bloggang.com mainmenu search

อีกแล้ว! โวยนักท่องเที่ยวจีนจับปะการัง-หอยมือเสือถ่ายรูปโชว์ที่ภูเก็ต เหตุ “เกาหลี-จีน” รวมหัวเปิดธุรกิจนำเที่ยวเถื่อน
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น อีกแล้ว! โวยนักท่องเที่ยวจีนจับปะการัง-หอยมือเสือถ่ายรูปโชว์ที่ภูเก็ต เหตุ “เกาหลี-จีน” รวมหัวเปิดธุรกิจนำเที่ยวเถื่อน
จากกรณีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ออกมาเปิดเผยถึงเหตุการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาตินำปะการังและหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ขึ้นมาถ่ายรูปกันในทะเล ในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต

“เมื่อสายๆ วานนี้มีพรรคพวกได้ส่งรูปถ่ายของแพลอยน้ำที่ต่อขึ้นเลียนแบบเรือคาตามาลัน (ปกติคาตามาลันเขาไม่ต่อกันเน่าๆแบบนี้)...เรือพวกนี้มีเพื่อบริการกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยมีชาวเกาหลีเป็นเจ้าของธุรกิจ..เป็นเรือที่ต่อขึ้นมาคู่กัน 2 ลำ ชื่อจุนยอง และจูจา ต่อออกมาแบบเดียวกันเป๊ะ..และคงมีพฤติกรรมบริการนักท่องเที่ยวแบบถึงอกถึงใจเข้าถึงธรรมชาติ(ในแบบที่มันคิด)เหมือนกัน...

       ทั้งปะการัง..ทั้งหอยมือเสือที่มันจับขึ้นมาตายนั้น..เป็นสัตว์ที่ได้รับความคุ้มครองตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าทั้งสิ้น ขนาดคนไทยทำเองยังฟ้องเอาผิดตามกฎหมายได้ แต่นี่เป็นธุรกิจของชาวต่างด้าว เปิดบริการเพื่อชาวต่างด้าว โดยใช้ทรัพยากรบ้านเรา แต่รายได้ส่งกลับประเทศมัน....”
ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า @Jirapong Jeewarongkakul ระบุ พร้อมโพสต์ภาพเป็นหลักฐาน

       ต่อมาเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ก.พ. เฟซบุ๊กเพจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “กรณีเรือท่องเที่ยวนำหอยมือเสือและปะการังมาถ่ายรูป ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อเรื่องนักท่องเที่ยวนำปะการังและหอยมือเสือขึ้นมาถ่ายรูปกันในทะเลภูเก็ตนั้น ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 กรม ทช. โดยศูนย์อนุรักษ์ ทช. ที่๕ (ภูเก็ต) ได้นำเรือ ทช. 220 ลงพื้นที่หาข่าว ทราบว่าเป็นเรือยุนจา ทะเบียน 008625751 ลอยลำบริเวณทิศตะวันตกของเกาะเฮ จึงเข้าตรวจสอบพบกัปตันเรือเป็นคนไทย ส่วนมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวมีสัญชาติจีน ตรวจสอบในเรือและบริเวณโดยรอบไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย จึงได้ทำความเข้าใจกับกัปตัน และแจ้งมัคคุเทศก์เรื่องการกระทำผิดกรณีท่องเที่ยวและดำน้ำในทะเลไทย พร้อมให้เอกสารและติดป้ายประชาสัมพันธ์ในเรือ ส่วนเรื่องไม่มีเอกสารและบุคคลแสดงตัวเป็นมัคคุเทศก์ชาวไทย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และจนท.ศูนย์ฯ ไม่ได้รับมอบอำนาจในการจับกุม จึงได้แจ้งกับสำนักทะเบียนฯ และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป”
Create Date :09 กุมภาพันธ์ 2558 Last Update :9 กุมภาพันธ์ 2558 22:29:30 น. Counter : 1222 Pageviews. Comments :0