Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
22 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
"คนธรรพวาทีศรีรัตนโกสินทร์" รวมกวีเอกกรุงรัตนโกสินทร์ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ทีเค ปาร์ค

มติชนออนไลน์ - วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11051

โดย พชรกร อนุศิริ

     "ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง ชาติจะเรืองดำรง ก็เพราะเราทั้งหลาย..."

*เสียงเพลงปลุกใจ "ตื่นเถิดชาวไทย" ของหลวงวิจิตรวาทการ ดังขึ้นทันทีที่คลิกเมาส์เข้าไปในช่วงสมัยรัชกาลที่ 7 บอกเล่าเรื่องราวของสังคมในยุคหลังการปฏิรูปการปกครอง ที่มีกระแสปลุกระดมความรักชาติ โดยเฉพาะในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ให้ได้รับทราบเรื่องราวสมัยนั้นเป็นอย่างดี

     ฟังแล้วเกิดติดใจซาบซึ้งในความไพเราะจนอยากเล่นตามบ้าง ก็ลองเลื่อนเมาส์อีกที คลิกอีกครั้ง จะพบว่ามีโน้ตแบบไทยๆ ซึ่งใครๆ ก็อ่านได้ ให้เปิดเล่นตามกันได้ไม่ยาก

     นี่คือความพิเศษของหนังสือที่ชื่อว่า "คนธรรพวาทีศรีรัตนโกสินทร์" ในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ของ ห้องสมุดคลังความรู้ดนตรี ที่อุทยานการเรียนรู้ทีเคปาร์ค สวนสนุกทางปัญญาแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

     หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ "คนธรรพวาทีศรีรัตนโกสินทร์" เป็นการรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลผลงานทางวัฒนธรรมด้านดนตรีไทยในแผ่นดินรัตนโกสินทร์เป็นครั้งแรก นำเสนอข้อมูลชีวประวัติของบุคคลสำคัญทางด้านดนตรีในช่วงรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 9 ทั้งที่เป็นศิลปิน พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง ข้าราชสำนัก และบุคคลทั่วไป พร้อมรูปภาพ และผลงานการประพันธ์เพลง และบทวรรณกรรมที่สำคัญของบุคคลเหล่านั้น

     นำเสนอในรูปแบบของการวิเคราะห์ พร้อมสอดแทรกข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ เหตุการณ์บ้านเมืองและแนวดนตรีในช่วงรัชกาลที่ 1-9 เอาไว้อย่างละเอียด

     ณ ห้องสมุดแห่งนี้ เด็กๆ สามารถเพลิดเพลินกับการทำความรู้จักดนตรีไทย และเรียนรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ ในรูปแบบ "หนังสือสามมิติ" ได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ

     มีหนังสือให้อ่าน มีเพลงให้ฟัง มีโน้ตให้เล่น ที่สำคัญกว่านั้นความรู้อันเป็นมรดกทรงคุณค่านี้ได้จัดตีพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษร ในรูปแบบของหนังสือชุด "คนธรรพวาทีศรีรัตนโกสินทร์" ซึ่งมีทั้งหมด 4 เล่มด้วยกัน


     โดยนำเนื้อหามาจากฐานข้อมูลของห้องสมุดคลังความรู้ดนตรี ทั้งข้อมูลด้านชีวประวัติของศิลปิน เกร็ดความรู้ที่มาของบทเพลงต่างๆ บรรจุลงเป็นรูปเล่มหนังสือ พร้อมทั้งโน้ตเพลงแนบท้าย แตกต่างกันก็ตรงที่หนังสือชุดไม่สามารถส่งเสียงได้เท่านั้น

     "การเข้ามาของอารยธรรมตะวันตก การเกิดขึ้นของสงคราม มีผลกระทบต่อดนตรี ทำให้รูปแบบดนตรีเปลี่ยนไป เช่น มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นสอดแทรกเข้ามา ดังนั้น ดนตรีจึงสามารถสะท้อนความเปลี่ยนไปของสภาพสังคมในแต่ละสมัยได้เป็นอย่างดี"

*"คนธรรพวาทีศรีรัตนโกสินทร์" สะท้อนความมหัศจรรย์ของดนตรีที่อยู่คู่มากับสังคมไทย ไม่ว่าบ้านเมืองหรือยุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร

     มีตัวอย่างให้เห็นกันเช่นในสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นยุคของการสร้างบ้านแปลงเมือง และเต็มไปด้วยสงครามครั้งสำคัญกับประเทศพม่า อย่างสงครามเก้าทัพ และศึกท่าดินแดง แต่ก็เป็นช่วงสมัยที่มีเหล่าศิลปินที่เป็นตำนานถือกำเนิดขึ้นมากมาย

     ไม่ว่าจะเป็น สุนทรภู่ กวีเอกผู้เป็นตำนานโลก หรือ พระประดิษฐ์ไพเราะ ต้นตำรับในการแต่งบทเพลงประเภทลูกล้อลูกขัด หรือเพลงทยอย และต้นตระกูลดุริยางค์ ซึ่งทั้งสองท่านนี้ได้กลายเป็นศิลปินสำคัญในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาซึ่งจัดเป็นยุคทองของดนตรีไทยในแผ่นดินรัตนโกสินทร์

