Bloggang.com : ZAZaSassY : รถโดยสารสาธารณะ ตอน TAXI

รถโดยสารสาธารณะ ตอน TAXI

โดยส่วนตัวแล้วรถโดยสารสาธารณะที่ใช้เดินทางบ่อยที่สุดไม่ใช่รถแท็กซี่หรอกค่ะ เป็นพวกรถเมล์ กับรถสามล้อ (สามล้อแบบปั่นเลยค่ะ ไม่ใช่สามล้อเครื่องนะ) นาน ๆ จะเรียกรถแท็กซี่ขึ้นสักที และต้องเรียกแบบมีเพื่อนนั่งด้วย เท่าที่จำได้เคยนั่งแท็กซี่กลับบ้านคนเดียวเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิต เป็นตอนที่เกิดห้าวไปยกคอมที่พันทิพย์ด้วยตัวเอง ก็เลยจำเป็นต้องขึ้นคนเดียว แต่หลักการขึ้นแท็กซี่คนเดียวของเราคือ นั่งให้ตรงกับข้างหลังคนขับเลยค่ะ มันจะทำให้คนขับกลัวเรา อันนี้เคยมีคนบอกมาอีกทีค่ะ โชคดีที่วันนั้นแท็กซี่ที่นั่งมาด้วยเขาคุยดีค่ะ แล้วก็ไม่มีทีท่าไม่น่าไว้วางใจแต่อย่างไร ตลอดทางก็เลยมีบทสนทนาเรื่องเรื่อยเปื่อยทำให้เขาและเราไม่เครียดด้วยค่ะ

ช่วงเดือนที่ผ่านมา หลานชายเข้าโรงพยาบาล ก็โดยสารรถแท็กซี่บ่อยมาก ๆ แต่เป็นระยะทางสั้น ๆ และมีเพื่อนร่วมทางตลอดคือพี่สะใภ้ แต่โชคร้ายจริง ๆ ค่ะ วันที่หลานชายออกจากโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลเค้าเป็นคนเรียกรถให้ ถ้าปกติแล้วเรียกรถเองเราจะดูสภาพรถด้วย ไม่ใช่ต้องใหม่เอี่ยมอะไร ขอแค่ไม่มีรอยบุบ มีป้ายทะเบียนชัดก็พอแล้ว แต่วันที่บุรษพยาบาลเรียกให้เป็นแท็กซี่เก่ามาก รถมีรอยเฉี่ยวชน และบุบที่ประตูหน้า เรียกได้ว่าประตูแทบหลุดถ้าเปิดออก หลายชาย พี่สะใภ้ และแม่เรานั่งข้างหลัง ส่วนเรานั่งข้างหน้า วันนั้นก็แต่งตัวไม่เรียบร้อยนะคะ คือว่ามาค้างโรงพยาบาลกระทันหันและเห็นว่าใกล้บ้านก็เลยใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดที่ใส่อยู่บ้านมา กางเกงก็ไม่ได้สั้นชนิดแบบคืบเดียวนะคะ มันก็ยาวพอดีเข่า แต่พอนั่งแล้วมันจะร่นขึ้นมาเหนือเขา ข้าวของอะไรก็ไม่ได้ถือเลยไม่มีอะไรวางปิด เราก็ไม่ได้คิดมาก เฮ้อ... ตลอดทางคนขับขับรถแบบกระโชกหัวทิ่มตลอด (ไม่แปลกใจเลยค่ะว่ารอยบุบข้างประตูได้มาอย่างไร) ขับฉวัดเฉวียนปาดหน้ารถคันอื่น กว่าจะถึงบ้านเล่นเอาใจหายใจคว่ำ เราก็ไม่มองหน้าคนขับเลยค่ะ จะพูดมากก็ไม่ได้ ทั้งรถมีแต่ผู้หญิงและเด็ก เดี๋ยวเขาจะหันมาทุบหัวเอา พอกลับถึงบ้าน มองหน้าก็รู้กันค่ะว่ารอดมาได้ บุญจริง ๆ แม่บอกกับเราว่า

