Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
~♥~ ไส้อั่ว ~♥~

สวัสดีค่ะ....เพื่อน ๆ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนทุกท่าน

ช่วงนี้...พอมีเวลาบ้างนิดหน่อย เนื่องจากตารางสอนใหม่ก็ยังไม่เข้ามา อีกทั้งฝนก็ตกแทบจะทุกวัน (ไปแปลงผักไม่ได้) ทำให้พอมีเวลาจัดการเก็บล้าง+ปัดฝุ่น เอาเมนูที่เคยทำเก็บไว้ตั้งนมนานกาเลแล้ว มาโพสฝากเพื่อน ๆ กันหน่อย

ไส้อั่ว.....เป็นอาหารเหนืออย่างหนึ่ง ที่ชอบทานมาก ๆ สมัยอยู่เมืองไทย ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่เอง หรือมีใครไป....เป็นต้องฝากซื้อเอากลับมาทานเสมอ ๆ ((ต้องเจ้าอร่อย ๆ ด้วยนะคะ) พอมาอยู่ญี่ปุ่น...ก็ยังติดใจในรสชาด อยากทานขึ้นมา ก็จำเป็นที่จะต้องหาวิธีทดลองทำทานดู แต่สูตรที่นำมาฝากกันนี้....เป็นแบบประยุกต์ ใช้เครื่องปรุงที่พอหาได้ทางนี้ (เอาง่ายและสะดวกไว้ก่อน...อิอิ) อีกอย่างตัวเองก็เป็นคนกรุงเทพฯ ด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ที่แวะมาอ่าน ท่านใดเป็นคนภาคเหนือจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งว่ากันนะ คนอยู่ไกลบ้านอย่างเรา มีให้ทาน (พอใกล้เคียง) แค่นี้ก็ดีแล้วนะค้า

ไส้อั่ว....(เป็นอาหารล้านนา) คือ..ไส้กรอกรูปแบบไทย บางครั้งอาจเรียกว่า Chiangmai Sausage หรือ Herbal Sausage อันเนื่องมาจาก....ส่วนผสมส่วนใหญ่่ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ให้คุณประโยชน์กับร่างกายอย่างดีทีเดียว

คำว่า "อั่ว" หมายถึง แทรก หรือ ยัดไว้ตรงกลาง "ไส้อั่ว" จึงหมายถึง....ไส้ที่มีการนำสิ่งของยัดไว้ การทำไส้อั่วนิยมใช้ไส้หมูและเนื้อหมู ในอดีตเมื่อยามเทศกาลหรือเมื่อมีการจัดงานใด ๆ ถ้ามีการล้มหมู มักมีเนื้อจำนวนมาก จนบางครั้งนำมาทำอาหารไม่ทัน ก็เน่าเสียได้ จึงมีการนำเอาเนื้อเหล่านั้น มาถนอมอาหารโดยการตากแห้งหรือย่างไฟ หรือนำมาประกอบอาหารที่สามารถเก็บไว้กินได้นาน เช่น ทำแหนม เป็นต้น ในการทำไส้อั่วก็เช่นกัน ถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ที่สามารถเก็บไว้กินได้นาน 1 - 2 วัน นอกจากนี้.... ยังเป็นการนำเศษเนื้อและเครื่องใน (ไส้) มาทำให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

การทำไส้อั่ว....เริ่มจากการ นำพริก หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ รากผักชี เกลือ ขมิ้น กะปิ (บางสูตรเค้าก็ใส่ดีปลีป่นด้วย) มาโขลกจนละเอียด นำเนื้อมาสับให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงให้เข้ากัน หั่นต้นหอม ผักชีโรยเข้าไปด้วย เสร็จแล้วเอาไส้ (ไม่ใช่ไส้อ่อน ) ซึ่งล้างให้สะอาดและเคล้าด้วยใบตระไคร้ให้หายกลิ่นคาว แล้วเอาเนื้อหมูที่เคล้ากับน้ำพริกแล้วนั้น ยัดลงไส้ลงไปให้เต็มพอสมควร อย่าให้แน่นเกินไป เพราะเวลานำไปปิ้งจะทำให้ไส้แตก เมื่อยัดไส้แล้ว ผูกหัวผูกท้ายขดเป็นวงกลม นำไปย่างบนเตาถ่าน ไฟอ่อน ต้องคอยระวังอย่าให้ไหม้ เมื่อสุกแล้วอาจหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ หรือเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำ รับประทานได้

ที่มาของข้อมูล....จาก ล้านนาคดี

ส่วนประกอบสำคัญอันดับแรกที่ต้องเตรียมหาไว้ก็คือ...ไส้หมู ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ...เมนูนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องเก็บใส่คลังเอาไว้ก่อนแล้วค้า

