ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 

วชิระ เวทภพ สยบมาร (24) ตัดสินใจ

วชิระ กำลังนั่งกินอาหารอยู่ข้างกองไฟภายในป่า มันเดินทางออกจากบ้านมาเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว

ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา มันหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางผ่านเข้าไปใกล้เมืองต่างๆ พยายามอยู่แต่ภายในป่า เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยไม่ให้สามารถติดตามได้โดยง่าย

มันยังคงมุ่งหน้าลงสู่ทางทิศใต้เพื่อไปยังเมือง ศาสตรา ตามที่บิดาได้สั่งเอาไว้

ร่างกายของมันตอนนี้ซูบผอมลงไป แววตาที่เคยคมกล้าก็กลับถูกความหม่นหมองกลัดกลุ้มครอบคลุมเอาไว้ ท่าทางของมันในตอนนี้ไม่คึกคักห้าวหาญเช่นกาลก่อนอีกแล้ว แม้แต่ตอนที่มันต้องสูญเสียแขนขวาไปก็ยังไม่ดูย่ำแย่ถึงเพียงนี้

ตอนที่มันเดินทางย้อนกลับไปที่บ้านแล้วพบแต่เพียงหลุมใหญ่ มันยังมีความหวังว่าบิดาจะรออยู่ใกล้ๆ แถวนั้น

บิดาเคยบอกเล่าให้มันฟัง ว่าสิ่งที่บิดาภาคภูมิใจเป็นที่สุดก็คือบ้านหลังนี้ เพราะมันได้ถูกดัดแปลงจัดสร้างให้กลายเป็นค่ายกลที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด บิดาทุ่มเทเวลาให้กับมันอยู่หลายสิบปี และมันพึ่งจะสำเร็จเสร็จลงเมื่อสามปีก่อนนี้เอง

แต่เดิมมามีผู้เคยติดตามการโคจรของดาวเหนือทั้งเจ็ด แล้วนำมาจัดสร้างเป็นค่ายกลเจ็ดดาวเหนือขึ้น เป็นค่ายกลที่วกวนซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง มีผู้ให้ความสนใจกันอย่างมากมาย

แต่เพราะมีผู้สนใจศึกษากันมาก ในที่สุดค่ายกลที่วกวนซับซ้อนนี้ก็ถูกแก้ลงได้และกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ตั้งแต่นั้นมาค่ายกลนี้ก็ไม่อาจนับเป็นค่ายกลได้อีกต่อไป

บิดาสนใจศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับค่ายกลกับดักมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงมีความใฝ่ฝันอยู่ว่าจะจัดสร้างค่ายกลที่เป็นของตนขึ้นมาให้ได้

ค่ายกลนี้จะต้องวกวนซับซ้อนยิ่งกว่าค่ายกลใดๆ ที่เคยมีมา และเนื่องจากบิดาแต่เดิมอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักร ดังนั้นจึงคิดจะนำการโคจรของกลุ่มดาวกางเขนใต้มาใช้

หลังจากที่ได้ศึกษาค่ายกลรูปแบบต่างๆ และเฝ้าดูการโคจรของกลุ่มดาวอยู่หลายปี ในที่สุดบิดาจึงสามารถคิดค้นค่ายกลดาวกางเขนใต้ขึ้น แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกสิบกว่าปีในการจัดสร้างและปรับปรุงแก้ไขจนสำเร็จ

สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้บิดามั่นใจในการซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน สิ่งนี้คือไม้ตายลับของบิดานั่นเอง

ศัตรูที่บุกมาในครั้งนี้แสดงว่ามีฝีมือสูงล้ำเป็นอย่างยิ่ง จึงสามารถบีบบังคับจนบิดาต้องใช้ค่ายกลดาวกางเขนใต้ออกมา และที่สำคัญบิดาถึงกลับต้องใช้มันทั้งที่ตัวเองก็ยังคงอยู่ภายในบ้านด้วย

