bloggang.com mainmenu search


“...หมายเลข 31...” ทันทีที่สิ้นสุดเสียงประกาศของคุณสัญญา คุณากร พิธีกรบนเวที วินาทีนั้นเสมือนว่ายาวนานดั่งชั่วชีวิต ภาพที่เธอเห็นแลดูขาวโพลนไปหมด ทุกอย่างดูเคว้งคว้างและล่องลอย แต่ที่ดูหนักแน่นก็คือมงกุฎบนศีรษะที่ยืนยันว่า น.ส.จันจิรา จันทร์โฉม คือ Miss Thailand Universe ปี 2545!

หลังผ่านค่ำคืนอันแสนมหัศจรรย์คืนนั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเด็กสาวจากพิษณุโลกคนหนึ่ง เรื่องราวชีวิตที่ดำเนินมาอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความรัก ความอบอุ่นอันถูกหล่อหลอมมาจากครอบครัว ต้องกลับกลายมาถูกแต่งแต้มสีสันและเป็นที่จับตาของใครหลายคน


เมื่อ 1 ปีก่อนนิสิตสาวที่ยังพูดจา “ติดเหน่อ” ตามสำเนียงของคนสองแคว “จัน” คือชื่อที่เพื่อน ๆ เรียกขานเธอ ช่วงนั้นเธอก็เป็นแค่เพียงนักศึกษาคนหนึ่งที่มุ่งหวังจะเล่าเรียนในวิชาชีพที่เธอรักเพื่อออกไปประกอบการงานตามความฝันของเธอเท่านั้น แต่เวลาชั่วข้ามคืนที่มาสร้างสีสันให้เด็กสาวพบกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

“จากที่คนเรียก ‘จัน’ เฉย ๆ ก็จะเรียก ‘ลูกจัน’ จะรู้สึกเขิน ๆ ตัวเอง แต่ก็ เออ! ชื่อเราเนอะ หลัง ๆ เริ่มชิน...เมื่อก่อนเนี๊ยเราเดินไปไหนในมหาลัยก็ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้บางทีรุ่นน้องปี 1 เดินผ่าน สักพักก็วิ่งเข้ามาแวะดู แล้วก็วิ่งกลับไป ใช่ โว๊ย! ใช่ เราก็อะไรน้อง คือเมื่อก่อนเดินกับเพื่อนจะไม่มีอะไรอย่างนี้” ‘ลูกจัน’ เล่าถึงความเปลี่ยนแปลง



ความแปลกใหม่ไม่ได้เกิดกับ “ลูกจัน” คนเดียวเท่านั้นเพราะที่บ้านก็ไม่แตกต่างกัน คุณพ่อเจ้าของร้านตัดผมต้องเปลี่ยนจากสรรพนามที่ลูกน้องเรียกขานว่า “เถ้าแก่” มาเป็น “เถ้าแก่นางงาม” คุณแม่ซึ่งขายลอตเตอรี่ที่โรงพัก จนมีตำรวจที่สนิทหลายคน ก็เปลี่ยนมาเรียก “แม่นางงาม” แทนคำว่า “เจ๊” ธรรมดา ๆ นอกจากนี้ยังมี “น้องนางงาม”, “แมวนางงาม” อีกด้วย

“กลับพิษณุโลกทีไรก็จะเขิน ๆ กลับไปทีก็เขินที แต่ก็สนุกดี ถ้าหากพูดถึงครอบครัวจัน เขาก็ยังเห่อเราอยู่ ก็ยังตื่นเต้นอยู่ เวลาที่เราออกงานเขาก็จะตื่นเต้น อย่างเราลงหนังสือ ลงสัมภาษณ์ ออกทีวี เขาก็จะโทรมา แล้วก็จะเก็บหนังสือไว้ให้เพราะบางทีเราก็ไม่ได้อ่าน” Miss Thailand Universe คนปัจจุบันเล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

