กรรมของ " ทักษิณ " คือ // ท่านอธิฐานบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านมาจาก พุทธภูมิ // ท่านเลยต้องเที่ยวตะเวณช่วยเหลือ คนนับแสนนับล้าน
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
19 กันยายน 2550

จะเอา “กำไร” หรือ เอา “ความโปร่งใส” (มันส์ มาก)

อ่านข่าววันนี้ เรื่อง ทอท จากกำไรปีที่แล้ว เกือบ 3000 ล้าน มาปีนี้ ลดลงไป 80% เพราะลูกพระนเรศวร “เปิดศึก” ปราบปรามการโกงกินใหญ่ใน ทอท แล้วก็อดนั่ง “นั่งหัวเราะ” ไม่ได้ ฝรั่งเขาบอกว่า “อย่าดันทะลึ่งไปฆ่าเป็ดที่ออกไขเป็นทอง ไม่ว่าจะหิวยังไง” ฉันได้ฉันนั้น ลูกพระนเรศวร เข้ามาด้วยอารมณ์ ว่ามันโกงไปหมด ต้องปราบให้หมด ก็เลยดันไปฆ่าเอา “เป็นที่ออกไข่เป็นทองเข้าจนได้” ก็ไม่อยากจะว่ามากนัก เพราะลูกพระนเรศวรก็ “หวังดี” เข้ามาด้วยปรัชญาที่ว่า ถ้ามันโปร่งใส 100% ปราบการโกงกินให้หมด “ชาติมันจะเจริญงอกงาม” ไม่มีใครเถียงด้วยหลอก ว่าการโกงกินนะมันผิด แน่นอนมันไม่ดี ลูกพระนเรศวร คงบอกว่า กำไรที่หายไป 80% นะ คงจะเกิดขึ้นปีนี้ปีเดียว ในระยะยาวแล้ว ถ้ามันโปร่งใส ไม่มีการโกงกิน กำไรมันจะกลับมาเป็นกอบเป็นกำ สรุปคือ นี่เป็นการลงทุนเพื่อวันพรุ่งนี้

ก็ได้ยินแบบนี้มา “แทบทุกองค์กรรัฐ” ที่กำไรมันกำลังตกลงแบบ “ฮวบฮาบ” เช่นทางด้านเทเลคอมต่างๆของรัฐ ที่ก็ตกอยู่ในการบริหารของ คนในปรัชญา “ต้องต่อสู้เพื่อความโปร่งใส” ต้นตอ ของปรัชญา ความโปร่งใสมาก่อน มันก็มาจาก การต่อต้านทักษิณนั่นเอง โอยไม่ต้องบอก ทักษิณทำความดีไว้มากมาย แต่ถูกโจมตีเรื่องความโปรงใส โดยเฉพาะจากการขายชอนไม่เสียภาษี กระแส “ความโปร่งใส” นำไทย เลยลุกกระพือขึ้นมา

ปัญหาคือเราอยู่กันในโลกของความจริง ขอบอกก่อนเลยว่า “ถ้าจะมีนักบริหารมือโปรเข้ามาจับอะไรสักอย่าง เขาจะถามก่อนเลยว่า แล้วผมได้อะไรตอบแทน” ถ้าคำตอบคือ “ก็ความภูมิใจที่ได้ทำเพื่อชาติ” ร้อยทั้งร้อย นักธุรกิจมือโปรบอก “เอาไว้ชาติหน้าตอนสายๆ” พวกที่บอกกันว่าเขามาช่วยชาตินะ แบบพวกเผด็จการตอนนี้และพลพรรค “ดูการบริหารเศรษฐกิจของเขาดีๆ” บาทแข็งมาเรื่อยๆหกเดือน ไม่ได้ทำอะไรจนโรงงานเริ่มปิดตัวลง ล่าสุดกรมโรงงานประเมิณ ตั้งแต่ต้นปี ปิดไปแล้วเกือบพันแห่ง เป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น “แสนล้านกว่า” หรือเรื่อง ซับพรามน์ หรือหนี้ อสังหาด้อยคุณภาพในสหรัฐ ข่าวออกมาหกเจ็ดเดือนแล้ว ว่าสหรัฐมีปัญหาด้านนี้ ยังปล่อยให้ฝรั่งปั่นหุ้นขึ้นไป ลากคนไทยไปขึ้นเขียงสูงๆเป็นพันเป็นหมื่นคน “เห็นเผด็จการ พูดแล้วพูดอีก เช้าสายบ่ายเย็น เศรษฐกิจมันดี ดูหุ้นสิ ขึ้นไปสูงเลย”

