Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
22 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
กาลิเลโอ คีนิ จิตรกรสองแผ่นดิน ผู้รังสรรค์พระที่นั่งอนันตสมาคม

มติชนออนไลน์ - วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11049


*เพราะภาพหนึ่งภาพสามารถรื้อฟื้นความทรงจำได้เป็นอย่างดี สถานเอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย, คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จึงจัด "The Galileo Chini Exhibition @ Central Chidlom 100 ปี มรดกศิลป์ กาลิเลโอ คีนิ จิตรกรสองแผ่นดิน ผู้รังสรรค์งานศิลป์ ในพระที่นั่งอนันตสมาคม" เพื่อร่วมฉลอง 140 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต และการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมไทย-อิตาลี (พ.ศ.2411-2551) นำย้อนรอยประวัติศาสตร์ผ่านผลงานศิลปะชิ้นล้ำค่า ซึ่งประเมินมูลค่ามิได้ ของศิลปินเอกชาวอิตาเลียน "กาลิเลโอ คีนิ" (Galileo Chini) โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดงาน

     จากการจัดนิทรรศการครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อ พ.ศ.2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญ "กาลิเลโอ คีนิ" ศิลปินเอกชาวอิตาเลียน ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานจิตรกรรม เข้ามารับงานตกแต่ง "พระที่นั่งอนันตสมาคม" ซึ่งศิลปินคนนี้ได้เข้ามาทำงาน รังสรรค์ผลงานต่างๆ ทั้งภาพถ่ายในพระราชพิธีต่างๆ ซึ่งในงานนี้จึงรวบรวมภาพถ่ายที่หายาก จากฝีมือของกาลิเลโอ คีนิ มารวมไว้ที่นี่

*หนึ่งฤดี โลหผล หัวหน้าสาขาวิชาภาษาอิตาเลียน ภาควิชาภาษาตะวันตก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า นิทรรศการนี้จะเริ่มตั้งแต่บันทึกการเดินทางสู่สยามด้วยภาพถ่ายขาวดำ เบื้องหลังการวาดภาพจิตรกรรมแบบเฟรสโก้บนเพดานโดม พระที่นั่งอนันตสมาคม ผลงานจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย

     "ผลงานที่ศิลปินผู้นี้ทำขึ้นมีทั้งการออกแบบฉากมหาอุปรากร "ตูรันดอท" (Turandot) ของคีตกวีเอก "ปุชชินี่" (Puccini) ซึ่งกลายเป็นมรดกศิลป์อันล้ำค่า ภาพศึกษาฉลองพระองค์รัชกาลที่ 6 และภาพศึกษาคทาจอมทัพรัชกาลที่ 6 และอีกหลายผลงานที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อน เพื่อเป็นการย้อนเวลาไปในอดีตอีกครั้งหนึ่ง"

*

นิทรรศการนี้จะมีถึงวันที่ 6 กรกฎาคม เวลา 10.30-21.30 น. ที่ ดิ อีเว้นท์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม

หน้า 25




100 ปี มรดกศิลป์ กาลิเลโอ คีนิ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2551 19:27 น.


*เพื่อร่วมฉลอง 140 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต และการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ไทย- อิตาลี (ค.ศ.1868 -2008) บจก.สรรพสินค้าเซ็นทรัล, สถานเอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย, คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงวัฒนธรรม, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด, บจก.สิงห์ คอร์ปอเรชั่น และ คานาดอย กรุ๊ป

     จะนำเราย้อนรอยประวัติศาสตร์ ผ่านผลงานศิลปะซึ่งประเมินมูลค่ามิได้ของ กาลิเลโอ คีนิ (Galileo Chini) จิตรกรเอกชาวอิตาเลียน ที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย จากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ในการเขียนภาพจิตรกรรมตกแต่งภายใน “พระที่นั่งอนันตสมาคม” พระราชวังดุสิต ผ่านนิทรรศการ The Galileo Chini Exhibition @ Central Chidlom 100 ปี มรดกศิลป์ กาลิเลโอ คีนิ จิตรกรสองแผ่นดิน ผู้รังสรรค์งานศิลป์ ในพระที่นั่งอนันตสมาคม โดยนิทรรศการจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน-6 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ณ ดิ อีเว้นท์ ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม

* ตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ.2454 ถึง พ.ศ.2456 กาลิเลโอ คีนิ ได้รับมอบหมายให้รังสรรค์งานศิลปะมากมาย เพื่อใช้ในพระราชวังและอาคารต่างๆ ที่ทางราชสำนักสยามได้จัดสร้างขึ้น และยังได้มีโอกาสรังสรรค์งานจิตรกรรมที่โดดเด่นหลายชิ้น ซึ่งรวมถึงการวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ ภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่น รวมทั้งภาพภูมิประเทศและทิวทัศน์ของสยามประเทศ

     แต่เมื่อใดที่เอ่ยถึงจิตรกรผู้นี้สิ่งแรกที่คนในแวดวงศิลปะทั่วโลกนึกถึงก็คือ ความงดงามของจิตรกรรมปูนเปียก (Fresco) บริเวณเพดานโดมท้องพระโรง พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งเป็นผลงานที่เป็นมาสเตอร์พีซในชีวิตศิลปินของเขา