รางวัลอันทรงค่าที่ลูกจันได้มาจากการเป็น Miss Thailand Universe ไม่ใช่เงินทอง, มงกุฎ, สายสะพาย หรือรถยนต์ แต่มันคือประสบการณ์อันล้ำค่าที่คนอื่นยากจะได้สัมผัส เป็นโอกาสที่ลูกจันบอกว่า “ได้ทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำ” ทั้งการไปประชันความงามกับสาวงามทั่วโลกและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องทำตลอด 1 ปี

“มันเป็นสิ่งที่สูงสุดในชีวิตเพราะเราเป็นตัวแทนของประเทศไปประกวด เป็นใครไม่ภูมิใจบ้างล่ะค่ะ” จันจิราเผยความรู้สึกของการเข้าร่วมประกวด Miss Universe “เวลา 1 เดือนที่เราอยู่ต่างประเทศ มันสั้นนิดเดียวเอง เหมือนไปอยู่แค่วัน-2 วัน ถ้าย้อนเวลาได้ก็อยากจะกลับไปสนุกอีก”



ความสนุกของลูกจันคงจะหมายถึงการได้เพื่อนใหม่ ๆ เพื่อนที่ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน แต่ก็สามารถสื่อเข้าใจถึงกันได้ หมายถึงความทรงจำที่เสมือนความฝันสูงสุดสำหรับคนที่ประกวดนางงามซึ่งอยากจะร่วมประกวดเวทีนี้ทั้งสิ้น หรืออาจจะหมายถึงการได้เรียนรู้ชีวิตอีกแบบหนึ่งที่ไม่ต้องแคร์อะไร แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น

ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานั้น เริ่มจากการขอบคุณสื่อมวลชน การถ่ายแบบ การสัมภาษณ์ตามหนังสือหรือออกรายการต่าง ๆ ร่วมงานของป.ป.ส., มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ฯลฯ ประสบการณ์ที่เธอได้รับก็คือการได้เรียนรู้คนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเอดส์

“ไม่เคยได้ใกล้ชิดคนป่วยโรคเอดส์ใกล้ ๆ ขนาดนั้น พอไปมันทำให้เรามีความคิด มีทรรศนะคติที่ดีขึ้น ตอนแรกจะกลัว อยู่ใกล้ ๆ แล้วขนลุก คือรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีอะไร แต่มันกลัว พอไปคลุกคลี สอบถาม พูดคุยกับเขา ทำให้รู้เขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แค่ร่างกายไม่แข็งแรงเท่านั้นเอง ทำให้เรามองโลกกว้างขึ้นไม่มองโลกแคบ ๆ แล้ว” ลูกจันเปิดใจ

เส้นทางต่อไปของสาวงามคนนี้ก็ไม่แตกต่างจากนางงามรุ่นพี่ ๆ นั่นก็คือการเข้าสู่วงการบันเทิง ตอนนี้ทางช่อง 7 สีส่งละครมาให้เธอได้มีโอกาส “ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ” มา 1 เรื่อง ซึ่งก็ถ่ายทำไปได้กว่า 80%แล้ว ใช้เวลาไปนานกว่า 7 เดือน เป็นอีก 1 ประสบการณ์ที่เธอไม่ลืม



“ตอนแรกก็ไม่อยากเล่นค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่ามันทำไม่ได้ มันไม่เหมือนตัวเรา ตามบทเราจะต้องเป็นคนเรียบร้อย เราก็จะเรียบร้อยได้ไหมเนี่ย ก็ปรึกษาพ่อ-แม่ พี่เหน่ง (PR.ช่อง 7-จะคอยดูแลเธอมาตลอด) ต้องทุ่มเทมาก รู้สึกเครียดนิดหน่อย คิดหลายวันเหมือนกันกว่าจะตัดสินใจเล่น” จันจิราเผยความรู้สึก

เส้นทางบันเทิงของสาวน้อยคนงามคนนี้จะไปถึงไหน...ไม่มีใครสามารถตอบได้ แต่เส้นทางชีวิตที่เธอเดินมาถึงวันนี้ ถือว่าสะสมประสบการณ์ที่หลาย ๆ คนอยากจะสัมผัสแต่ไม่มีโอกาสไว้เพียบ ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดำรงตำแหน่งเป็น Miss Thailand Universe ด้วย แต่ถ้าคืนนั้นผลการประกาศจะออกมาในด้านตรงข้าม....