ตัวอย่าง “ความโปร่งใส” ที่ “ทำลายล้าง “กำไร” ที่ดีที่สุดก็คือ พรบ การถือครองบริษัทไทยโดยคนต่างชาติ ที่ทำให้ต่างชาติหนีไทย ไปลงทุนที่อื่นแทน วัดกันยากมากว่าจะเสียหายแค่ไหน เอาน้อยๆหน่อย ก็คงเป็นอีกแสนๆล้านต่อปี “ในนามความโปร่งใส”

ข้างบนนั่นตัวอย่าง การบริหารในมือของคนที่เรียกกันว่า “โปร่งใส” ก็รับได้ครับ การวอดวายไป แสน ล้าน กับโรงงานปิดตัวลง วอดวายอีกเป็นแสนล้าน จากหุ้นถูกกระตุกขึ้นลงแบบสุดๆ อีกเป็นแสนล้านจากการหนีไทยของฝรั่ง อีกเป็นแสนล้านของกำไรหดหายของรัฐวิสาหกิจ รวมกันเข้า คงถึงล้านล้านเข้าไปแล้ว ในนามของ และที่ เผด็จการกำลังลงทุนลงไป “เพื่อให้ไทยโปร่งใส”

ความจริงเรื่องความโปร่งใสนี่ก็ คุยกันมามากแล้วนะ ภายใต้ทักษิณ เศรษฐกิจโตขึ้นปีละ 5-6% นั่นก็คือโตขึ้นราว 35-40% คือความมั่งคั่งของไทย มันขึ้นมามากมายนัก เป็นล้านล้าน เอาคำนวณยาก เอาง่ายๆ หุ้นจาก 300 มาเกือบ 700 นั่นก็คือ มูลค่าขึ้นมา 100% กว่า ก็อีกเป็นล้านล้าน หรือในอีกแง่ คนจนจาก 13 ล้านคน เหลือ 8 ล้านคน เอายังมองไม่ออก ตึกร้างบ้านร้าง หายเกือบหมด

แต่ไม่ได้ เรายังไม่รู้ว่าทักษิณโกงขนาดไหนเพราะยังอยู่ในศาล แต่เอ เรื่องใหญ่ขายชินไม่เสียภาษี ประเมินออกมาแล้วนิก็แค่ 5,000 ล้านที่หลบไป สนามบินสุวรรณโคตรโกง เอทักษิณ เขาก็ลดค่าก่อสร้างลงมาเกือบ 50,000 ล้านในการประมูลสร้าง แต่เอาถ้าโกงไปได้บ้าง ก็คงจะได้ไป สัก 10,000 ล้าน ที่สุวรรณภูมิ เอาแล้วอีกจิปาถะ แบบ ที่ดินรัชดา เงินกู้พม่า เอาหละ เพื่อให้ได้สรุปกัน เอาเป็นว่า ทักษิณโกงไปทั้งหมด แสนล้าน

