ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
วชิระ เวทภพ สยบมาร (37) มหาสงครามครั้งที่สอง

เมือง ศาสตรา แม้จะมีชื่อเสียงเพียงในด้านการเป็นแหล่งผลิตอาวุธ แต่ภายในเมืองแห่งนี้กลับมีเสือซุ่มมังกรซ่อนชุมนุมกันอยู่อย่างคับคั่ง

เมื่อพวกเหล่านี้รวมพลังกันเข้า ภายใต้การนำของแม่เฒ่า ไหม จึงกลายเป็นกองกำลังที่เข้มแข็งขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่ข่าวสารของ ฤทธิ์ ในครั้งนี้กลับผิดพลาด ผู้ที่นำทัพมาไม่ใช่เป็นเพียง องครักษ์สองคนของจ้าวอสูรเท่านั้น

จ้าวอสูร ถึงกับเป็นแม่ทัพคุมกำลังมาด้วยตนเอง โดยมี หิมะ เป็นรองแม่ทัพ ส่วนทัพใหญ่ที่ยกไปตี มหานคร กลับมีเพียง สามองครักษ์ เป็นผู้นำทัพเท่านั้น

แสดงว่าครั้งนี้เป้าหมายสำคัญของ จ้าวอสูร คือเมืองแห่งนี้ มหานคร ถึงกับไม่อยู่ในสายตาของมันแล้ว

กองกำลังของเมือง ศาสตรา ถึงแม้จะมีกำลังกล้าแข็ง และมีผู้นำทัพที่เฉลียวฉลาด หากศัตรูมีเพียงกองทัพที่ยกมาย่อมสามารถจัดการได้โดยไม่ยาก แต่เมื่อต้องมาปะทะกับ อสูร ของ จ้าวอสูร และ หิมะ ที่มีพลังฝีมือไม่ธรรมดาแล้ว สุดท้ายก็ยังต้องแตกพ่ายไป

แต่พวกมันก็ยังสามารถถ่วงเวลาเอาไว้ให้ชาวเมืองได้อพยพหลบหนี และแม้พวกมันจะถูกตีจนแตกพ่าย แต่กำลังส่วนใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันหลบหนีเอาชีวิตรอดไปได้

การรบในครั้งนี้ฝ่าย จ้าวอสูร แม้จะได้ชัยชนะแต่ก็ต้องสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก

ทางฝ่ายกองทัพของ มหานคร กลับไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของกองทัพใหญ่ที่มีเพียง สามองครักษ์ เป็นผู้นำทัพได้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอที่ค่อยๆ กัดกินเมืองแห่งนี้จากภายในได้อย่างชัดเจน

ในที่สุด จ้าวนคร คนปัจจุบันก็ประกาศยอมแพ้ต่อ จ้าวอสูร อย่างไม่มีเงื่อนไข นับเป็นการสิ้นสุดลงของความยิ่งใหญ่ที่มีติดต่อกันมาอย่างยาวนานของ มหานคร ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรทั้งหมด

เมื่อ จ้าวอสูร และ หิมะ เดินทางเข้าสู่ มหานคร โดยมี สามองครักษ์ จัดเตรียมการต้อนรับให้อย่างยิ่งใหญ่ สิ่งแรกที่ จ้าวอสูร ทำก็คือ แต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็น จอมอสูร ผู้ปกครองอาณาจักรทั้งหมด และเปลี่ยนชื่อ มหานคร เป็น นครอสูร

หลังจากนั้นมันจึงสั่งตัดหัว จ้าวนคร ที่ถูกคุมขังเอาไว้ทันที พร้อมทั้งประกาศข่าวไปทั่วทั้งอาณาจักรด้วยข้อความสั้นๆ ว่า

“ผู้คล้อยตามเราอยู่ ผู้ต่อต้านเราตาย”

