Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
กระเพาะปลา...ร้อน ๆ กินแก้หนาวจ้า

สวัสดีค่ะ....เพื่อน ๆ ทุกท่าน ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมและช่วยชิม

วันนี้...พอมีเวลาหน่อย ถือโอกาสจัดเก็บห้องเก็บของหน่อย อ๊ายยยย...แมงมุมมันจะมาชักใยแย้ว ปัดฝุ่นนำของเก่ามาเล่าใหม่ดีกว่านะค้า

เมนูนี้...เคยโพสไว้ตั้งแต่ปี 2548 ที่ เวปครัวชมพู่ นำมาฝากเพื่อน ๆ กันใหม่อีกรอบดีกว่าค่ะ

ประจวบกับเดือนนี้....อากาศที่ญี่ปุ่นเริ่มหนาวขึ้น และก็คงจะหนาวขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ทำพวกหม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่น (นาเบะ , ชาบูชาบู , สุกี้แบบญี่ปุ่น) ทานกันจนเบื่อ+เอียน เสียแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศมาทำหม้อไฟแบบไทย ๆ เรากินแก้เลี่ยนกันเสียหน่อย

พอดีได้รับอภินันทนาการ (กระเพาะปลาแห้ง) จากน้องสาวสุดเลิฟ (คุณความฝันฯ) มาเป็นเดือน ก็ไม่ได้ฤกษ์ทำสักกะที พอดี๊พอดี....ไปงานวัดปากน้ำ ที่ญี่ปุ่น เห็นเค้ามีเลือดหมูขาย ก็เลยสอยติดมือกลับบ้านมาด้วย รื้อดูเครื่องเคราในบ้าน ทุกอย่างครบถ้วน คนทำก็พร้อม (เพราะสุขภาพตัวเอง ช่วงนี้...เอาแน่กะมันไม่ค่อยได้ บางวัน บทจะจะเดี้ยง ก็ทำให้โงหัวไม่ขึ้นเอาเสียเลย ต้องนอนสถานเดียว)

เรามาเข้าครัวเตรียมลงมือกันดีกว่าค่ะ

ส่วนผสม......(สำหรับ 3-4 คน)

กระเพาะปลาแห้ง.......... 200 กรัม
เหล้า (อะไรก็ได้)........... 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงแก่.............. ยาวประมาณ 1 นิ้ว
เนื้ออกไก่................. 100 กรัม
ตับไก่.................... 2 พวง
เลือดหมู หรือ เลือดไก่ต้มสุก......1 ก้อน
ไข่นกกะทา................. 6 ฟอง หรือจะใช้ไข่ไก่ต้มสุก........ 2 ฟอง
หน่อไม้ต้มสุกหั่นเป็นเส้น.................150 กรัม
แครอท หั่นตามยาว.................... 30 กรัม
เห็ดหอมแห้ง................ 2 ดอก (แช่น้ำให้นิ่ม แล้วหั่นตามยาว)
น้ำซุปไก่................ 1 ลิตร
ซีอิ้วดำ............ 1 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว.............. 1 ช้อนโต๊ะ
จิ๊กโฉว หรือ วู๊ดเตอร์ซอส................. 1 ช้อนโต๊ะ
ผงชูรส............. นิดหน่อย
*ที่บ้านไม่ใช้ ก็เลยใช้น้ำตาลทราย......... 1 ช้อนชา แทนค่ะ
แป้งมัน.......... 3 ช้อนโต๊ะ ละลายด้วยน้ำสะอาด..... 6 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี............... 2 ราก
กระเทียมสด................ 1 กลีบ (กลีบใหญ่)
เกลือป่น............... เล็กน้อย
ผักชีหั่นหยาบ ๆ (สำหรับโรยหน้า)...........พอประมาณ

หมายเหตุ : อัตราส่วนผสมที่เขียนไว้นี้....เป็นเพียงแนวทาง เพื่อน ๆ สามารถปรับเปลี่ยน (ไม่มีอะไรก็ไม่ต้องใส่ อ๋อ...แต่กระเพาะปลาตัดออกไม่ได้นะค้า) ปรุงรสชิมดูได้ตามชอบค่ะ

