สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
starter
เรื่องเล็ก
ระหว่างทาง
somebody
insprie
coffee or tea
ห้องรับแขก
this is a book
What When Where Why
a day in a
life
project paris
ชั้น5
All Blogs
ขอบใจ
ระหว่างเรา
แค่นั้นเอง
หลอกกันเล่นรึเปล่า
เทคโนโลยีและความสัมพันธ์
จุดเริ่มต้น "ฉันอยากเป็นนักข่าว"
"ทำใจ" สิ่งที่ได้จาก "น้ำ"(ท่วม)1
มากกว่ารัก
หัวใจและร่างกาย
ความพอใจ
เรื่องรักเรื่องเล่าในวงเรา
ความฝัน...ความจริ ง...ความรัก
ความปรารถนา...สุดท้าย
มากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม
พรุ่งนี้...เธอจะยังรักฉันไหม
จะทำทุกอย่างเพื่อ"ใคร"
ความฝันกับการเดินทางครั้งสุดท้าย
ไม่มีไม่ลืม
คิดถึงทุกปี
รัก...เลิก...โกรธ...หลง
ใครบางคน...บางส่วนที่หายไป
ความฝันก็เหมือนไขมัน?
ตัวหนังสือในสมุดฉีก
นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน
คน (ไม่)ชอบเหงา
ฤทธิ์ (นาย)ทางโทรศัพท์
จะไปทางไหนดี
มนต์รักมือถือ
บางสิ่งบางอย่าง และสี..ในบ้าน
last day...ตะแล็บแก๊ป
ไม่มีรักแท้ในMSN
ข้อความลึกลับ
เมื่อความรักหมดอายุ
คำถามและเวลาที่เหลือ
ไปเป็นชาวเกาะกันเต๊อะ
กลัวอด ไม่กลัวตาย???
"ถ้า..." นกไร้ขาเพื่อนรัก
ความฝันกับการเดินทางครั้งสุดท้าย
ความฝันของชายหนุ่มคือการเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพ แต่หลังจากเดินทางตามฝันอยู่นานหลายปี เมื่อมองย้อนกลับไป กลับพบว่าการสร้างความสำเร็จจากความฝันนับวันยิ่งห่างไกล
ชีวิตความเป็นอยู่ แม้ไม่ถึงกับลำบาก แต่ก็ไม่สบาย ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความหลงใหลในการเล่นเชลโล่ไม่เคยหายไปไหน แต่การเดินต่อบนเส้นทางเดิมมาถึงทางตัน
วงออร์เคสตร้าที่เขาเล่นประจำต้องปิดตัวลง ทั้งๆ ที่เพิ่งลงทุนซื้อเชลโล่ราคาแสนแพงได้ไม่นาน
ความฝันกับความจริงต่างกันลิบลับ
การตัดสินใจละทิ้งความฝันเพื่อเดินต่อในโลกของความเป็นจริงไม่ง่ายนัก ยิ่งถ้าเราใช้เวลาไปกับการเดินทางตามหาความฝันมาอย่างยาวนาน
ชายหนุ่มตัดใจขายเชลโล่ เพราะรู้ดีว่าฝีมืออย่างเขา เมื่อเทียบกับนักดนตรีคนอื่นๆ การหาวงใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ถ้าไม่มีวงประจำเล่น ก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเชลโล่ ราคา 18 ล้านเยน
ชายหนุ่มหัดเล่นเชลโล่ตั้งแต่ยังเด็ก และคิดมาตลอดว่าจะเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพ
เมื่อชีวิตจริงต่างจากความฝัน และถึงจุดที่ต้องเลือกทาง
เขาตั้งคำถามกับตนเองว่า การเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพใช่ความฝัน
จริงๆ หรือเปล่า
ไม่มีคำตอบในคำถามนั้น
.............
