All Blog
บันทึกพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษของมิสา ( ณ 27/8/18)


กิ๊กอยากเขียนบล็อคนี้ไว้เพื่อบันทึกพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษของมิสา

ลองมาดูสิว่า เด็กที่เริ่มต้นจาก เรียน A B C ตอนป.1 จะไปได้ไกลแค่ไหน :)


เริ่มตั้งแต่ที่เราตัดสินใจเลือกรร.ให้มิสา เป็นรร.ไทยแนวทางเลือก กิ๊กกับพี่หยี่ก็เริ่มคุยกันถึงเรื่อง ภาษาอังกฤษของมิสาว่ามันจะเป็นยังไง อันนี้เราหมายถึงจนเรียนจบมหาลัย ไปถึงขั้นทำงานเลยนะ ไม่ได้คิดแค่สั้นๆ เราไม่ห่วงในแง่แกรมม่า อ่าน เขียน เพราะ เราโตมาแบบรร.ไทยๆทั้งคู่ (แม้ว่าพี่หยี่จะอัสสัม แต่ก็ถือเป็นรร.ไทยค่ะ 555) แต่เราก็ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีในแง่ที่กล่าวมา ส่วนฟัง พูด จะยากหน่อยแต่ก็พอสื่อสารได้ ทำงานพอได้ และแน่นอน เราไม่หวังให้ลูกได้ภาษาอังกฤษระดับเดียวกับเราค่ะ เราอยากให้ลูกใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเราอยู่แล้ว... เราก็อยากให้ลูกเราพูดอังกฤษได้แบบ fluently อ่ะนะ 555 เพราะอีกหน่อย รุ่นเค้าก็ต้องไปเจอกับเด็กที่เรียนอินเตอร์ เรียนไบลิงกัวทั้งนั้น จะมางูๆปลาๆพอสื่อสารได้น่ะ มันไม่พอแล้ว ...


อ่ะ กลับเข้าเรื่อง 555  เอาจริงๆ กิ๊กก็มีพามิสาไปทดลองเรียนภาษาอังกฤษอยู่บ้างแหละ ที่จำได้เลย คือ I can read ตอนสมัย 2 ขวบกว่าๆ แต่เธอทดลองได้ครั้งเดียว ก็ต้องบอกลา เพราะร้องไห้จะหาแม่ พอเข้า อ.1 ก็มีไปเรียนกับกลุ่มเพื่อนๆ อ.1 ด้วยกัน เป็นแบบกิจกรรมสนุกๆ แต่เรียนได้ไม่กี่ครั้งก็ต้องจรลีเช่นเดิม เพราะก่อนไป ร้องไห้ทุกรอบ จนรอบสุดท้าย อ้วกค่ะ ! แม่เลยหมดแรง ช่างมันละกัน ตอนนั้นก็กลับเข้าสู่โหมดเชื่อมั่นในตัวรร. 555 เพราะจริงๆรร.มิสา ไม่สนับสนุนให้เรียนพิเศษใดๆ นอกจาก กีฬา ดนตรี และศิลปะ (ที่ไม่สนับสนุนคือ พวกภาษาและเลขนั่นเอง) เราก็คิดว่า เอาวะ มั่นใจว่าเด็กรร.นี้จบมา คงไม่ง่อยอังกฤษหรอกน่า 555 

สรุปตลอดอนุบาล 3 ปี ไม่ได้เรียนเสริมใดๆ และที่รร. ก็เรียนเฉพาะวิชา English + music อาทิตย์ละ 1 ชม. ซึ่งก็คือ จะเป็นกิจกรรม ผ่านเพลงประมาณนี้ โดยเรียนกับ Teacher ที่เป็น native speaker (ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่มิสาเคยจำได้สมัย 2 ขวบที่อยู่ในตอนพัฒนาการ เป็นอันว่าลืมหมดค่ะ 555) อ่อ ขนาดการ์ตูนที่ให้ดู พี่หยี่ก็เปลี่ยนให้ดูภาษาไทยเรียบร้อย เพราะคิดว่าน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า แบบสอนอะไรได้ เพราะถ้าภาษาอังกฤษ ลูกจะฟังไม่รู้เรื่อง ทำให้ไม่ได้อะไรเลย


