Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
แกงไตปลา....ตามมีตามเกิด ประสาคนอยู่เกาะ

สวัสดีค่ะ....เพื่อน ๆ ที่รัก และคิดถึงทุกท่าน

หายเฮทจากการอัพบล๊อคไปเสียนาน เพราะติดภาระกิจพันแปดร้อยล้าน อีกทั้งไประเริงอยู่กะของใหม่ (เฟสบุ๊ค)

วันนี้...ขอปัดฝุ่น เอาของเก่ามาเล่าใหม่อีกครั้ง เพราะสูตรที่เคยโพสเอาไว้ที่เวป "ครัวชมพู่" ตั้งแต่กลางปี 2548 มันหาไม่เจอแระ เลยจำเป็นต้องเอาของเก่ามาเล่าใหม่อีกครั้ง

ถ้าพูดถึงอาหารปักษ์ใต้แล้ว เพื่อน ๆ จะคิดถึงเมนูอะไรเป็นอันดับแรกคะ? แต่สำหรับดิฉันแล้ว ที่เห็นลอยตกปุ๊มาตรงหน้า ก็คือ “แกงไตปลา” เพราะชอบในความเผ็ดร้อน จัดจ้านของรสอาหาร (เปรี้ยวเป็นเปรี้ยว เผ็ดเป็นเผ็ด เค็มเป็นเค็ม)

ต้นตำหรับปักษ์ใต้ขนาดแท้ "แกงไตปลา" มีสองชนิด คือแบบแกงใส่กะทิ กับ ไม่ใส่กะทิ และอาจจะแกงแบบใส่ผัก หรือ ไม่ใส่ผักก็ได้เช่นกัน สำหรับ "แกงไตปลา" แบบไม่ใส่ผัก น้ำแกงจะค่อนข้างข้น (คลั๊ก) เหมาะสำหรับที่จะรับประทานคู่กับขนมจีน และแนมด้วยผักสด ๆ แช่เย็น กรอบ ๆ ถาดโต ๆ

แต่ที่ดิฉันโปรดที่สุด ก็คือ แบบที่นำสูตรมาแปะฝากกันนี้แระค้า ลงมือกันดีกว่านะคะ


เครื่องปรุงน้ำพริก

พริกขี้หนูแห้ง แช่น้ำให้นิ่ม..... 20 เม็ด
พริกขี้หนูสด....... 20 เม็ด
พริกไทยเม็ด...... 5 - 10 เม็ด
ข่าหั่นฝอย .......2 ช้อนชา
ตะไคร้หั่นฝอย....... 3 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูด...... 1 ช้อนชา
ขมิ้นสดยาว .....1 นิ้ว
หอมแดงซอย...... ¼ ถ้วย
กระเทียมซอย...... ¼ ถ้วย
เกลือป่น...... ½ ช้อนชา
กะปิ...... 1 ช้อนโต๊ะ

โขลกทุกอย่างให้ละเอียด เตรียมรอท่า



* ทางลัดสำหรับยามขาดแคลนของสดหลาย ๆ อย่าง ดิฉันจะทำแบบง่ายเข้าไว้ก่อน คือโขลกพริกไทย 10 เม็ด (ชอบความหอม+เผ็ดร้อนของพริกไทย ช่วยไล่ลมได้ดีอีกด้วยนะคะ) ให้พอแหลก เติมขมิ้นสด (แช่แข็ง ถ้าไม่มีก็ใช้ผงขมิ้น สัก 1 ช้อนโต๊ะ) กับพริกขี้หนูสด ลงไปโขลกให้ละเอียดเข้ากัน แล้วเติม พริกแกงเผ็ดแดง 100 กรัม ผสม โขลกให้เข้ากันดี

เครื่องปรุงอื่น ๆ
ไตปลา...... 1 ถ้วย
กุ้งสดปอกเปลือก...... 200 กรัม
ปลาย่างแห้ง หรือปลาสดย่างให้แห้ง แกะเอาแต่เนื้อ...... 2 ถ้วย
ใบมะกรูด .....5-6 ใบ
มะขามเปียก 2 - 3 ฝัก คั้นน้ำ...... ¼ ถ้วย
น้ำตาลปีป....... 2 ช้อนชา
น้ำสะอาด...... 3-4 ถ้วย

