bloggang.com mainmenu search
อนงค์ จันทร








ตอนนี้ไปไหนใครๆ ก็เรียกว่า "เมฆ" หรือ "คุณธรรณ" สำหรับพระเอกหนุ่ม "มาริโอ้ เมาเร่อ" โดยมีผลมาจากละคร"สองหัวใจนี้เพื่อเธอ" ช่อง 3 ที่จับคู่จิ้นนางเอก "มิ้นต์"ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง จนแฟนๆ ฟิน

เพราะฮอตฮิตติดลมบนขนาดนี้ เลยไม่พลาดจับเข่าพูดคุย


ช่วงนี้กระแสละคร"สองหัวใจนี้เพื่อเธอ" เป็นยังไงบ้าง?

มาริโอ้ -"ดีครับ แฟนๆ บอกสนุก ชอบเมฆ แต่ไม่ชอบคุณธรรณ เขาบอกคุณธรรณดุ การที่ได้มาเล่นสองบุคลิกมันเป็นการท้าทายตัวเอง เวลาเล่นบางครั้งก็ต้องเปลี่ยนเป็นอีกบุคลิกในเวลานั้นเลย แล้วต้องเปลี่ยนให้ชัดด้วย ส่วนตัวผมว่าบทของเมฆจะสบายกว่า เพราะมีแต่ความคิดถึง คุณแก้ว(มิ้นต์) แต่บทธรรณจะเครียดกว่า เพราะมีเรื่องราวเยอะกว่า"


ได้มาเล่นคู่ มิ้นต์-ชาลิดา ทำให้เกิดคู่จิ้นคู่ใหม่?

มาริโอ้ -"ต้องขอบคุณแฟนๆ ละครครับ เราก็ดีใจ ทำละครถ่ายกันมาเหนื่อย ขอบคุณพี่ชุ-ชุดาภา พี่ก้อง-ปิยะ และทีมงานทุกคน และขอบคุณคนดูที่สนับสนุนครับ"


เพราะโอ้เป็นแรงผลักดัน เลยทำให้มิ้นต์ดังมากขึ้น?

มาริโอ้ -"ไม่เลยครับ น้องมิ้นต์เขาเก่ง น่ารัก และเต็มที่กับทุกงานที่ทำ อย่างเรื่องนี้เขาได้โชว์ความสามารถ ได้เล่นหลายบทบาท ต้องรับบทหนัก ต้องเป็นหน่วยกู้ภัย ดีใจที่ได้เล่นกับน้องมิ้นต์ ส่วนใหญ่ที่บอกว่าโอ้ไปดันมิ้นต์ ไม่ใช่นะ เพราะผมยืนเฉยๆ แต่มิ้นคือทั้งกู้ภัย ช่วยคน เขาเต็มที่มากๆ"


เห็นว่ามิ้นต์ก็ได้แฟนคลับจีนจากโอ้มาด้วย?

มาริโอ้ -"ก็ดีใจครับ ที่น้องมิ้นต์มีแฟนคลับเพิ่ม เพราะเราเองก็มีเพิ่มขึ้นด้วย และมีคนที่ชื่นชอบมากขึ้น จริงๆ ก็ต่างคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ต่างคนต่างซัพพอร์ตกัน ผมว่าละครเรื่องนึงมันจะดีได้ไม่ใช่แค่คนเดียว ต้องขอบคุณหลายคน"


นอกจากเรื่องนี้ มีงานอะไรอีกบ้าง?

มาริโอ้ -"ตอนนี้ก็มีถ่ายหนังเรื่อง Take me home ของพี่โขม-ก้องเกียรติ เล่นกับวิว-วรรณรท เป็นหนังผีสยอง ที่รับเรื่องนี้เพราะอยากเล่นหนังกับพี่โขม พอได้อ่านบทก็รู้สึกว่าอยากเล่น และมีละครเรื่อง บัลลังก์ดอกไม้ เรื่องนี้เล่นคู่กับ เต้ย-จรินทร์พร ซึ่งไม่เคยเจอกันเลย เรื่องนี้เล่นเป็นผู้ชายเอาแต่ใจ แล้วโดนนางเอกจับไปทารุณ ซึ่งเป็นบทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน"


ปีนี้รับงานในไทยเยอะขึ้นหรือเปล่า?

