ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
10 ประเด็นที่ทำให้คนไทยล้าหลัง # ในมุมมองของ วิกรม กรมดิษฐ์



1. คนไทยรู้จักตัวตนของเราเองต่ำมาก กล่าว คือ รู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะมีสำนึกต่อสังคมส่วนรวมสูงมาก ของเราจะไม่คำนึงถึงส่วนรวม แต่จะเป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา จนทำให้เกิดวัฒนธรรมสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจทุกระดับชั้น จนมีคำพูดว่า ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ทุกคนแสวงหาอำนาจเพื่อจะตักตวงเพราะความไม่รู้จักตัวตน ไม่รู้จักประเทศของตัวเองเช่นนี้แล้ว ทำให้ประเทศชาติของเราล้าหลังไปเรื่อย ๆ

2. การศึกษาของไทยยังไม่ทันสมัย สอนให้คนเห็นแก่ตัวมากกว่า ขาดจิตสำนึกต่อสังคม แม้แต่ภาษาคนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้เราขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ประเทศอื่น ๆ รู้จักคนไทยน้อยมาก เพราะคนไทยไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น เพราะคุณภาพการศึกษาของเราไม่ทันสมัย จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

3. คนไทยมองอนาคตไม่เป็น เท่าที่สังเกตเห็นว่าคนไทยกว่า 70% ทำ งานแบบไร้อนาคต แบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน ๆ น้อยนักที่จะวางแผนให้ตัวเองอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในอนาคต สะสมความสำเร็จไปอย่างเป็นลำดับ หรือเป็นเพราะไม่กล้าฝัน หรือไม่มีความฝันก็ไม่แน่ใจ และชอบพึ่งสิ่งงมงาย โชคชะตา พอใจทำงานแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ ทำให้ประสิทธิภาพของเราไม่ทันกับการแข่งขันระดับโลก

4. คนไทยไม่ค่อยจะจริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การรับปากของเรามักทำแบบผักชีโรยหน้า หรือเกรงใจ แต่ทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากประสบการณ์ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติจะพบว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป คนเขาจะให้ความสำคัญกับสัญญาข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตในการเชื่อถือด้านนี้ลงไปเรื่อย ๆ

5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประเทศของเรากระจุกตัวความเจริญเฉพาะในเมืองใหญ่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ในต่างประเทศ การสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ห่างไกล แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ สนับสนุนเขาก็ลงทุน การสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จะเป็นประโยชน์ ทำให้เป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจอย่างมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม

6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็งและดำเนินอย่างไม่ต่อเนื่อง สังคมไทยชอบทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง อาจได้ยินกรณีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารก็ตาม จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง

7. สังคมไทยชอบอิจฉาตาร้อน ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ และชอบเลี่ยงเป็นศรีธนญชัย เมื่อจนตรอก ในวงการเราจะพบกระแสของคนประเภทนี้ปะปนมากขึ้น จะเพราะเป็นเพราะสังคมเรายอมรับ หรือยกย่องคนที่มีอำนาจ มีเงิน แต่ไม่มีใครรู้ภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอดหน้าตาเฉย คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก เพราะทำความเสียหายต่อบ้านเมืองมากกว่า และจะเป็นประเภทดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าจะเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว

8. เอ็นจีโอบ้านเราค้านลูกเดียว ทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อิงผลประโยชน์อยู่ ถ้าจะพูดกันแบบมีเหตุผล ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เอ็นจีโอดี ๆ ก็มี แต่บ้านเรามีน้อย กรณีน้ำท่วมเพราะไม่มีเขื่อนรองรับเพียงพอ พอเกิดน้ำท่วม พวกที่ค้านจะแสดงความรับผิดชอบด้วยหรือเปล่า บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน

9. คนไทยอาจจะไม่พร้อมในเวทีโลก เพราะไม่ถนัดภาษาอื่น ที่ไม่ใช่ภาษาตัวเอง ทำให้โลกภายนอกไม่รู้จักคนไทยเท่าที่ควร และการจัดการตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลก ของเราขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้เราสู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้

10. คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่ สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม คุณวิกรมแสดงความเห็นว่า การอบรมเยาวชนมาจาก 3 ทาง หนึ่งภายในครอบครัว สองจากโรงเรียน และสามจากสังคม หรือสื่อสารมวลชน




FW



Create Date : 13 กรกฎาคม 2554
Last Update : 13 กรกฎาคม 2554 8:18:24 น. 12 comments
Counter : 18995 Pageviews.

 
อยากให้ท่านเป็นนายก หรือไม่ก้ออยากให้นายกเป็นอย่างท่าน


โดย: นพนัย IP: 14.207.99.104 วันที่: 14 มกราคม 2556 เวลา:9:24:00 น.  