*ถ้าชอบเผ็ดรสจัด ใช้น้ำแค่ 3 ถ้วยตวงก็พอค่ะ

ตามสโตร์ไทยในญี่ปุ่น...มี " ไตปลา " บรรจุเป็นขวดเล็ก ๆ (ตามอัตราส่วนที่ให้ไว้ข้างต้น ก็ใช้หมดขวดเลย) สนนราคา ขวดหนึ่งประมาณ 4- 500 เยน จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้เสียแล้ว เพราะไม่ได้ซื้อจากที่นี่ใช้นานพอดู มักจะกลับไปซื้อในเวลาที่กลับเมืองเมืองไทย แล้วหอบหิ้วกลับมาทุกคราวนะค้า

กระปุกขนาดนี้... ประมาณ 400 เยน



ขวดแบบนี้.....ประมาณ 500 เยน




เนื้อปลาย่าง...ที่นำมาใส่ในแกงนั้น ควรย่างให้สุกแห้งสนิท เพราะเวลาที่เราใส่ลงไปในน้ำแกงแล้ว เนื้อปลาจะได้ไม่เละ ปลาที่เหมาะจะนำมาใช้ก็เป็นพวก ปลาที่มีเนื้อมาก ๆ เช่น ปลาสำลี , ปลาโอ , ปลาสีกุน ฯลฯ แต่ที่เห็นนิยม (เวลาซื้อทานที่เมืองไทย) ก็เห็นจะเป็นปลาทู ค่ะ

ปลาที่ดิฉันมักจะใช้บ่อยที่สุดคือ เศษ ปลามากุโระ เพราะราคาถูก ประหยัดกระเป๋า โดยเฉพาะ....ถ้าไปซื้อตอนที่เค้าใกล้ ๆ ปิดซุปเปอร์แล้วละก้อ ลดครึ่งต่อครึ่งเชียวค้า แพ็คหนึ่งราคาแค่ 100 เยนเอง นำมาย่างให้สุก แห้งสนิท แบ่งในปริมาณที่ต้องการใช้ไว้ ส่วนที่เหลือ ก็เก็บเข้าฟรีสเอาไว้ใช้ในคราวต่อไปได้อีก ((ประหยัดแรงงาน+เวลา ))




หลังจากที่ไว้ให้คลายความร้อน แกะฉีกเอาแต่เนื้อล้วน ๆ



* ส่วนกุ้ง...ก็ใช้แบบที่เค้าแช่แข็งเอาไว้ ถ้าตัวใหญ่ จะสับหยาบ ๆ ก็ได้ค่ะ


ผักที่ใส่

หน่อไม้อ่อน หั่นเป็นท่อน ๆ ..... 200 กรัม
มะเขือพวง หรือมะเขือเปราะ...... 1 ถ้วย
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นทอนยาว 1 นิ้ว...... ½ ถ้วย
หรือจะเปลี่ยน หรือ เพิ่มผักอื่น ๆ เช่น ฟักทอง , ข้าวโพดอ่อน ฯลฯ ได้ตามชอบ

ที่ขาดไม่ได้คือ "หน่อไม้อ่อน" ... มาอยู่เกาะอย่างนี้ ก็จำเป็นต้องใช้ หน่อไม้กระป๋อง ขนาดกลางที่ขายทั่วไป หั่นเป็นท่อน ๆ ขนาดรับประทาน ล้างน้ำ จับใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วม แล้วต้มให้เดือดเสียก่อน นำมาล้างน้ำให้สะอาด เพื่อกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ก่อนนะคะ



เทใส่กระชอนทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ พักไว้

* ผักชนิดอื่น ๆ ที่ต้องการใส่ ถ้ามีขั้วก็ตัดทิ้ง ล้างสะอาด หั่นขนาดรับประทานเตรียมไว้เช่นกัน