มาริโอ้ -"ผมเน้นงานในไทยอยู่แล้ว ช่วงก่อนหน้านี้ที่เห็นบินไปจีนบ่อยๆ เพราะได้ถ่ายหนังสั้นของ ททท. ไปโปรโมตการท่องเที่ยว เอาวัฒนธรรมไทยไปให้คนจีนมาเที่ยวเมืองไทย เพราะโอ้มีฐานแฟนคลับที่จีน แต่ช่วงนี้ที่ไม่ได้ไปเพราะคิดถึงละคร และอยากเล่นหนังด้วย ที่จีนก็มีงาน แต่เราต้องรับงานที่ไทยไว้ก่อน เพราะที่โน่นยังไม่ชัวร์เรื่องคิว"


ตอนนี้ฐานแฟนคลับจีนเป็นอย่างไรบ้าง?

มาริโอ้ -"ก็ดีครับ ตอนนี้ฐานแฟนคลับจีนเพิ่มขึ้น เพราะโอ้เล่น เว่ยป๋อ กับพวกเขา แล้วเวลาเราไปก็จะมีงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ไปเจอเขา เราไปงาน เสิ่นเจิ้น เกมส์โชว์ เอาของเล่นไปขาย เอาเสื้อผ้าที่เป็นแบรนด์ของโอ้ไปขายที่โน่น

เป็นธุรกิจที่ทำมาสักพักแล้ว ชื่อแบรนด์ 8DEUCE8 ตอนนี้ออกมาเป็นเสื้ออย่างเดียว ต่อไปจะมีหมวก และของเล่นที่เป็นโมเดล เริ่มเปิดตลาดที่จีนก่อน โดยจะขายผ่านเว็บ ส่วนในไทยอีกไม่นานจะมีเข้ามาขาย"


เรามีวิธีรักษาฐานแฟนคลับอย่างไร?

มาริโอ้ -"ส่วนใหญ่เราก็ให้ความน่ารักเป็นกันเอง และจริงใจกับเขา ถามว่าแฟนคลับเยอะชีวิตส่วนตัวหายไปไหม คือมันอาจจะขาดความเป็นส่วนตัว แต่โอ้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เราได้รู้ว่าเขาก็ชื่นชอบและติดตามเรา"


ทำงานในวงการมากี่ปีแล้ว?

มาริโอ้ -"9 ปีครับ ที่ผ่านมาก็โอเค ได้เรียนรู้อะไรเยอะ ทั้งเรื่องของบทบาทต่างๆ เรื่องการรับผิดชอบ แล้วเราก็ต้องดูแลตัวเองด้วย และถ้าถามถึง 9 ปีในวงการกับฝีมือของเรา โอ้ว่ามันค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ ได้มีการเรียนรู้อยู่ตลอด สำหรับสัญญากับช่อง 3 เพิ่งต่อไปอีก 5 ปีครับ"


ตอนนี้ดาราเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ทำอย่างไรให้อยู่วงการนี้นานๆ?

มาริโอ้ -"เรา พยายามรักษาคุณภาพไว้ ผมเรียนรู้มาจากพี่ๆ ผู้ใหญ่ที่นับถือ เขาบอกว่าถ้าอยากจะอยู่วงการให้นานต้องรักและเห็นคุณค่าของงานที่ทำ ให้ความเคารพกับงานที่เราทำด้วย งานตรงนี้มันมีเกียรติ และเป็นงานที่สอนคนได้ด้วย เราแปลตัวหนังสือให้ออกมามีชีวิต

ตัวละครที่เล่นมันมีทั้งด้านบวกด้านลบ แต่สุดท้ายมันก็สะท้อนให้คนดูได้เห็นว่าถ้าเราทำอย่างนี้ผลลัพธ์ที่ได้กลับ มามันจะเป็นอย่างไร ละครมันเป็นกระจกสะท้อนให้เรากลับมาดูตัวเอง ซึ่งผมคิดว่านี่คือคุณค่าของงานตรงนี้"


เกณฑ์ในการรับละครที่เล่นเป็นอย่างไร?