นักธุรกิจทั่วๆไป มองดูแล้ว ในภาพรวมทั้งหมด คงจะสรุปว่า แหม ทักษิณนี่สุดยอดนักบริหารแล้ว ทำผลประโยชน์ให้ชาติ หลายล้านล้าน “แต่ในด้านลบ” ก็สงสัยกันอยู่ว่าจะโกงเข้ากระเป๋าตัวเองไป สัก “แสนล้าน” หรือเปล่าน้า แล้วถึงโกงจริง มันก็น่าจะคุ้มนะ ถ้าได้แบบทักษิณ แต่ไม่โกง ก็ดีสินะ แต่ปัญหามันคือเมืองไทยมันไม่ได้บริหารกันโดยนักธุรกิจ แต่มันโดยนักการเมืองและสื่อและทหารและข้าราชการ เรื่องโกงนี่มันทำให้ การเมืองไม่มั่นคง ไม่มั่นคงมันก็ตีเป็นราคาได้เหมือนกันนะ เช่นผู้บริโภค ความเชื่อมั่นต่ำจนไม่ซื้ออะไร คือนักธุรกิจคงจะคิดไปในแง่นี้

แต่นักคิดตามปรัชญา “โปร่งใสต้องมาก่อน” คงจะบอกว่า “ขาดทุน บริหารไม่เป็น เสียหาย” ยังไง ถ้าโปร่งใส เป็นยอมรับได้ ก็อย่างที่เขียนมา ภายใต้เผด็จการ เพื่อความโปร่งใส เสียหายไปแล้ว เป็นแสนๆล้าน ปัญหามันคือ โปร่งใสยังไง ถ้าคนมันตกงานกัน โรงงานมันปิดกัน ความเจริญเติบโตมันช้าลง การเมืองมันก็ไม่มั่นคงอยู่ดี คนก็ไม่บริโภคเหมือนเดิม

สองปรัชญานี้คงจะ “ตีกันไปอีกนานในไทย” ไม่มีทางที่ผมจะมาเขียนอะไร หรืออีกร้อยพันคนเขียนอะไร ทำอะไร ให้มันหาข้อยุติลงได้ ฝ่ายทักษิณพูดเสมอ ไทยเจริญมากยุคทักษิณ ฝ่ายความโปร่งใส พูดอยู่อย่างเดียวคือ สมัยนั้นโกงมาก

ปัญหาของไทยคือ ทั่วโลกตอนนี้ ธนาคารโลกทำวิจัยออกมา บอกว่าประเทศต่างๆ นิยมเอานักธุรกิจ มาเป็นนักการเมืองมากกว่า การเอานักการเมือง โพลทั่วโลกชี้ชัด เชื่อในมือนักธุรกิจมากกว่านักการเมือง ในสหรัฐเอง คลินตั้นมั่วสวาท ตระกูลบุชมีส่วนได้เสียในสงครามอิรัก และการโกงโคตรโกง ของบริษัทเอ็นรอน ก็ก่อให้เกิด กระแสต้องการความโปร่งใส ในสหรัฐอย่างสูง แต่ท้ายสุด ก็เกิดคำพูดที่สยบฝ่ายความโปร่งใสลง คำนั้นก็คือ “ไอ้โง่ กำไรมาก่อน” กระแสความโปร่งใส จริยธรรม และจรรยาบรรณ ในสหรัฐ จบลง “ง่ายๆ” ด้วยคำว่ากำไรมาก่อน เท่านั้นเอง มันมาเกี่ยวกับไทยก็ตรงที่ว่า โลกเขามอง “กำไร” ว่าสำคัญกว่าความโปร่งใส ที่มันเกี่ยวกับไทย ก็เพราะนี่มัน “คู่แข่งไทยทั้งนั้นบนเวทีโลก” เกมบนโลก มันคือหาความมั่งคั่งและกำไร เข้าหาประเทศ แต่ไทยไม่สนใจเกมนั้น “หันมาเล่นเกมสร้าง ความโปร่งใส เชื่อว่าในระยะยาว ไทยจะออกมาดีกว่า”