ป.1 - เริ่มต้นรู้จัก A B C เป็นครั้งแรก และเริ่มเรียน Phonics โดยใช้ Jolly Phonics โดยคุณครูจะสอนเป็นภาษาอังกฤษ(เกือบ)ทั้งชม. (มีแปลบ้างเล็กน้อย)... เทอมแรกผ่านไป เอาจริงๆ ในแง่ของคะแนน (ในห้อง) มิสาทำได้ดีแหละ แต่เนื่องจากรร.มิสา จะเป็นรร.ที่เด็กจะมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างมาก หมายถึง เรียนกันไป เด็กก็จะแย่งกันยกมือตอบกันตลอดชม. เพราะฉะนั้น เด็กคนไหนที่เค้าได้ภาษาอังกฤษมาก่อน (เรียนเสริม) เค้าก็จะมั่นใจตรงนี้ และเค้าก็จะไปได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด พอจบเทอม 1 แม่ก็เริ่มร้อนรน 555 ซึ่งจริงๆ ถ้าใจเย็นๆ ไว้ดูผลลัพธ์อีกที ป.6 อะไรงี้ก็ว่าไป อาจจะดีก็ได้นะ แต่แม่ก็แบบ..ใจร้อน ... 555 เริ่มลนล่ะ ต้องหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูก ต้องเล่านิทานภาษาอังกฤษ ต้องดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ แล้วไงไม่รู้ ไม่รู้ push เยอะไปหรือไง มิสากลายเป็นแอนตี้ภาษาอังกฤษสุดๆ คือ ไม่เอาเลย !!! ณ จุดนั้น แม่เครียดดด บอกเลยค่ะ 555 เคยคุยกันเรื่องไปเรียนนิวซีแลนด์ (พอดีมีลูกพี่ลูกน้องมิสาไป ก็เลยคุยเล่นกัน) มิสาพูดขึ้นมาทันที หนูไม่ไปนะ ถ้าไป หนูจะไปเรียนที่จีน !! เออ เอากะเธอสิ แต่พอเธอบอกจีนปุ๊บ แม่ดีใจนะ เพราะจริงๆอะไรก็ได้อ่ะ ให้ได้ซักภาษาดีๆไปเลย จีนก็โอเค แต่มาย้อนคิด ที่เธอยอมจะไปเรียนจีน น่าจะเกิดจากเธอรู้สึก comfortable หรือ มั่นใจในภาษาจีนมากกว่าภาษาอังกฤษ เพราะเราให้มิสาเรียนภาษาจีนตั้งแต่ประมาณ 3 ขวบปลายๆ แต่เรียนเป็นกิจกรรมสนุกๆ เธอเลยเกิดความคุ้นเคยกับภาษาจีน (คือ ไม่ใช่ว่าเธอ ฟังหรือพูดจีนได้นะ เพราะเอาจริงๆ คือ ไม่ได้หรอก ณ 6 ขวบอ่ะนะ เพราะเรียนแค่อาทิตย์ละชม. เหมือนเรียนให้เค้าคุ้นเคยไปเรื่อยๆมากกว่า เค้าจะได้ไม่กลัว และก็ไม่กลัวจริงๆ)

แม่ได้ไอเดียนี้มาส่งต่อสิตา เดี๋ยวไว้เล่าต่อนะ ... 

แม่ถึงขนาดต้องนัดคุยกับคุณครูภาษาอังกฤษของมิสาว่าลูกมีปัญหาอะไรรึป่าว เพราะเธอไม่เอาเลยจริงๆ นิทาน ถ้าเล่าภาษาอังกฤษไม่เอา การ์ตูน ถ้าเป็นภาษาอังกฤษไม่ดู ... แต่คุณครูกลับบอกว่า แต่ในห้องมิสาไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ^^" เทอมแรก อาจจะเงียบๆไม่ตอบ ครูก็แอบห่วง แต่พอเทอม 2 เริ่มปรับตัวได้ ก็ยกมือตอบ participate ดีนะคะ (ซึ่งจุดนี้เป็นลักษณะของมิสาเอง เป็นกับทุกวิชา ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ คือ จะตอบ จะยกมือ ต่อเมื่อมั่นใจ จะไม่ใช่เด็กแบบยกไว้ก่อน ตอบถูกผิดว่ากันอะไรแบบนี้) แม่ก็เบาใจขึ้นว่า ในห้องลูกยังเรียนได้ปกติ แม้ว่า นอกห้องจะตรงกันข้าม 555 