นำ ไตปลา เทใส่ลงในหม้อ



เติมน้ำสะอาด



* เคล็ดไม่ลับของดิฉันในการทำแกงไตปลา (รวมถึงน้ำปลาร้า)....ให้อร่อยอยู่ที่ขั้นตอนนี้ค่ะ จะใส่พวกเศษ ๆ ของเครื่องปรุงน้ำพริก เช่น ปลายตะไคร้ , เปลือกของหอมแดง ฯลฯ ที่เหลือใช้ ไม่สามารถจะนำไปปรุงเป็นน้ำพริกได้ ลงไปด้วย จะช่วยดับกลิ่นเหม็นคาวต่าง ๆ ได้ดีเชียวค่ะ

ยกหม้อตั้งไฟให้พอเดือด (ดูให้ไตปลาละลายหมดก่อน ) กรองเอากากและกรวดทรายออก



นำน้ำไตปลาที่กรองไว้ ยกตั้งไฟ ต้มแค่พอเดือด ใส่น้ำพริกแกงที่เตรียมไว้ คนให้น้ำพริกแกงละลาย



ใส่เนื้อกุ้ง และเนื้อปลาย่าง ที่แกะไว้ ที่จริง...ถ้าใช้ ใบมะกรูด สด ๆ ก็จะใส่ในขั้นตอนหลัง ๆ แต่เนื่องจาก...เป็นของแช่แข็ง กลิ่นหอมจะเหลือน้อย ดิฉันมักจะใส่ ในขั้นตอนนี้เสมอค่ะ



ใส่ผักต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ โดยใส่ผักที่แข็ง สุกยากก่อน ((หน่อไม้...ยิ่งต้ม เคี่ยว นานหน่อย น้ำแกงจะได้ซึมเข้าเนื้อดียิ่งขึ้น))



ตามด้วยผักที่สุกง่าย ผักทุกอย่างที่ลงหม้อ นำมาโชว์โฉมคราวนี้ (นอกจากหน่อไม้) มาจากผลผลิตที่ปลูกเองทั้งนั้นค้า



พอผักเริ่มใกล้สุก ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป ชิมรสตามชอบ ถ้าอ่อนเค็ม ให้ใช้เกลือปรุงรสเพิ่ม เมื่อรสได้ที่แล้ว ผักสุก ก็ปิดไฟเตาได้ทันที

หม้อนี้.....ต้มสุกและปรุงรสได้ที่แล้ว เตรียมยกไปให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ช่วยกันชิมใน "งานฮาโลวีน" เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา และเพราะเจ้าหม้อนี้เอง...ทำให้อิฉาน ต้องมาอัพบล๊อค นำสูตรมาแปะฝากกันอีกครั้ง




* ดิฉันชอบทาน "ฟักทอง" เป็นที่สุด รองลงมาจากหน่อไม้ ถ้าได้ใส่เพิ่ม จะช่วยทำให้น้ำแกงมีรสหวานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาก็คือ...ถ้าต้องต้มเคี่ยวนาน มักจะเละ ทำให้น้ำแกงขุ่นข้น ดูไม่น่ารับประทาน ทางแก้...ก็คือ จะนำ "ฟักทอง" ล้างสะอาด หั่นขนาดรับประทาน ใส่ภาชนะ ปิดคลุมด้วย Warp นำเข้าเวฟ ใช้ไฟ 500 W ประมาณ 2 นาที แล้วค่อยนำใส่ลงไปในหม้อ (เล็ก ๆ ) ที่แบ่งออกมาค่ะ




แกงไตปลา... เป็นเมนูเดียว ในบรรดาอาหารไทยทุกชนิด ที่คุณสะมี ไม่ยอมแตะเลยค้า ทำทีไรต้องรับผิดชอบทานคนเดียวเป็นทุกคราวไป แถมวันไหนทำละก้อ...แค่คุณท่าน เปิดประตูบ้าน ได้ยินเสียงบ่นอุบ ๆ อิบ ๆ ประมาณว่า....เมียตรูทำอ้ายแกงเหม็น ๆ อีกแระ

ดิฉันก็จะเก็บเอาไว้ทานยามขนงอก ชนิดสลัดไม่หลุด โดยการตักแบ่งใส่ถุง ขนาดพอทานแต่ละมื้อ แล้วเก็บเข้าแช่ฟรีสเอาไว้ อยากทานเมื่อไหร่ก็เอาออกมาละลายแล้วอุ่นให้ร้อน รสชาดไม่เปลี่ยนเลยแระค้า