แม่ : "คราวหลังอย่าใส่กางเกงแบบนี้ออกจากบ้านอีก"
เรา : "ไปแค่นี้เอง ใส่ไปตลาดออกบ่อยไป"
พี่สะใภ้ : "เมื่อกี้คนขับมันมองน่ะ"

รู้สึกเจ็บใจมาก ๆ ทำไมเขาต้องทำพฤติกรรมไม่สุภาพต่อผู้โดยสารด้วย มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าดูสักหน่อย ไม่เคยเห็นขาคนหรือไง.... สารพัดคำบ่นที่เกิดขึ้นไม่กล้าบอกแม่กับพี่เลยค่ะ เพราะเหมือนเราผิด เลยได้แต่เงียบ แล้วก็รู้สึกไม่ดีโดยตลอด ทั้งเจ็บใจทั้งเศร้าค่ะ

แต่ใช่ว่าจะเจอแท็กซี่พฤติกรรมแย่นะคะ แท็กชี่ที่เล่าให้ฟังตอนแรกที่ขึ้นมาคนเดียวก็ดีค่ะ และก็ไม่แสดงพฤติกรรมประหลาด ๆ ให้เราเห็นด้วย โดยสารด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย ของอย่างนี้เป็นลักษณะเฉพาะบุคคลจริง ๆ

แท็กซี่ดีอีกคันที่ขอเล่าถึงคือคันที่พึ่งโดยสารไปล่าสุด ไปกับพ่อและแม่คะ คันนี้พ่อเราเรียกเอง พ่อก็เหมือนเราคะ เลือกแท็กซี่ก่อนขึ้นต้องดูลักษณะรถก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ได้ขึ้นกับลักษณะของรถอย่างเดียวหรอกค่ะ อยู่ที่คนขับด้วย (สงสารคนดีที่ขับรถเก่านะคะ) คันที่พ่อเรียกนี่ใหม่เอี่ยมสีส้มแอร์เย็นสบายจริง ๆ พอขึ้นไปนั่งยังไม่มีบทสนทนาใด ๆ หรอกค่ะ แต่พอผ่านไป 5 นาที คนขับเอ้ย... คุณลุงก็เลิ่มขยับปากว่าให้พ่อเราคาดเข็มขัดด้วยเดี๋ยวถูกตำรวจปรับ หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวต่าง ๆ จากคนขับ... เอ้ย คุณลุง เล่าให้ฟังค่ะ พอสรุปได้คร่าว ๆ ที่สุดได้ ดังนี้

คุณลุงบอกว่าเป็นประชากรเต็มขั้น(หมายถึงเสียภาษีให้รัฐ อันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ) ถูกตำรวจจราจรจับข้อหาจอดรถในบัสเลนตอน 9.10 แต่คุณลุงเขาไม่ยอมค่ะ เพราะ มันเลย 9.00 มาแล้วต้องวิ่งได้ เลยเถียงกับตำรวจอยู่พักใหญ่แต่ก็ต้องยอมเสียค่าปรับ แต่คุณลุงเป็นคนหัวหมอค่ะ ให้ตำรวจลงเวลาไว้ด้วย ตำรวจก็อึก ๆ อัก ๆ แล้วก็ต้องยอมลงเพราะคุณลุงไม่ยอมเด็ดขาด แถมคุณลุงยังโชว์ใบปรับและสำเนาที่เตรียมส่งให้ร่วมด้วยช่วยกันติดต่อสารวัตรจราจรให้ชี้แจง เพราะคุณลุงเชื่อว่าตนเองไม่ผิด (โอโฮ! สุดยอดแท็กซี่เมืองไทย) ทางด้านชีวิตส่วนตัว คุณลุงจบการศึกษาระดับปริญญาจากมาหลัยรัฐแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มีโอกาสเข้าร่วม 14 ตุลา และเกือบถูกกระสุนยิงตาย (โชคดีคุณลุงกับเพื่อนสลายตัวก่อน) ตอนนี้มีลูกชาย 2 คน เรียน ป.โททั้งคู่ ขับแท็กซี่เป็นงานอดิเรก คุณลุงชอบเห็นความยุติธรรมในสังคมและชอบเถียงตำรวจจราจร (อันนี้สรุปจากวีรกรรมต่าง ๆ ที่คุณลุงเล่า) ที่สำคัญ คุณลุงไม่ชอบให้ผู้โดยสารเรียกว่า คนขับหรือโชเฟอร์ เพราะเป็นการแบ่งชนชั้นทางสังคม!!! (ดีนะ พ่อเราเรียก "คุณ" แม่เราเรียก "พี่" และเราเรียก "ลุง" เลยรอดค่ะ)

