• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• ว่างๆก็ วาดรูปเล่น
• มั่วซั่ว
• unpost

ตัด เล็ม และทำสี กับร้านทำผมสไตล์ญี่ปุ่น Rikyu by boy Tokyo สวัสดีค่าาาาาา เจอกันอีกแล้ว แต่นี่เป็นบล๊อกแรกที่เบลล์จะรีวิวร้านทำผม ปกติเบลล์จะไม่ค่อยเข้าร้านเท่าไหร่ มีแค่ช่วงที่เพิ่งเข้ามหาลัย ที่บ้าเข้าร้านมากๆ เพราะ ช่วงนั้นเป็นครั้งแรกที่จะไม่ต้องเคร่งเรื่องผม เบลล์อยู่เซนต์โยมา 12 ปี ไว้ผมยาวตัดตรง ถักเปียมาตลอดชีวิตการเป็นนักเรียน เรียบร้อยสุดๆ พอเข้าปี1 ไม่มีกฏว่าห้ามซอยผม ก็เอาละ ซอยกระจายยยยยย จนหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเบลล์เป็นทอม 55555 เริ่มสำนึกได้ก็ตอนปีสาม ปีสี่แล้ว เลยไว้ยาวแบบหญิงสาวปกติ ก็เลยห่างหายจากการเข้าร้านทำผมไป จะมีก็แต่ร้านบนห้างแถวบ้าน นานๆไปที แต่ก็ยังไม่เคยเข้าไปทำร้านทำผมแบบญี่ปุ่นๆกะเค้า มาคราวนี้มีโอกาสได้ลองอะไรใหม่ๆบ้าง ... หลังจากที่ปล่อยผมยาว ยาวมากกกก และไม่ได้ใส่ใจเป็นระยะเวลานาน เวลาทำสี ก็ทำเองที่บ้าน ผมเลยเกิดอาการสีไม่ติด ไม่สม่ำเสมอ เลยตัดสินใจว่า จะต้องเข้าร้านทำผมแล้วแหละ ประจวบเหมาะกับมีพี่รหัสเป็น stylist ที่ร้าน Rikyu by boy Tokyo ซึ่งเพิ่งมาเปิดสาขาที่สยาม พอดี!! เริ่ดอะ!!! เลยขอใช้โอกาสนี้ ไปลองของให้สมใจอยากซะเลย ร้าน Rikyu by boy Tokyo เป็นร้านทำผมส่งตรงจากTokyo มี top stylist เป็นคนญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นสไตล์ผมก็จะออกมา ญี่ปุ่นๆ สาขาแรกของไทยจะอยู่ที่ The 49 Terrace สุขุมวิท ซอย 49 ตอนนี้เค้าเปิดสาขาสอง ที่สยาม อยู่สกาล่าชั้น2 ใกล้บ้านมากๆ หน้าร้านจัดน่ารักๆ ขาวสะอาดตา เมื่อเข้าไปในร้าน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี เป็นกันเอง เค้าจะให้กระดาษมากรอกรายละเอียดส่วนตัว และข้อมูลอื่นๆ เช่น ต้องการรับบริการจาก Top Stylist หรือ Stylist ฯลฯ (จุดนี้จะส่งผลกับราคาค่าบริการ Top Stylist เริ่มต้นที่ 1,500 ส่วน Stylist จะอยู่ที่ 500 - 800 บาท ซึ่ง Top Stylist จะประจำอยู่ที่สุขุมวิทเท่านั้น) ในใบนั้นก็จะมีถามอีกว่า ต้องการทำสี-ตัด-ดัด อะไรบ้าง และมีให้กรอกว่า เราแพ้เคมีอะไรหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยของทางร้าน ซึ่งนับว่าเป็นส่วนที่ดี เพราะหลายๆร้านไม่ได้ใส่ใจในจุดนี้ พอกรอกรายละเอียดเรียบร้อย ก็มาคุยกับ Stylist ปรึกษาปัญหาและความต้องการ ปัญหาของเบลล์ในครั้งนี้ คือ ต้องการตัดความยาวให้สั้นลง เพราะรู้สึกว่ามันยาวไปแล้ว ผมไม่ค่อยไล่เป็นทรงเท่าไหร่ เวลาอยากม้วนผม มันจะเป็นกองๆ ไม่ไล่ระดับและอยากจะเคลียร์สีสะเปะสะปะ ที่เกิดจากการทำสีไม่ติด เห็นเป็นสีทองสว่างๆในรูปด้านล่าง จุดเด่นของร้านจะอยู่ที่ สไตลิสท์จะออกแบบทรงผมจากบุคลิกของเรา และสเก็ตช์รูปทรงผมออกมาก่อนที่จะลงมือตัด พี่เต้ Stylist ของเบลล์ในวันนี้ ก็ได้สเก็ตช์รูปออกมาเป็นผมยาวพริ้วๆ ด้านหน้าสั้นประมาณคาง ตามในภาพ (น่ารักกว่าตัวจริงนะ 5555) ในส่วนของการแก้สี ช่างก็ตัดสินใจว่า จะเก็บสีเดิมเอาไว้ แล้วใช้วิธีการทำสี Hilight + Lowlight คือสีที่สว่างกว่าและเข้มกว่าแทรกไปทั่วทั้งหัว เพื่อเบลอสีที่สว่างไป ให้ดูกลมกลืนมากขึ้น ลดความเด่นของสีทองลง และเติมสีเดิมที่โคนผมให้ทั่ว แล้วก็มาเริ่มตัดผมให้ได้ความยาวที่ต้องการ พี่เต้ก็จะค่อยๆไล่ความยาว โดยตัดแบบฟรีแฮนด์ จะได้ลุ๊คที่ธรรมชาติมากกว่า และค่อยๆเล็มเนื้อผมด้านในออก เพื่อให้ผมด้านบนดูมีวอลลุม ไม่ลีบแบน พอได้ทรงที่ต้องการแล้ว ก็ทำการเทียบสีผมที่ต้องการ แต่ก่อนทำสี ที่ร้านก็จะทาเจลกันเลอะที่ผิวบริเวณหน้าผาก ผิวรอบๆตีนผมไล่ไปท้ายทอย ใส่ที่ครอบหูกันเลอะ และพ่นสเปรย์กันผมเสียให้ด้วย ขณะที่พี่ผู้ช่วย จัดแจงเตรียมความพร้อมก่อนลงสี พี่เต้ Stylist ก็จัดการผสมสี...วันนี้ใช้ถึง 3 สี ด้วยกัน!! การลงสี พี่เต้ทำได้ละเอียดมากๆ ทีละชั้นบางๆ แต่ละชั้นทำช่อเว้นช่อ และแต่ละสีก็สลับชั้นสับหว่างกันพอดี ทำจนทั่วทั้งหัว (ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานเหมือนกัน เพราะเค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ) พอลงสีครบทั้งหัวแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการอบให้เซ็ทตัว นั่งรอจนครบตามเวลา ช่างก็จะมาเช็คความเรียบร้อย ดูว่าสีติดดีหรือไม่ แล้วก็ไปล้างออกจนสะอาด เป่าแห้ง ก็จะได้สีแบบรูปซ้าย ด้านล่างนี้... จากนั้นก็ทำการเติมสีที่โคนผมทั่วศีรษะ พอสระออกแล้วเป่าออกมา ก็จะได้แบบรูปแถวล่าง ได้สีที่กลมกลืนกันมากขึ้น ดูดีกว่าเดิมมากๆ เท่านี้ยังไม่พอ พี่เต้จัดแจงม้วนแกนร้อน เพื่อเซ็ทให้เข้าทรง ให้ดูหวานพริ้วตามที่สเก็ตช์ไว้ และความเป็นลอนยังช่วยให้เห็น ความเหลื่อมของสีหลายๆสีชัดขึ้นด้วย กลับบ้านมาดูรูปตัวเองแล้ว ต๊ายยยย ญี่ปุ่นมากกกก ตกใจ! นี่ถ้าติดขนตาปลอม แต่งหน้าอีกนิด โอเคเลย ฮ่าๆๆ แอบถ่ายผลิตภัณฑ์ที่ทางร้านใช้มาให้ดู จากที่ถามพี่เต้ เค้าบอกว่า สีที่ใช้เป็นของนำเข้าจากญี่ปุ่น ข้อดีคือ กลิ่นจะไม่แรง และอ่อนโยนกว่า ซึ่งตรงนี้ เบลล์ไปลองมาแล้ว ก็ขอบอกว่าจริงค่ะ กลิ่นไม่ฉุนเลย ไม่แสบตา และผมไม่เสีย ไม่แห้งลงเลย ผมอยู่ในสภาพที่ดีมาก เหมือนไม่ได้ทำอะไรกับมันมาเลย เริ่ด!! เซ็ทผมเสร็จแล้ว ถ่ายข้างหลังให้ดู ชอบบบบบอ่ะ! ถ่ายอีกรูป วันรุ่งขึ้นดูว่าทรงยังดีอยู่... สรุป ถ้าเกิดว่าไม่ม้วนผม ก็ยังได้ทรงสวยอยู่ เอารูปเปรียบเทียบ ก่อนตัดและหลังตัดมาให้ดูค่ะ และเรื่องของสีผมมาดูกันชัดๆว่า แก้ความเน่าของสีเดิมได้หรือไม่... จะเห็นว่า สีทองที่ย้อมไม่ติด ได้ดูกลมกลืน หายไปแล้ว และแถมได้สีผมหลายๆสีในหัวเดียว ตอบโจทย์มาก เลิฟฟฟฟฟฟฟ ถ่ายกลางแดดให้ดูบ้าง จะได้สีแบบนี้ ... (รูปนี้ถ่ายกลางแดด