แม่จากไป 2 ปีกว่าแล้ว ทิ้งบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งที่เคยเปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ไว้ให้ นานแล้วที่เขาไม่ได้กลับบ้าน
ชายหนุ่มเลือกที่จะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บ้าน แม้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ
ชีวิตที่บ้านนอกสิ้นเปลืองน้อยกว่า ความกดดันทางการเงินย่อมน้อยกว่ามาก
วันหนึ่งระหว่างนั่งทานข้าวเช้า พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย เขาเจอกับประกาศรับสมัครงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า รับสมัครเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องการเดินทาง และรายได้ดี
เมื่อเจอกับชายแก่เจ้าของบริษัทเขาก็ต้องแปลกใจ
เอกสารเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงาน ประวัติทางการศึกษา ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของบริษัท
ชายแก่พูดกับเขาแค่ว่า หวังว่าคงอยู่ด้วยกันนานๆ นะ พร้อมหยิบเงินส่งให้
ชายหนุ่มรับเงินมาอย่างงงๆ
"เราไม่ต้องคุยเรื่องเงินเดือนหรือรายละเอียดงานอื่นๆ เหรอครับ"
"ทำไม เงินน้อยไปหรือ"
"งั้นพรุ่งนี้ ก็มาเริ่มงานได้เลยนะ"
"ว่าแต่ผมต้องทำอะไรบ้าง งานที่ทำเป็นงานประเภทไหน"
"คุณไม่รู้หรือ ว่าเป็นงานอะไร"
"ในหนังสือพิมพ์เขียนแค่ว่าเพื่อนเดินทาง"
ชายแก่เจ้าของบริษัทหยิบประกาศหางานมาดู และว่า
"อ๋อเขาพิมพ์ตกไปคำหนึ่งน่ะ นี่หมายถึงการเดินทางไปสู่สุคติ"
งานใหม่ของชายหนุ่ม คือคนทำศพ
เขาอึ้งไปชั่วอึดใจ ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเห็นศพคนตายมาก่อนเลย จึงไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม
"ผมไม่เคยเห็นคนตายเลยนะ ตากับยายก็เสียตั้งแต่ผมยังเด็กมาก ตอนแม่ผมเสียเมื่อสองปีก่อน ผมก็อยู่ต่างประเทศ จึงกลับมาไม่ทันพิธีศพ ส่วนพ่อก็ทิ้งผมไปตั้งแต่ผมอายุแค่ 6 ขวบ"
"ไม่เป็นไร ช่วงแรกก็ช่วยงานไปก่อน"
เขากลับบ้านอย่างงงๆ เมื่อภรรยาถามว่า งานบริษัททัวร์เป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ตอบ แค่บอกว่า ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง
วันแรกของการทำงานหินสุดๆ เพราะต้องจัดการกับหญิงชราที่เสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ กว่าคนจะมาเจอก็ผ่านไปกว่า 2 อาทิตย์แล้ว
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเมล์กลับบ้านถึงรู้ว่ามีกลิ่นบางอย่างติดตัวมาด้วย
เขาแวะอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำร้อนระหว่างทาง ทำความสะอาดร่างกายทุกซอกทุกมุมเพื่อให้กลิ่นหายไปก่อนเข้าบ้าน
ภรรยาเตรียมอาหารไว้ชุดใหญ่ มีเนื้อไก่สดๆ สำหรับทำสุกียากี้ เมื่อเห็นเนื้อสดๆ ตรงหน้า เขาวิ่งไปอ้วก
คืนนั้นเขานอนไม่หลับ และต้องลุกขึ้นมาเล่นเชลโล่กลางดึก เรื่องราวในวัยเด็กเกี่ยวกับพ่อที่เขาจำหน้าไม่ได้ ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ
วันรุ่งขึ้นและวันถัดมา ชายหนุ่มยังคงไปทำงานเหมือนเดิม งานที่แต่แรกไม่อยาก ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่เริ่มยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
การจัดการกับทำความสะอาดร่างกายของคนตายอย่างให้ความเคารพ แต่งตัวให้คนตายให้ดูดีเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้ครอบครัวคนตายเก็บความทรงจำ และกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างกายบรรจุในโลง
งานที่ดูเหมือนน่ารังเกียจในสายตาคนทั่วไป แต่กับครอบครัวผู้ตายต่างออกไป
ครอบครัวแล้วครอบครัวเล่าต่างซาบซึ้งกับการทำหน้าที่ "เพื่อนเดินทางไปสู่สุคติ"ของเขา
ความภูมิใจในอาชีพใหม่ก่อตัวขึ้นทีละน้อย
จนเมื่อภรรยารู้ความจริง และต้องการให้เขาลาเพื่อไปหางานที่ดีกว่านี้ มีเกียรติมากกว่านี้ เธอยื่นคำขาดว่าจะกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่จนกว่าเขาจะลาออก
ชายหนุ่มกลับไปที่บริษัท แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าของบริษัทกำลังทานอาหารเย็น เมื่อเห็นเขาก็ชวนร่วมวงด้วย
ระหว่างทานอาหารก็เล่าว่าภรรยาเสียชีวิตเมื่อ 9 ปีก่อน ตอนนั้นยังไม่มีใครทำอาชีพนี้ เขาจึงลงมือแต่งหน้าแต่งตัวภรรยาด้วยตนเองเพื่อให้คนที่เขารักที่สุดสวยที่สุด
แทนของขวัญ และคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย
เขาเปิดบริษัทนับตั้งแต่นั้นมา
วันนั้นชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยถึงการลาออกกับชายขรา
ผ่านไปวันแล้ววันเล่า เย็นวันหนึ่งเมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่า ภรรยากลับมาบ้านแล้ว เพราะรู้ตัวว่า กำลังตั้งครรภ์
ไม่มีใครพูดอะไรกันระหว่างนั้น จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ชายหนุ่มต้องไปทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง หนนี้เพื่อคุณป้าเพื่อนบ้าน คนเดียวกับเจ้าของร้านอาบน้ำ
แรกทีเดียวลูกชายคุณป้าเพื่อนในวัยเด็กของเขาก็ไม่ชอบใจนัก ที่รู้ว่าเขาทำงานอะไร
แต่เมื่อได้เห็นการจัดการกับงานในหน้าที่อย่างมืออาชีพ
ทั้งภรรยาและเพื่อนบ้านไม่กังขาอีกต่อไป
มีแต่คำขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่ากับการทำหน้าที่เพื่อนเดินทางเพื่อส่งผู้จากไปสู่สุคติ
ในยามว่างชายหนุ่มยังคงเล่นเชลโล่อย่างมีความสุข
ความฝันกับความจริงมักแตกต่างกัน
การเดินทางตามความฝันอาจไม่ได้มาพร้อมชื่อเสียง เงินทองและความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่กับความฝันอย่างมีความสุขไม่ได้
หมายเหตุ - ข้อเขียนเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ญี่ปุ่น "Departures" เจ้าของรางวัลออสการ์หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมปีล่าสุด
///////////////////
Create Date : 03 กรกฎาคม 2552
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 10:35:15 น.