ในสหรัฐ ยุโรป และ จีน มันเป็นแบบนี้ ท่านก็ตัดสินเอาเองนะครับว่าถูกผิดอย่างไร เรื่องคือ โอนาซิส เจ้าพ่อเดินเรือ ต้องการขนถ่ายสินค้าในสหรัฐ ที่มีกฎห้ามต่างชาติทำ โอนาซิส ก็ส่งทนายไปพบวุฒิสมาชิก ชองรัฐที่มีธุรกิจต่อเรือ บอกว่า ยูไอจะมาใช้บริการต่อเรื่อจากยูสักห้าสิบลำ ถ้ายูช่วยเข็นกฎหมายให้ต่างชาติทำธุรกิจการขนส่งในสหรัฐง่ายหน่อย ก็ได้เรื่อง ผ่านฉลุย ในรัฐบาลที่โปร่งใสที่สุดในสหรัฐ คือ เคนีดี้ ประท้วงกันแหลก โดยกองเรือของอเมริกัน โอนาซิส จำใจเอาเงินสนับสนุนพรรคการเมืองใหญ่ในเมกา กลบเรื่อง แล้วไปคุยกับคนถูกกระทบ บอกยู มายุโรปสิ ไอจะช่วย สรุป คือทั้งทับซ้อน ทั้งไม่โปร่งใส ทั้งคอรัปชั่นเชิงนโยบาย แล้วอีกร้อยแปด ที่ออกมา กลายเป็นว่า “ทุกคนชนะ” ล่าสุดจีนให้เงินกู้ไทย พัฒนาโทรคม ข้อต่อรองคือไปซื้ออุปกรณ์จีน ไทยผ่านให้ฉลุย ส่วนญี่ปุ่น ผูกเงินช่วยเหลือกับการใช้บริการบริษัทญี่ปุ่น เหมือนจีนทำมาเป็นสิบๆปี หลังมาร์คอส ล้ม สืบกันเจอเอาว่าโรงงานนิวเครียร์ในฟิลลิปปินส์ ที่สหรัฐสร้างไม่มีวันเสร็จ เพราะโกงกินกันมาก สภาสูงสหรัฐ เขากระตุก ออกกฎเข้ม ห้ามบริษัทก่อสร้างสหรัฐ “อัดเงินใต้โต๋ะ” เพียงห้าปีต่อมา เกาหลี ยุโรป ญี่ปุ่น กินส่วนแบ่ง ตลาดสหรัฐไป 80% เพราะต้องโปร่งใส ในที่สุด บริษัทก่อสร้างสหรัฐ จับมือกันเข้าไปพบสภา บอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน “จะให้พวกเราปิดบริษัทลง หรือว่าจะทำให้กฏหมายอ่อนลง”

โลกเขาไปกันแบบนั้น ทางนั้น แล้วดูทักษิณ ปล่อยเงินให้พม่า พม่ามาซื้อของจากชิน คตส เอาเรื่องไปแล้ว

ฉะนั้นโจทย์ต่อไปในบทความนี้ คือในระยะยาวอะไรดีกว่า คน “เจนโลก” ก็บอกว่า “ใครก็ตามที่บอกว่าไทยจะโปร่งใส กำลังฝันเปียกการตลาด” มันเป็นไปไม่ได้ โพลในไทยออกมา ก็บอกว่าคนส่วนมากไม่เชื่อว่าการโกงกินจะหมดไป ในไทย ไม่ว่าอะไร อีกพวกไปไกลกว่านั่น ยกตัวอย่างความไม่โปร่งใสในยุคเผด็จการนี้ ออกมาให้เห็นจะจะ เป็นสิบกรณีแล้วตอนนี้ แต่ลองมาดูสหรัฐกัน มันเริ่มจาก Pork and Barrel Politics คือทีใครทีมัน สลับกันไประหว่างการเมืองเพื่ออาหาร กับการเมืองเพื่ออาวุธ ก็โกงกันสนั่นทั้งสองฝ่าย ในสหรัฐ คงได้ยินกันมานะครับ ว่าเงินช่วยเหลือเกษตรกร กลับกลายไปช่วยบริษัทเกษตรใหญ่ๆแบบ ซีพี ในสหรัฐ แล้วก็คงได้ยินนะครับ ที่ทหารสหรัฐซื้อค้อนธรรมดา แต่ต้องจ่ายอันละหมื่น แล้วมันก็กลายมาเป็น Lobbyist คือระบบการต่อรองกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คืออยากได้ เงินช่วยฟาร์มหรือ ได้เลย ถ้าคุณสนับสนุนการซื้อระถังที่สร้างในรัฐผม ก็อะไรแบบนั้นนะ สุดท้ายก็มาลงเอาที่ Campaign Contribution คือทับซ้อนเราดีๆนี่เอง คือคุณสนับผมหรือ แล้วคุณต้องการอะไรตอบแทนหละ