รูปของกระเพาะปลาแห้ง

รูปนี้ (เบอร์ 1) เป็นรูปที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ตอนโพสเมื่อปี 2548 ซื้อจากสโตร์ไทย ถุงหนึ่ง 500 เยน มีแค่ 50 กรัม ความที่แพงมากกกกก หลัง ๆ กลับเมืองไทยทุกคราว เป็นต้องซื้ออย่างน้อยครึ่งกิโล (กะกินได้ตลอดปี) หอบหิ้วเอากลับมาเสมอ



รูปนี้ (เบอร์ 2) เป็นของที่ได้รับอภินันทนาการ จากน้องสาวสุดเลิฟ (คุณความฝันฯ) ขอบอกว่าอร่อยกว่าทุกยี่ห้อ ที่เคยซื้อมากินเลยละจ้า ไว้ขอแหล่งที่ซื้อด้วยนะน้อง กลับไปเมืองไทยคราวนี้.....จะได้ไปสอยกลับมา เพราะจากที่เคยซื้อตามซุปเปอร์ทั่ว ๆ ไปนั้น พอเก็บไว้นานหน่อย น้ำมันจะจับตัว เห็นแล้วร้องยี้ ไม่อยากกินเลย แถมกลิ่น....เหม็นหืนสุด ๆ แต่จะทิ้งก็เสียดายเน้อ

วิธีทำ

นำกระเพาะปลาใส่หม้อ (ความที่ขี้เกียจของคุณนาย จะได้ไม่ต้องล้างอุปกรณ์หลายอย่าง) ใส่น้ำให้ท่วม แช่จนกระเพาะปลานิ่มตัว



สรงขึ้นมา บีบน้ำออกให้หมด นำกลับลงไปใส่ในหม้อ เติมน้ำแค่พอท่วม ใส่ขิงแก่ทุบ หรือจะฝานเป็นชิ้นหนา ๆ + เหล้า ซึ่งส่วนใหญ่...จะใช้ วิสกี้ ค้า เพราะคุณสามีเค้าได้รับอภินันทนาการมา แต่เค้าไม่ดื่ม เราก็เลยเก็บเอาไว้ทำอาหารแทน.... ยกหม้อขึ้นตั้งเตาไฟ ต้มพอเดือดสักครู่ใหญ่ ยกลง เทใส่ตระแกรง ล้างด้วยน้ำอุ่นหลาย ๆ น้ำ (ดมดูสักหน่อย) จนหมดกลิ่นเหม็นสาบหืนของน้ำมันที่ทอด (ตัวเองใช้วิธีนี้มาโดยตลอด....ขจัดกลิ่นได้หมดจริง ๆ เลยละค้า แต่บางตำรา....เค้าก็แนะนำให้ใช้น้ำชาจีนต้ม แต่ตัวเองยังไม่เคยลองเหมือนกันค่ะ



กระเพาะปลา....บีบให้น้ำแห้งสนิท....หั่นขนาดรับประทาน เตรียมไว้



ผักต่าง ๆ ที่ล้างสะอาดแล้ว แช่ หั่น ลวก เตรียมไว้รอท่า



เตรียมน้ำซุป....โดยนำโครงกระดูกไก่ แช่ในน้ำเย็นประมาณ 5 – 6 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จึงยกขึ้นเตาไฟ ต้มให้โดย ใช้ไฟอ่อน ๆ หมั่นช้อนฟองออกด้วย น้ำซุปจะได้ใส นำเนื้อไก่ (ที่เคล้าเกลือป่นเล็กน้อย)....ลงต้มในหม้อน้ำซุป ใช้ไฟอ่อน ต้มจนสุก



