กรรมของ " ทักษิณ " คือ // ท่านอธิฐานบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านมาจาก พุทธภูมิ // ท่านเลยต้องเที่ยวตะเวณช่วยเหลือ คนนับแสนนับล้าน
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
9 กรกฏาคม 2550

คดี ทำบุญ วัดพระแก้ว ไม่หมิ่น ศาลไม่รับฟ้อง "ทักษิณ" รายละเอียด

*** คดี ทำบุญ วัดพระแก้ว ไม่หมิ่น ศาลไม่รับฟ้อง ***

ที่ พว ๐๐๐๘/๒๕๔๘
สำนักพระราชวัง
พระบรมมหาราชวัง กทม.๑๐๒๐๐

๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๘

เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในงานพิธีจัด ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

เรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

อ้างถึง หนังสือที่ นร ๐๕๐๑/๗๕๙๖ ลงวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๘

ตามที่ขอทราบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในงานพิธีที่จัด ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามตลอดจนการแต่งกาย ข้อพึงปฏิบัติของประธานในพิธี
และผู้เข้าร่วมพิธีนั้น สำนักพระราชวังมีระเบียบที่ถือปฏิบัติ คือ เมื่อส่วนราชการหรือคณะบุคคลมีความประสงค์จะขอใช้พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เพื่อประกอบพิธีต่างๆ ต้องทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการ เพื่อนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่
หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาติแล้ว สำนักราชเลขาธิการจะทำหนังสือแจ้งผู้ขอพระบรมราชานุญาติ และแจ้งสำนักพระราชวังทราบดังตัวอย่างเช่น
๑. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ พลตำรวจเอก สล้าง บุนนาค ประกอบพิธีมังคลาภิเษกเหรียญที่ระลึก “เบญจมหามงคล” เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์
๒๕๔๒
๒. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ นายประมวล สภาวสุ ประกอบพิธีมังคลาภิเษกเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ
พลอดุลยเดช เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ตุลาคม
๒๕๔๒
๓. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ กระทรวงสาธารณสุข ประกอบพิธีพุทธาภิเษก พระพุทธรูปประจำกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ ๒๗ มิถุนายน
๒๕๔๓
๔. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ พลเอกวิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุทหราชองครักษ์ประกอบพิธีมังคลาภิเษกและเทองหล่อชนวนรูปหลวงพ่อทวดพระ
นามาภิไธย สก. เมื่อวันอังคารที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๔๔
๕. พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ นายสวัสดิ์ โชติพานิช ประกอบพิธีมังคลาภิเษกพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเหรียญที่ระลึก
เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

การดำเนินงานหลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของ 3 หน่วยงาน คือ
๑. เจ้าของงาน
๒. เจ้าหน้าที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
๓. เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง
ทั้ง ๓ หน่วยงานพิจารณาดำเนินการร่วมกัน โดยเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธีเป็นผู้จัดสถานที่ตามหลักการที่เคยปฏิบัติ และให้คำแนะนำในพิธีการปฏิบัติ

การจัดที่นั่งของประธานในพระอุโบสถ จัดเป็น ๓ แบบ ดังนี้
๑. ในกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาทรงเป็นประธานในพิธี การตั้งพระราชอาสน์ที่ประทับ จะตั้งโดยหันพระพักตร์ไปยังอาสนสงฆ์ ส่วน
เก้าอี้ของข้าราชการ และผู้มาเฝ้าฯ จะหันหน้าเข้าสู่พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากรเพราะถือว่าข้าราชการและผู้มีเกียรตินั้นมาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้า
อยู่หัว
๒. ในกรณีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมวงศ์ พระราชวงศ์ องคมนตรีปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ต้องตั้งพระราชอาสน์พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธาน ตั้งพระเก้าอี้หรือเก้าอี้ผู้แทนพระองค์ทางเบื้องขวาและต่ำกว่าพระราชอาสน์ โดนหันหน้าไปทางอาสนสงฆ์ ส่วนเก้าอี้
ของข้าราชการและผู้มีเกียรติจะตั้งหันเข้าสู่
พระมหามณีรัตนปฎิมากร เพราะถือว่าข้าราชการและผู้มีเกียรตินั้นมาเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมวงศ์หรือผู้แทนพระองค์
๓. ในกรณีที่พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้หน่วยราชการหรือบุคคลใช้พระอุโบสถโดยเชิญผู้มีเกียรติหรือเจ้าของงานเป็นประธาน การตั้งเก้าอี้ของ
ประธานจะตั้งหันหน้า ไปยังอาสนสงฆ์ ส่วนเก้าอี้ของผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน จะตั้งด้านหลังของเก้าอี้ผู้เป็นประธาน และหันหน้าไปยังอาสนสงฆ์เช่น
เดียวกับประธาน

การแต่งกายในพิธี ถ้าเป็นการเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมวงศ์ หรือผู้แทนพระองค์ สำนักพระราชวัง กำหนดการแต่งกาย เครื่องแบบ
เต็มยศ เครื่องแบบครึ่งยศ หรือเครื่องแบบปกติขาวแล้วแต่กรณี ส่วนที่เป็นพิธีของหน่วยราชการและบุคคล กำหนดการแต่งกายเป็นชุดสากลนิยม ชุดพระราช
ทานหรือชุดสุภาพ

การปฏิบัติของผู้เป็นประธาน ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวังแนะนำและเชิญประธานไปปฏิบัติตามธรรมเนียมที่ได้ปฏิบัติกันสืบมา
จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ

(นายแก้วขวัญ วัชโรทัย)
เลขาธิการพระราชวัง

กองพระราชพิธี
โทร. ๐ ๒๖๒๓ ๕๕๐๐ ต่อ ๒๕๒๖
โทรสาร. ๐ ๒๖๒๓ ๕๕๐๐ ต่อ ๒๕๒๗

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ข้ออ้างทำรัฐประหารหมดแล้ว ทักษิณทำบุญวัดพระแก้ว ไม่หมิ่นเบื้องสูง
ข้ออ้างของเผด็จการทหารในการทำรัฐประหารหมดลงโดยสิ้นเชิง หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำ
ผิดจารีตประเพณีกระทำอาจเอื้อมทำตัวเสมอพระมหากษัตริย์เข้าไปเป็นประธานในพิธีทำบุญในวัดพระแก้ว

สำหรับคำวินิจฉัยของอัยการฯ นั้น ได้อ้างนายสนอง บูรณะ รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง เป็นพยานยืนยันว่าการที่ผู้ต้องหาที่ 1
ที่ 2 เข้าไปประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในวันที่ 10 เมษายน 2548 นั้น ได้รับพระบรมราชานุญาตจาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยถูกต้องแล้ว ไม่ขัดต่อระเบียบหรือขั้นตอนแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ยังอ้าง นายธงทอง จันทรางศุ เป็นพยานสนับสนุนว่าภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น หน่วยราชการต่างๆ สามารถขอพระราช
ทานพระบรมราชานุญาตประกอบพิธีภายใต้คำแนะนำของสำนักพระราชวังได้ ซึ่งการจัดงานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้นมีมาหลายครั้งแล้ว
และสามัญชนก็สามารถเป็นประธานในพิธีได้ รูปแบบการจัดสถานที่ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามตามวันเวลาเกิดเหตุนั้น ได้มีกองพระราชพิธี
สำนักพระราชวังเป็นผู้ดำเนินการโดยมีความแตกต่างกับกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ได้เสด็จมาเป็นประธานในพิธีด้วย
พระองค์เอง และการที่ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ 2 และผู้เข้าร่วมพิธีแต่งกายชุดสุภาพก็ไม่ขัดต่อระเบียบสำนักพระราชวังหรือประเพณีปฏิบัติแต่อย่างใด

อีกทั้งการที่สวมรองเท้าเข้าไปภายในพระอุโบสถนั้นก็สามารถกระทำได้เช่นนั้น สำหรับเครื่องใช้สอย อาทิ เก้าอี้ โต๊ะ ผ้าปู พรมสีแดง ฯลฯ กองพระราชพิธี
สำนักพระราชวัง เป็นผู้จัดเตรียมให้ เชื่อว่าถูกต้องตามระเบียบและขนบธรรมเนียมประเพณีแล้ว ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าการจัดพิธีทำบุญประเทศภายในอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนาศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว โดยกองพิธีสำนักพระราชวังเป็นผู้ดำเนิน
การจัดรูปแบบและจัดสถานที่ประกอบพิธี ซึ่งการแต่งกายของผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 ก็ไม่ขัดต่อระเบียบของสำนักพระราชวัง หรือประเพณีปฏิบัติ การกระทำ
ของผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 จึงไม่เป็นการดูหมิ่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นความผิดฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด

จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 1 และนายวิษณุ เครืองาม ผู้ต้องหาที่ 2 ข้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 112 คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่ต้องนำมาลงเผื่อบางคนไม่ทราบ
เพราะเวลาผ่านไปข่าวก็ถูกลืม
เพราะข่าวหรือคำชี้แจงต่างๆ มักทำแค่ครั้งเดียววันเดียว
แต่พวกที่จ้องหาเรื่องจะกล่าวหาได้ทุกวันเช้ากลางวันเย็นไม่มีวันหยุด
ยิ่งพอคนลืมเลือนไปแล้วยิ่งบิดเบือนได้ง่ายขึ้น
อย่างกรณีคดีนี้ ก็ได้ผ่านกระบวนการศาลแล้ว
ซึ่งก็เป็นคำสั่งศาลที่อยู่ในสมัยรัฐบาลของ คมช. ด้วยซ้ำ
ข้อกล่าวหาต่างๆ ถ้าผิดก็คงโดนเล่นงานไปแล้ว
ขนาดไม่ผิดยังพยายามหาเรื่องให้ผิดได้
แล้วถ้ากรณีนี้มีความผิดแม้เพียงเล็กน้อย
หรือรัฐบาลก่อนกระทำการอันใดไม่เหมาะสม
หมิ่นเบื้องสูงหรืออะไรก็แล้วแต่
คิดว่าจะรอดไหม
แต่ก็ยังไม่วายมีคนเอามากล่าวหาอยู่เรื่อยๆ
บางคนคนอย่างชี้แจงแต่พอชี้แจงบ่อยๆ ก็เบื่อก็เซ็ง
เพราะจุดประสงค์คนกล่าวหาเขาไม่ยอมรับความจริง
แม้จะผ่านกระบวนการอะไรถ้าไม่ตรงใจที่อยากให้เป็น
ก็หลับหูหลับตากล่าวหาไปเรื่อยๆ
บางพวกก็รอให้เรื่องเงียบก็ขุดเรื่องเดิมๆ มากล่าวหา
ใครเขาอยากตามไปชี้แจง
ชี้แจงไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
เพราะจุดประสงค์ต้องการกล่าวหาดิสเครดิตและตะแบงไปเรื่อยๆ ไม่ให้จบ
แค่นั้นไม่ต้องการอยากรับรู้ความจริงว่าเป็นยังไง
โดยเชื่อว่าอย่างน้อยหลอกคนไม่รู้ข้อเท็จจริงให้หลงเชื่อ
ก็ถือว่าประสพผลสำเร็จแล้ว




Create Date : 09 กรกฎาคม 2550
Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 22:38:36 น. 0 comments
Counter : 2249 Pageviews.  

VikingsX
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add VikingsX's blog to your web]