หลังจากทำสีมาแล้ว สัปดาห์นึงพอดี สีไม่ลอกไม่หลุด ไม่ตกติดหมอน มีประกายเงา สวยดีค่ะ) รูปสุดท้าย ถ่ายคู่กับ Stylist ของเบลล์ในวันนี้ พี่เต้... การทำผมในครั้งนี้ เป็นที่น่าพอใจมากๆ ตอบโจทย์ที่ต้องการได้ทั้งหมด แอบใช้เวลาเยอะไปนิดนึง อาจะเป็นเพราะทางร้านใส่ใจรายละเอียดสุดๆ แต่ก็ถือว่าเป็นข้อดี เพราะ ในเมื่อเราลงทุนเงินก้อนนึงลงไป เราก็ได้อะไรกลับมาที่คุ้มค่ามากๆ ไม่ใช่แค่ผลงานบนหัวเรา แต่เป็นอัธยาศัยที่น่ารัก และความเอาใจใส่ของพนักงานทุกคนในร้าน สุดท้าย ก็ อยากแนะนำว่า ถ้าใครกำลังรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนลุ๊คบ้าง อยากลองเปลี่ยนทรงผม ... ร้าน Boy ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ราคาอาจจะสูงระดับนึง แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้ว คุ้มค่ามากๆค่ะ บล๊อกนี้รีวิวซะยาวเลย 55555 เอาเป็นว่า ถ้าใครมีข้อสงสัยยังไง ถามเบลล์ได้ ถ้าทราบ ก็จะตอบให้นะคะ เข้ามาพูดคุยกันได้ในแฟนเพจเบลล์ตลอดเวลาค่า ^ ^ วันนี้คงต้องขอตัว ไปแล้วค่ะ บ๊ายบาย ปล. ไปพูดคุย เจ๊าะแจ๊ะกันได้ในแฟนเพจเบลล์ค่ะ Click เข้าไปได้เลยค่าาาาา ^ ^   Create Date : 09 กรกฎาคม 2555     Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 18:06:30 น. Counter : 32231 Pageviews.   7 comment Share Tweet

[CR] REVIEW แปรงแต่งหน้าสุดเลิฟ คุณภาพดี ราคาน่ารัก หาซื้อได้ในประเทศไทย PART2 บล๊อกนี้ก็จะรีวิวแปรงแต่งหน้าคุณภาพดี ราคาน่ารัก หาซื้อได้ในไทย กันต่อเลย ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน Part1 สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ [CR] REVIEW แปรงแต่งหน้าสุดเลิฟ คุณภาพดี ราคาน่ารัก หาซื้อได้ในประเทศไทย PART1 Part ที่แล้ว ค้างไว้ที่แปรงตา ..... เดี๋ยวจะไล่ทีละชิ้นเลย.... M010 Blending Blush แปรงเบลนตา ขนกระรอก ลักษณะแปรง ด้ามสีดำผิวด้าน คอแปรงโลหะสีเงิน หัวแปรงกลม ทรงโดม โค้งมน ขนแปรงเป็นขนกระรอก นิ่มมากๆ ปลายเส้นขนไม่คม ไม่บาดผิว แน่นฟูกำลังดี ขนไม่บาน ถึงเอาไปซักก็ไม่บาน ไม่ร่วงเลย และสีไม่ตก สปริงตัวพอเหมาะ ไม่เด้งดึ๋งแบบแปรงตาขนสังเคราะห์ตามตลาดนัด ทำให้เบลนด์สีตาได้ดีมากๆ สีไม่จับเป็นปื้น ช่วยกระจายพิกเมนท์ของสีได้ดี ทำให้แต่งตาได้ง่าย ใช้แล้วรู้สึกแต่งหน้าได้เก่งขึ้น (อันนี้เกี่ยวมั้ย555) ขนาดหัวแปรงกำลังดี ถ้าเทียบกับ Sigma หัวตัวนี้จะเล็กกว่าและไม่บานเท่า เหมาะกับเบ้าตาคนไทย ซึ่งเล็กและแคบกว่าตาฝรั่ง เพราะฉะนั้น Blending Brush ของ Magique ชนะขาด แถมราคาก็ถูกกว่าด้วย ตกอันละสองร้อยกว่าบาทเอง เริ่ดเนอะ! แอบสารภาพว่า ที่ซื้อตัวนี้ เพราะผิดหวังจาก Blending Brush ของ Sigma เพราะใช้แล้วเบลนด์ยังไงก็ไม่สวย ตาเหมือนโดนต่อยมา พอมาสังเกตุดีๆก็พบว่า หัวแปรงมันใหญ่กว่าเบ้าตาเรา