มาริโอ้ -"เลือกบทที่ไม่เคยเล่น อะไรที่แปลกท้าทายเราก็รับเล่น อะไรที่คิดว่าไม่ไหวก็ไม่รับ โอ้ไม่ค่อยรับละครพร้อมกัน 2 เรื่อง เพราะมันแน่นไป เราเองจะไม่ไหว แล้วไม่สนุก ถ้าเป็นไปได้อาทิตย์นึงอยากมีวันหยุดสัก 1 วัน เพราะชีวิตคนเราก็มีสิ่งอื่นๆ ต้องทำบ้าง"


หลายคนบอกว่าอายุเท่านี้ยังไหวก็ทำงานไปก่อน เพราะเลยตรงนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้ทำอีก?

มาริโอ้ -"ทำ เยอะเกินไปก็ไม่ไหว สุดท้ายมีแต่เงิน มีทุกอย่าง แต่ชีวิตไม่มีความสุขมันก็มีนะ ถ้าเรารวยล้นฟ้า แต่สุขภาพเราไม่ดี มันก็ไม่มีค่า เงินทั้งหมดที่มี เรามีมารักษาตัวเราเอง ถ้าอย่างนี้ทำเท่าที่ไหว และต้องพักผ่อนเพื่อให้รางวัลตัวเองด้วยครับ"


คิดว่าวงการเริ่มอยู่ยากขึ้นไหม หลังโซเชี่ยลเข้ามามีบทบาทมากในปัจจุบัน?

มาริโอ้ -"อาจ จะยากขึ้นนิดนึง แต่สุดท้ายก็ต้องไม่เครียด เวลาเสร็จงานออกกำลังกายปลดปล่อยตัวเองบ้าง ส่วนที่ว่าไปไหนก็โดนจับตา แถมทุกคนมีมือถือถ่ายรูปเราได้ตลอดมันทำให้เราต้องระวังตัวเยอะขึ้นไหม

คือผมว่าเดี๋ยวนี้อะไรมันก็เร็วไปหมด ผมคิดว่าคนที่บริโภคสื่อก็ต้องระวังด้วย เพราะเดี๋ยวนี้ข่าวมันก็ปลอมเยอะ ต้องกรองข่าวให้ดี ไม่ใช่ว่าฟังแล้วเชื่อทันที ต้องชั่งใจก่อนที่จะไปตัดสินใคร"


คนจะเห็นโอ้แต่มุมที่เป็นหนุ่มอารมณ์ดี แต่ถ้าเครียดหรือโมโหแล้วต้องออกมาเจอแฟนคลับแบบเลี่ยงไม่ได้ เราจะทำอย่างไร?

มาริโอ้ -"ผม เคยมีเหตุการณ์แบบนี้นะ ซึ่งตรงนี้ผมได้จากพี่ นก-จริยา พี่เขาจะบอกว่าเวลาทำงานเขาจะต้องเอาเรื่องส่วนตัววางไว้ก่อน เราต้องทำให้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยาก แต่มันก็ทำได้ ถามว่ามีหลุดบ้างไหม มันก็มี แต่ว่าเวลาทำงาน เราก็ต้องโฟกัสกับงาน ถ้าเราต้องออกไปเจอแฟนคลับ