 
I believe a moral person who would not want to be a THAI Minister..
Look at Aphisit who was good before then after.. ?????
NOT A CHANCE to be a tiny insect for those CRAP to eat... We have to clean up our THAI parliament and do not let them come back from generation to generation...
THAI MOTTO: MUE THUE SAK : PAK THUR SIL ( SIN now)..


โดย: Rider- THAI IP: 99.45.225.240 วันที่: 14 มกราคม 2556 เวลา:23:01:11 น.  

 
ดีมากๆ


โดย: Somphote kunnalok IP: 110.49.241.39 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:13:20:58 น.  

 
ชอบในความคิดครับ ถ้าบ้านเมืองเรามีฅนอย่างท่านมากๆ ชาติไทยเราต้องเป็นอันดับหนึ่งของโลกแน่ ต้องขอบคุณที่ท่านมาให้ความคิดกับหลายคนที่ยังหลงผิดคิดว่ารวยแล้วจะอยู่ค้ำฟ้า


โดย: บังมัด IP: 124.120.176.7 วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:13:19:40 น.  

 
เห็นดัวยมากๆกับบทความ and couldn't agree more with Khun Rider! Really sick of Thai people and cultures (negative ones), and feeling sorry for Thai Country. If I had billions dollars, i would use my richness and power to change the country, the system, make it better; otherwise live in another better country, for my daughter sake!



โดย: Mai IP: 113.53.8.147 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:10:13:54 น.  

 
คุณวิกรมเป็นความภาคภูมิใจของคน. ปั้นซันขัก. หน้าตาขักหยินแท้ๆ และขักหยินก็ ล่อซิดใจดีสุจริตแบบนี้. ชอบมาก


โดย: 陳玛丽 IP: 118.172.108.19 วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:22:28:30 น.  

 
เห็นด้วย แต่จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร


โดย: DK IP: 161.200.101.221 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:33:17 น.  

 
ประเทศไทย....
ใกล้..หมดอนาคตไปทุกที................
..แค่การเริ่มต้น..ปลูกฝังเพาะบ่มต้นกล้า..ให้เจริญเติบโต
ก้อ..ทำกันไม่ได้เเล้ว....เด็กถูกปลูกฝังจากผู้ใหญ่ที่
โคตร ไร้ ศักดิ์ยภาพ..มากขึ้นทุกวัน...
สังคม มีแค่ปลูกฝัง เรื่องวัตถุ...หามีจิตสำนึกไม่...........
ขีดกรอบตีเส้น..จน..ไม่มีความคิดสร้างสรรค์!!!!!!!!!!!
......ดีใจที่มีคนอย่างคุณ วิกรม..ให้ชีวิตอย่างเราได้ชื่นใจบ้าง
ขอบคุณ ที่คุณ..ยังยอมเป็น "คนไทย"....


โดย: jamai IP: 171.100.185.57 วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:16:50:15 น.  

 
การมองจุดอ่อนและจุดของคนอื่นใครก็มองได้ แต่การที่เราเห็นจุดด้อยของเขาแล้ว นี่แหละปัญหาว่าเราจะทำอย่างไร ในเมื่อทานมองทะลุแบบนี้ ก็น่าจะเสนอวิธีและแนวทางในการที่จะดำเนินการหรือทำให้เป็นรูปธรรม ถ้าได้แต่คิด คิด และคิด มันก็เป็นได้แค่ความคิด ปัจจุบันการทำงานและดำเนินกิจการต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่ผู้ปฏิบัติ แต่อยู่กับผู้ที่มีความคิดที่จะสั่งการได้ เช่น เราตบหัวคนๆนึง ถามว่าอะไรผิด ระหว่าง มือ(ผู้ปฏิบัติ แรงงาน ลูกจ้าง ฯลฯ) กับ ความคิด(หน.งาน ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ ฯลฯ) ในเมื่อระดับผู้บริหารชอบหรืออยากให้เป็น ระดับผู้ปฏิบัติก็ต้องปฏิบัติตาม หรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ให้เห็นผลตามที่ผู้บริหารต้องการ
ปล.ลองคิดกลับกัน ว่าใครกันแน่ที่สร้างพฤติกรรมผิดๆ


โดย: เต้ IP: 122.155.37.72 วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:18:27:51 น.  

 
เคารพและนับถือในความคิด...ซึ่งเป็นความจริงที่คนอื่นมองไม่เห็น...


โดย: titor IP: 110.49.251.235 วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:10:46:57 น.  

 
ข้อ 8 และข้อ 10 ถูกใจมาก


โดย: สมคิด ศรีสัจจา IP: 113.53.219.100 วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:11:40:00 น.  

 
I agree with these topic,Actauly thai people they have a lot of ability to do everthing same as other country but the thing is they don't have confident to do all activity and also they afraid to get complain and feel embarrassing when they do something mistake.Don't be afraid thai people ,just thinking nobody perfect so we have to learning and solve all the problem together then...cheer up..:)


โดย: Be good IP: 120.20.90.8 วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:7:24:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.