bloggang.com mainmenu search

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)



“พี่จุง... ที่บริษัทฯ เจนจะเปลี่ยนการปรับเงินเดือนเป็นเดือนมีนาแหละพี่”

“หรอ.. แล้ว ใครได้ใครเสียหละ...”

“พนักงานได้มั๊งพี่... เขาจะปรับเงินเดือนชดเชยกับเงินที่หายไป 2 เดือนนะพี่ เป็นนโยบายจากเมืองนอก...”
...

น้องเจน เป็นน้องที่ค่อนข้างสนิทสนมกันตั้งแต่ที่ทำงานเก่า เราโทรศัพท์คุยกันบ่อยๆ เจนก็มักเล่าข่าวคราวของเขา มีปัญหาอะไร หรือ ดีใจอะไร ก็จะโทรมาคุยเสมอๆ วันนี้มาบอกว่า ที่ทำงานมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งเจนทำงานให้กับบริษัทฯ ต่างชาติที่เปิดสาขาในเมืองไทย มีเจ้านายเป็นคนอเมริกัน พูดไทยไม่ได้ น้องเจนก็เลยเป็นเสมือนล่ามให้กับเจ้านาย ต้องไปพูด ไปคุยกับเพื่อนๆ พนักงาน แทนเจ้านายเสมอๆ และ แน่นอน เจนมักจะได้รับข่าวคราวก่อนคนอื่น โดยเฉพาะจากต่างประเทศ และ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ น้องเจนได้รับรู้รายละเอียด จากการสื่อสารของบริษัทฯแม่...

การสื่อสารของบริษัทฯใหญ่ๆต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างมาก เพราะ พวกเขาจะพยายามเปลี่ยนมุมมอง และ ลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนนโยบาย โดยเขาจะวิเคราะห์ และ หาทางโน้มน้าวแนวความคิดของพนักงานระดับล่างอยู่เสมอๆ จนบางครั้งดูเหมือนว่าจะทำมากจนเกินไปก็มี ทำให้เป็นที่ผิดสังเกต

อย่างกรณีนี้ การเปลี่ยนแปลงการขึ้นเงินเดือน จากเดือนมกราคม เป็นเดือนมีนาคม เขาก็จะบอกว่า จะมีเงินชดเชยให้เท่ากับจำนวนเงิน 2 เดือน ที่ขาดหายไป โดยจะทำการเฉลี่ยให้กับทุกๆ 10 เดือนที่เหลือ อย่างเช่น หากมีเงินเดือนสักหมื่นบาท แล้ว ปีนี้ คุณปรับเงินเดือนเพิ่ม 1000 บาท คุณจะได้ปรับเงินเดือน เพิ่มอีก 200 บาท ที่มาจาก จำนวนเงินที่คุณหายไป 2000 บาท หารด้วย 10 เดือน สรุปก็คือ จะปรับเงินเดือนให้ ทั้งหมด 1200 บาท เป็นต้น

...
“พี่คิดอย่างไรกับนโยบายเหล่านี้ค่ะ” หลังจากน้องเจนเล่าวิธีการต่างๆของบริษัทฯที่น้องเขาทำจบก็เริ่มถามเลย...

“พี่เดาว่า เขาคงสื่อสารออกมาอย่างอลังการเลยใช่ไม๊...?”

“ค่ะพี่ บางคนก็ตื่นเต้น บางคนก็เฉยๆ ส่วนหนูนะ ยังมองไม่ออกเลยว่ามันจะดีกว่าตรงไหน! ”
...