ทีนี้พอแม่เริ่มลน ก็เลยเริ่มหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้จริงจังล่ะ แต่ที่แม่อยากเน้นคือ แม่อยากเน้นทักษะ ฟัง กับ พูด มากกว่า คือให้กล้าฟัง กล้าพูด กล้าโต้ตอบ ไม่ใช่กลัว ไม่มั่นใจ แต่ในส่วน grammar อ่าน เขียน ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรร.แบบ 100% เลย (ถ้าต้องทบทวน ทำการบ้าน อ่านนิทาน ก็คิดว่ายังอยู่ในระดับที่ความสามารถแม่พอจะทำเองได้ โดยไม่ต้องเรียนเสริมที่ไหน) ... ก็เลยได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่ห้อง เรียนภาษาอังกฤษกับคุณครูฝรั่งท่านนึง สัปดาห์ละ 2 ชม. แต่เนื้อหาก็จะเป็นหัดอ่าน phonics บ้าง เรียนคำศัพท์ ทำกิจกรรมระบายสีบ้าง เล่นเกมส์บ้าง แล้วแต่ครูเลย ซึ่งเรียนได้ประมาณ 20 ครั้งได้ (ก่อนขึ้นป.2) คุณครูก็ชมนะ ว่ามิสาตั้งใจเรียน แล้วก็ทำได้ดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรกับภาษาเลย (เทียบกับเพื่อนที่เรียนรร.เดียวกันมาอ่ะนะ) แม่ก็พอเบาใจ คิดว่ามาถูกทางละ ตอนแรกนึกว่า เธอจะไม่เอาเลย ไม่เรียนเลย เกลียดภาษาอังกฤษอะไรแบบนี้

สุดท้าย ก็จบป.1 มาด้วยคะแนนภาษาอังกฤษค่อนข้างดี และในเทอมสุดท้ายก็ได้รับเลือกเป็นพิธีกรภาคภาษาอังกฤษ(แบบสั้นๆ)ในงานหยดน้ำ :) ซึ่งจุดนี้เอง แม่ว่า มันทำให้มิสารู้สึกภูมิใจในตัวเอง เหมือนได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเล็กๆ ทั้งในแง่ความกล้าแสดงออก และภาษาอังกฤษ ... แม่รู้สึกขอบคุณ T.koy จริงๆที่เลือกมิสาทำหน้าที่พิธีกรครั้งนี้


ป.2 - เนื้อหาในรร.ยังคงดำเนินต่อไปในเรื่อง Phonics และเริ่มมีการเรียน grammar แต่เป็นการเรียนแกรมม่าเหมือนเด็กฝรั่งเรียน ซึ่งแม่เริ่มจะสอนไม่ค่อยจะถูกล่ะ (จากตอนแรกว่าจะทบทวนให้เอง 555 เลยปล่อยตามรร.ละกัน แต่แค่ดูแลให้ทำการบ้าน อ่านนิทาน และทบทวนคำศัพท์เวลามี dictation) ...ส่วนการเรียนเสริม ก็รวมกลุ่มกับเพื่อนๆมิสาเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นเรียนกับครูไทย(ที่พูดอังกฤษแบบ native) โดยเน้นกับคุณครูว่า ขอเป็น conversation นะคะ ไม่เอาแกรมม่า  เพราะยังคงอยากให้เค้ากล้าพูด กล้าโต้ตอบ ซึ่งแม่เชื่อว่า ถ้ามีความมั่นใจตรงนี้ เดี๋ยวตรงอื่นจะตามมาเอง....

ซึ่งคุณครูท่านนี้ เป็นคนแนะนำให้ ให้มิสาดูการ์ตูนได้ แต่ให้ดูเป็นภาษาอังกฤษ และแน่นอนต้องจำกัดเวลา  แต่ก็คือ ให้ดูได้นะ (คุณครูบอกว่า ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษที่น้องชอบบ้าง มันจะเป็นตัวกระตุ้นให้น้องอยากเรียนรู้) พอดีมิสานั่งฟังอยู่ด้วยกัน เธอเป็นเด็กเชื่อครู 555 ก็เลยยอมดูภาษาอังกฤษ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า มันดีมากกก เพราะทักษะการฟังของมิสาดีขึ้นมากๆๆจริงๆ คือ พัฒนาแบบก้าวกระโดด โดยที่เค้าไม่รู้ตัว แต่แม่รู้ เพราะผ่านมา 5-6 เดือนคือ สามารถฟังและเข้าใจคำพูดในการ์ตูนได้ ที่รู้เพราะเวลาดูกับน้องเธอก็แปลให้น้องได้ แม่ยังอึ้ง... (จากเด็กที่ปฎิเสธตลอด ไม่เอา ไม่ดู อยากดูการ์ตูนมากก แต่ถ้าเป็นอังกฤษยอมไม่ดูดีกว่า เพราะหนูดูไม่รู้เรื่อง - เธอบอก) แม่เลยรู้เลยว่า การ์ตูนช่วยมากจริงๆ

