|
ขอโอเน็ตกับเขามั่ง
สวัสดีครับ กลับมารายงานตัวครับหลังจากหายไปนานมาก ผ่านปีใหม่ ตรุษจีน และวาเลนไทน์ จนจะล่วงเข้ามาฆบูชาอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ลงมือเขียนอะไรสักที พอกลับมาก็ได้วันสำคัญพอดีคือวันตัดสินคดีของอดีตนายกทักษิณ ซึ่งก็คงทราบผลลัพธ์กันไปแล้วนะครับ ผมคงไม่ขอพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ เพราะต่างคนต่างก็มีความคิดที่อาจแตกต่างกัน
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนนะครับที่หมั่นแวะเข้ามาเยี่ยมกันตลอดทุกเทศกาล สำหรับวันนี้ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องอีบุ๊ก แต่บังเอิญตอนนี้เห็นว่าเรื่องข้อสอบโอเน็ตนี่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรง นักเรียนหลายคนก็ออกมาบ่นว่าไม่มีใครสนใจความเดือนร้อนของพวกเขาเลย สนใจแต่เรื่องการเมือง ก็เลยอยากจะแสดงความคิดเห็นส่วนตัวบ้างในฐานะที่ตัวเองก็เป็นอาจารย์คนหนึ่ง
เริ่มจากในส่วนของการตั้งคำถามที่จะให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์ โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยนะครับ เพราะผมคิดว่านักเรียนของเรายังขาดด้านนี้ ไม่ใช่แค่เด็กมัธยมนะครับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาบางคนขนาดเรียนมาถึงระดับปริญญาโทแล้วก็ยังวิเคราะห์กันไม่ค่อยจะเป็น แต่คำถามก็คือถ้าจะมาวัดกันตั้งแต่ตอนนี้ ได้มีการบอกให้ทั้งนักเรียนและครูเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง ได้เคยมีการบอกไปที่โรงเรียนก่อนหน้าไหมว่าจะเปลี่ยนข้อสอบเป็นแนวนี้ และการบอกนั้นควรจะบอกมานานแล้วนะครับ ไม่ใช่มาบอกล่วงหน้า 1 เดือน แล้วก็มาตั้งคำถามว่าทำไมโรงเรียนถึงไม่รู้จักออกข้อสอบแบบนี้บ้าง ผมคิดว่าการเปลี่ยนระบบการเรียนและวิธีคิดนั้นไม่ใช่ปุบปับนึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน ต้องมีความชัดเจนและสร้างความเข้าใจให้กับคุณครูกันก่อนเลยครับ เพราะครูจะต้องเป็นคนวางแผนการสอนเพื่อสร้างนักเรียนให้รู้จักการคิดวิเคราะห์ สุดท้ายในประเด็นนี้ผมก็รู้สึกไม่สบายใจที่ทางผู้อำนวยการสทศ. ออกมาพูดเป็นเชิงว่าเห็นมีคนบอกว่าอยากให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น พอออกข้อสอบมาแบบนี้ก็มาบ่นกัน จะให้กลับไปออกแบบจำเอาหรือไง ซึ่งในส่วนตัวผมคิดว่านี่ไม่ใช่ประเด็นนะครับ