จะเบลนด์ยังไงก็ไม่สวย ก็เลยตัดสินใจลองซื้อของ Magique มาลองใช้แทน สรุปว่า เวิร์คกว่าจริงๆ แต่ถ้าใครที่มีเบ้าตากว้างๆแบบตาฝรั่ง อันนี้ก็อาจจะเล็กไป ต้องลองเทียบดูนะคะ ^ ^ M011 Blending Blush แปรงเบลนตา ขนกระรอก ชื่อแปรงเหมือนอันตะกี้เลย แต่คนละรหัส รูปทรงก็ไม่เหมือนกัน ด้ามสีดำด้านเหมือนกัน คอแปรงเหมือนกัน แต่ต่างที่หัวแปรง อันนี้จะคล้ายๆแปรงตา pony tail ของ Laura Mercier แต่เบลล์เทียบคุณภาพและการใช้ให้ไม่ได้ เพราะไม่มีในครอบครอง 555 ขนแปรง ทำจากขนกระรอก เพราะฉะนั้น ความนิ่ม การสปริงตัว รวมถึงคุณภาพขน เหมือนตัวตะกี้เลยค่ะ แต่ด้วยลักษณะหัวแปรง รูปทรงจะแหลมกว่า M010 เหมาะกับการเบลนด์สีตาในส่วนแคบๆ หรืออาจจะใช้เน้นรอยพับตา สร้างV shape หรือจะ คัดเบ้าก็ได้ เหมาะสำหรับคนเบ้าตาแคบๆ หรือคนที่มีเนื้อที่หนังตาน้อยๆ เบลล์จะใช้แปรงอันนี้เบลนด์อายแชโดว์สีเข้มๆ หรือพวกที่เนื้อสีจัดๆ แต่งสโมคกี้อายส์เวิร์คมากๆ เพราะมันควบคุมขอบเขตการระบายสีได้แม่นยำ ส่วนเรื่องราคา ก็เท่ากับ M010 ค่ะ สองร้อยกว่าๆ M025 Blending Blush แปรงเบลนตา ขนแพะ ลักษณะแปรงทั้งด้ามและคอเหมือนแปรงอื่นๆ แต่หัวแปรงจะกลมๆ สั้นๆ โค้งมน มีขนาดหัวที่เล็กมาก เลยเหมาะสำหรับการเบลนด์สีแบบย้ำๆในที่แคบๆ เช่น เบลนด์สีเข้มจากขอบตาขึ้นมา หรือ เบลนด์ในเบ้าตา คัดเบ้าชัดๆ หรือ คัดเส้นรอบพับตาก็เหมาะมากๆ ขนแปรงเป็นขนแพะ แต่ความนิ่มก็พอๆกับขนกระรอก อาจจะแข็งกว่านิดนึง แต่ไม่บาดผิวเลย ความสปริงตัว จะแข็งกว่าขนกระรอก ทำให้เกลี่ยสีได้คมชัดกว่า ควบคุมขอบเขตได้ชัดเจนกว่า ส่วนเรื่องคุณภาพขน ดีเลยแหละ ล้างแล้วสีไม่ตก ไม่หลุดร่วง ... ผ่านจ้า! ในเรื่องราคา อันนี้ถูกหน่อย เพราะไซส์เล็กกระปิ๊ด ร้อยกว่าบาทเอง สุดท้ายแล้ว เป็นแปรงคิ้วที่รักมากอีกอัน .... M038 Eyebrow Blush แปรงเขียนคิ้ว ขนแพะ ลักษณะแปรงเหมือนแปรงตาอื่นๆเลยค่ะ แต่หัวแปรงจะเล็กมากๆ และแข็งมากๆ พอบอกว่าแข็ง อาจจะนึกว่าไม่ดีรึเปล่า แต่ไม่ใช่เลย ความแข็งของขนแปรง ทำออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานมากๆ ... ที่เบลล์เบลล์ชอบตัวนี้ เพราะ ด้วยขนที่แข็งอยู่ทรงของมัน ปลายที่ตัดตรง คมกริบ และความแบนของหัวแปรง ทำให้เขียนเส้นได้คมมากๆ ถ้าวันไหนอยากแต่งหน้าเป๊ะ คิ้วคมกริบ ก็จะใช้แปรงอันนี้เขียนคิ้ว นอกจากจะเขียนเส้นได้คมแล้ว ยังสามารถใช้เกลี่ยสีเวลาเขียนคิ้วได้ดีอีกด้วย สุดท้าย เรื่องของราคา ถ้าจำไม่ผิด...ร้อยเดียว ประมาณนี้ ถ้าเจ๊งเมื่อไหร่ ซื้อต่ออีกแน่นอนจ้า! รีวิวครบหมดแล้ว สำหรับ part นี้ ก็สรุปเลยว่า แปรงแต่งหน้าคุณภาพดี ราคาย่อมเยาว์ และหาซื้อได้ง่าย ยังมีบนโลก 555555 ใครที่ยังไม่อยากลงทุนกับแปรงแพงๆ หรือเพิ่งเริ่มแต่งหน้า แปรงที่รีวิวไป 2 Part นี้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เดี๋ยวมีเวลาอีกเมื่อไหร่ จะมาเขียนรีวิวตัวอื่นๆ แปรงยี่ห้ออื่นๆที่ใช้แล้วชอบ มาให้อ่านกันอีกค่ะ วันนี้คงต้องขอลาไปนอนก่อนแล้ว สวัสดีค่ะ ^ ^ ปล.