ผมฟังในครั้งแรกก็ว่ายุติธรรมมากนะครับ หากสรุปโดยรวมทั้งปีแล้วจะเห็นว่า จำนวนเงินที่เราจะได้นั้นเท่ากัน คือ 12000 บาท แถมได้ปรับเงินเดือนสูงขึ้นด้วย ฐานเงินเดือนสูงขึ้นก็ทำให้โบนัสเพิ่มมากขึ้นด้วย และ ปีหน้าก็จะได้ปรับเงินเดือนที่ใช้ฐานเงินเดือนใหม่นี้ในการปรับเงินเดือนเช่นกัน ก็แสดงว่า พนักงานได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆทุกคน

ในส่วนของผู้บริหารหรือหัวหน้างาน ก็จะชอบด้วย เพราะ จะได้มีเวลารวบรวมผลงานของพนักงานในปีที่ผ่านมา ไม่ต้องมากระจุกงานในเดือน มกราคม ที่บางที อาจจะรวบรวมข้อมูลได้ไม่ครบ หรือ อาจจะกำลังทำการปิดปีของหลายๆบริษัทฯ ดังนั้น หากย้ายการปรับเงินเดือนออกไป จะทำให้ การทำงานทางด้านการประเมินผลงานนั้น ดีขึ้น และ รัดกุมมากยิ่งขึ้น

และแน่นอนที่สุด บริษัทฯ ก็จะได้รับการยกย่องว่า ได้จัดการระบบงานต่างๆ ได้อย่างลงตัว... มันดูเป็นกลยุทธ์ที่ได้กันทั่วหน้า แต่ จากจุดนี้ ผมอยากให้เพื่อนๆ ลองคิดกลับไปดูว่า นอกจากการจัดระบบงานได้อย่างลงตัวแล้ว บริษัทฯ จะได้อะไร จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้...

...
“พี่ว่ามันมีจุดบางจุดที่น่าจับตามองเหมือนกันนะ...”

“จุดไหนหรือพี่... เท่าที่พี่บอกมา เจนว่ามันดีออก...”

“แล้วถ้าเขาบอกว่า เงินที่ปรับให้ 1000 บาท เป็นเงินที่รวมเงินที่จะมาเฉลี่ยของ 2 เดือน มาแล้วหละ... เจนจะรู้ได้อย่างไร?”

น้องเจนเงียบไปสักครู่ก่อนจะตอบว่า “เขาคงไม่ทำอย่างนั้นมั๊ง... เขาน่าจะมีใบแจ้งว่าเพิ่มให้เท่าไหร่ แล้ว ปรับแล้วได้เท่าไหร่นะ...”

“แต่พี่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น คนไทยกับต่างชาติ แม้นในเรื่องเดียวกัน ก็คิดต่างกัน ทำต่างกัน เรามาดูกันไม๊ว่า เขาจะแจงรายละเอียดหรือเปล่า...” ผมก็ท้าน้องเขาไปอย่างนั้นเอง ผมไม่ได้ไม่เสียกับบริษัทฯของน้องเขาหรอก...

...
บริษัทฯต่างชาติส่วนใหญ่ จะออกนโยบายต่างๆ จากต่างประเทศเสมอๆ นโยบายต่างชาตินั้น สร้างขึ้นเพื่อควบคุม ลดความขัดแย้ง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่อง ลดค่าใช้จ่าย แล้ว ทำให้ดูเหมือนพนักงานจะได้รับอะไรมากขึ้น

เจ้านายที่ต่างประเทศมักมีเรื่องอะไรที่ดีๆ แนวคิดดีๆ อย่างนี้มาเสมอๆ ทำให้ผมได้มีแนวความคิดเหล่านี้สะสมไว้เช่นกัน แต่เวลาที่เขาออกนโยบายอะไรออกมาที ผมต้องคิดหลายๆแง่ ว่าเขาได้อะไร และ พนักงานได้อะไร จนบางครั้งคิดไปแล้ว รู้เลยว่า สิ่งที่พนักงานจะได้รับ มันเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่แฝงด้วยการสูญเสียบางอย่าง ถ้าไม่คิดให้ลึกซึ้งก็จะไม่เห็น

สิ้นเดือนมีนาคม ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นอีก...
“พี่จุง... เขาขึ้นเงินให้เจน เป็นตัวเลขกลมๆ โดยไม่แจ้งอะไรเลยนะ...”

“ลองคิดย้อนกลับไปหรือยังว่า เขาขึ้นให้เจน จริงๆเท่าไหร่” ผมถามให้น้องเขาคิดย้อนกลับไป...

