เสร็จสิ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส ๒๐๐๗” ที่เราได้ทราบผลกันไปตั้งแต่เมื่อเช้าวันอังคารที่ ๒๙ พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่าสาวงามผู้สามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไปครองคือนางงามจากแดนอาทิตย์อุทัย นามว่า “ริโย โมริ” สาวสวยหุ่นนางแบบวัย ๒๐ ปี ส่วนสูง ๑๗๔ เซนติเมตร ผู้ฝ่าด่านสาวงามจากกว่า ๗๖ ประเทศทั่วโลกคว้ามงกุฎมิกิโมโต้กลับไปยังถิ่นกำเนิดได้เป็นผลสำเร็จ


“ริโย โมริ” เป็นอีกหนึ่งสาวตัวเก็งที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงมาตลอดการประกวด ด้วยบุคลิกที่มาดมั่นสมกับเป็นสาวญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ผสมผสานความงามแบบสาวญี่ปุ่นบวกกับความทันสมัยในแบบสากลเข้าไปด้วยกัน จนทำให้เธอโดดเด่นในทุกรอบการแข่งขัน แต่นอกเหนือจากความงามที่เธอมีอยู่เพียบพร้อมแล้วนั่น เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในการประกวดครั้งนี้ก็คือ “ทีมงาน” ที่รวมตัวกันเป็น “ทีมเวิร์ค” ที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เธอสามารถก้าวมายืนในจุดสูงสุดบนเวทีนี้กลายเป็นมิสยูนิเวิร์สคนที่ ๒ ของชาวญี่ปุ่น นับจากที่ต้องรอคอยมาเป็นระยะเวลานานกว่า ๔๘ ปี



หากย้อนดูสถิติของสาวงามจากประเทศญี่ปุ่นที่มาประชันความงามบนเวทีมิสยูนิเวิร์สนี้ เป็นที่น่าประหลาดใจว่า นางงามจากประเทศญี่ปุ่นมักจะประสบความล้มเหลวกลับบ้านอยู่เสมอเพราะนางงามญี่ปุ่นตกรอบแรกติดต่อกันมานานเกือบ ๒๐ ปี จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงการประกวดนางงามในประเทศญี่ปุ่นครั้งใหญ่ โดยการนำของ “อินเนส ลิกรอน” ดีไซน์เนอร์สาวชาวฝรั่งเศส ผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นระดับโลก ที่เธอได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาดำรงตำแหน่ง National Director ให้กับกองประกวดมิสเจแปน ยูนิเวิร์ส โดยเธอเริ่มมาทำงานตั้งแต่ช่วงปี ๒๐๐๐ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน กว่าที่กองประกวดจะได้แนวทางในการส่งนางงามไปประกวดในเวทีระดับโลกอย่างเหมาะสม


และด้วยผลของการทุ่มเท ทำให้ในปี ๒๐๐๓ นางงามจากญี่ปุ่นนามว่า “มิยาโกะ มิยาซากิ” สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับที่ 4 บนเวทีมิสยูนิเวิร์สมาครองได้เป็นผลสำเร็จ นับว่าเป็นความสำเร็จก้าวแรกที่ได้มาอย่างเหนือความคาดหมาย แต่การได้ตำแหน่งรองมิสยูนิเวิร์สนั้นยังไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของกองประกวด เพราะฉะนั้น “อินเนส” จึงเดินหน้าต่อไปในการค้นหาสาวงามจากญี่ปุ่นเพื่อเป็นตัวแทนที่เหมาะสมในการประกวดมิสยูนิเวิร์สในปีต่อๆไป


และแล้วในปี ๒๐๐๖ ประเทศญี่ปุ่นก็ได้เข้าใกล้มงกุฎมิสยูนิเวิร์สเข้ามาทุกขณะ เมื่อ “คูราร่า ชิบานะ” นางงามญี่ปุ่นปี ๒๐๐๖ สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ ๑ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งนั้นไปครอง ตอกย้ำความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของทีมผู้จัดการประกวด จนกระทั่งในปีนี้ “ริโย โมริ” ก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นมิสยูนิเวิร์สคนที่ ๕๖ ของโลกได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นความสำเร็จสูงสุดของกองประกวดที่ได้มาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่ปี



กองประกวดมิสเจแปน ยูนิเวิร์สนั้น มีวิธีการคัดสรรสาวงามที่น่าสนใจและควรนำมาเป็นตัวอย่าง กล่าวคือ กองประกวดจะคัดเลือกสาวงามที่ร่อนใบสมัครจากจำนวนนับพันคน ให้เหลือเพียง ๑๑ คนที่จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยเมื่อได้สาวงามทั้ง ๑๑ คนแล้ว กองประกวดจะทำการเก็บตัวเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพรวมทั้งทักษะการเป็นนางงามทุกระเบียดนิ้วให้กับผู้เข้าประกวดอย่างเข้มข้นเป็นเวลานานกว่า ๕ เดือน


โดยกองประกวดจะมองหาสาวงามที่มีข้อบกพร่องน้อยที่สุด เพื่อจะเป็นตัวแทนไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส และเมื่อผ่านการเคี่ยวกรำอย่างหนักจากกองประกวด นางงามทั้ง ๑๑ คน ต่างก็พร้อมในทุกๆด้าน รอเวลาที่กรรมการจะประกาศผลเลือกนางงามคนใดคนหนึ่งเพื่อครองมงกุฎเพียงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วสาวงามที่ผ่านการเจียระไนทุกคน สามารถเลือกใครไปประกวดในระดับโลกได้ทั้งนั้น


เพราะจากวันแรกที่พวกเธอก้าวเข้าสู่กองประกวดจนกระทั่งวันที่พวกเธอประกวดเสร็จสิ่งที่ได้กลับมาคือ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตและเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพราะทุกคนล้วนแล้วได้ก้าวเข้าสู่วงการนางแบบหรือนักแสดงและต่างก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป




บทความโดย.....คุณโมร่า มิสเปรู