ขอแสดงความยินดี และต้อนรับดาวดวงใหม่ บนเวทีสู่ฝัน การประกวด ''มิสทีน ไทยแลนด์ 2010 บาย ซูซูกิ เจลาโต้'' ที่มาจาก 1 ในสามพันกว่าคนจากทั่วประเทศ แต่แล้วก็สามารถคว้า ตำแหน่ง ''มิสทีนไทยแลนด์ 2010'' ไปครอบครองได้อย่างภาคภูมิใจ สำหรับ ''น้องฮาน่า'' ฮาน่า ลีวิส สาวลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ วัย 18 ปี ที่โชว์ความสวยน่ารักสมวัย พร้อมด้วยความสามารถ จนโดดเด่น คว้ารางวัลอันทรงเกียรติไปอย่างสง่างามหลังจากที่ได้รู้กันทั้งประเทศแล้วว่าสาวมิสทีนคนล่าสุดคือใคร ก็เป็นที่น่าจับตามองของใครต่อใคร ถึงความสวยน่ารักของน้องฮาน่า งานนี้ทางสยามดาราไม่พลาดที่จะเจาะลึกสาวน้อยวัยใสคนนี้ ให้รู้แจ้งเห็นจริงกันกระจ่างอย่างทั่วถึง
ตอนเด็กๆ ฝันที่จะเป็นนางงามไหม? ''ตอนเด็กๆ ฝันค่ะ อยากจะมาประกวดตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วๆ แต่ว่ายังไม่พร้อม แล้วที่บ้านก็ยังเห็นว่าเรายังเด็กอยู่ค่ะ ก็เลยให้มาตอนอายุ 18 ค่ะ ที่อยากมาประกวดเวทีนี้ เพราะคิดว่ามันเป็นเวทีของเด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่มีความฝัน ซึ่งมันก็เหมาะกับเรา แล้วก็ไม่ได้โตไปสำหรับเรา เพราะว่าเราเองก็ยังไม่โตเท่าไหร่ ก็เลยลองเวทีนี้ดูก่อน''
ในรอบตัดสิน ตอนเหลือ 2 คนสุดท้าย ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่? ''เราก็ไม่คิดนะคะว่าเราจะได้ เพราะว่าพลอย เพื่อนเราที่เหลืออยู่กับเรา ก็เก่งถึงกับเป็นทีมชาติ เค้าก็น่าจะได้เหมือนกัน เพราะว่าเค้าก็เก่ง มีความสามารถทุกอย่างค่ะ''
รู้สึกยังไงบ้างเวลาที่ต่อไปคนอื่นนึกถึง มิสทีนไทยแลนด์ 2010 จะคิดถึงหน้าเรา? ''รู้สึกดีใจค่ะ เพราะว่าจากเด็กสาวธรรมดาที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก กลับกลายเป็นว่าต้องมาอยู่ ณ จุดๆ นี้ มีคนรู้จักมากขึ้น พูดถึงมากขึ้นค่ะ หลังจากที่ได้รับตำแหน่ง เราก็ยังมึนๆ งงๆ ยังตื่นเต้น แต่พอเราตั้งสติได้ เราก็เตรียมตัวแล้วค่ะ กับสิ่งที่มันจะต้องเปลี่ยนแปลงไป อย่างชีวิตเราที่ต้องมีหน้าที่เพิ่มขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น''
คืนหลังวันได้รับตำแหน่งนอนหลับไหม?''เมื่อคืนคิดถึงแม่ค่ะ พอเราได้รางวัลไปแม่จะเป็นยังไง จะดีใจหรือเปล่า อยากเจอ อยากกอด คุณแม่ก็น่าจะกลับมาประเทศไทยช่วงสิ้นปีนี้แหละค่ะ แต่แล้วก็หลับไป เพราะว่าเหนื่อยมากค่ะ''
หลังจากที่ในรับตำแหน่งมา กิจกรรมแรกที่ทำคืออะไรบ้าง?''ได้มีโอกาสเดินทางไปที่ลานอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า เพื่อวางพวงมาลาถวายราชสักการะ รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยะมหาราชค่ะ ก็มีประชาชนบริเวณนั้นที่เราเดินทางไปมาขอถ่ายรูปบ้าง ดีใจเหมือนกันค่ะ ที่มีคนมาสนใจเรา''