ที่เขียนมาให้ดู มันไม่ใช่อะไรมากไปกว่า การเอาสิ่งสกปรกเช่นการโกงกิน มาเข้าระบบ แล้วทำให้มันโปร่งใส ตรวจสอบได้ เหมือนที่ทักษิณชอบทำ คือจะเอาหวย เอาขายตัว เอาการพนัน เงินกู้นอกระบบ มาไว้บนดิน แทนหมกมันอยู่ใต้ดิน โลกพัฒนาแล้ว แทบทุกประเทศ กำลังเดินไปทางนี้ คือยอมรับกัน ว่าความโปร่งใส มันมีอยู่แต่ก็กับคนที่กำลังใช้มัน ทำลายนักการเมืองอื่นลง ก็เท่านั้น แบบ “พันธมาร” เอามาเป็นเรื่องทำลายทักษิณ แต่ในโลกของ “ผู้ใหญ่ คนเจนโลก” มันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติคน

ฉะนั้นแล้ว จริงๆมีทางเลือกที่สาม คือ “เอากำไร” หรือ “เอาความโปร่งใส” หรือ “เอาความสกปรก มาเข้าระบบให้โปร่งใส” แบบควบคุมได้ แต่อารมณ์คนไทย สมองและสติ มองไม่ออก ว่าปัญหามันคืออะไร และ ก็แก้กันไปแบบไม่ถูกทาง “กลายเป็นว่า ต้องเผาบ้านตัวเอง เพื่อไม่ให้โจรเข้า” และเรากำลัง เผาบ้านตัวเองในระดับไหน” เอาเป็นว่าเรากำลัง เอาระบบอำมาตรมาลง เพราะเราเชื่อกันว่ามันจะทำให้โปร่งใส แล้วระบบอำมาตรมันคืออะไร มันก็คือระบบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย มากนัก

เอาหละสิท่านผู้อ่าน เพื่อความโปร่งใส เรากำลังลงทุนทางการเงินลงไป เป็น ล้านๆ กับความถดถอยที่มากับความโปรงใส แล้วเรากำลังลงทุน ทำลายประชาธิปไตยลง เพื่อความโปร่งใสด้วย มาตอนนี้ คนส่วนมากคงชักจะสงสัยเสียแล้วว่ามัน “จะคุ้ม” หรือเปล่าหว่า แล้วเดินทางนี่ “มันโง่หรือฉลาด” กันแน่ ส่วน คนชอบฝันเปียก ไม่ก็มีวาระแอบแฝง ที่กล้าลงทุนขนาดนี้ เช่นก็เพื่อต่อยอดและยืด อำนาจตัวเองออกไป คงจะไม่เห็นด้วยกับ ทุกอย่างที่ผู้เขียนเขียนมา