คงต้องขอจบการนำเสนอไว้แค่นี้ก่อนแล้ว เพราะหมดแรงแย้ววววว ลากันที่รูปนี้ดีกว่า แป๊ววววว รูปที่ ตักราดบนเส้นขนมจีน (เส้นโซเมน) ...หายปายหนาย หาไม่เจอ เอารูปนี้แทนก็แล้วกัน ตักราดบนข้าวสวยร้อน ๆ กินไป ก็ให้น้ำตาร่วง ฟาดน้ำตามเป็นลิตร ((แล้วจะกินทำไมหนอ???))


***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อน***

หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ

♥♥♥ Guestbook .....เล่มที่ 4 ♥♥♥

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขออภัยในความไม่สะดวก ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ




Create Date : 13 ธันวาคม 2553
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2554 8:21:12 น. 8 comments
Counter : 12911 Pageviews.

 
จะได้จัดการเร็วๆ นี้แหล่ะค่ะ
ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ
มั่นใจยี่ห้อคุณเต่าญี่ปุ่นค่ะ อิอิ


โดย: sisser IP: 118.11.244.158 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:9:45:08 น.  

 
คิดถึงบ้านเลยค่ะ อยากกินๆ


โดย: allenalina วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:16:21:44 น.  

 
อยากทำจังค่ะ เพราะชอบกินมาก แต่ไร้ไตปลา คราวหน้าต้องหอบมาบ้างแล้วค่ะ หลิงเจอไม่ได้ต้องคกินทุกครั้งเลยค่ะ พ่อคนใต้พอดีด้วย กินบ่อยมากกกเลยค่ะ พี่เต่าสุดยอดมากก


โดย: ling IP: 123.198.121.84 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:18:40:22 น.  

 
ฮั่นแน่

ติด FB ซะอีกคน เลยไม่ยอมอัพบล็อก


ตอนนี้ กลับมาทำของอร่อย ให้พวกเราทานกันอีกซะดี ๆ

โดยเฉพาะขนมปัง ได้ใจเจ๊หลีมาก


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:20:05:52 น.  

 
เห็นแล้วอยากหม่ำเลยคะ่
แบบขอร้อน ๆ สักชามสิค่ะ


โดย: ซามอ วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:9:56:21 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ตามมาเก็บแทบทุกสูตรเลยค่ะ


โดย: รินค่ะ IP: 59.129.252.252 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:12:49:42 น.  

 
อยากกินขนมจีนแกงไตปลามากเลย ทำแบบไม่ใส่ไตปลามันจะเป็นรสชาติใกล้เคียงกันไหมคะเนี่ย แถวนี้หาไตปลาคงยาก ถ้าซื้อจากเมืองไทยเก็บได้นานไหมคะ ขอบคุณที่แบ่งปันสูตร อาหารไทยอร่อยที่สุดในโลกเลย


โดย: ยุ้ย IP: 84.83.206.234 วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:5:53:56 น.  

 
ขอบคุณทุก ๆ คนที่แวะมาเม้นท์นะคะ

คุณยุ้ย...ทำแบบไม่ใส่ไตปลามันท่าจะไม่เวิร์คเป็นที่สุด นอกจากว่า...จะใช้น้ำพริกไตปลาผัดแห้ง ซึ่งก็พอจะได้รสชาติใกล้เคียงกันหน่อย สำหรับ "ไตปลา" ถ้าซื้อจากเมืองไทยเก็บไว้ได้นานเป็นปีค่ะ เพราะตัวเองก็ซื้อมาคราวละหลายขวด ถ้ายังไม่เปิดใช้ ก็เก็บไว้ในห้องอุณหภูมิปกติได้ แต่ถ้าเปิดขวดแล้ว ก็เก็บไว้ในตู้เย็นอีกประมาณเดือนกว่า ๆ ก็พอไหวค่ะ


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:20:26 น.  

เต่าญี่ปุ่น
Location :
埼玉県 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 234 คน [?]




ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^ มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
Friends' blogs
[Add เต่าญี่ปุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.