บอกอะไรกับครอบครัวเมื่อได้รับตำแหน่ง''บอกกับคุณแม่ค่ะ ตั้งแต่วันที่ได้รับตำแหน่งแล้ว คือให้พี่สาวโทร.หาคุณแม่ที่อยู่ที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ คุณแม่ก็ดีใจด้วย เชียร์เรามาตลอด ให้คำปรึกษาแนะนำหลายอย่าง เค้าก็ดีใจกับเราด้วยค่ะ''
คิดว่าการที่เราได้รับตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์มา มันเป็นภาระที่หนักสำหรับ เด็กสาวคนหนึ่งไหม?''หนักเหมือนกันค่ะ แต่เราก็ต้องสู้ เพราะว่าเรามีโอกาสมาถึง ณ จุดๆ นี้แล้ว''
คิดว่าจะมีปัญหาเรื่องเวลาเรียนไหม?''มันก็ต้องมีอยู่แล้วค่ะ มันก็ต้องแบ่งเวลา ต้องปรึกษากับทางโรงเรียนว่าเค้าจะจัดการให้เราได้ไหม ขอเวลาเพิ่มได้ไหม ตอนนี้เราก็เรียนอยู่ ปวช. ปี 3 วิบูลณ์บริหารธุรกิจค่ะ ถ้าเทียบเท่าก็เป็นม.6 ค่ะ สำหรับการวางแผนเรื่องการเรียน ก็คิดว่าน่าจะต่อด้านที่เรียนมา เกี่ยวกับเรื่องของคอมพิวเตอร์ออกแบบดีไซน์ค่ะ เพราะว่าความใฝ่ฝันอยากทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิกดีไซน์ด้วยค่ะ เหมือนที่เราเรียนมา เพราะว่ามันสนุกค่ะ ได้จินตนาการไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนตอนนี้ก็ต้องกลับไปเรียนก่อนค่ะ เพราะว่าเป็นปีสุดท้ายแล้ว''
งานในวงการบันเทิง?''งานในวงการบันเทิงก็สนใจในเรื่องของการแสดงเพราะว่าหนูก็ชอบค่ะ มีไอดอลเป็น ''พี่เชียร์ -ฑิฆัมพร'' ก็อยากแสดงบทบาทเป็นประมาณแบบว่า เป็นตัวของตัวเองไปก่อนดีกว่าค่ะ ห้าวนิดๆ เพราะว่ามันเป็นตัวเรา แล้วเดี๋ยวค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะขอแสดงละครค่ะ''
ระหว่างบทนางเอกกับนางร้าย อยากเล่นเป็นตัวไหนมากกว่า?''ก็อยากเล่นเป็นนางร้าย เพราะว่ามันน่าจะสนุกดีค่ะ ดูแรงๆ ใส่ได้เต็มที่ เพราะว่าถ้าเป็นนางเอกเราก็ต้องดูเรียบร้อย''
ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงเราอยากทำอะไร?''อยากเป็นนางแบบ ชอบเดิน ชอบที่จะโพสท่า''
เพื่อนๆ ว่ายังไงบ้างหลังจากที่ได้รับตำแหน่งแล้ว ?''มีโทร.มาให้กำลังใจ ก็ดีใจ แสดงความยินดีทุกคนเลยค่ะ''
คิดว่าจุดไหนที่ทำให้กรรมการเทคะแนนให้?''น่าจะเป็นรอยยิ้มค่ะ''
เวทีการประกวดมิสทีนให้อะไรกับเราบ้าง?''ได้หลายๆ อย่างเลยค่ะ ก็ให้มิตรภาพ ทำให้เราได้เจอเพื่อนๆ แต่ละภาค ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจและน่าจดจำอีกหนึ่งประสบการณ์ค่ะ''
รู้สึกกดดันไหม กับการทำหน้าที่ ''มิสทีนไทยแลนด์ 2010''? ''ก็กดดันนิดนึงค่ะ แต่ก็ยังมีเพื่อนๆ อยู่ด้วยค่ะ''
ได้มีปรึกษาคุณแม่ไหม? ''มีค่ะ เพราะว่าเราจะโทร.คุยกันตลอดค่ะ ถ้ามีปัญหาอะไร เราก็จะโทร.หาคุณแม่ คุณแม่ก็จะให้คำปรึกษาที่ดีๆ กับเราค่ะ แต่นี้กับคุณแม่ก็จะใช้โทรศัพท์ติดต่อกันซะส่วนใหญ่ เพราะว่าคุณแม่อยู่ญี่ปุ่น ทำงานอยู่ที่นั้น แต่เราเองจะอยู่กับคุณพ่อ''
