กรรมของ " ทักษิณ " คือ // ท่านอธิฐานบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านมาจาก พุทธภูมิ // ท่านเลยต้องเที่ยวตะเวณช่วยเหลือ คนนับแสนนับล้าน
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
14 กรกฏาคม 2550

อบายมุข เอย จะทำฉันใด

อบายมุข เอย จะทำฉันใด

หลังจากมีการนำ อบายต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ดินขึ้นมา บนดิน ก็มีคนวิพาควิจารณ์ สังคมเราจะเต็มไปด้วย อบายมุข กันหรืออย่างไร เกิดความไม่แน่ใจ

คือ จริง ๆๆ เราบอกว่า ไอ้นั้นไม่ดี ไอ้นี้ไม่ได้ ผิดศิลธรรม แบบนั้น แบบนี้ คือถ้าจะเอากันจริง ๆ โรงฆ่าสัตว์ ก็ผิด เรือประมง ก็ผิด ยาฆ่าแมลงก็ผิด เรามองอบายมุข ต่าง ๆ แบบไหน อย่างไร แล้วเราจะแก้ไขกันอย่างไร ต่างหาก

จะให้ไทย เป็นรัฐที่ใช้กฏหมายศาสนา หรือไงครับ และถ้าผม นับถือผี ไหว้ต้นกล้วย " ทำแบบนี้ ไม่ริดรอนสิทธิ์ของผมเหรอครับ "

ยังจำกันได้มัยครับท่าน สมัยยังเด็ก ๆๆ เรา เล่น ทอยเส้น เป่ากบ ดีดลูกหิน เล่น ล้อต๊อก กัน การพนันทั้งน๊าน ... โตมาหน่อย ทำต่อมแต๋วแตก ... ร้องวี๊ดว๊ายกระตู้หู มีไม่ได้ ๆๆๆๆ ดจร.

ในอดีตเราก็ไม่เคยสามารถทำได้ ในปัจจุบันก็ยังทำไม่ได้ ในอนาคตก็ไม่มีสัญญาณ ใด ๆๆ อันส่อแสดงว่าจะทำได้ แล้วท่านทั้งหลาย " ยังตะแบง " ทำกันทำมัย อย่างเอาแต่มี กม.สวยหรู ดูดี แล้วไม่มีความสามารถ " บังคับใช้ " หรือ บังคับใช้เพื่อรับใช้ผู้มีอำนาจหน้าที่ เพื่อ " ภาษี " เถื่อน

ท่านจะให้ประเทศเป็นแบบนั้นจริง ๆๆ ฤ หรือว่าเพราะท่านต้องการภาษี " เถื่อนจริง " เพื่อบำรุงบำเรอ กลุ่มสมัครพรรคพวก ลิ่วล้อ มือตีน ฐานอำนาจ ของกลุ่มของท่านเอง โดยใช้ กม. บังหน้า มีไม่ได้ แต่ถ้า " จ่าย " ให้กุร กุรก็ทำเป็นไม่เห็น กุรไม่เห็นก็ไม่ผิด ใช่ไม่ใช่ พ่อแม่พี่น้อง

ตัวอย่าง อัลคาโปน ที่เติบโตไต่เต้าเป็นองค์กร เถื่อน ระดับประเทศ ได้ ก็เพราะ กม. ห้ามการค้าขายสุรา ก็เลยเกิด องค์กรนี้ขึ้นมา ตัวอย่างก็มีอยู่

การตั้งเป้าหมาย ที่ถูกต้องเหมาะสมให้สังคมไทย กันดีกว่า

1. ใจคนดังกระจก ต้องหมั่นเช็ด หมั่นถู จึงจะใสสะอาด

สมมุติว่า : ผมติดคุก โดนตีตรวน เข้าซอง ผมก็ไม่พูดโกหก เพราะอยู่คนเดียว ผมก็ไม่ทำผิดศิลธรรมเลย เพราะไม่มีให้ทำ พอผมออกมาสู่สังคมโลกภายนอก ถามมีใครรับรองว่า ผมเป็นคนดี ในความเห็นผม ผมก็ว่าไม่มีใครกล้ารับรอง เพราะการไม่มีที่ี่ีให้ทำ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ทำถ้ามีโอกาส