อีกหนึ่งประสบการณ์โดยสารรถสาธารณะประเภทแท็กซี่ ยาวไปไหมคะ (ช่วงนี้กำลังว่างงานค่ะ) คนที่ยังจำเป็นต้องโดยสารรถสาธารณะอยู่ ก็ขอให้เจอแท็กซี่นิสัยดีที่มีถมไป อย่าเจอแบบเราเลยนะคะ ที่สำคัญแต่งตัวอะไรก็ระวังสักนิดแล้วกันค่ะ โดยเฉพาะผู้หญิงทั้งหลาย เอาไว้ตอนหน้าจะมาแปะเรื่อง รถเมล์ในกรุงเทพบ้าง รับรองว่ายาวแน่ ๆ เพราะอัดอั้นมานานแล้วค่ะ

Create Date : 08 มิถุนายน 2548

Last Update : 8 มิถุนายน 2548 11:36:50 น.

16 comments

Counter : 823 Pageviews.

ใช่แล้วเป็นผู้หญิงควรที่จะต้องแต่งตัวให้มิดชิดเข้าไว้

เราก็นั่งแท็กซี่บ่อยนะ ที่ไม่ชอบเป็นอย่างมากก็คือ ไม่ยอมทอนเศษเงิน อย่างราคา 43 บาท ให้ไปห้าสิบ แต่ทอนมาห้าบาท

โดย: WangAnJun

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:11:44:38 น.

เจอเรื่องไม่ทอนเศษเงินเหมือนกันอ่า

แล้วก็เคยเจอเรื่องมองขาด้วย

ทั้งๆที่ไม่ได้ใส่สั้นแต่อย่างใด

แล้วก็เบื่อพวกที่ขับปาดไปปาดมา เบรคหัวทิ่มอ้ะ

มันทำให้เราปวดหัวมากๆ อยากจะอ้วกเลย

ก็เลยพยายามหาเรื่องไม่นั่งแท๊กซี่อ่ะคับ

โดย: ป่อหงส์

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:13:45:19 น.

เรื่องทอนเงิน แท็กซี่ไม่ค่อยได้กินจากเราเท่าไหร่หรอก ยกเว้นจงใจให้ เพราะส่วนใหญ่เหรียญบาทในกระเป๋าเกิน 10 เหรียญ อิอิ งกไหม

โดย: ZAZaSassY

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:15:01:11 น.

งก

โดย: Gryffin

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:16:15:17 น.

อืม แม่เราไม่ให้เรานั่งแท๊กซี่เลยอ่ะ เค้ากลัวอันตรายไง ยิ่งถ้าไปไหนคนเดียว อย่าหวังว่าจะให้นั่งเลยเพราะมันอันตรายมีอะไรเราไม่สามารถตะโกนหรือร้องให้ช่วยได้เลยอ่ะ ยังไงก็ระวังหน่อยนะคะ รู้หน้าไม่รู้ใจนะคนเรา ส่วนเรื่องแต่งตัว บางทีเราว่าไม่โป๊แต่คนอื่นมองว่าโป๊ก็ระวังหน่อยแล้วกันค่ะ ออกไปข้างนอก มิดชิด เซฟตี้ตัวเองไว้ดีที่สุดใช่ป่ะ

แวะมาครั้งแรกหวัดดีนะจ๊ะ

โดย: คนขี้เหงาคนหนึ่ง IP: 58.10.90.248 วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:16:18:50 น.

อ่านแล้วรู้เรื่องการแต่งตัวนี่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่คนตัดสินคน และผู้ชายบางคนชอบใช้ในการตัดสินผู้หญิง...ก็บางคนอีกนั่นแหละ ...ได้คิดดีคะ ระมัดระวังในการแต่งตัวมากขึ้น

มาขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมด้วยคะ แล้วจะมาอ่านอีกนะ

โดย: marinesnow

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:16:25:21 น.