ตักเนื้อไก่ ทิ้งไว้พอให้คลายความร้อน ฉีกให้เป็นเส้นฝอย




ไข่นกกระทา หรือไข่ไก่.....ต้มให้สุกปอกเปลือก , ตับไก่.... เคล้าเกลือป่นเล็กน้อย นำไปต้มในน้ำที่เดือด พอใส่ตับไก่ลงไปแล้ว ให้ หรี่ไฟอ่อน ต้มจนสุก ตักขึ้นมา ทิ้งให้เย็น หั่นชิ้นขนาดพอรับประทาน , เลือดหมู.....หั่นขนาดรับประทาน นำไปต้มให้สุก ล้างน้ำให้หมดกลิ่นคาว



ตักแบ่ง (กรอง) น้ำซุปใส่หม้อ



*ถ้าขี้เกียจต้มน้ำซุปไก่ ก็ใช้น้ำสะอาด 1 ลิตร ต้มให้เดือดแล้วใส่ซุปไก่ก้อนคนอร์ 2 ก้อนลงไป คนให้ละลาย ใช้แทนกันได้ค่ะ

ยกหม้อน้ำซุปที่เตรียมไว้ ตั้งไฟ พอน้ำเดือด ใส่รากผักชี กระเทียม ขิงฝานบาง ๆ ลงไป




พอน้ำซุปเดือด ได้กลิ่นหอม ใส่หน่อไม้ที่ต้มสุกแล้ว แครอท และเห็ดหอม ตามลงไป



ต้มต่อประมาณ 5 นาที ใส่กระเพาะปลาที่เตรียมไว้ใส่ลงไป



ตอนแรกที่ทำนั้น....ใช้หม้อดินขนาดกลาง กะว่าทำเสร็จจะได้ยกเสริฟ์ได้ทันที จะได้ไม่ต้องล้างหม้อหลายใบ แต่ที่ไหนด้าย แค่ใส่กระเพาะปลาลงไปเท่านั้น มานฟูบานแทบล้นออกมาจากหม้อ เนี่ย....ยังไม่ได้ใส่เครื่องเคราที่เหลืออีกตั้งหลายอย่าง.....เห้อๆๆๆ ผลสุดท้าย ก็เลยต้องเท ถ่ายออกมาใส่หม้อใบใหญ่กว่าเดิมจนด้าย

ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว ,ซีอิ้วดำ , ซ๊อสเปรี้ยว , ผงชูรส (ถ้าใช้) ถ้าไม่ใช้ให้ใส่น้ำตาลทรายแทนลงไป ชิมรสดูตามชอบ พอรสได้ที่แล้ว ก็หรี่ไฟให้อ่อน ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำ ลงคนให้เข้าในกระเพาะปลา พอข้น



ใส่เนื้อไก่ที่ฉีกฝอย (เหลือไว้นิดหน่อยสำหรับโรยหน้า) , ไข่ต้ม , ตับไก่ , เลือดหมู ตามลงไป



เสร็จแล้วค้า....เหลือแค่แต่งหน้าทาปาก เท่านั้นเอง



ตักใส่คืนลงไปในหม้อดินใบเดิม โรยหน้าด้วยเนื้อไก่



ใส่ผักชีโรยหน้าไปหน่อย (แต่ของที่บ้านไม่หน่อยหรอกค้า....ใส่แบบเต็มที่ เพราะเราปลูกเอง แล้วก็ชอบกลิ่นผักชีกันทั้งบ้าน)



พริกน้ำส้ม.....ได้เคล็ดไม่ลับ...มาจากน้องสาวที่น่ารัก-น้องเอ็ม...ขอบใจมั๊ก ๆ สำหรบเคล็ดขัดยอกนี้
ทำให้สามารถนำพริกที่ปลูกเอาไว้ (เก็บได้คราวละเยอะมากกกกด้วย) มาเก็บถนอมเอาไว้ใช้ได้นาน

วิธีการง่าย ๆ คือ....นำพริกไปต้มกับน้ำสะอาดจนสุก นำแต่เนื้อพริกมาโขลกหรือปั่นให้ละเอียด เก็บใส่ขวดนำเข้าตู้เย็น (เก็บได้นานหลายเดือน สีแดงสดของพริกไม่เปลี่ยนเลยค่ะ) จะใช้เมื่อไหร่ ก็ตักแบ่งออกมา เติมน้ำส้มสายชูลงไป คนให้เข้า ที่บ้านใช้พริกน้ำส้มบ่อยมาก เพราะทำก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ทานเป็นประจำ ก็จะทำไว้ทีละขวดโหลใหญ่ ๆ ใช้เมื่อไหร่ก็คว้ามาปรุงรสได้ทันทีค้า