ไส้หมูสด หรือสดแต่แช่แข็งเอาไว้.....เคยซื้อมาจากร้านสโตร์ไทย....แบบแช่แข็ง ถุงละ 1 กิโล ราคาประมาณ 500 เยน ก็ต้องนำมาล้างเอง ((ไส้สดแบบนี้...ยัดง่าย และไม่ค่อยแตกค่ะ)) แต่ต้องทนลำบาก+กลิ่นเอาหน่อย แรกเริ่มที่ทำนั้น.....ยังไม่ทราบแห่งที่ขายไส้แบบสะดวก ก็จำเป็นต้องใช้ไส้แบบนี้มาทำ แค่ขั้นตอนในการล้างให้สะอาด กว่าจะเสร็จแทบหมดแรง..... เกือบหมดความอยากทานเชียวแระค้า

วิธีการล้างไส้หมู...ดูรูปประกอบ

1). ไส้หมูถ้าเป็นแบบแช่แข็ง...ให้แช่น้ำให้ละลาย (นิ่ม) เสียก่อน และถ้ามีผังพืดติดมา ก็ให้ดึงออกให้หมด รูดสิ่งสกปรกภายในไส้ทิ้ง เอาน้ำกรอกเข้าไปล้างให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง

2). ใช้เกลือป่น พอประมาณคลุกเคล้า (ขยำ) ไส้หมูให้ทั่ว ล้างน้ำอีกครั้ง เสร็จแล้วหาไม้ยาว ๆ กลับไส้ข้างในออกข้างนอก



3). ถ้ามีใบตระไคร้ , ใบฝรั่ง หรือ ใบตอง...((รูปที่ถ่ายครั้งนี้....ยังไม่ได้ริเริ่มปลูกผัก จึงไม่มีทุกอย่างที่กล่าวมา....อิอิ)) ซึ่งใบพวกนี้....จะช่วยขจัดกลิ่นคาว และเมือกที่ติดมากับไส้ ก็เลยใช้ แป้งมัน + เกลือ ในปริมาณมากพอสมควร ใส่ลงไปแทนได้ค่ะ

4). ขยำ ๆ แล้วล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง ((โดยการเปิดน้ำให้ไหลผ่านไส้) จนหมดเมือกและกลิ่นเหม็น เสร็จแล้ว...กลับไส้ด้านในออกมาด้านนอก (คืนสภาพเดิม) ล้างน้ำอีกครั้ง นำมาใส่กระชอบผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ

และแล้ว เราก็จะได้ไส้ที่ผ่านการล้างสะอาดเรียบร้อย พร้อมนำมาประกอบอาหารต่าง ๆ ได้แล้วค่ะ



**ไส้ที่ใช้ไม่หมด.....ให้ผึ่งพอหมาด ๆ เสร็จแล้วคลุกเคล้าด้วยเกลือ นำใส่กล่องแช่ในตู้เย็น (ช่องแข็ง) เก็บเอาไว้ใช้ในคราวต่อไปได้ หรือถ้ามีโครงการจะทำอะไรที่ต้องไส้ ภายในอาทิตย์นั้น....ก็หาวัสดุที่เป็นแท่ง จับไส้รูดใส่ลงไป (ยังไม่ต้องตัด) นำใส่กล่องที่มีน้ำผสมเกลือ แช่น้ำให้มิด นำเข้าตู้เย็น เก็บไว้ได้อีกประมาณ 2-3 วัน

หลังจากที่รู้แหล่ง...ดิฉันจะซื้อ "ไส้หมูแห้งแบบหมักเกลือ" ที่เค้าล้างสะอาดแล้วหมักเกลือเอาไว้ เก็บไว้ในช่องแข็งไว้ใช้เสมอ (แบบนี้...สะดวกและประหยัดเวลาขึ้นเยอะ ที่สำมะคัญครือ... ไม่ต้องทนเหม็น+ยี๊ ๆ ตอนล้าง..อิอิ) สนนราคาพอสมควร ถุงหนึ่งเกือบกิโล ประมาณ 8,000 เยน แต่ใช้นานจนลืมเชียวค้า เคยลองจดเอาไว้ 100 กรัมของไส้แห้งหมักเกลือ เอามาทำไส้อั่ว , ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ ต่อเนื้อหมูประมาณ 30 กิโลกรัมค่ะ

วิธีการใช้ไส้แบบหมักเกลือ

1). ที่เห็นเป็นสีขาว ๆ นั้น คือเกลือที่เค้าหมักเอาไว้

2). ดึงแล้วตัดออกมาขนาดความยาวที่ต้องการ




3). ล้างน้ำ เอาเกลือที่เค้าหมักไว้ออกให้หมดเสียก่อน เสร็จแล้วนำแช่ในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ

4). แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำมาล้างให้หมดกลิ่นน้ำส้มสายชู โดยการใช้น้ำก๊อกกรอกน้ำผ่านไส้ ล้างหลาย ๆ หน จะทำให้ไส้นิ่ม เวลายัดจะได้ไม่แตก


พอได้ไส้มาแล้ว ก็ให้ตัดเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 15 - 20 นิ้ว เพื่อสะดวกในการกรอกส่วนผสมไส้ เพราะถ้าไส้ยาวเกินไป เวลาบีบไล่เนื้อหมูลงไปนั้น ไส้อาจจะแตก , ฉีกขาดได้