2. ใจคนว่างเปล่า ใยต้องเช็ดต้องถู

แต่ถ้าเรา รู้เท่าทันอบาย มีหรือไม่ ก็ไม่มีผล มันจะมีบ่อน ก็มีไป มันจะมีสถานเริงรมณ์ ก็มีไป ในเมื่อเรา รู้เท่าทัน อบาย ็เราไม่ไปลงไหลได้ปลืม อะไรในสิ่งแบบนั้น มันก็จบ ไม่มีผล

สรุป ปัจจุบัน เรามักจะเป็นแบบ ข้อ 1 มันก็เลย ต้องตามล้างตามเช็ด เดียวก็มีไอ้นั้น เดียวก็มีไอ้นี้ พอสังคมหย่อนยานหน่อย ก็เฮโลกานมา เราต้องเริ่มจาก คนรุ่นใหม่ ๆ ให้รู้จักทำใจให้ว่าง รู้เท่าทันอบาย แล้วฝุ่นธุลี แห่งอบายก็จะได้ไม่มาเกาะ จะได้ไม่เที่ยวตามล้าง ตามเช็ดกัน จะเอาคนที่ไหน ไปให้ความดูแลได้ทั่วถึง ทุกซอก ทุกมุม ของประเทศ


“เรื่องของเซน”

มีหนังสือเล่มหนึ่งที่เพิ่งจะหยิบมาอ่าน... และอ่านเพียงคร่าวๆ เท่านั้นแต่ได้เนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟัง หนังสือเล่มนี้ชื่อ "ปรัชญามหายาน" โดย เสถียร โพธินันทะ ข้อความมีว่า จีนแต้จิ๋วเรียกนิกายเซนว่า เซี้ยงจง (ส่วนคำว่าเซนนั้นมาจากภาษาญี่ปุ่น) โศลกของท่านฮุยเล้ง บอกว่า

พู่ที่ปุ้งฮุยซิ่ว - ต้นโพธิ์นี้เดิมมิใช่เป็นต้นโพธิ์
เม่งเกี่ยเอี่ยฮุยไท้ - กระจกเงาเดิมก็มิใช่กระจกเงา
ปู้ไล้ม่อเจ็กม้วย - แต่เดิมไม่มีอะไรสักอย่าง
ฮ่อชู่เยียติ้งอาย - แล้วจะถูกฝุ่นละอองจับคลุมที่ตรงไหน

นิกายนี้ถือว่า สัจจะภาวะนั้นย่อมอยู่เหนือการพูด การคิด เราจะค้นสัจธรรมในหนังสือพระไตรปิฎกนั้นย่อมไม่พบ นอกจากเราจะต้องหันมาบำเพ็ญจิตของตนเอง เพราะความจริงเราจะหาได้ภายในตัวเรานี้เอง จะไปค้นหาภายนอกไม่ได้ นิกายนี้จึงว่า ปุกลิบบุ้นยี่ ติกจี้นั้งซิม แปลว่า ไม่ต้องอาศัยตัวหนังสือเป็นรากฐานหรอก แต่ชี้ตรงไปยังใจของตน....

นิกายเซนถือว่า พระพุทธเจ้ากับสรรพสัตว์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน "พระพุทธเจ้าทั้งหลายกับสรรพสัตว์ ต่างมีจิตอันเดียวกัน ไม่มีสิ่งอะไรต่างหาก จิตนี้นับแต่กาลเบื้องต้นอันไม่ปรากฎ ก็ไม่เคยเกิด ไม่เคยดับ ไม่เป็นสีเขียว ไม่เป็นสีเหลือง ไม่มีรูป ไม่มีลักษณะ ไม่มีอยู่ในวงว่ามีหรือไม่ ไม่เป็นของใหม่หรือของเก่า ไม่ยาวไม่สั้น ไม่ใหญ่ไม่เล็ก อยู่พ้นประมาณวัดทุกอย่าง พ้นชื่อเสียงเรียงนาม พ้นร่องรอยและความเป็นคู่ คือสภาพเดี๋ยวนี้ จิตนี้เหมือนอากาศ ไม่มีขอบเขต ไม่อาจวัดได้ จิตดวงเดียวนี้แหละคือพุทธะ!
- - - - - - - - -

เซน...คือพุทธ ย้ำความเดิมอย่างเชื่อมั่น เซนเป็นพุทธมหายาน ความเชื่อในเซนจึงเป็นความเชื่อในพุทธ "อนัตตา" คือความไม่มี...พุทธกับเซนสอนเหมือนกัน, หนังสือหลายเล่มที่ว่าด้วยเซนและเต๋ามักจะโยงเข้ามาสู่พุทธศาสนาเสมอนั่นเพราะทั้งสิ้นเป็นสิ่งเดียวกัน... ที่ต่างเพียงแค่ "วิถีปฏิบัติ" เท่านั้น...