ทั้งบิดาและศัตรูจึงต่างตกอยู่ภายในค่ายกลจนหมดสิ้น

มันรออยู่ในที่นั้นเป็นเวลาสามวันสามคืน โดยหวังว่าบิดาจะปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง มันความจริงยังคงคิดจะรอต่อไปอีก แต่ในเช้าวันที่สี่ตอนที่มันกำลังลุกขึ้นหลังจากตื่นนอน ของสิ่งหนึ่งพลันร่วงหล่นจากร่างของมันตกลงไปในกอหญ้า

เมื่อมันหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าของสิ่งนั้นคือป้ายประจำตระกูลนั่นเอง

คำสั่งสอนต่างๆ ที่บิดาเคยอบรมมันมาตั้งแต่ยังเด็ก ค่อยๆ หวนคืนกลับมาดังก้องขึ้นในหัวอีกครั้ง มันยืนนิ่งเหม่อมองป้ายที่อยู่ในมือครู่ใหญ่ ในที่สุดมันก็เก็บป้ายเข้าในอกเสื้อ แล้วตัดสินใจออกเดินทางในทันที

อาหารยังคงเหลืออยู่แต่มันกลับกินไม่ลงอีกแล้ว มันนั่งเอนหลังพิงก้อนหินใหญ่เพื่อจะดูดวงดาวบนท้องฟ้า ดวงจันทร์ถูกหมู่เมฆกลุ่มใหญ่บดบังเอาไว้ ดวงดาวต่างๆ ก็ไม่ค่อยจะสุกใสนัก อากาศที่อยู่รอบๆ ตัวก็ชวนอึดอัด ด้วยสภาพที่เป็นอยู่ค่ำคืนนี้อาจจะมีฝนตกก็เป็นได้

มันคิดถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันเติบโตขึ้นผิดกับคนทั่วๆ ไป ตอนที่มันยังเป็นเด็ก แม้ทุกคนภายในบ้านจะรักและห่วงใย แต่ต่างก็เคี่ยวเข็ญให้มันฝึกฝนวิชาฝีมืออยู่ทุกวันทุกคืน

มันไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตของเด็กคนอื่นๆ จะเป็นเช่นไร เพราะมันเพียงฝึกฝนวิชาอยู่ภายในบ้านเท่านั้น ไม่เคยได้ออกไปพบเจอคนนอกเลย

ภาระกิจของตระกูลเพื่อความอยู่รอดของอาณาจักร และความแค้นของมารดาที่ต้องชำระ ถูกกรอกหูมันมาตั้งแต่มันยังเป็นเด็ก

เมื่อเติบโตขึ้น มันก็ได้รับการฝึกสอนถึงเรื่องราวต่างๆ ของโลกภายนอก แต่กว่าที่มันจะได้สัมผัสกับของจริง ก็เมื่อสองปีก่อนตอนที่มันเดินทางออกจากบ้านไปนั่นเอง

มันแม้จะมีอายุสามสิบกว่าปีแล้ว แต่ตลอดชีวิตของมันที่ผ่านมานับได้ว่าไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ผู้คนในบ้านแม้จะรักและเอาใจใส่มัน แต่ต่างก็บีบคั้นมันให้ต้องกระทำสิ่งต่างๆ เรื่อยมา

ทั้งฝึกฝนวิชา ทั้งตามล่า จ้าวอสูร ทั้งแก้แค้นให้แม่ เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ มันต่างกระทำลงไปโดยไม่รู้ว่าใช่เป็นความต้องการของตัวมันเองหรือไม่

แม้กระทั่งตอนนี้ที่มันกำลังเดินทางอยู่ มันก็รู้ว่าเป็นเพราะคำสั่งสุดท้ายของบิดาทำให้มันต้องเดินทางไปยังเมือง ศาสตรา มันพลันคิดขึ้นมาว่า ที่แท้มันต้องการกระทำสิ่งใดกันแน่

เสียงฟ้าร้องครืนครัน สายฟ้าฟาดส่งเสียงดังสนั่น และเพียงชั่วครู่สายฝนพลันตกกระหน่ำลงมาอย่างแรง กองไฟที่ก่อไว้ส่งเสียงดังฉี่ฉ่าก่อนที่จะดับไปในที่สุด สายฝนหนาหนักตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย

ป่าที่ล้อมรอบมันอยู่คล้ายกลับถูกสายฝนเหล่านี้หลอมละลายหายไปจนหมดสิ้น แต่มันยังคงนั่งอยู่ในที่นั้น หลังพิงก้อนหินใหญ่ใบหน้าก้มลงมองพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ ในใจก็ยังคงขบคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้อยู่อย่างไม่หยุดยั้ง

มันหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ยังคงจดจำได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก เรื่องราวของผู้คนที่อาศัยอยู่ร่วมกันภายในบ้าน และเรื่องราวต่างๆ ที่มันพบเจอตลอดช่วงระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา

ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกชาวเมือง ที่อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆ ที่มันผ่านไปพบเจอ การปะทะกับพวกของ จ้าวอสูรใต้ และครามโหดเหี้ยมทารุณของมัน

ความรักของแม่ที่แม้จะจากไปนานแล้วแต่ยังคงคอยคุ้มครองปกป้องให้มันรอดตายมาได้

ความกลอกกลิ้งของพวก จ้าวอสูรเหนือ ที่ทำให้มันหลงกลติดกับ ความเสียสละของบิดาที่ต้องการจะปกป้องคุ้มครองมันเอาไว้ และธรรมชาติต่างๆ ที่สวยงามบนอาณาจักรแห่งนี้

สายฝนยังคงตกกระหน่ำไม่หยุด ในหัวของมันก็มีคำถามดังก้องสะท้อนไปมาอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกันว่า ตัวเราที่แท้ต้องการกระทำสิ่งใดกันแน่

ฝนซาขาดเม็ดลงแล้ว ไม่ว่าฝนจะหนักหนักสักเพียงใดก็ย่อมจะต้องหยุดลงในที่สุด แต่ความสับสนที่ถ่วงหนักอยู่ในใจของผู้คน ใช่มีเวลาที่จะสิ้นสุดลงหรือไม่

มันกระชากร่างลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว หน้าตาของมันในตอนนี้คล้ายกลับกลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว มันพลันกู่ร้องตะโกนก้องออกมาอย่างสุดเสียง

ในตอนนั้นเอง สายฟ้าก็ฟาดลงมายังต้นไม้ที่อยู่เบื้องหน้ามัน ร่างของมันกระเด็นหงายหลังล้มลงไปตามแรงกระแทก สองหูของมันลั่นไปด้วยเสียงดังที่เกิดขึ้น ต้นไม้ต้นนั้นถึงกับหักโค่นลง ตอไม้กลายเป็นสีดำและมีไฟลุกท่วมอยู่

วชิระ พลันหัวเราะออกมา มันหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง หรือมันจะเสียสติไปแล้ว มันหัวเราะอยู่เป็นเวลานานจนในที่สุดก็หยุดลง

มันยังคงนอนอยู่เช่นเดิม แต่มีบางอย่างในตัวมันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว แววตาของมันในตอนนี้มีประกายคมกล้า ประกายในดวงตาของมันถึงกับเจิดจ้ายิ่งกว่าเมื่อกาลก่อนเสียอีก

มันพลันได้คิดแล้ว เพื่อทุกชีวิตที่อาศัยอยู่บนอาณาจักรแห่งนี้ มันจะล้ม จ้าวอสูร คนสุดท้ายลงให้ได้ และเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจด้วยตัวของมันเอง




 

Create Date : 09 สิงหาคม 2552
1 comments
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 21:45:50 น.
Counter : 488 Pageviews.

 

when you are alone
sometime, when your heart break
who is the curer for you...
you always, in some moment of your
life.. stay alone and feeling lonely even
peoples are around you; friend, family even lover
but deep in your heart you still felt like something in your life
is gone, you scream for help, for love and for many thing that you want
but...saden that their is no one there for you, why don't you go to "GOD"
ask he for help believe me you will find the ways out and be ready for miracal
to happen into your life as it does happen to me

 

โดย: da IP: 124.122.68.15 9 สิงหาคม 2552 22:03:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.