คราวนี้มาในส่วนข้อสอบ ในส่วนของข้อสอบแบบมีหลายตัวเลือกนั้น ต้องบอกว่าอันนี้จริง ๆ ก็มีหลาย ๆ ที่ใช้อยู่ ทั้งในการทดสอบทักษะทางวิชาชีพระดับโลกเช่นการสอบ Java Certification ซึ่งเป็นการสอบเพื่อวัดความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมภาษา Java ก็มีข้อสอบในลักษณะนี้ คือต้องตอบให้ถูกครบทุกข้อจึงจะได้คะแนนในข้อนั้น และผมก็ยังเคยนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของข้อสอบของผมด้วย ซึ่งนักศึกษาก็บ่นครับเพราะเขาไม่เคยทำมาก่อน แต่ข้อดีของมันก็คือทำให้การเดาถูกนี่ทำได้ยากขึ้น แต่สำหรับในการสอบโอเน็ตนี้ก็ต้องย้อนกลับมาที่คำถามเดิมครับว่าได้แจ้งให้นักเรียนทราบก่อนล่วงหน้านานเท่าไรครับ อย่าลืมนะครับว่าในการสอบของผมในระดับมหาวิทยาลัยนั้นคะแนนสอบเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวัดผล และการที่นักศึกษาทำข้อสอบผิดพลาดไปข้อหรือสองข้อ มันก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมากมาย แต่ในการสอบระดับชาติซึ่งมีคนเข้าสอบจำนวนมากอย่างนี้การทำผิดหนึ่งข้อหรือสองข้อมันอาจหมายถึงลำดับที่จะเปลี่ยนไปเป็นร้อยลำดับนะครับ ดังนั้นถ้าจะทำก็น่าจะให้นักเรียนได้มีการเตรียมตัวเพื่อให้ชินกับข้อสอบในแนวนี้มากขึ้น ให้เขาได้ฝึกตัวเองให้มีความรอบคอบมากขึ้น
ในส่วนของเนื้อหาของข้อสอบและตัวเลือกตอบนั้นก็เป็นปัญหาครับ จากตัวอย่างข้อสอบที่สื่อนำมาเสนอ ผมเห็นด้วยกับนักเรียนเลยครับว่าตัวเลือกบางข้อนั้นไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรเลยจริง ๆ เพราะมันเป็นไปได้ทั้งนั้น ให้ผู้ใหญ่ตอบกันก็เลือกกันไปคนละทางสองทาง และผมเพิ่งจะรู้ว่าโรงเรียนทุกโรงเรียนในประเทศไทยนี่มีการสอนบัลเลต์กันด้วย ผมไม่รู้ว่าหลังจากออกข้อสอบกันเสร็จนี่มีการให้อาจารย์ท่านอื่นที่ไม่ได้เป็นคนออกข้อสอบมาลองทำดูบ้างหรือเปล่า ยังไงก็ฝากเรื่องคุณภาพของข้อสอบด้วยนะครับ ก่อนจะวัดคุณภาพเด็กลองวัดคุณภาพของข้อสอบก่อนก็ดีนะครับ
ที่พูดมาทั้งหมดนี่ก็ไม่ได้จะติอย่างเดียวนะครับ เพราะจริง ๆ ผมเข้าใจและต้องขอบคุณทางสทศ.ที่มีความพยายามและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของชาติให้ดีขึ้น เพียงแต่ว่าในกระบวนการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ยังมีจุดบกพร่องอยู่บ้าง ก็ขอให้ลองรับฟังเสียงสะท้อนเหล่านี้อย่ามัวแต่คิดว่าเป็นเสียงของนักเรียนที่ทำข้อสอบไม่ได้
กลับมาเขียนวันแรกก็เอาซะเป็นเรื่องเครียดเชียวไม่เอาแล้วจบดีกว่า บล็อกหน้าจะมาพูดถึงเรื่องอีบุ๊กนะครับ สำหรับวันนี้ก่อนจากกันอยากถามพวกเราว่า เราจะใช้ผ้าปูโต๊ะสีอะไรดีครับเพื่อจะปูโต๊ะต้อนรับชาวต่างชาติ (ลาว เขมร พม่า หรือเฮติ ก็ไม่รู้นะครับ) ในวันศุกร์ ได้คำตอบแล้วส่งไปรับรางวัลที่สทศ.นะครับ ...
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 23:50:17 น. |
|
22 comments
|
Counter : 1308 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Bugfix วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:19:22 น. |
|
|
|
โดย: redclick วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:33:44 น. |
|
|
|
โดย: Incheon วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:21:09:33 น. |
|
|
|
โดย: Incheon วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:22:09:48 น. |
|
|
|
โดย: redclick วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:10:27:56 น. |
|
|
|
โดย: motokop วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:12:27:04 น. |
|
|
|
โดย: nootikky วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:20:14:43 น. |
|
|
|
โดย: น้องเหว่งเอง (Super Toudou ) วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:20:37:54 น. |
|
|
|
โดย: veerar วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:23:35:19 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:16:30:42 น. |
|
|
|
โดย: Incheon วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:19:29:36 น. |
|
|
|
โดย: Shaz วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:0:42:53 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:21:44:32 น. |
|
|
|
โดย: อนันต์ครับ วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:23:35:53 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:13:59:10 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:21:12:53 น. |
|
|
|
โดย: veerar วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:12:02:28 น. |
|
|
|
โดย: redclick วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:6:36:58 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 12 เมษายน 2553 เวลา:20:05:41 น. |
|
|
|
โดย: Why England วันที่: 12 เมษายน 2553 เวลา:23:33:55 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
สวัสดีครับ สำหรับบล็อกนี้ผมก็ตั้งใจจะให้เป็นข่าวสารที่น่าสนใจทางคอมพิวเตอร์ ทั้งข้อมูลด้านเทคโนโลยีที่น่าสนใจ การพัฒนาโปรแกรม และงานวิจัยต่าง ๆ อาจแทรกไปด้วยเรื่องอื่นๆ บ้าง ตามแต่อารมณ์และสถานการณ์ครับ ยินดีรับความคิดเห็นของทุกคนครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
ผมก็เข้าใจครับว่าบางครั้งการเปลี่ยนแปลงก็มักจะมีการต่อต้านเป็นธรรมดา แต่ครั้งนี้ผมว่าข้อสอบo-net ก็เกินไปจริงแหละครับ จริงอยู่ว่าข้อสอบบอกต้องการให้เด็กคิดวิเคราะห์ และเพื่อกันเด็กมั่ว ผมกลับมองว่าเด็กที่อยู่ในระดับกลางๆซึ่งเป็นนักเรียนส่วนมาก จะได้รับผลกระทบจากข้อสอบนี้มาก แล้วก็ยังไม่แน่ว่าเด็กที่อยู่ในระดับแถวหน้าเจอข้อสอบแบบนี้ไปแล้วจะยังทำคะแนนได้ดีเช่นเดิม
การเปลี่ยนข้อสอบ ลองระบบใหม่เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่นั่นผมคิดว่านอกจากจะมีการบอกก่อนล่วงหน้าแล้ว หลักสูตรในแต่ละโรงเรียนก็ควรที่จะถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับแนวคิดที่ต้องการจะให้เด็กวิเคราะห์เป็นด้วยครับ ผมมองว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ยังไม่มีแผนงานที่ดีพอ คนทำยังคิดไม่ครบทุกด้านจึงทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นมา อีกทั้งข้อสอบที่ผ่านตามาให้เห็นบางข้อก็มีลักษณะที่กำกวม และคิดได้หลายรูปแบบมาก ขอพูดตรงๆเลยนะครับไม่ได้ต้องการจะพูดลบหลู่หรือดูหมิ่นอาจารย์ที่ให้วิชาความรู้นะครับ แต่ผมคิดว่าก่อนที่ทาง สทศ.จะคิดในเรื่องนี้ น่าหันมามองในด้านคุณภาพการเรียนการสอนและบุคลากรเป็นเรื่องหลักมากกว่าเรื่องข้อสอบให้เด็กหัดคิด เมื่อพัฒนาในด้านนั้นได้แล้วผมว่าทุกอย่างจะตามมาเอง และจะเป็นการพัฒนาด้านการศึกษาที่ยั่งยืนมากกว่านี้ครับ
สุดท้ายนี้คงกล่าวได้เพียงว่าเห็นด้วยกับอาจารย์ศรัณย์มากถึงมากที่สุดเลยครับ ย่อหน้าสุดท้ายมีแอบกัดเล็กๆด้วยนะครับอาจารย์ นับเป็นโชคดีของผมที่ตอนเรียนที่ลาดกระบังได้เรียนกับอาจารย์ศรัณย์ เมื่อถึงเวลาสอนอาจารย์ก็สอนอย่างเต็มที่และสนับสนุนให้เด็กคิดและถาม ถ้าในประเทศมีอาจารย์ที่เหมือนอาจารย์มากๆผมว่าการศึกษาในไทยต้องพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นอีกมากแน่นอนครับ ขอบคุณครับ