     นอกเหนือจากนี้ เหตุการณ์เสียดินแดนทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส ก็ทำให้เกิดบทละครอันโด่งดังอย่าง "เงาะป่า" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเรารู้จักบทละครนี้เป็นอย่างดี แต่ไม่เคยรู้เลยว่า กำเนิดของบทละครเรื่องนี้ แท้จริงแล้วเป็นผลมาจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของไทย


*ในรัชสมัยของสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เจ้าของโคลงกลอนอันเป็นอมตะ อย่าง "ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์" จุดเริ่มต้นของการต้อนรับดนตรีต่างชาติ ด้วยฝีมือของคีตกวีคนสำคัญ คือ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ หรือ ศร ศิลปบรรเลง ผู้ให้กำเนิด "อังกะลุง" ของไทย และนำเครื่องดนตรีของต่างชาติเข้าร่วมบรรเลงกับดนตรีไทย อย่างเช่น ขิมของจีน และออร์แกนของฝรั่ง จนกลายเป็นวงเครื่องสายแบบใหม่ คือ "วงเครื่องสายผสม"

     สำหรับในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย และเป็นช่วงรอยต่อระหว่างดนตรีไทยกับดนตรีสมัยใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก ทำให้ดนตรีไทยได้รับผลกระทบจากนโยบาย "รัฐนิยม" ของจอมพล ป. พิบูลสงครามอย่างมาก

     เพราะเห็นว่าดนตรีไทยไม่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ ดังนั้น จึงมีการห้ามบรรเลงดนตรีไทย ใครจะจัดบรรเลงดนตรีไทย ต้องได้รับอนุญาตจากทางราชการเสียก่อน จึงจัดเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของดนตรีไทย จนเกือบจะถึงจุดจบ

     อาจารย์มาณพ อิศรเดช ผู้ศึกษาและค้นคว้าวิจัยหนังสือเล่มนี้ เล่าว่า ข้อมูลสำหรับจัดทำหนังสือ "คนธรรพวาทีศรีรัตนโกสินทร์" มาจากการศึกษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ นำมาวิเคราะห์ และรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยพยายามรวบรวมข้อมูลทางด้านดนตรีให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด รวมทั้งใช้สำนวนภาษาที่ง่ายเพื่อการอ่านที่เข้าใจได้ง่ายๆ

     โน้ตเพลงทางหลัก โด เร มี ฟา ซอล ลา ที ถูกนำมาใช้อธิบายโครงสร้างของบทเพลง เพื่อให้เห็นว่าดนตรีไทยไม่ใช่เรื่องยาก ใครอยากเล่นตาม ก็มีโน้ตให้อ่านได้สบายๆ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านดนตรีมากมายก็เล่นตามได้

     ส่วนการเลือกเพลงมาบรรจุไว้ในหนังสือนั้น อาจารย์ศักรินทร์ สู่บุญ ผู้อยู่เบื้องหลัง เล่าว่า การเลือกเพลงในหนังสือเล่มนี้ขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อมที่นักประพันธ์คนนั้นสร้างผลงานขึ้นมา ส่วนมากจะเป็นบทเพลงที่สำคัญและโดดเด่นของศิลปินคนนั้นๆ

     บทเพลงของคีตกวีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในหนังสือเล่มนี้ ได้บรรเลงขึ้นใหม่ด้วยวงดนตรีที่ก่อตั้งขึ้นเป็นพิเศษ เป็นวงดนตรีที่ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า "วงมวลมิตร"

     มาถึงตรงนี้ หากอยากฟังบทเพลงอันทรงคุณค่า และอยากรู้เรื่องราวของนักดนตรีทั้งหลายในสมัยรัตนโกสินทร์อย่างละเอียดและสนุกสนาน ไม่ต้องไปเสียเงินเสียทองที่ไหน ไปหาได้ที่ ห้องสมุดคลังความรู้ดนตรี ของอุทยานการเรียนรู้ ทีเคปาร์ค ตั้งอยู่ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์

     ดนตรีนั้นก็เหมือนกันกับศิลปกรรมทุกสาขา ความนิยมย่อมผันแปรไปตามกาลเวลาและตามสภาพของสังคม คนไทยสมัยก่อนเข้าใจและซาบซึ้งในดนตรีไทย ก็เพราะดนตรีไทยแสดงภาพหรือความรู้สึกของสังคมไทยในสมัยนั้น

     ส่วนคนไทยทุกวันนี้มักมองดนตรีไทยอย่างสงสัย เพราะสภาพของสังคมไทยปัจจุบันต่างกับในอดีตอย่างมาก โอกาสที่จะสัมผัสกับดนตรีไทยในชีวิตประจำวันมีน้อย และนับวันจะน้อยลงทุกที การเข้าไปสัมผัสดนตรีไทยที่ห้องสมุดดนตรีของทีเค ปาร์ค เป็นอีกทางที่จะรับรู้เรื่องราวในอดีตอันเป็นรากเหง้าของปัจจุบัน

หน้า 21

H O M E



Create Date : 22 มิถุนายน 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 21:08:45 น. 0 comments
Counter : 1544 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.