอสุกยังไม่ทันใสดี

ใส่ผักแช่แข็งลงไป ผัดให้สุก คราวนี้หัวหอมใหญ่จะสุกเป็นใสๆ เลยค่ะ






ตามด้วยกุ้งแช่แข็งลงผัด (น้ำแข็งละลายในกระทะเพียบเลย)






พอกุ้งสุกแล้ว ก็ใส่เส้นมักกะโรนีที่เราต้มเตรียมไว้ค่ะ

ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำตาลทราย เกลือ






ผัดให้เข้ากันค่ะ แล้วตอกไข่ใส่ลงไปในกระทะ

เอาเส้นมักกะโรนีกลบไข่ไว้ นับ 1-10 พอดีไข่สุก






ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ให้ไข่เกาะเส้นมักกะโรนี






เสร็จแล้วค่ะ ปิดไฟ ยกลงตักใส่จานได้






มักกะโรนีผัดกุ้ง ...... อาหารจานด่วนที่ทำง่ายสุดๆ ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีเองค่ะ ^^



Create Date : 08 พฤษภาคม 2554
Last Update : 21 มกราคม 2555 16:02:40 น.
Counter : 2874 Pageviews.

0 comment
กุ้งอบวุ้นเส้น / หมูชุบแป้งทอด
เมื่อวานนี้ คิดเมนูทำกับข้าวมื้อเย็น อยากกินอะไรที่เป็นเส้นๆ

คิดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็เมนูหากิน ..... กุ้งอบวุ้นเส้นค่ะ

ผสมเครื่องปรุงครั้งนึงทำกุ้งอบวุ้นเส้นได้สองรอบค่ะ

น้ำซอสที่มีในวันนี้เลยได้มาจากการผสมครั้งก่อนและแช่ตู้เย็นไว้

ส่วนผสมที่มี คือ

- พริกไทยป่น 2 ช้อนกาแฟ (ช้อนเล็กๆ ที่ไว้คนกาแฟ)

- ช่วงเจี่ย 2 ช้อนกาแฟ

- น้ำตาลทราย 2 ช้อนกาแฟ

- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนกลาง

- น้ำมันหอย 3 ช้อนกลาง

- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง

คนๆ ส่วนผสมน้ำซอสปรุงรสให้เข้ากันค่ะ






แช่วุ้นเส้นในน้ำ 3 ห่อ ซักพักจนวุ้นเส้นนิ่ม

แล้วเอาน้ำซอสปรุงรสที่ผสมไว้ คลุกกับวุ้นเส้นที่แช่น้ำจนนิ่มแล้ว






มีตัวช่วยให้วุ้นเส้นหอมๆ มันๆ คือ มันกุ้งเสวยค่ะ

ตักมันกุ้งเสวย 1 ช้อนกลาง คลุกในวุ้นเส้นให้เข้ากัน

ทิ้งไว้ซักพักค่ะ ช่วงนี้ไปเตรียมส่วนผสมอื่นๆ ต่อ






ส่วนผสมอื่นๆ คือ

- เบคอน 2 เส้น หั่นเป็นชิ้นๆ

- ขิง หั่นเป็นแว่นๆ

(ขิงที่มีติดตู้เย็นแก่มากกก แต่ทำงัยได้มีแต่ขิงแก่

ก็เลยใจจำยอม ขิงแก่ ก็ขิงแก่ค่ะ ^^)

- พริกไทยเม็ด กะๆ เอาค่ะ ไม่ได้นับจำนวน เอาไปบุบๆ พอแตก

- กระเทียม 1 หัว ปอกเปลือกแล้วทุบๆ พอแตกเหมือนกันค่ะ

- รากผักชีประมาณ 2-3 ราก ทุบพอแตก

- ผักชีหั่นพอหยาบๆ 2-3 ต้น

(จริงๆ แต่ก่อนใช้ใบตั๋งโอ๋ค่ะ แต่ไม่ได้ไปตลาดเลยไม่มี

ในตู้เย็นที่บ้านมีแต่ผักชีเลยใช้แก้ขัดไปก่อน ^^)






ของพร้อมแล้วลงมือได้ค่ะ

ที่บ้านไม่มีหม้อสำหรับใช้อบวุ้นเส้น เลยใช้กระทะเทฟรอนแทนค่ะ

เรียงเบคอนลงไปในกระทะ ตามด้วยขิง โรยพริกไทยเม็ด

วางรากผักชีลงไป ตามด้วยกระเทียม






ขั้นต่อไป เคยสับสนนะคะว่าจะวางกุ้งก่อน หรือวุ้นเส้นก่อนดี

แต่เมนูนี้ ชื่อว่า "กุ้งอบวุ้นเส้น"

ดังนั้น วุ้นเส้นน่าจะเป็นตัวอบกุ้ง ซึ่งก็หมายถึง กุ้งอยู่ด้านล่างแล้วโปะด้วยวุ้นเส้น

........ ตรรกะนี้ เราคิดเองค่ะ ^^ ไม่เกี่ยวกับทฤษฎี ความจริงแต่อย่างใด

เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ อิอิ

ใช้กุ้งแช่แข็งที่บ้านมีติดตู้เย็นอยู่แล้วค่ะ

ใช้จำนวนเท่าใดนั้นตามแต่ใจเราเลยค่ะ อยากกินกุ้งเยอะก็ใส่เยอะหน่อย

ไม่มีมาตรฐานใดๆ อะไรเลย ^^






ตามด้วยวุ้นเส้นที่แช่น้ำซอสปรุงรสไว้แต่แรกแล้ว

โปะด้านบนตัวกุ้งเลยค่ะ แล้วเอาขึ้นตั้งไฟอ่อน

กระทะที่บ้านมีฝาแก้วอยู่พอดี เราเลยเอาฝาแก้วมาปิดกระทะ

อบประมาณ 10 นาที แล้วเอาผักชีใส่ในกระทะ อบต่ออีกประมาณ 1 นาที






เพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา ประมาณ 1 ช้อนกลาง

ใช้ตะเกียบคลุกน้ำมันงาให้ทั่วค่ะ แล้วปิดไฟ ยกลงใส่จานได้เลยยยย






อีกจานคือ "หมูชุบแป้งทอด"

เอาหมูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเหยาะน้ำปลาลงไปค่ะ






ตามด้วยแป้งโกกิ และน้ำเย็น ให้ส่วนผสมพอขลุกขลิก






ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อนแล้วเอาหมูลงทอดให้เหลืองค่ะ






ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ กินกับน้ำจิ้มไก่ผสมซอสพริกอร่อยดีค่ะ

เมนูวันหยุดง่ายๆ จากของสดที่มีในตู้เย็นมีเท่านี้ค่ะ ^^




Create Date : 17 เมษายน 2554
Last Update : 21 มกราคม 2555 16:49:59 น.
Counter : 1988 Pageviews.

3 comment
1  2  3  4  

chicken demon
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]



All Blog
Friends Blog
[Add chicken demon's blog to your weblog]