รีวิวแล้วเดี๋ยวต้องมีคนมาถามแน่ๆว่าซื้อที่ไหน? เบลล์ซื้อที่ร้านMagique ในแพลตินั่มชั้น3 ค่ะ ซอยอะไรจำไม่ได้ ต้องเดินหา 555 และเดี๋ยวนี้เค้ามีเว็บไซท์และมีแฟนเพจแล้ว เห็นว่ามีขายออนไลน์ด้วย ลองเข้าไปดูได้ค่ะ แต่เบลล์อยากให้ไปลองจับของจริงที่ร้านดูก่อน ว่าชอบไม่ชอบยังไง เค้ามีแปรงอีกหลายแบบให้เลือก มีขายกระเป๋า กล่อง และอุปกรณ์อื่นๆสำหรับช่างแต่งหน้า อีกเยอะมากกกกก ที่ร้าน คนขายใจดี ไม่ดุ เบลล์เลยเป็นลูกค้าประจำไปแล้ว ปล2. ไปพูดคุย เจ๊าะแจ๊ะกันได้ในแฟนเพจเบลล์ค่ะ Click เข้าไปได้เลยค่าาาาา ^ ^   Create Date : 30 มิถุนายน 2555     Last Update : 30 มิถุนายน 2555 5:14:45 น. Counter : 13179 Pageviews.   0 comment Share Tweet

[CR] REVIEW แปรงแต่งหน้าสุดเลิฟ คุณภาพดี ราคาน่ารัก หาซื้อได้ในประเทศไทย PART1 บล๊อกก่อนๆเบลล์ได้พูดถึงวิธีการล้างแปรง ดูแลรักษาแปรงแต่งหน้าไปแล้ว มาถึงบล๊อกนี้ ก็อยากจะมาพูดถึงแปรงสุดเลิฟกันบ้าง แต่ถ้าจะให้รีวิวทั้งหมดในกรุ คงไม่ไหวจริงๆ ต้องบอกก่อนเลยว่า บ้าแปรงแต่งหน้ามากกกกกกกกก ซื้อมาเยอะ หลายยี่ห้อ หลายเกรด หลายราคา ทั้งของไทยและต่างประเทศ แต่สุดท้ายมันก็จะเหลือไม่กี่อันที่ใช้บ่อยๆ จัดอันดับเป็นแปรงลูกรัก บล๊อกนี้เบลล์จะขอพูดถึงแปรงที่หาซื้อได้ในไทยก่อน เดี๋ยวบล๊อกหน้าๆจะเอาแปรงอื่นๆมารีวิวด้วย จริงๆถ้าใครที่ตามดูบิวตี้บล๊อกเกอร์มาพักใหญ่ๆ จะพบว่า SIGMA เป็นแปรงที่ดังมากกกก ฮิตมาก ในหมู่บล๊อกเกอร์ แต่ ปัญหาคือ มันหาซื้อยากอะดิ ไหนจะต้องพรีร้านหิ้ว หรืออาจจะต้องสั่งเองจากเว็บ หรือฝากญาติพี่น้องหิ้วมาให้ ถามว่าคุณภาพมันดีมั้ย ตอบเลยว่าดีโอเค บางอันก็ไม่โอเค ถ้าพูดถึงเรื่องราคา อืมมมม น่าคิดนะ ก็....ถือว่าไม่แพงเกินไป แต่ถ้าต้องชาร์จค่าขนส่งเข้าไป ก็แอบแพงอยู่ แต่ถ้าอยากได้แปรงดีๆ ราคาน่ารัก แถมหาซื้อได้ในไทยด้วยเนี่ย เบลล์คงแนะนำแปรง Magique ชื่ออาจจะไม่คุ้นหู แต่จำได้ว่ามีคนพูดถึงในห้องโต๊ะเครื่องแป้ง พันทิพ เมื่อนานมากกกกกกกแล้ว และเบลล์ก็เคยเอามารีวิว ในบล๊อกแรกของเบลล์เลย น่าจะสองปีกว่าๆได้แล้ว ซึ่งก็นานมากแล้ว แต่แปรงอันนั้น ก็ยังคงเป็นแปรงปัดแก้มที่ใช้ทุกวันจนถึงทุกวันนี้ นับว่าเป็นแปรงที่ดีและทนมว๊ากกกก!!! หลังจากที่ติดใจกับคุณภาพของแปรงปัดแก้ม ทุกครั้งที่ได้ไปแพลตินั่ม ก็จะต้องแวะร้าน Magique แล้วสอยแปรงติดมือมาครั้งละอันสองอันเสมอ จนตอนนี้ มีแปรงยี่ห้อนี้ ประมาณในรูป.... เป็นแปรงที่ใช้บ่อยๆ บ่อยกว่าแปรง sigma ซะอีก 555555 เดี๋ยวจะรีวิวทีละตัวเลย โดยขอเริ่มจากแปรงเกี่ยวกับหน้าก่อน แล้วค่อยๆไล่ไป ตา คิ้ว อีกทีนึง ขอเริ่มจากตัวนี้เลย ลูกรักตลอดกาล