11 มกราคม 2554 เรียนรู้จากชวาลา
เรียนรู้จากชวาลา คอลัมภ์ เหะหะพาที หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 10 มกราคม 2554 เมื่อวานนี้ผมเขียนซอกแซกเป็นอำลาอาลัยให้แก่โรงนวด "ชวาลา" ถนนศรีอยุธยา หนึ่งในตำนานของธุรกิจอาบอบนวดที่ปิดตัวเองไปเรียบร้อย หละกจากปักหลักอยู่ที่ถนนสายนี้มา 40 กว่าปี
มีเรื่องราว มีข่าวคราวเป็นที่พูดจากล่าวขานในหมู่คนขี้เมื่อย และชอบอาบน้ำอุ่นมากมายหลายเรื่อง ที่ไม่สามาถบันทึกได้หมด
พอดีนึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่งจะเรียกเสียว่าเป็นตำรา หรือ "หลัก" ในการบริหารและการทำงานก็น่าจะได้ด้วยซ้ำไป
ผมเคยเอามาเขียนบอกเล่าเปรียบเทียบสอนใจ "ข้าราชการ" มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนโน้น เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร
วันนี้ขออนุญาตเท้าความทบทวนอีกสักครั้งก็แล้วกันนะครับ
เมื่อวานนี้ผมเล่าย่อๆแล้วว่า ความสำเร็จของชวาลาประการหนึ่งก็คือ หมอนวดทุกคนจะถูกฝึกให้อาบน้ำเป็น นวดเป็น และที่สำคัญที่สุดคือ จะจ้องเอาใจลูกค้าให้ดีที่สุดอย่างเสมอหน้าและทัดเทียมกัน
โดยเฉพาะในเรื่องความเสมอหน้า หรือความทัดเทียมกันนั้น ถือเป็นหลักสำคัญที่หมอนวดชวาลายุคก่อนได้รับการสั่งสอนและฝึกฝน
เธอจะดูแลลูกค้าทุกคนอย่างทัดเทียมกัน ให้บริการด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส เท่าเทียมกันไม่ว่าลูกค้าคนนั้นจะเป็นอาเสี่ยใหญ่ทิปหนัก หรือนักท่องเที่ยวกระจอกๆที่มีเพียงเงินค่าชั่วโมง แต่ไม่มีเงินทิป
นี่คือการปฏิบัติตามหลักการที่สำคัญที่สุดของวิชาการตลาด ที่สอนกันอยู่ในมหาวิทยาลัย
ลูกค้าจะต้องเป็นใหญ่เสมอ...เราจะต้องดูแลและให้ความสำคัญแก่ลูกค้าของเราอย่างสุดความสามารถและเท่าเทียมกัน
นอกจากจะดูแลลูกค้าอย่างเอาใจใส่และเสมอภาคดังกล่าวแล้ว หมอนวดชวาลายังปฏิบัติตามกฎของชวาลา ซึ่งเป็นกฎหมายด้วยอย่างเคร่งครัด
นั่นคือจะไม่ยอม "ค้าประเวณี" หรือยอมเสียเนื้อเสียตัวแบบ "ร่วมเพศ" กับแขกในห้องนวดอย่างเด็ดขาด
ผมก็เอาสิ่งที่ค้นพบจากโรงนวดชวาลามาเขียนสอนใจข้าราชการผ่านคอลัมภ์นี้ โดยขอให้ข้าราชการระดับผู้ใหญ่ทั้งหลายจงยึดหลักการทำงานของหมอนวดชวาลาเอาไว้
โดยขอให้ข้าราชการผู้ใหญ่ทุกคนตระหนักว่า นักการเมืองทุกคนที่จะมาบริหารบ้านเมืองและมาเป็นรัฐมนตรีควบคุมงานของพวกท่านนั้น เปรียบเสมือนแขกที่มาเที่ยวโรงนวดชวาลา
ท่านในฐานะหมอนวดจะต้องทำงานอย่างทุ่มเทให้บริการแก่นักการเมืองและพรรคการเมืองทุกพรรคอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ
แต่จะต้องอยู่ในกฎเกณฑ์และเป็นไปตามทำนองคลองธรรมอันถูกต้อง
ที่สำคัญท่านจะต้องไม่ยอม "เสียตัว" ให้แก่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดเด็ดขาด
เพราะถ้าท่านยอม "เสียตัว" หรือ " ขายตัว" เสียแล้ว ก็จะทำให้นักการเมืองเขามาทำผิดกฎผิดกติกา ผิดทำนองคลองธรรม เช่น เข้ามาเบียดบังงบประมาณ หรืองบประมาณแผ่นดินไปใช้ประโยชน์ของพวกเขาได้ง่ายๆ
หลักจากเขียนแนะนำผ่านคอลัมภ์นี้ไปแล้วก็มีท่านผู้อ่านสมัยโน้นเขียนมาถามว่าข้าราชการในลักษณ์นี้ยังมีอยู่อีกหรือ??
ที่พร้อมจะทำงานตามหน้าที่ให้แก่นักการเมือง โดยไม่ต้องเสียเนื้อเสียตัว
ผมก็ตอบว่า "มี" พร้อมกับยกตัวอย่างท่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาน ในยุคโน้น ที่ทำงานให้แก่ทุกรัฐบาลอย่างทุ่มเท เสมอหน้า และไม่ยอมเสียตัวให้ใคร เพราะถือว่าเป็นคนของข้าราชการโดยแท้
ต่อมาท่านวิษณุ เกิดยอมเสียตัวให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมลาออกไปเป็นรองนายกฯ ก็มีผู้อ่านเขียนมาทักท้วง
ผมก็ชี้แจงว่า อย่าไปตัดพ้อท่ายเลย มีบางคนเหมือนกันที่ไม่ยอมเสียตัวในห้องนวด แต่ก็ยอมข้างนอก และลาออกจากหมอนวดไปเป็นภรรยา (อาจเป็นอนุ) ก็ได้ อย่างถาวรของอาเสี่ยต่างๆ
ผมขออนุญาตนำเรื่องราวที่ผมเรียนรู้จากโรงนวดชวาลา มาฝากข้าราชการประจำระดับใหญ่ๆในปัจจุบันนี้ให้รับรู้อีกครั้งหนึ่ง
ขอให้ท่านทั้งหลายทำงานรับใช้พรรคการเมืองและนักการเมือง อย่างเต็มที่ และเสมอหน้าเถิด แต่ขอให้อยู่ในทำนองคลองธรรม และความถูกต้องอันพึงกระทำเท่านั้น...โดยอย่ายอม "เสียตัว" ให้พรรคการเมืองใด
ก็ไม่รู้จะเป็นคำขอร้องที่สายเกินไปหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ข้าราชการใหญ่โตหลายกระทรวง ดูเหมือนจะเสียเนื้อเสียตัวกันซะเป็นส่วนใหญ่
กลายเป็นหมอนวดตามโรงนวดทั่วๆไปกันหมดแล้ว...ไม่ใช่อย่างหมอนวดชวาลายุคดั้งเดิม...ว่างั้นเถอะครับ!!
ซูม
อ่านแล้วชอบเลยเอามาลงไว้ครับ
Create Date : 11 มกราคม 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 11 มกราคม 2554 22:12:30 น. |
Counter : 7922 Pageviews. |
|
|
|