“ตอนนี้ก็อาจจะไปเรียน เดินต๊อกต๋อยอยู่ในมหาวิทยาลัย ไม่มีอะไร เราอาจจะมีประกวดเวทีอื่นไปเรื่อย ๆ จริง ๆ แล้วที่ได้ตำแหน่งเป็นเพราะดวงด้วย ถ้าหากว่าเรามาสมัครปีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ปีที่แล้วอาจจะไม่ได้ แต่ถ้าพูดไปแล้วปีนี้ ก็น่าสนใจนะ ถ้าเลือกได้ก็อยากจะสมัครอีกรอบ” ลูกจันพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเสริมว่า


“เหตุผลที่อยากประกวดอีกรอบหรือคะ คืออยากได้รถ Camry ค่ะ แล้วก็พอได้ตำแหน่งปุ๊ป ก็จะมีแต่คนสนใจเรา จะหน้าตาอิดโรย จะไม่สวยยังไง เขาต้องถ่ายรูปเรา สัมภาษณ์เรา ก็สนุกดีนะ มีแต่คนสนใจ บางทีก็คิดว่าพอเราหมดตำแหน่งปุ๊บ มีนางงามมาใหม่ เราก็เงียบไม่มีอะไรทำ มันก็จะรู้สึกเหงา ๆ”



วันที่เธอจะ “หมดตำแหน่ง” กำลังจะเดินทางมาถึงในอีกไม่ช้า ชีวิตหลังจากนี้คือชีวิตที่เธอต้องเดินเองโดยที่ไม่มีตำแหน่ง Miss Thailand Universe ก้าวเดินไปพร้อมกับเธออีกแล้ว แต่จะมีเพียงความฝันที่เป็นเสมือนพลังให้เธอก้าวเดินเพื่อบันทึกเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตของเธอต่อไป

“หมดตำแหน่งปุ๊บก็จะกลับไปเรียนอย่างเดิมเพราะเราชอบทางด้านนี้ นักวิจัยคือความใฝ่ฝันที่อยากทำตั้งแต่เด็ก แต่พอมาอยู่ตรงนี้ ได้ทำในสิ่งใหม่ ๆ ก็ทำให้เรามีความรู้หลาย ๆ แขนง ก็อยากจะมีผลงานทางด้านบันเทิงตลอดไป รู้สึกอยากจะทำทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกัน คือโลภว่าอย่างนั้น” ลูกจันพูดถึงอนาคตพร้อมกับหยอดมุขตลก


ถึงวันนี้ VCD ที่อัดไว้ตอนได้รับตำแหน่งก็ยังเป็นสิ่งที่เธอนำมาเปิดดูอยู่บ่อยครั้ง เหตุผลของสาวงามจากเมืองสองแควคนนี้ก็คือ “บางทีรู้สึกเหนื่อยกับงาน ท้อกับทุก ๆ สิ่ง ไม่อยากทำอะไรแล้ว ก็จะเปิดดู มันทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจ เราทำได้นะ ดูวินาทีตรงนั้นทีไรจะรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ฮึดสู้มากขึ้น อยากทำงานมากขึ้น”


วินาทีนั้นอาจจะเป็นวินาทีที่ลูกจันตื่นเต้นที่สุดในชีวิต เป็นวินาทีที่เธอจะจดจำต่อไปไม่มีลืมเลือน เป็นวินาทีที่ทำให้เธอมีความทรงจำมากมาย หลังจากนี้ไป ไม่รู้ว่าจะมีวินาทีไหนอีกที่จะมีอิทธิพลกับชีวิตของเธอ แต่ 1 ปีที่ผ่านมานี้ถือได้ว่าเป็น 1 ช่วงชีวิตที่มหัศจรรย์ของเธอ...จันจิรา จันทร์โฉม
Create Date :13 ตุลาคม 2548 Last Update :13 ตุลาคม 2548 12:27:59 น. Counter : Pageviews. Comments :7