แปรงปัดแก้มขนกระรอก นั่นเอง! ใช้มาสองปีกว่า ยังไม่พัง คงสภาพได้ดีมาก สังเกตุว่าไม่มีโลโก้พิมพ์ที่ด้าม ไม่ใช่ของปลอมนะคะ แต่ซื้อมาตั้งแต่แปรงในร้านยังไม่พิมพ์โลโก้อะ นานมว๊ากกกกก  ลักษณะแปรง ด้ามสีดำเงา คอเป็นโลหะสีเงิน ขนแปรงเป็นขนกระรอกนิ่มมากๆ ขอบอกว่าขนนิ่มจนเคลิ้ม นิ่มกว่าแปรงซิกม่าเยอะมาก อันนี้เป็นแปรงปัดแก้มในดวงใจ ใครๆมาถามว่าแปรงปัดแก้มของอะไรดี เบลล์แนะนำตัวนี้เลยจริงๆ ไม่ผิดหวังค่ะ เคยจะกลับไปซื้อมาเพิ่มอีกอัน เอาไว้พกในกระเป๋า แต่ต้องผิดหวังกลับมา เพราะของขาด T^T  เบลล์เคยใช้แปรงยี่ห้ออื่นที่ขนนิ่มมากๆ นิ่มเคลิ้มเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นขนสังเคราห์หรือขนสัตว์นะ นิ่มจริง แต่จิกสีบลัชไม่ติด แต่แปรงปัดแก้มของ Magique อันนี้ นิ่มแต่จิกเนื้อสีดีมากๆ และกระจายสีเวลาปัดได้ดีด้วย ทำให้ปัดแก้มได้ง่าย ควบคุมปริมาณสีได้ดี ถึงจะใช้กับบลัชที่เม็ดสีจัดๆ ก็ปัดแล้วไม่เป็นปื้นๆ ความคงทน อันนี้พิสูจน์แล้ว กล้าบอกเลยว่าทนจริงๆ ใช้มาสองปีกว่า ผ่านการล้างนับครั้งไม่ถ้วน ขนไม่หลุด ไม่เสียทรง อาจมียับนิดๆ แต่เป็นการยับจากลักษณะเส้นขนของขนกระรอกอยู่แล้ว ไม่มีผลต่อการใช้งาน ส่วนเรื่องขนาด เบลล์ว่ากำลังดี พอดีกับแก้มเลยค่ะ และด้วยรูปทรงเป็นแปรงเฉียงหัวมนๆ แบนๆ ทำให้รับเข้ากับรูปหน้าได้เป๊ะมาก ใช้ปัดเฉดดิ้งก็เวิร์คอีกด้วย ราคา จำไม่ได้ว่าซื้อมาเท่าไหร่ ตอนนั้น่าจะราวๆสองร้อยกว่าๆ ตอนนี้ราคาขึ้นแล้ว เป็น 390 บาทแล้วจ้า ถึงจะขึ้นราคาแล้ว ก็ยังถือว่าคุณภาพเกินราคา ตัวนี้คุ้มๆ ควรมีในครอบครอง! แปรงชิ้นที่สอง เป็นแปรง flat top หรือเรียกง่ายๆว่าแปรงหัวตัด จำได้ว่าตอนที่ซื้อ Sigma กำลังโปรโมทแปรง Synthetic ขนแบบ HD แล้วบังเอิญไปเจอตัวนี้ขายในร้าน Magique ก็เลยสอยกลับมาลอง เพราะ ลองจับแล้ว นิ่มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขนแน่นๆ อยากลองใช้ลงรองพื้น กับลง mmu ดูว่าจะเวิร์คมั้ย ซึ่งตอนนั้น เบลล์ยังไม่ได้ซื้อ Sigma HD นะ แต่ตอนนี้สอยมาแล้ว ผลปรากฏว่า เบลล์ชอบ Magique มากกว่า เพราะขนไม่แน่นเกินไป เวลาเบลนด์รองพื้น มันซอฟท์กว่า ไม่ข่วนหน้าเท่า Sigma ลักษณะแปรง ด้ามสีดำผิวด้าน ทรงอ้วนๆถนัดมือดี ขนาดจะเล็กกว่า Sigma นิดหน่อย แต่ก็ทำให้ซอกซอนได้ดีกว่า ขน เป็นขนสังเคราะห์ ปลายตัดตรง ที่ปลายเป็นขนสีขาวนิ่มๆ อันนี้ก็เป็นอีกชิ้นที่ชอบ เพราะเวลาใช้ลงรองพื้นแบบน้ำ  รองพื้นจะเนียนมากๆ และได้การปกปิดด้วย เนื้อรองพื้นจะเคลือบแบบบางๆสม่ำเสมอกว่าการใช้นิ้วทา ให้ความรู้สึกคล้ายๆกับการลงรองพื้นด้วยแปรง ELF Powder Brush (Flattop) ตัวนั้นหัวใหญ่กว่า ทำให้ลงทั่วหน้าได้เร็วกว่า แต่ถ้าในแง่การซอกซอน Magique ทำได้ดีกว่าค่ะ และนอกจากจะใช้ลงรองพื้นแล้ว ยังใช้ปัดครีมบลัชได้ด้วย ส่วนการใช้กับ mmu ก็โอเคนะ ใช้ได้ แต่ไม่ทันใจ เพราะหัวเล็กกว่าพวกคาบูกิ ถ้าจะเน้นใช้ mmu เบลล์แนะนำให้ใช้แปรงคาบูกิจะเวิร์คกว่าค่ะ ราคา จำไม่ได้แล้วว่าซื้อมาเท่าไหร่ 5555 ไม่รู้ว่ายังมีขายอยู่รึเปล่านะตัวนี้ มาถึงแปรงเกี่ยวกับตากันบ้าง... มีในครอบครอง 4 ชิ้น แต่เป็น 4 ชิ้นเด็ดๆที่ไม่ควรพลาด บล๊อกนี้เริ่มยาวไปแล้ว เดี๋ยวเบลล์แบ่ง part2 ดีกว่า จะได้ไม่โหลดหนัก ตามมาเลยค่าาาา..... [CR] REVIEW แปรงแต่งหน้าสุดเลิฟ คุณภาพดี ราคาน่ารัก หาซื้อได้ในประเทศไทย PART2 ปล. ไปพูดคุย เจ๊าะแจ๊ะกันได้ในแฟนเพจเบลล์ค่ะ Click เข้าไปได้เลยค่าาาาา ^ ^   Create Date : 30 มิถุนายน 2555     Last Update : 30 มิถุนายน 2555 5:16:24 น. Counter : 27926 Pageviews.   2 comment Share Tweet

[CR] รีวิวฮาๆ ของเล่นใหม่ สระผมแบบแห้งๆ ด้วยDry Shampoo สวัสดีค่า วันนี้เบลล์ขอมารีวิวแบบVDO นะคะ เห็นจั่วหัวแบบนี้ คิดว่าหลายๆคนอาจจะรู้จัก Dry Shampoo กันอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าอีกหลายคนคงยังไม่รู้จัก เบลล์ก็เป็นคนนึงที่ไม่รู้จัก ไม่เคยสัมผัส ไม่เคยซักแห้งผมมาก่อน5555 แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ก็เห็นเพื่อนในเฟสบุคโพสเกี่ยวกับ Dry Shampoo เค้าบอกว่า มีขายในไทยแล้ว ไอ่เรา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากลอง ก็เลยรีบออกไปซื้อมาลองเล่นซะเลย และเห็นว่ามันเป็นของใหม่ ยังไม่เคยเห็นรีวิวในไทย เบลล์ก็เลยทำคลิปมารีวิวแบบขำๆ จะเป็นอย่างไร เชิญชมค่ะ ปล. ในคลิปเบลล์อ่านชื่อยี่ห้อว่า บาทิสเต้ เพราะอ่านตามฉลากภาษาไทยนะคะ แต่แอบไปดูรีวิวของฝรั่ง เค้าอ่านว่า บาทีสท์ อืมมมม สรุปว่าอ่านยังไงดี 555 ปล2. ไปพูดคุย เจ๊าะแจ๊ะกันได้ในแฟนเพจเบลล์ค่ะ Click เข้าไปได้เลยค่าาาาา ^ ^   Create Date : 19 มิถุนายน 2555     Last Update : 19 มิถุนายน 2555 19:14:06 น. Counter : 4438 Pageviews.   2 comment Share Tweet

REVIEW บลัชออนสีชมพู+นู้ด คู่น่ารักๆ la vie en rose 2 พาเลทใหม่จาก beautilicious ดีจ้าสาวๆ ดองบล๊อกไว้นานเลย มีของเล่นใหม่หลายตัวยังติดค้าง ยังไม่ได้ลงรีวิวซักที วันนี้ขอมาเห่อและรีวิว บลัชออนสีชมพูน่ารักๆตลับใหม่ จาก beautilicious เบลล์เคย รีวิว la vie en rose ตลับเก่าไว้นานแล้ว ตลับนั้นเป็นบลัชสีชมพูนมๆที่คนผิวเหลืองปัดออกมาสวยหวาน ติดใจมาก และเมื่อไม่นานมานี้ beautilicious ก็ออกบลัช la vie en rose ตัวใหม่ มายั่วน้ำลายกันอีกแล้ว เบลล์ก็ไม่พลาด ลองแล้วกรี๊ด จริงๆ แค่เห็นตลับก็กรี๊ดแล้ว แพคเกจน่ารัก มว๊ากกก!! น่ารักไม่แพ้รุ่นแรกเลย หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ.. จะมีกล่องหุ้มอยู่ชั้นนึง แกะออกมาเป็นตลับแบนๆ ทำจากกระดาษ มีลายน่ารักๆ ฝาปิดล๊อกด้วยแม่เหล็ก เหมือนตลับออริจินัล ด้านหลังตลับ จะมีบอกส่วนผสม