เกิดความปั่นป่วนไปทั่วทั้งอาณาจักร เมืองใหญ่ๆ หลายเมือง พากันรวมกำลังเข้าด้วยกันเพื่อต่อต้าน จอมอสูร แต่ไม่ว่ากลุ่มกำลังเหล่านี้จะกล้าแข็งสักปานใด ต่างก็ไม่อาจต้านทานต่อ อสูร ต้องแตกพ่ายไปจนหมดสิ้น

มหาสงครามครั้งนี้กินเวลายาวนานถึงสี่ปี มีผู้คนล้มตายลงเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ผลสุดท้าย จอมอสูร ก็สามารถพิชิตกองกำลังกลุ่มสุดท้ายที่เป็นการรวมตัวกันของเมืองใหญ่ทางดินแดนตะวันออกลงได้

นับเป็นการสิ้นสุดลงของ ยุคแห่งความสงบสุข และเป็นการเริ่มต้นของ ยุคมืดแห่งความหวาดกลัว อย่างแท้จริง

สงครามแม้จะสิ้นสุดลง แต่ความวุ่นวายต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นทั่วทั้งอาณาจักร เสียงหัวเราะและรอยยิ้มจางหายไป หลงเหลือไว้แต่เพียง เสียงร่ำไห้ โลหิต และน้ำตา เท่านั้น

ผู้มีฝีมือทั้งหลายที่หลบหนีเอาชีวิตรอดมาได้ ต่างค่อยๆ ติดต่อรวมตัวกันขึ้นเป็นกองกำลังลับที่คอยต่อต้านพวกของ จอมอสูร และกระจายกำลังกันออกไปคอยดูแลให้ความช่วยเหลือบรรดาผู้คนที่อ่อนแอ

ซึ่งในพวกเหล่านี้ก็มี แม่เฒ่า ไหม และ ฤทธิ์ รวมอยู่ด้วย

ข่าวลือเริ่มแพร่สะพัดจากปากของผู้คนเหล่านี้ไปสู่ผู้คนทั่วทั้งอาณาจักรว่า ผู้กอบกู้ กำลังจะกลับมา

ผู้กอบกู้ ที่สวมใส่เกราะสีดำ มีแขนขวาที่ทำด้วยเหล็ก หมัดที่ทำด้วยหิน พร้อมกับดาบปีศาจที่คมกล้า จะมาจัดการกับ จอมอสูร ในไม่ช้านี้

ข่าวลือนี้ย่อมแพร่ไปถึงหูของ จอมอสูร เช่นกัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมามันเองก็ส่งคนออกไปติดตามเสาะหา แต่ วชิระ ผู้นี้ กลับคล้ายมีปีกงอกออกมาแล้วบินหลบหนีหายไป

เบาะแสสุดท้ายของมันที่หาพบ ก็คือที่เมือง ศาสตรา แห่งนั้นนั่นเอง

จอมอสูร ไม่พอใจในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ หิมะ กลับมาแจ้งให้มันทราบว่า วชิระ สามารถหลบหนีไปได้ มันก็เกือบจะลงมือกับ หิมะ อยู่แล้ว

แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าตอนนั้นมันยังต้องการกำลังคน และ หิมะ ผู้นี้แม้เป็นองครักษ์ของมันมาเนิ่นนาน แต่มันเองก็ยังไม่อาจประเมินความสามารถที่ลึกลับของคนผู้นี้ได้ ดังนั้นมันจึงเพียงกล่าวตำหนิเท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีข่าวลือเพิ่มขึ้นอีกว่า มีคนพบเห็น ผู้กอบกู้ แล้ว

ผู้ที่พบเห็นเป็นคนแรกเล่าว่า ขณะที่มันกำลังหาของป่าอยู่ใน ป่าไร้หวนกลับ มันได้พบเห็นคนผู้หนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับที่เล่าลือกันอยู่ เพียงแต่ที่อยู่ในมือของท่านจะใช่ดาบปีศาจหรือไม่นั้น มันเองก็ไม่แน่ใจ เพราะมีผ้าหุ้มห่อเอาไว้อย่างมิดชิด