เทอม 1 - พอคะแนนออก แม่ถึงกับแปลกใจ เพราะคะแนนดีมากก ... งง เอ๊ะ เธอบอกไม่ชอบภาษาอังกฤษ แล้วแม่ก็ไม่ push นะ (เพราะไป push กับสิตาแทน 555) ไม่ได้สอน ไม่ได้ทบทวนอะไร (มีแต่ให้ทำการบ้านกับ dictation) แสดงว่าเธอเอาตัวรอดในห้องได้แฮะ 555 ส่วนเรียนเสริม ซึ่งเป็นการเรียนที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งชม. โดยเรียนเป็นการทำกิจกรรม คุณครูก็ชมบอกว่า มิสาฟังได้ พูดโต้ตอบได้นะคะ (แต่เป็นคำๆ หรือประโยคสั้นๆ) คือ อันนี้ดีขึ้นเรื่อยๆเลย มิสาเองก็บอกว่า เรียนกับครูแพทสนุกมาก ชอบมาก :)

เทอม 2 - คะแนนออกมาดีเช่นเคย แต่ที่พิเศษคือ วันปฐมนิเทศน์เทอม 3 คุณครูภาษาอังกฤษเดินเข้ามาหาแม่เอง แล้วบอกว่า คุณครูขอชื่นชมลูกสาวคุณแม่หน่อยค่ะ 555 มิสาน่ารักมาก ตั้งใจเรียนมากก ตอบในห้อง participate ทุกอย่าง รู้เวลา เวลาไหนให้ตอบก็ตอบ เวลาไหนต้องฟังก็ฟัง ทำงาน ทำ assignment ทุกอย่างดีหมด มีความรับผิดชอบ สรุป คือ ดีหมดเลยค่ะ ไม่มีอะไรจะติเลย ... แม่นี่คือ ตัวลอยอ่ะ 555 surprise ด้วย เพราะครูเดินมาหาเอง แสดงว่าคุณครูตั้งใจเดินมาชมมาก :) แม่ก็ปลื้มสิคะ .... จริงๆ ตอนกลางๆเทอม 2 แม่เองก็อยากนัดคุยกับคุณครูอยู่ว่ามิสาเรียนเป็นไงบ้าง แต่ก็คลาดไปมา จนมาขึ้นเทอม 3 อินี่ก็ยังไม่มาคุยซะที คุณครูเลยเดินมาหาเองเลย 555 ก็รู้สึกดีใจมากนะ เหมือนว่า มันค่อยๆดีขึ้นแล้ว เริ่มเห็นอะไรดีๆแล้วล่ะ จากเด็กที่แอนตี้ภาษาอังกฤษสุดๆ

เทอม 3 - มิสาจบป.3 มาด้วยคะแนนภาษาอังกฤษดีเช่นเดิม พร้อม comment จากคุณครูว่า ภาษาอังกฤษของมิสาดีมากค่ะ ถ้าได้มีโอกาสได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆจะดีมากเลย (คุณครูกระซิบแถมว่า เช่น พาไปเที่ยวต่างประเทศค่ะ 555 อันนี้จะพยายามนะคะคุณครู)