5 comments
Counter : 1129 Pageviews.
Share
Tweet
หนังเรื่องนี้เสี่ยงจะทำให้รู้สึก "จำยอม" กับความฝันที่ไม่เป็นจริง ประมาณว่าแม้จะมีความสุขกับความฝัน (ก็จริง) แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาว
ว่าไหม๊การทำตัวเป็น "นักล่าฝัน" มันทำให้หัวใจให้ชุ่มชื่น มีความหวัง (มีความสุขกับปัจจุบันที่ได้ฝันไง) ก็จงฝันกันต่อไป
เคยได้ยินใครคนหนึ่งบอกว่า เป้าหมายที่ไม่ไขว่คว้า ก็ไม่ต่างจากความฝันที่ไปไม่ถึง (สักที) สิน่า อันนี้เป็นภาคของอนาคต
รู้นะคิดไรอยู่ !!
โดย: uwen IP: 10.11.1.39, 203.150.244.121 วันที่: 3 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:03:58 น.
ไม่ได้ติดตามมาหลายวัน มาเปิดอีกที ก็มีอะไรให้อ่านเพียบเลย ดีจัง
ชอบอยู่กับฝันที่ยังไม่สำเร็จค่ะ เพราะอย่างน้อยเรามันก็ทำให้วันพรุ่งนี้ดูมีคุณค่า และพร้อมจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
ให้ไปถึงฝัน
ถึงแล้วก็ฝันต่อไปได้อีก
หากยังมีชีวิตอยู่ ความฝันก็ไม่มีวันหมด
กลัววันหมดฝันนะ หากฝันหมด แล้วพรุ่งนี้จะทำไรดีล่ะอันตรายๆ
โดย: ... IP: 24.1.66.251 วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:45:58 น.
ดีจัง..พาร์ทนึงในชีวิตเค้าเหมือนเราเป๊ะ.. หนูว่าทั้งความฝันและความเป็นจริงมันทำให้เรายิ้มได้นะถ้ามีความสุขกับมัน สุขที่ได้ฝัน สุขที่ได้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ซึ้งอ่ะ
โดย: BB service IP: 172.16.226.80, 203.170.231.232 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:20:59 น.
หาดาวโหลดในบิททอเร้นท์ก่อนนะ
โดย: เพื่อนสาย IP: 58.8.172.56 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:46:57 น.
แนะนำเว็บดูหนัง
ซีรีย์เกาหลี
ฟรี
โดย: koreaserie (
loveyoupantip
) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:10:34:41 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
cherydnk
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
swin
Webmaster - Bloggang
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
ประชาชาติธุรกิจ
มติชน
คนชายขอบ
wired
หนังสือมือสอง-ปะกิต
su booksมือสอง
มหาลัยเที่ยงคืน
ค้นคำจากหนัง
faylicity
ดูหนังอย่างคนป่วย
room2521
อิ่มอร่อยทำเองได้
นิ้วกลมๆ
เช้านี้ยังมีเธอ
คุณใหม่
พี่กรัปป้า
chery's another home
บ้านhi5
กาแฟlover
อยู่ญี่ปุ่น
คนติดเที่ยว
น้องนิด
เท็ดดี้บล็อก(coffeelover)
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ว่าไหม๊การทำตัวเป็น "นักล่าฝัน" มันทำให้หัวใจให้ชุ่มชื่น มีความหวัง (มีความสุขกับปัจจุบันที่ได้ฝันไง) ก็จงฝันกันต่อไป
เคยได้ยินใครคนหนึ่งบอกว่า เป้าหมายที่ไม่ไขว่คว้า ก็ไม่ต่างจากความฝันที่ไปไม่ถึง (สักที) สิน่า อันนี้เป็นภาคของอนาคต
รู้นะคิดไรอยู่ !!