ปลอดภัยไว้ก่อนนะดีแล้วครับ ยิ่งเป้นผู้หญิงด้วย คือของพรรรนี้ถ้าเกิดขึ้นแล้วมันคือติดตัวไปตลอดชีวิตเลยอะครับ แล้วผมก้ไม่คิดว่าการใส่สายเดี่ยว นุ่งสั้น แต่งตัวโป้ๆ มันจะทำให้ผุ้ชายชอบตรงไหน มีแต่กระตุ้นต่อมหื่นเท่านั้นแล

ขอบคุณที่ไปเม้นบ๊อกผมนะครับ

โดย: K Potter

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:18:29:56 น.

เป็นผู้หญิงนั่งแท้กซี่คนเดียวเสี่ยงเหมือนกันครับ เคยบอกเพื่อนพอขึ้นรถแล้ว ให้โทรบอกเลขหมายของรถ (ที่อยู่ข้างๆประตูคนนั่ง ) ด้วย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้จริงๆว่าคันไหนดีคันไหนร้ายน่ะครับ หรือไม่ก็ถ้าดูๆแล้วไม่ไว้ใจก็ให้โทรคุยตลอดทางไปซะเลย

อืม แต่ถ้าให้คนขับกลัว ต้องนั่งหลังคนขับเหรอครับ ชอบความคิดนี้จัง 55 เพิ่งเคยได้ยินอ่ะ สงครามจิตวิทยามั่กๆ

โดย: Lazy man (ข้าวตู

) วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:20:06:23 น.

เราก็กัว เพราะเราหน้าตาดีอะคับ กลัวแท็กซี่มันล้วง
ล้วงหัวใจ

โดย: ฮุก

วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:21:09:01 น.

ขึ้นแท็กซี่เกือบทุกวันเลย มากับเพื่อนๆ

มือถือเพิ่งหล่นไป ดูเป็นคนดีนะ คนขับ

แต่มือถือก็ถูกปิด รู้หน้าไปไม่รู้ใจจริงๆ

โดย: คนสวย (ทำใจได้

) วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:21:47:06 น.

ขึ้นแท็กซี่เกือบทุกวันเลย มากับเพื่อนๆ

มือถือเพิ่งหล่นไป ดูเป็นคนดีนะ คนขับ

แต่มือถือก็ถูกปิด รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

โดย: คนสวย (ทำใจได้

) วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:21:47:12 น.

เพิ่งจะเปิดสมุดเยี่ยมตัวเองครับ มัวแต่ up blog อยู่ 5 5 5

เรื่อง taxi นี่ชอบเจอประเภทไม่มีตังค์ทอนแล้วอม กะพวกที่คิดว่าตัวเองเก่งแล้วพาไปช้ากว่าเดิมครับ อื่น ๆ ไม่เจอ โชคดีหน่อย

โดย: dont wanna no

วันที่: 9 มิถุนายน 2548 เวลา:1:13:17 น.

คนดีคนไม่ดี ปนเปกันไปน้อ

เราคงจะต้องระวังตัวนะคะ

รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆแหล่ะสังคมในเมือง

โดย: zaesun

วันที่: 9 มิถุนายน 2548 เวลา:2:54:39 น.

พี่ป่ามืดรู้สึกแย่ที่สุดตอน แทกซี่ไม่ชำนาญเส้นทาง..
เพราะ..ที่ไม่ขับรถเองเพราะหวังพึ่งแทกซี่จะได้ไม่หลงทาง

ดีค่ะ ...ไว้จะมาอ่านรถเมล์นะคะ..

โดย: ป่ามืด

วันที่: 9 มิถุนายน 2548 เวลา:6:10:34 น.

ขอบคุณครับผม ^^
ติดแก๊ส
ขาย iphone
เช่าคอนโด
roll up
เว็บขายของ

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ

) วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:10:41:56 น.

ขอบคุณครับผม ^^
ติดแก๊ส
ขาย iphone
เช่าคอนโด
roll up
ติดแก๊ส
รับทำเว็บไซต์

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ

) วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:12:40:09 น.