นำไปตั้งบนเตาเล็ก ใส่แก๊สแบบก้อน จุดไฟ แค่นี้ก็ได้กระเพาะปลาร้อน ๆ พร้อมเสริฟ์แล้วค้า......เวลาจะทานก็ตักแบ่ง ชามใครชามมัน ปรุงรสด้วยพริกน้ำส้ม กับซ๊อสเปรี้ยว (จิ๊กโช่ว) ตามชอบ



เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ญี่ปุ่น.....ที่ได้ทานกระเพาะปลาครบเครื่อง (มีเลือดหมู) แต่ทั้งคุณพ่อ+คุณลูก ไม่มีใครกินเลยละค้า ฮี่ๆๆๆๆ ดี ไม่มีคนแย่ง เสร็จเราคนเดียว

จบแล้วจ้า เวลาอยู่เมืองไทย อยากกินเมื่อไหร่ ก็หาซื้อทานได้ง่าย แต่พอมาอยู่ไกลบ้านอย่างงี้......ไม่ลงมือทำก็ไม่ได้กินเน้อ อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำ หาวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นที่มี แล้วชิมกันดู เผื่อจะได้หายคิดถึงบ้านได้บ้างนะค้า ถ้ามีเหลือ (แต่ส่วนใหญ่เหลือไม่มาก)....ก็จะลวกเส้นหมี่ใส่เพิ่มลงไป เป็นอาหารกันตายได้อีกมื้อค้า

ลากันที่รูปนี้......ทำไปให้น้อง ๆ ฝั่งโยโกฯ ชิมกันที่บ้านตุ๊กตา ขอบใจที่ช่วยบรรทุกภาพ แล้วส่งมาให้นะจ้า



***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อน***

หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ

♥♥♥ Guestbook .....เล่มที่ 4 ♥♥♥

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขออภัยในความไม่สะดวก ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ







Create Date : 08 มกราคม 2552
Last Update : 22 เมษายน 2553 6:33:33 น. 7 comments
Counter : 4167 Pageviews.

 
น่าทานมาก ๆ เลยค่ะ

เมื่อวานเพิ่งไปตลาดมาก็เห็นเจ้ากระเพาะปลาแห้งวางขายอยู่ ยังคิดว่าอยากทานอยู่พอดี

ยังไงขอทานของบ้านนี้ก่อนนะคะ


โดย: Pastel pied วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:17:12:38 น.  

 
โห พี่เต่าคะ น่ากินมากเลยอ่ะ แต่แพงจังกระเพราะปลาอ่ะ
ท่าจะต้องวานคนหิ้วมาแร้วววว

ว่าจะคุมน้ำหนักเจอเมนูนี้น่ากินมากกก อยากมาทันใด
เลือดหมูซื้อที่สโตร์ไทยป่ะคะพี่ ไม่เคยเห็นเลยอ่ะ**หรือตาถั่วไม่รู้**

แต่กระเพาะปลาต้องใช้ของดีอ่ะเนาะไม่งั้นมันเหม็น


โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว ไม่ได้ล็อกอิน IP: 218.221.111.119 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:17:22:59 น.  

 
สวัสดีค่ะพ่ีเต่า

กระเพาะปลาน่ากินมากๆ เลยค่ะ

ตุ้มเคยซื้อกระเพาะปลามาจากเมืองไทย แต่ต้องโยนทิ้งเพราะเก็บไว้นานเกิน เกือบปีแน่ะ มันเหม็นหืนมากๆ เด๋ียวต้องถามพ่ีความฝันอีกคนแล้ว ว่าซื้อมาจากไหน


โดย: ตุ้ม IP: 114.17.140.72 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:17:56:45 น.  