ณ ตอนนั้นจริงๆ เราต้องใจเย็นๆ อย่าเครียดเกินไป เพราะถ้าเครียดเกินไปมันก็ส่งผลกับตัวเราเอง แล้วถ้าเราตัดไม่ได้ แล้วเราไปใส่แฟนคลับ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ สู้ไม่พูดอะไรแล้วเราเดินออกไปเลยดีกว่า ไม่ให้เขามานั่งเครียดกับเรา เขาไม่ใช่คนที่ผิด เขาแฮปปี้ที่ได้เจอเรา แต่กลายเป็นเราต่างหากที่ยังไม่พร้อมเจอใคร มันต้องมีวิธีที่จะออกจากตรงนั้น พูดตรงๆ ดีกว่าที่จะเดินหนี"


เป้าหมายกับงานในวงการบันเทิง เราอยากไปถึงจุดไหน?

มาริโอ้ -"ทำ ไปเรื่อยๆ อยากทำให้ครอบครัว สร้างบ้านให้ครอบครัว และเก็บเงินพาแม่ไปเที่ยวรอบโลก จริงๆ ตอนนี้ก็พาไปเที่ยวรอบโลกได้แล้ว แต่แม่บอกว่ารอให้โอ้เรียนปริญญาโทจบก่อน ซึ่งปริญญาตรีกำลังจะจบปีนี้ แล้วต่อโทเลย"


ไม่ปิดบังรัก-ศึกษาดูใจ"จันจิ"

สํา หรับความรักของหนุ่มหล่อ "มาริโอ้ เมาเร่อ" ที่คบหาอยู่กับนักแสดงสาว "จันจิ"จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย เจ้าตัวเปิดใจว่า"เรื่องความรักผมไม่ได้รีบเร่ง เพราะเราเป็นวัยที่ทำงาน ยังไม่ถึงกับว่าต้องออกมาประกาศ ก็บอกเท่าที่เราแฮปปี้ เท่าที่เราพร้อม"

โดยมาริโอ้ยอมรับว่า กับสาว "จันจิ" คือคนที่กำลังศึกษาอยู่

"เวลา ที่จะไปไหนกับน้อง ผมไม่กดดันเลย เพราะผมก็บอกไปแล้วว่าคบหาดูใจ ศึกษากันอยู่ ฉะนั้นไปไหนผมไม่ปิดบัง ผมไปปกติไม่ได้ปิดหน้าไปเดินไป ผมจะไปกินข้าวก็ไป ถ้าผมจะมีชีวิตส่วนตัวไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ ยอมรับว่าเรามาอยู่ตรงนี้ ชีวิตส่วนตัวเราต้องเปิดเผย

แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีชีวิตส่วนตัวเลย ไม่อย่างนั้นผมก็จะไม่มีความสุข ไม่อย่างนั้นผมก็จะไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเอง เหมือนปิดกั้นตัวเอง ดังนั้นจะไปไหนเราก็ไป พาเขาไปเดินเล่นผมก็ไป ไม่ซีเรียส เพราะเราบอกไปแล้วไม่ได้ปิด

ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีกับการที่เราได้มีความรัก แล้วการศึกษาการทำความรู้จักกันมันเป็นสิ่งที่ดี อนาคตจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ แต่วันนี้เรามีความสุขก็โอเคแล้วครับ"


ไปถูกใจอะไรในตัว "จันจิ" พระเอกหนุ่มตอบ"น้องเขาน่ารัก มีโอกาสเราก็ทำความรู้จักมันก็ดีครับ"

สุดท้ายถามถึงมุมมองความรักว่าเป็นอย่างไรบ้าง มาริโอ้กล่าวว่า"ความรักเป็นสิ่งที่ดีครับ ความรักมันมีหลายแง่มุม แล้วมันทำให้คนเรามีพลัง แต่โอ้ก็ยังไม่เคยคิดว่าจะต้องแต่งงานอายุเท่าไร ตอนนี้ก็ไปเรื่อยๆ ครับ"



ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

จันทรวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date :09 พฤศจิกายน 2558 Last Update :9 พฤศจิกายน 2558 10:40:15 น. Counter : 1291 Pageviews. Comments :0