     ผศ.ดร.หนึ่งฤดี โลหผล หัวหน้าสาขาวิชาภาษาอิตาเลียน ภาควิชาภาษาตะวันตก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ผู้ศึกษาค้นคว้าชีวิตและผลงานของจิตรกรเอกมาอย่างยาวนาน กล่าวว่า

     สำหรับประเทศอิตาลีแล้ว กาลิเลโอ คีนิ นับเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคปลายศตวรรษที่ 19 และศตวรรษที่ 20 หากเทียบกับศิลปินในยุคนั้นแล้ว คีนิเป็นคนที่ไม่ปิดกั้นตัวเองอยู่ในกรอบ แต่เปิดกว้างต่อการสร้างงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ นอกจากภาพเขียนบนผืนผ้าใบที่นิยมสร้างสรรค์กันในเวลานั้น ภาพเขียนแบบฉากอุปรากร ตลอดจนจิตรกรรมฝาผนังประดับสถาปัตยกรรมร่วมสมัย เขายังได้สร้างโรงเซรามิกขึ้น เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะแนวอุตสาหกรรมประเภท กระเบื้องดินเผา เครื่องเคลือบดินเผา ที่ตกทอดกันมาในตระกูลคีนิจนถึงปัจจุบันนี้

*ในปีสุดท้ายของรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียก กาลิเลโอ คีนิ เข้ามาเขียนภาพจิตรกรรมประดับท้องพระโรง พระที่นั่งอนันตสมาคม และคินีกก็ได้เดินทางออกจากอิตาลีเข้ามาถึงประเทศสยามในเดือนกันยายน พ.ศ. 2454 อันตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

     ช่วงเวลาแรกคีนิได้ใช้เวลาในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองสยามในมิติที่ช่วยให้เขาได้เห็น ได้รู้จัก และเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการออกแบบภาพจิตรกรรมประดับพระที่นั่งอนันตสมาคม

     ซึ่งบรรดาภาพถ่าย ภาพร่างแบบ ภาพจิตรกรรม ที่เขียนเพื่อศึกษาและเตรียมงานจำนวนมากมายหลายชิ้นในเวลานั้นของเขาที่ยังมีหลงเหลืออยู่ ส่วนหนึ่งจะถูกนำมาจัดแสดงในนิทรรศการที่จะมีขึ้นด้วย เพื่อให้เราได้เห็นภาพของเมืองสยามเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ซึ่งในวันนี้ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว อีกทั้งภาพจากปลายพู่กันที่บันทึกบรรยากาศที่สงบนิ่งและมีสีสันของเมืองสยาม เช่น ภาพบรรยากาศในวัด ภาพบ้านเรือนริมฝั่งน้ำ และภาพวันตรุษจีนในเมืองพระนคร

     โดยก่อนหน้านี้ กาลิเลโอ คีนิ ได้นำภาพเขียนจากเมืองสยยามเหล่านั้นติดตัวกลับไปยังบ้านเกิดของเขาด้วย และได้เคยปรากฏต่อสายตามหาชนในยุโรป ผ่านห้องแสดงงานศิลปะนานาชาติในงานเวนิสเบียนนาเล (Venice Biennale)

     ในการจัดนิทรรศการ The Galileo Chini Exhibition @ Central Chidlom 100 ปี มรดกศิลป์ กาลิเลโอ คีนิ ผศ.ดร.หนึ่งฤดี กล่าวว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก มิสเปาลา โปลีโดริ คีนิ(Paola Polidori Chini) ทายาทคนเดียวของกาลิเลโอ คีนิ และ มิสเตอร์วิเยริ คีนิ(Vieri Chini) ผู้ที่ยังสืบสานงานเซรามิกของตระกูล

     นอกจากนี้ มิสเปาลา คีนิ ผู้ดูแลมรดกศิลป์ของผู้เป็นปู่ จะมอบภาพพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 1 ที่กาลิเลโอ คีนิ ได้เขียนขึ้นในปี พ.ศ.2455 เพื่อเตรียมการเขียนภาพจิตรกรรม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมให้เป็นสมบัติของประเทศไทยด้วย

     หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอได้เคยมอบสมบัติหลายชิ้นให้กับประเทศไทย ด้วยเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากกว่า อาทิ ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่คุณปู่ของเธอ ได้นำติดตัวไปอิตาลี โดยเธอขอเก็บไว้เพียงภาพถ่ายของคุณปู่เพียงภาพเดียว ขณะที่ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 6 พิมพ์เขียว ต้นฉบับพระที่นั่งอนันตสมาคม จำนวน 9 ชิ้น เธอได้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี พ.ศ. 2547 และในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้นำมาจัดแสดงพร้อมกันด้วย

*


ที่ผ่านมา ในบ้านเราเคยจัดแสดงผลงานของคีนิมาหลายครั้ง แต่จะเน้นไปที่ผลงานเพียงบางด้าน แต่ครั้งนี้ จะเป็นนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเป็นการรวบรวมผลงานของศิลปินท่านนี้ไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ


H O M E






Create Date : 22 มิถุนายน 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 21:10:33 น. 0 comments
Counter : 1685 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.