ป.3 - เริ่มต้นภาษาอังกฤษ ป.3 กับคุณครูท่านใหม่ เป็นคนไทย (พูดอังกฤษ) 1 คน กับเป็น native 1 คน เทอมแรกนี้ แม่แทบไม่รู้เลยว่ามิสาเรียนอะไรบ้าง เพราะเทอมใหม่นี้ คุณครูมีนโยบาย ไม่อยากให้การบ้านกับเด็กๆ :) เพราะฉะนั้น แม่แทบจะไม่ได้รู้เลยว่าลูกเรียนอะไร หนังสือก็ไม่เคยเห็น แต่มีการสอบ Dictation ทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งแม่จะทวนให้ แต่บอกเลย Dictation เป็นอะไรที่มิสาติดลมบนไปแล้ว หมายความว่า สอบมาตั้งแต่ ป.1 และได้เต็มตลอด 555 เพราะฉะนั้น เธอจะไม่อยากพลาดแล้ว ดังนั้นพอถึงเวลาจะสอบ ก็จะมาให้แม่ทวนเองเลย ไม่ต้องคอยเตือน (บางทีแม่ขี้เกียจ เธอก็จะต้องมาตาม แต่มักจะตามล่วงหน้าวันเดียว) ... อันนี้เป็นเคล็ดลับนะ ถ้าใครทำให้ลูกติดลมบนเรื่องอะไรได้ มันจะสบายเรามากๆ ... 

อ้อ ต้องบันทึกว่า ณ เทอมแรกนี้ มิสาไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษกับครูแพทแล้ว ซึ่งแม่เสียดายมากๆ มิสาเองก็ยังอยากจะเรียนอยู่ แต่ด้วยเหตุุผลบางอย่างทำให้ต้องเลิกเรียนไป แล้วแม่ก็หาครูที่ถูกใจแบบครูแพทไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ให้เรียนที่ไหนเลย บอกมิสาเพียงแค่ว่า ถ้าหนูรู้สึกว่า เรียนไม่ทันเพื่อน ก็บอกแม่นะ ..

จนถึงช่วงเกือบปลายเทอม 1 มีคุยกับคุณครู ซึ่งตอนแรก แม่ไม่ได้คิดว่าจะได้คุยกับ T. เพราะปกติ ครูอังกฤษต้องนัดเวลาต่างหาก แต่พอดี T.มานั่ง stand by รอหน้าโถงเลย (น่ารักมากๆ) เลยได้เข้าไปคุย พอบอกว่า เป็นคุณแม่ของมิสา (ซึ่งตอนแรกไม่แน่ใจว่าครูจะจำมิสาได้รึป่าวด้วยซ้ำ) T.พูดคำแรกเลย มิสาน่ารักมากครับ แล้วเค้าทำได้ดีมาก ภาษาอังกฤษดีมาก participate ดีมาก ... แม่นี่ได้ปลื้มอีกแล้ว ^^ T.บอกว่า ปกติจะไม่ค่อยได้เรียกมิสาแล้ว เพราะอยากให้คนอื่นได้ตอบบ้าง แต่ถ้าคำถามไหน เพื่อนตอบไม่ได้ จะหันไปหามิสาเลย เพราะรู้ว่ามิสาจะเป็นคนทีตอบได้แน่ๆ ^^ ยิ้มแก้มปริไปเลยแม่ อิอิ ...จบเทอม 1 กับงานหยดน้ำ ที่กลุ่มมิสาได้เป็นตัวแทนของห้อง แสดงละครภาษาอังกฤษสั้นๆ มีแม่ๆหลายคนมาชมว่า มิสาพูดอังกฤษสำเนียงดี (คือ จริงๆมันไม่ได้ดีแบบ native อะไรนะ คือ เด็กเรียนรร.ไทยธรรมดาอ่ะค่ะ ไม่ได้เรียนอินเตอร์เนอะ แต่มันอาจจะมีแบบเสียงออกมานิดๆแค่นั้นล่ะค่ะ ^^') ถามแม่ว่า มิสาเรียนภาษาอังกฤษที่ไหน แม่ตอบไม่ถูกเลย 555 ส่วนนึงคงเป็นครูแพท เพราะเรี่ยนกันมาเป็นปี (ครูแพทสำเนียงดีมาก และเราเรียน ฟัง พูด ด้วย ในห้องเป็นกิจกรรม มีถามตอบ คงเป็นโอกาสให้มิสาได้พูดอังกฤษ) และส่วนนึง อยากจะตอบว่า เรียนจากการ์ตูนค่ะ 555 ก็มันจริงๆนะ แต่ที่ให้ดูก็มีการจำกัดเวลานะคะ อิอิ


เดี๋ยวไว้มาดูต่อไปว่าจะพัฒนาไปได้มากน้อยแค่ไหน :) โปรดติดตามตอนต่อไป





Create Date : 06 มกราคม 2561
Last Update : 27 สิงหาคม 2561 10:16:21 น.
Counter : 1376 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]



ณ 31/1/2023

นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^

บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ


*** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
New Comments