“ลองดูแล้วค่ะ มันเป็นตัวเลขแปลกๆนะพี่ มีเศษสตางค์ด้วย...”

“แล้วลองเทียบตัวเลขที่ได้ เป็นเปอร์เซ็นต์ กับปีที่แล้วหรือยัง...”

“ยังพี่... รอแป๊ปนะ...” แล้วผมก็ได้ยินเสียงกดเครื่องคิดเลข แบบที่ห้องบัญชีเขาใช้กัน “แต๊กๆๆๆๆ”

“ขึ้น 5% เองค่ะ... มากกว่าเดิมนิดเดียวเองงะ...” เสียงเจนรู้สึกว่าจะน้อยใจเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนแล้ว

“มันยังดีกว่า เดิม ก็อาจจะมาจากการปรับให้แล้วก็ได้ แต่เขาก็อาจจะเพิ่มหรือลดให้มันเป็นตัวเลขกลมๆ นะ...”
...

ผู้บริหารคนไทยที่เข้าใจนโยบายของบริษัทฯแม่ไม่ลึกซึ้ง มักจะทำอะไรไม่ค่อยโปร่งใส ไม่กล้าแจกแจง ไม่เดินตามนโยบายที่ต่างชาติให้ทำ แต่ส่วนใหญ่เจ้านายคนไทยจะประเมินผลงานตามความรู้สึกของตนเองเสียส่วนใหญ่ งานนี้ น้องเจนก็โดนความเป็นไทยเล่นงานเช่นกัน ในส่วนตัวแล้ว ผมกลับมองว่า การประกาศโครมๆ เป็นการสร้างกระแสความรู้สึกที่ดีกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่นั่นแหละ เวลาทำจริงๆแล้ว เมื่อไม่โปร่งใส ก็ปิดๆ บังๆ เอาไว้ ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดี แต่ยังไงได้ ก็เรื่องมันก็เกิดเพียงปีเดียว ปีหน้าก็เข้าสู่ระบบทุกอย่าง แล้ว เรื่องนี้ก็จะเงียบไป...

...
“เพื่อนๆ เจนเขาก็บอกว่าได้เท่าเดิมเลยนะพี่...”
“เขาคงผลงานน้อยลงมั๊ง... เจนพอดีมีสายเข้านะ... แค่นี้ก่อนนะ...”
พอดี มีสายเข้ามือถือ...โชคช่วยผมคราวนี้ที่ไม่ต้องหาข้อแก้ตัวแทนเจ้านายของเจน

เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การจะทำอะไรที่มีผลกระทบกับรายได้ หรือ สวัสดิการของพนักงานที่ลดลงนั้น จะทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาเป็นขบวน เจ้านายฝรั่งเขาไม่ค่อยรับรู้เรื่องข้างล่างเท่าไหร่หรอก เพราะ มีคนกันไว้เรียบร้อย ดังนั้น คนที่เก่งทางด้านภาษา จึงเป็นคนที่จะได้เปรียบคนอื่น... อย่าง เจน ที่เก่งทางด้านภาษา ก็เลื่อนตำแหน่งขึ้นเอา ขึ้นเอา แต่นั่นแหละ น้องเจนก็ต้องออกไปช่วยพ่อทำงานแล้วหละในเดือนที่แล้วนี้เอง ตอนเจนไปทำงานกับพ่อใหม่ๆนะ มือถือผมแทบจะต้องซื้อแบตเพื่อสำรองเลย... แบตหมดทุกทีเลย คุยกันทีเป็นชั่วโมงๆ เลย...

“พี่จุง... ทำไงให้พ่อเจนยอมรับเจนซะทีหละ...”
...

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)




[ บทความใน At Office ] - [ บทความใน JobsDB.com ]

[ บทความทั้งหมด ] - [ บทความล่าสุด / สมุดเยี่ยมเยือน ]
Create Date :01 พฤษภาคม 2548 Last Update :24 สิงหาคม 2551 13:13:50 น. Counter : Pageviews. Comments :1