แต่มันก็สาบานว่า มันเห็นคนผู้นั้นได้เพียงครู่เดียว แล้วร่างของท่านก็พลันหายวับไปในทันที

คำเล่าลือเกี่ยวกับการพบเห็น ผู้กอบกู้ ในที่ต่างๆ ยิ่งมายิ่งมากขึ้น แต่ยิ่งเล่าลือก็ยิ่งไปกันใหญ่

บ้างก็ว่ามันเป็นนักดาบรูปร่างสูงใหญ่ที่สวมใส่เกราะสีดำตลอดตัว ถือดาบปีศาจที่พอสะบัดต้นไม้ใหญ่ก็หักโค่นลงในทันที บ้างก็ว่ามันเป็นจอมดาบรูปกายกำยำ ที่เพียงสะบัดมือก็มีดาบปีศาจพุ่งออกมาจู่โจมเข้าใส่ผู้คน

จอมอสูร เรียกประชุมองครักษ์ทั้งสี่ของมันในทันที เมื่อพวกมันมาพร้อมหน้ากันแล้ว จอมอสูร ก็กล่าวออกมาจากความมืดอย่างรวบรัดว่า

“หิมะ เจ้าจงไปจัดการ ผู้กอบกู้ ทันที”

มันใช้คำสั่งที่รวบรัดชัดเจน และน้อยครั้งนักที่จะมีการโต้แย้งคำสั่งของมัน เพราะผู้ที่โต้แย้งส่วนใหญ่ต่างต้องประสบชะตากรรมที่โหดร้ายทั้งสิ้น แต่ หิมะ กลับกล่าวแย้งขึ้นว่า

“หน้าที่นี้ควรให้องครักษ์คนใหม่เป็นผู้ไปจัดการ”

เมฆา และ วายุ ต่างหันไปมองดูผู้ที่ถูกกล่าวถึง มันเป็นบุรุษที่ดูท่าทางยังหนุ่มแน่นผู้หนึ่ง เสื้อผ้าของมันเป็นชุดสีขาวแขนยาวหลวมกว้าง แต่ไม่ใช่ชุดสีขาวล้วนเช่นเดียวกับของ หิมะ

ที่ปลายแขนเสื้อของมันยังปักเลื่อมแถบเล็กๆ เป็นประกายหลายหลากสีประดับเอาไว้ บนใบหน้าของมันสวมใส่ไว้ด้วยหน้ากากสีขาวที่ไม่มีลวดลายใดๆ จึงมองเห็นแต่เพียงดวงตาที่เศร้าโศกของมันเท่านั้น

ทุกผู้คนที่อยู่ในที่นั้นแม้ไม่อาจมองเห็นสีหน้าท่าทางของ จอมอสูร แต่ต่างก็รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของมัน หิมะ กลับยังคงกล่าวต่อไปอีกว่า

“น้ำแข็ง เหมาะกับหน้าที่นี้เป็นที่สุด”

ชายผู้ถูกเรียกว่า น้ำแข็ง ยังคงยืนนิ่งเฉย ทั้ง เมฆา และ วายุ แม้มีเรื่องคิดอยากจะกล่าวอยู่มากมาย แต่พวกมันต่างก็รู้ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่สมควรจะกล่าววาจาอันใดทั้งสิ้น ในที่สุดเสียงจากความมืดก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า

“น้ำแข็ง เจ้าจงไปจัดการกับ วชิระ”

น้ำแข็ง พยักหน้าแล้วเดินจากไป มันไม่ได้กล่าววาจาแม้สักคำเดียว แววตาเบื้องหลังหน้ากากสีขาวใบนั้นกลับแลดูโศกเศร้าลงยิ่งกว่าเดิม


Create Date : 30 สิงหาคม 2552
Last Update : 30 สิงหาคม 2552 10:07:41 น. 0 comments
Counter : 498 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.