 
เมนูนี้น่าสนใจจังค่ะ ชอบกินกระเพาะปลาอยู่แล้วด้วย แต่ไม่มีกระเพาะปลาที่บ้านเลยค่ะ อดกินไปตามระเบียบ!!!


โดย: zuling68 IP: 59.140.220.54 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:19:38:10 น.  

 
น่าหม่ำมากเลยค่ะเต่า ... สงสัยชามเดียวไม่อิ่มแน่ๆเลยค่ะ เดี๋ยวตามไปชิมบ้านแม่เจเจ ต่อดีกว่า อิอิ


โดย: moopu วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:21:54:32 น.  

 
ตามกลิ่นกระเพาะปลามาค่ะ
ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะน่าทานมากเลย
หน้าตาไม่หน้าเชื่อว่าทำทานเองเลยค่ะ มืออาชีพมากมาย


โดย: โอ๋ค่ะ IP: 221.27.227.146 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:7:51:39 น.  

 
คุณPastel pied....กระเพาะปลาแห้งที่ขายตามตลาดนั้น ก่อนซื้อควรถามคนขายก่อนดีกว่าค่ะ เพราะบางอย่างคุณภาพไม่ค่อยดี (ราคาถูก) เหมาะสำหรับคนที่เค้าเอาไปทำขาย ต้นทุนจะได้ต่ำ แต่ถ้าเราเอามาทำทานเอง ซื้อแบบของแพงหน่อย คุณภาพจะดีกว่า มันจะเหนียวนุ่ม ต้มนานก็ไม่ยุ่ย

น้องปุ้ย - แม่บ้านณ.โตเกียว......กระเพาะปลาแห้ง ซื้อที่ญี่ปุ่นค่อนข้างแพง ต้องใช้อย่างประหยัด...อิอิ (ถุงหนึ่ง พี่แบ่งทำได้ 2 ครั้ง) ถ้าไปเมืองไทย หรือวานให้ใครหิ้วมาให้ได้ จะได้กินแบบสะจาย ส่วนเลือดหมู....สโตร์ไทย (แถวบ้านพี่) มีขายจ๊ะ ถุงหนึ่งมี 4 ก้อน (ก้อนไม่ใหญ่) 500 เยน เค้าจะแช่ในตู้เย็น ซึ่งถือว่าแพงพอควรกับขนาดของก้อน นาน ๆ พี่ถึงจะซื้อสักที....ความงกมีมากกว่าความอยากกิน อีกอย่าง....ก็เพราะไม่มีใครกินด้วย พี่ไม่รู้ว่า....น้องปุ้ยซื้อของที่ไหน ถ้าอยู่ไม่ไกล อุเอโนะ ตลาดอาเมโยโกะ ตึกที่ขายของจีน มีขายแน่นอน แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ รสไม่ผิดเพี้ยนหรอกจ้า

น้องตุ้ม......กระเพาะปลาที่ซื้อ+หอบหิ้วมาจากเมืองไทย พี่ก็เก็บค้างปีเหมือนกันจ้า ไปทีไร ก็จะซื้อตุนกะเอาไว้ว่ากินได้นาน ๆ กลิ่นงี้....ตุ ๆ เหม็นหืนมาก แต่ไม่เคยทิ้ง (งก..อิอิ) เอามาต้มตามวิธีที่บอกไว้ กลิ่นเหม็นหายโหม๊ด

คุณหลิง - zuling68.....รอให้ได้กระเพาะปลามาก่อนค่อยทำทานนะค้า

คุณmoopu....สงสัยคงไม่มีเวลาพอ ที่จะได้เอาไปโพสให้ชิมต่อที่บ้านโน้นหรอกค้า

น้องโอ๋.....อ๊าย....อย่าชมมาก เขิลจ้า เดี๋ยวเกิดลอยขึ้นฟ้าได้ แต่ก็คงไม่ขึ้นเน้อ เพราะน้ำหนักมันถ่วงอยู่


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:7:36:23 น.  

เต่าญี่ปุ่น
Location :
埼玉県 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 234 คน [?]




ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^ มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
Friends' blogs
[Add เต่าญี่ปุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.