ก็ขอสรุปด้วยโลกของความจริงสักหน่อย พรรคการเมืองที่โกงน้อยที่สุด ก็คือพรรค ปชป นั่นเอง เพราะต้องยอมรับว่า หัวขบวนเขาส่วนมาก “เป็นคนดีมีความโปร่งใส จริยธรรม และ จรรยาบรรณ” สูงส่ง พรรคปชป นั้นก็เป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำรัฐบาลมาหลายสมัย เอาหละ มาดูพรรคการเมือง ที่โปร่งใส ไม่โกงที่สุดในไทยบริหารบ้านเมืองกัน เอา “ไม่โกงแต่” เงินระยะสั้นล้นไทยเอาก็สมัยเขา จนไทยไม่มั่นคง และในที่สุดถูกโจมตี จนชาติย่อยยับ เอาหละนั่นหละสิ่งแรก สิ่งที่สองคือ ขายทอดตลาดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เสียหายยับเยินเพราะบริหารไม่เป็น สิ่งที่สาม “เป็นเด็กดีไอเอ็มเอฟ” ตามก้นเขาจนไม่ฟื้น สักที ในที่สุดก็ต้องทักษิณ จอมโกงแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ “กู้ซากกู้ชาติ” กลับมาได้ จนไอเอ็มเอฟ ยอมรับว่ามาตรการตัวเองผิด ต้องมีการคิดใหม่ เอาหละนั้นอีกบริบทของรัฐบาลที่โปร่งใส แล้วบริบทที่สาม ที่ สปก คือแจกที่ดินให้คนจน โปร่งใสจนต้องไปถามศาล ว่า คำว่าเกษตรกร นั่นหมายถึงคนรวยด้วยหรือเปล่า ก็หลังจาก พลพรรคปชป เอง ดอดไปเอาที่ สปก มาทำรีสอร์ท กันสนุกมือ นี่ไม่ใช่โกงนะ เรียกว่าความเห็นไม่เหมือนกัน ถึง ความหมายของกฎหมาย สุดท้ายก็แบบ “สหกร” นักการเมือง ปชป ร่วมมือกันสร้างมาช่วยประชาชน ตรงนี้นะดี แต่รับเงินรัฐช่วยเหลือ ตรงนี้ก็ดีไม่มีใครว่า แต่สุดท้าย กำไร สหกร เข้ากระเป๋าใคร “กลายเป็นเอาเงินรัฐมาปั่นหากำไรเข้าตัวเอง”

ข้างบนก็คือ ประวัติระดับความโปร่งใส “ที่สูงสุดในไทย” และ ฝีมือบริหารของ เขา ว่ากันว่า ปชป ทำให้ไทยสูญเสีย ความมั่งคั่ง ทั้งทางตรง ทาง อ้อม และ โอกาส “หลายสิบล้านล้าน”

เขียนตรงๆมาขนาดนี้แล้ว รับรองแฟนๆ ความโปร่งใสก็ยังเป็นแฟนความโปร่งใส แฟนทักษิณ ก็แฟนทักษิณ คนกลางๆ ก็คงจะ “งงๆ” นิดหน่อย ผมก็ไม่มีข้อสรุปให้นะครับ และก็คงจะปล่อยให้ท่านคิดเอาเอง ข้อมูลผมส่วนมากคงถูกหละครับ หรือใกล้เคียง ปัญหาของผมคือผมเป็นคนใช้ปัญญาและสติ ครับ มันก็ไม่ค่อยดีนักเพราะคนเราก็ต้องใช้อารมณ์เหมือนกัน ท่านผู้อ่านบางคน ที่ใช้อารมณ์ คงจะสรุปง่ายๆหละครับ ว่าไอ้ทวีวุฒินี่มัน เฉยๆกับการโกงกินได้ยังไง ไม่มีจรรยาบรรนอะไรเลยหรือ ผมก็เข้าใจมุมมองของท่านครับ

เอาเป็นว่า “งานนี้ไม่เห็นน้ำตา ไม่ร้องไห้”




Create Date : 19 กันยายน 2550
Last Update : 19 กันยายน 2550 1:01:32 น. 0 comments
Counter : 416 Pageviews.  

VikingsX
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add VikingsX's blog to your web]