คมชัดลึก : ช่วงนี้หันไปทางไหน ก็เห็นเวทีประกวดนางงามคึกคักกันใหญ่ สาวๆ หลายต่อหลายคน ต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะได้มีโอกาสงัดเอาความสวยความงามของตนเอง มาประกวดประชันกันทั้งนั้น และขั้นต่อไปหลังจากนั้น เชื่อว่าเป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ


หลายคนที่เข้ามาประกวด นั่นก็คือการได้เข้ามาชิมลางงานในวงการบันเทิง ซึ่งตอนนี้หากมองให้ดี นางเอก นางร้าย บนหน้าจอทีวี ก็ล้วนแล้วแต่มีดีกรีความงามติดตัวกันมาทั้งนั้น ถ้ายังความจำสั้น จำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร งั้นไปย้อนความทรงจำกันดูไหมเออ...



เวทีแรกสำหรับสาววัยใส กับ เวที มิสทีนไทยแลนด์ ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นเวทีที่สร้างดาวมาประดับวงการบันเทิงหลายต่อหลายคน แต่จะไม่ขอย้อนไปไกลนัก เอาแค่ 5 ปีที่ผ่านมา จำได้ไหมว่า "เกรซ" กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ก็คว้าตำแหน่ง มิสทีนไทยแลนด์ 2004 ไปครอง ก่อนจะมาโลดแล่นอยู่หน้าจอ กับบทนางร้ายและนางเอกสลับกันไป

ส่วน "ไอซ์" อธิชนัน ศรีเสวก เจ้าของตำแหน่งปี 2005 ก็ตามมามีผลงาน ทั้ง บ่วงหงส์ หัวใจไร้มลพิษ ก่อนจะแจ้งเกิดจังๆ กับบทนางร้าย ใน รอยรักรอยบาป ออกสตาร์ทมีงานช้าสักหน่อย แต่ชัวร์ป้าบนะคะท่านผู้ชม

มาถึงเจ้าของตำแหน่ง มิสทีนไทยแลนด์ 2006 กับหนู "เอมี่" อาเมเรีย จาคอป ที่โด่งดังกับบทลูกลิงค่อกๆ ใน "ธิดาวานร" จนตอนนี้กำลังมีภาคสองออกมาอาละวาดแล้ว



แต่รองอันดับ 1 ในปีนี้เขาก็ใช่ย่อย เพราะตอนนี้ "มิน" พีชญา วัฒนามนตรี ก็แจ้งเกิดนิ่มๆ กับบท "เอื้อย-อ้าย" ในละครพื้นบ้าน "ปลาบู่ทอง" แถมควงสองกับบทนางเอกหนังเรื่อง "อินเลิฟ ด้วยรัก" ดวงดังชักส่องแสงซะแล้ว ซึ่งในเรื่องเดียวกันนี้ ยังมี "น้องมะนาว" ศรศิลป์ มณีวรรณ ที่มีตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ 2008 การันตีความน่ารัก ร่วมแสดงด้วย ร่วมด้วยช่วยกันจริงจริ๊ง

ก้าวมาถึงรุ่นใหญ่กว่า กับเวที มิสไทยแลนด์เวิลด์ ที่หลังๆ นางงามเวทีนี้ มักจะโดนข่าวในทำนองไม่ค่อยดีนัก บางคนถึงขั้นต้องสละสิทธิ์ให้รองอันดับ 1 ไปทำหน้าที่ประกวดที่ต่างแดนแทน แต่ถึงยังไง ความงามของสาวเวทีนี้ ก็ไม่แพ้เวทีไหนๆ อย่างนางร้ายคนสวยที่ชื่อ "มิ้ม" อัมราภัสร์ จุลกะเศียน ที่มีผลงานโดนใจไปหลายเรื่อง ล่าสุดกับ "จำเลยกามเทพ" ก็มีตำแหน่งเป็น รองมิสไทยแลนด์เวิลด์อันดับ 1 ปี 2007 การันตีเหมือนกัน




แต่เวทีที่สร้างทั้งนางเอกนางร้ายให้เกลื่อนจออยู่ในเวลานี้ คงปฏิเสธไม่ได้กับเวที มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ที่แจ้งเกิดมาแล้วหลายรุ่น อย่างเอาคุ้นๆ ตาหน่อย ก็ "เอมมี่" มรกต กิตติสาระ เจ้าของตำแหน่ง มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2547 เวลานี้เธอเล่นได้ทั้งบทร้ายบทดี แล้วแต่เจ้าแม่ 7 สีจะกรุณา

ส่วนขวัญใจช่างภาพ ปี 2548 อย่าง "นก" อุษณีย์ วัฒฐานะ ตอนนี้ไม่ว่าจะมีความรักกับหนุ่มคนไหน ก็ตกเป็นข่าวไปซะหมด ฝีมือเล่นละครรึก็บดขยี้อารมณ์ได้ ไม่เป็นรองใครเชียวแหละ

แต่ที่อาจจะน้อยใจช่องที่ป้อนงานให้น้อยไปหน่อย จนต้องย้ายไปอยู่วิกตรงข้าม "น้องชาม" ไอยวริญท์ โอสถานนท์ เจ้าของตำแหน่ง มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2549 เดิมทีอยู่กับช่อง 7 ที่เก่า ก็ใช่ว่าผลงานจะไม่เข้าตากรรมการ กับละคร พลิกฟ้าล่าตะวัน ส่วน ฟ้าให้เรามารักกัน ที่จนป่านนี้ไม่ได้ออนแอร์ มันก็แค่ไปเล่นผิดที่ผิดค่าย ก็เลยถูกดองตายอยู่ในโหลเป็นเรื่องธรรมดา คิก...คิก



โดนติงตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2550 ว่าเป็นนางงามพลาสติกจนน่าน้อยใจแทน แต่ "กวาง" ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ก็มั่นใจเกิดได้ในละครเรื่อง เสาร์ ๕ ของ อาหลอง (ฉลอง ภักดีวิจิตร) งานนี้ยังจูงมือเอา "แก้ม" กวินตรา โพธิจักร มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2551 มาเป็นนางเอกประกบติดในเรื่องเดียวกัน ชอบสไตล์ไหนนั้นก็ตัดสินกันเอาเอง



แต่ที่เข้าตาเจ้าแม่ 7 สีอย่างจัง แม้ว่าจะมีดีกรีเป็นแค่รองอันดับ 2 ปี 2551 "กระติ๊บ" ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล แต่เธอก็ได้รับความการุณจากผู้ใหญ่ป้อนงานให้อย่างต่อเนื่อง แต่บางกระแสก็บอกว่าที่เธองานเฟื่อง เพราะโชคดีที่หน้าไปเหมือนนางเอก "แพนเค้ก" เขมนิจ ก็นานาจิตตังล่ะค่า

จะนางงามมาเป็นดารา หรือดารามาเป็นนางงาม ยังไงก็อย่าลืมงามแบบหญิงไทย งามด้วยใจใช่ใบหน้าด้วยล่ะ รับรองว่าจะยิ่งเพอร์เฟกท์ สเปกทู้ก...กคน

ที่มา
//www.komchadluek.net