ที่ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ข้อมูลต่างๆ เรียบร้อยดี ตลับมีน้ำหนักเบา สามารถพกไปไหนมาไหนได้ ไม่หนักกระเป๋า เปิดขึ้นมา จะเจอกับบลัชออนในแพนกลมๆ อัดแน่นมาสองสีคู่กันแบบนี้ (สีของภาพโดยรวมมันอาจจะดูเหลืองๆนิดๆ ตัวตลับจริงๆก็เป็นสีครีมๆค่ะ แต่ยังไงเบลล์ก็ได้พยายามปรับสีเนื้อบลัชให้เหมือนในตลับมากที่สุดค่ะ) สีในพาเลท la vie en rose2 นี่จะออกโทนชมพูเข้มกว่าพาเลทแรก ชมพูนี้ เค้าให้ชื่อสีว่า bisou (shimmering pink) เป็นสีชมพูหวานๆมีวิ้งทองเล็กๆกระจายอยู่ ปัดออกมาไม่วิ้งมาก โกลว์นิดๆกำลังสวยค่ะ มาคู่กับสีชมพูอมส้มก่ำๆ นู้ดๆ ชื่อสีว่า Etreinte (shimmering nude) เห็นสีเขมๆแบบนี้ ปัดออกมาไม่แรงนะ ปัดออกมาจะเป็นชมพูอมส้ม โกลวๆ จริงๆก็ไปทางส้มแดงก่ำๆซะมากกว่า แต่ไม่ได้เข้มขนาดแป้งเฉดดิ้งนะคะ ไว้จะปัดลงแก้มให้ชมกันอีกรอบจ้า ลองสวอชสีใช้ดูนะ... สีที่ได้ก็จะออกชมพูนมๆ กับ สีชมพูหนักไปทางส้มแดง จะปัดแยกเดี่ยวๆก็สวย จะปัดวนๆรวมกันสองสีก็จะได้สีชมพูอมส้มกำลังดี หรืออาจจะใช้เทคนิคปักสีชมพูตรงแก้มด้านบน (โหนกแก้ม) แล้วปัดสีอมส้มตรงใต้โหนกแก้ม จะช่วยให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้นค่ะ สรุป: เป็นบลัชออนสีน่ารักๆ เนื้อสีไม่จัดจ้าน เหมาะกับคนที่มือหนัก และเหมาะกับมือใหม่ที่ยังคุมน้ำหนักมือในการปัดแก้มได้ไม่ดี สามารถปัดแบบหนักๆได้โดยไม่เป็นตูดลิง ความติดทน ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เบลล์ปัดเช้าหกโมง บ่ายแก่ๆยังมีสีอยู่ แต่ก็ไม่ได้อยู่ทั้งวันถึงค่ำมืด อาจจะต้องมีเติมบ้างถ้าไปไหนต่อตอนเย็น แต่ยังไงก็ตาม ความติดทนของสี ขึ้นก็อยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ความชื้นของผิว ลักษณะผิว และเมคอัพเบสอื่นๆ ก็มีผลต่อความติดทนของผลิตภัณฑ์เช่นกัน โดยรวมสอบผ่าน แต่ยังไงก็ขอหักนิดนึงตรงที่ไม่มีกระจกและแปรงมาให้ ทำให้ต้องพกแปรงและกระจกเพิ่ม ถ้าจะพกพาเลทนี้ไปข้างนอก เอาไป  4/5 คะแนนจ้า วันนี้ขอตัวไปนอนแล้วดีกว่า ใครมีข้อสงสัย อยากเม้า อยากคุย ปรึกษาอะไรยังไงก็เข้าไปคุยกันได้ที่แฟนเพจเบลล์นะคะ เดี๋ยวจะมาตอบโดยไว ปล. ไปพูดคุย เจ๊าะแจ๊ะกันได้ในแฟนเพจเบลล์ค่ะ Click เข้าไปได้เลยค่าาาาา ^ ^   Create Date : 21 พฤษภาคม 2555     Last Update : 22 พฤษภาคม 2555 11:51:33 น. Counter : 4247 Pageviews.   3 comment Share Tweet

• petchpaper
• oh_gift99
• ปั้นเจ้าสำอาง
• SaRaY
• Puyfai Makeup
• addsiripun
• thae
• sushiboy69
• hugsociety
• mojiijom
• 098nok
• Pinky Maru
• KaraJiNannaN
• หนีแม่มาอาร์ซีเอ
• porscherta
• Buccii.me
• fashionizy
• INDYINDARE.IC
• tuniez83
• feonalita
• coconutgirl
• whitepiano555
• กระต่ายน้อยเคลือบช๊อคโกแลต
• iloveaday
• Webmaster - BlogGang

• 

• 
• BlogGang.com