มีหนังสือเกี่ยวกับเซนมาแนะนำให้อ่านหลายเล่ม หลายเล่มยังไม่เคยอ่านเหมือนกัน แต่ผ่านหูผ่านตา หยิบจับมาเปิดๆ ดูบ้าง อาจเพราะระหว่างนี้สนใจอยู่กับเรื่องของธิเบต ศาสนาในธิเบต ซึ่งเป็นพุทธตันตระ มีวิถีปฏิบัติที่ต่างจากพระสงฆ์นิกายอื่น... แต่เรื่องที่สอนเหมือนกันคือ "ปล่อยวาง-ว่างเปล่า"

หนังสือชื่อ "ชัมบาลา Shambala : The Sacred path of the warrior" หนังสือที่เขียนโดยพระธิเบตชื่อ เชอเกียม ตรุงปะ เป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนาของธิเบต ซึ่งเป็นการบอกเล่าเรื่องราวโดยทั่วไปเกี่ยวกับคติธรรมคำสอนของพุทธธิเบต

"การยอมรับถึงความกลัว ใช่ว่าจะทำให้รู้สึกหดหู่หรือท้อแท้ เพราะด้วยเหตุที่เรามีความกลัวเช่นนี้อยู่ เราจึงมีศักยภาพ ที่จะเข้าถึงความไม่หวาดหวั่นอยู่ในตัว ความไม่หวาดหวั่นที่แท้จริงนั้นมิใช่การลดทอนความกลัวลง แต่เป็นการขึ้นอยู่เหนือความกลัวนั้น"

เอาล่ะ, กลับมาที่เซนอีกที... อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีความรู้อันใดนอกเหนือไปจากการรู้จากหนังสือ ศึกษาจากหนังสือ และบางครั้ง "ลงมือ" ในเรื่องที่ทำได้ เมื่ออยู่ในสังคม และยุคสมัยที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี มี "ความจริง" ที่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตในสังคมมาเป็นเงื่อนไขในการดำรงชีวิต การศึกษาเรื่องศาสนา หรือความชอบในบางเรื่องจึงอยู่เพียงขอบข่ายที่เหมาะควรเท่านั้น... ไม่เดินก้าวเข้าไปมากจนทำให้การดำรงชีวิตประจำวันนั้นต้องมีปัญหา และไม่น้อยจนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนไม่สนใจในศาสนาเอาเสียเลย หลายๆ อย่างจึงอยู่เพียงความ "พอดี" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด...

หนังสือแนะนำ

- สมาธิเซน : Zen art for meditation เขียนโดย Stewart W. Holmes และ Chimyo Horioka
- อยู่อย่างเซน โดย ละเอียด ศิลาน้อย
- เธอคือศานติ เขียนโดย ติช นัท ฮันห์ แปลโดย สันติสุข โสภณสิริ
- เซนในศิลปะการต่อสู้ : Zen in the martail arts เขียนโดย Joe Hyams แปลโดย วันทิพย์ สินสูงสุด
- กุญแจเซน เขียนโดย ติช นัท ฮันห์
- ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ เขียนโดย ติช นัท ฮันห์
- เดิน วิถีแห่งสติ เขียนโดย ติช นัท ฮันห์ แปลโดย รสนา โตสิตระกูล
- ศานติในเรือนใจ เขียนโดย ติชนัท ฮันห์ แปลโดย ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน์



Create Date : 14 กรกฎาคม 2550
Last Update : 14 กรกฎาคม 2550 1:25:49 น. 0 comments
Counter : 384 Pageviews.  

VikingsX
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add VikingsX's blog to your web]