สตอเบอรี่นมสด เป็นสินค้าที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก ดังนั้น ถ้าคุณจะทำการขายให้ได้ดี ต้องสร้างความแตกต่างและมีสูตรที่เฉพาะ เจาะจงถึงจะขายได้ จากที่เห็นคุณในแต่ละกระทู้ ซึ่งคุณทำธุรกิจแบบ ตรงไปตรงมา ทำให้กิจการไปได้ แต่ไม่ได้รุ่ง ดังนั้น ถ้าจะทำตัวนี้ ควรเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่

สตอเบอรี่นมสด = หอม หวานอมเปรี้ยว สีแดง จาก สตอเบอรี่ + ความหวาน จาก แยมสตอเบอรี่ + ความข้น มัน และ สีขาว ของนมสด

ถ้าคุณทำแบบเกาหลี ก็จะแยกส่วนออกจากกัน ทำให้ไม่น่าดึงดูดการซื้อเท่าที่ควร

ถ้าเป็นผม ผมจะเอา แยมสตอเบอรี่ ไปละลาย เพิ่มเกลือ + น้ำเลมอน (น้ำมะนาวก็ได้แต่เปรี้ยวโดด) หรือ น้ำบ๊วย ... เล็กน้อย เพื่อสร้างรสชาติให้เป็นเอกลักษณ์ เอาแยมที่ได้บางส่วน ไปผสมกับ นมสด และ ปั่นให้เข้ากัน เพื่อสร้างสีของผมเป็นสีชมพู และ มีรสชาติที่ดีขึ้น จากนั้น ค่อย เอาแยม+สตอเบอรี ใส่ใต้ขวด และ เทนมสดที่ผสมแล้ว ใส่ตาม  คุณจะได้ สตอเบอรี่นมสด ที่ สีของนมเป็นสีชมพู

ราคาของแต่ละอย่าง คุณต้องหาราคากันเองว่า ค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างราคาเท่าไหร่
สินค้าตัวนี้ ต้องแช่ตู้เย็น ต้องใช้แก๊ส น้ำล้างขวด และ ลวกด้วยน้ำก่อนบรรจุ และ ต้นทุนส่วนผสมอีกหลายอย่าง...

การตั้งราคาขาย ผมแนะนำว่า ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น ถ้าคุณขายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, Emporium หรือ กลุ่มเป้าหมาย ที่มีการใช้จ่า่ยสูง ก็จะราคาแพงกว่าต้นทุนประมาณ 4-5 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นกับ รสชาด และ ภาพลักษณ์ ที่คุณสร้างขึ้นมากด้วย การผลิตอาจจะน้อย ขายน้อย แต่ กำไรต่อขวดมาก คุณอาจจะติดต่อไปส่ง ซึ่งกำไรก็จะลดลงอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้หน้าร้านได้กำไรค่อนข้างสูง เขาถึงรับฝากขายให้คุณ

แต่ถ้าขายผ่านช่องทางการขาย ร้านสะดวกซื้อ คุณก็อาจจะทำราคาได้ไม่มาก เพราะ พวกนี้จะกดราคาให้อยู่ในขอบเขตที่เขากำหนด ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้เท่าไหร่ มีแต่ลดราคาเพื่อให้ลูกค้าซื้อ คุณอาจจะต้องโฆษณาผ่านสื่อให้มากขึ้นเอง เพื่อสร้างความต้องการเข้าร้านสะดวกซื้อนั้นๆ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ดูจากกระทู้ผมว่า คุณคงไม่เลือกเส้นทางนี้ แต่ก็ขออธิบายเอาไว้

ถ้าคุณคิดจะขายส่ง หรือ ขายที่ตลาด คุณจะได้กำไร มากที่สุด 1 เท่าตัว หรือ ไม่ถึง เพราะ ตลาดจะเป็นแหล่งของสินค้าราคาที่ยอมรับได้

ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ขึ้นอยู่กับการเลือกดำเนินการของคุณ ผมบอกไม่ได้ว่า มันจะดีหรือไม่ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและทิศทางการขายของคุณว่า เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกับสินค้า และ ราคาของคุณมากแค่ไหน

แต่ในช่วงวิกฤติ แบบนี้ ผมเกรงว่า จำนวนกลุ่มเป้าหมายของคุณ อาจจะมีน้อยถึงน้อยมาก ซึ่งอาจจะต้องใช้ Online มากขึ้น ถึงจะมีโอกาสขายได้