ทางด้านคุณพ่อว่ายังไงบ้าง? ''เค้าก็ยังงงอยู่ ว่าเรามาประกวดแล้วได้ด้วยเหรอ ตอนแรกที่จะมาประกวด คุณพ่อก็เหมือนว่าจะไม่ให้มาค่ะ แต่พอบอกว่าเราเข้ารอบ เค้าก็สนับสนุนนะ คอยเชียร์ คอยเปิดเว็บดูค่ะ''
ทางพี่สาวเค้าว่ายังไงบ้าง?''เค้าก็สนับสนุนเต็มที่เลยค่ะ เพราะว่า เค้ารอลุ้น รออะไรทุกอย่างเลยค่ะ เค้าก็ดีใจอยากให้เราทำให้เต็มที่ค่ะ''
คิดว่าส่วนไหนของเราที่ยังไม่โอเค? ''ก็คือบุคลิกภาพ ยังจะเป็นคนสบายๆ เหมือนจะห้าวนิดๆ เดินยังไม่ค่อยมั่นใจ''
คิดยังไงกับที่มีคำพูดว่า ถ้าเริ่มมีชื่อเสียง แล้วจะหยิ่ง เรื่องมาก?''ไม่ค่ะ คือจริงๆ แล้วฮาน่าเป็นคนไม่หยิ่งนะคะ เพียงแต่ว่าถ้าไม่ยิ้มหน้าเราอาจจะดูนิ่งไปหน่อย อาจจะดูดุๆ คนอื่นที่ไม่รู้จักเราก็อาจจะหาว่าเราหยิ่งได้ค่ะ แต่ปกติก็จะชอบยิ้มอยู่แล้วค่ะ''
เคยได้ยินไหม ถ้ามีชื่อเสียงขึ้นมาจะมีการขุดคุ้ย?''บางทีมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป เพราะว่า คนเรามันก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเราค่ะ เราทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ คืออยากให้เข้ามารู้จักเราจริงๆ ก่อนค่ะ ก่อนที่จะตัดสินจากคำพูดคนอื่นค่ะ''
ตอนนี้เราวางแผนอนาคตของเราไปยังไงบ้าง? ''ตอนนี้ก็ว่าพอเรียนจบ ก็ว่าจะต่อที่มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะว่ามันอยู่ใกล้บ้าน แล้วจะได้มีเวลาทำอะไรมากขึ้นค่ะ''
ทำไมถึงอยากทำงานเดี่ยวกับคอมพิวเตอร์ออกแบบดีไซน์? ''มันสนุกดีค่ะ เวลาอยู่หน้าคอมฯ ทำให้เราต้องจินตนาการคิดว่าเราจะคิดออกแบบยังไงค่ะ''
มีรุ่นพี่มิสทีนเป็นแบบอย่างคือใคร? ''ที่ชอบมากที่สุดคือพี่เชียร์ค่ะ เค้าเก่ง แล้วบุคลิกคล้ายๆ เรา จะห้าวๆ นิดๆ ค่ะ''
คิดว่าตัวเองมีนิสัยยังไง? ''สนุกเฮฮา เวลาอยู่กับเพื่อนนี้เราจะต๊องๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ''
ทิ้งท้ายหน่อย? ''อยากขอบคุณครอบครัวค่ะ ที่เป็นแรงผลักดันอย่างดี ที่ทำให้หนูมีแรงก้าวเดินมาถึงจุดนี้ และจะก้าวเดินไปข้างหน้าค่ะ และก็อยากจะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ อาจจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก ก็ขอให้ช่วยเป็นกำลังใจให้อย่างนี้ตลอดนะค่ะ''
เรียกว่าเป็นสาวใสดาวรุ่งดวงใหม่ที่กำลังจะเจิดจรัสบนฟากฟ้าเมืองมายาอีกไม่นานเกินรอ ถ้ารู้จักพัฒนาฝีมือ ไม่ถอยหลัง มีหวังรุ่งไม่มีร่วงแน่นอน!!!ชื่อ : ฮาน่า ลีวีส ชื่อเล่น : ฮาน่า
อายุ 18 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ
กำลังศึกษาอยู่ : ปวช. ปี 3 วิบูลณ์บริหารธุรกิจ
ความใฝ่ฝัน : นักแสดง, นางแบบ, คอมพิวเตอร์กราฟฟิกดีไซน์
ไอดอลชื่นชอบ : ''เชียร์-ฑิฆัมพร''
งานอดิเรก : อ่านหนังสือนิยายเกี่ยวกับความรักประเภทญี่ปุ่น, เกาหลี
กีฬาที่ชื่นชอบ : วอลเลย์บอล
อาหารจานโปรด : มะกะโรนีกุ้ง