** สำหรับเพื่อน ๆ ที่หาไส้หมู...แบบสด หรือหมักเกลือแบบที่นำเสนอข้างต้นไม่ได้ สามารถใช้ไส้เทียม (ที่เค้าเอาไว้ทำไส้กรอก) มาทำได้เช่นกัน ถ้าจำราคาไม่ผิด (เพราะซื้อมานานมากแล้ว) ถุงหนึ่ง มี 4 ซองเล็ก ราคา 1,200 เยน ความยาวของไส้ใน 1 ซองเล็กนั้น ต่อเนื้อหมู 1 กิโลกรัม วิธีการแสนง่าย...แค่แกะซองออกมา แล้วนำไปแช่น้ำ ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็นำมาใช้ได้ทันทีค่ะ



คราวนี้....เรามาดูกันว่าต้องเตรียมเครื่องอะไรบ้าง

เครื่องปรุง

หมูเนื้อแดง...... 1 กิโลกรัม
หมูสามชั้น........ 500 กรัม
ไส้หมูไส้เล็ก (ล้างสะอาด) ประมาณ......... 2 เมตร
ใบมะกรูดหั่นฝอย....... 2-3 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้หั่นฝอย........ 5 ต้น
ผักชีหั่นละเอียด......พอประมาณ
น้ำมันสำหรับทอด....... 1 ขวด (ถ้าใช้วิธีทอด)

ส่วนผสมเครื่องปรุงรส+พริกแกง

น้ำพริกแกงเผ็ดแดง........ 100 กรัม (ความที่ขยันน้อย...เลือกวิธีที่ง่ายเข้าไว้ก่อน...อิอิ)
ขมิ้นสด....... 1 แง่ (ถ้ามี และชอบกลิ่น)
รากผักชี.....2-3 ราก
ซีอิ้วดำ........ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว........ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา.......... 2 ช้อนโต๊ะ (อย่าเพิ่งใส่หมด ชิมก่อนแล้วค่อยเติมทีหลัง)
น้ำสะอาด....... ½ ถ้วยตวง (50 ซีซี)

วิธีทำ

1). ตะไคร้ล้างสะอาด แล้วหั่นฝอย

2). ใบมะกรูด ล้างสะอาด ฉีกก้านกลางใบออก แล้วหั่นฝอย




3). ผักชี ล้างสะอาด แล้วหั่นซอยหยาบ ๆ

4). ขมิ้นปอกเปลือกออกให้หมด แล้วหั่นขนาดพอประมาณเพื่อสะดวกในการโขลก

รูปด้านซ้าย....นำรากผักชี + ขมิ้นสดใส่ครกโขลกจนละเอียด (ถ้าไม่ชอบหรือไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ) และถ้าชอบเผ็ดก็เติมพริกสด (เพิ่มความหอม) สักหน่อย 5-6 เม็ด ลงไปโขลกพอละเอียด เสร็จแล้วก็เอาพริกแกงเผ็ดแดง 100 กรัม (ถ้าชอบเผ็ดกว่านี้ ก็เพิ่มได้นะคะ) ใส่ลงไปโขลกพอเข้ากัน เติมน้ำสะอาด 50 ซีซี คนให้พริกแกงละลายเข้ากันดี ปรุงรสด้วย....ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ , ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ((ใส่แค่นี้ก่อน...ชิมรสแล้ว ถ้าไม่เค็มค่อยเพิ่มตอน เพราะในเครื่องแกงสำเร็จรูป ค่อนข้างจะเค็มอยู่แล้วค่ะ))

รูปด้านขวา.....เป็นพริกแกงที่ผสมเสร็จแล้ว



มาถึงขั้นในการตอนทำ...ถ้าต้องยืนนาน ๆ คงเดี้ยงไปก่อนได้กิน จัดการนำเอากระดาษหนังสือพิมพ์มาปูที่พื้น..แล้วนั่งทำสะดวกที่สุดค้า

5). เนื้อหมู ,หมูสามชั้น ล้างสะอาดแล้วซับให้แห้ง หั่นแล้วสับหรือปั่นหยาบ ๆ แต่ความขี้เกียจล้างเครื่องปั่น ส่วนใหญ่ก็จะซื้อเนื้อหมูที่เค้าบดขายเอาไว้แล้ว เลือกดูแบบที่ มีมันเยอะหน่อยทำทุกทีเหมือนกัน

6). ใช้มือขยำเนื้อหมู+หมูสามชั้นให้เข้ากัน



7). ค่อย ๆ เทเครื่องแกงที่ผสมเตรียมไว้ แล้วนวดคลุกเคล้าให้เครื่องแกงเข้ากับเนื้อหมู

8). เนื้อที่ผสมเครื่องแกงเรียบร้อยแล้ว

9). นำเนื้อหมูที่ผสมเครื่องแกงแล้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่แผ่นพลาสติกใส ทำให้สุก โดยการนำเข้าเตาไมโครเวฟ เพื่อชิมรส ถ้าอ่อนเค็มก็เติมน้ำปลาเพิ่มลงไป แล้วนวดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที

10). เมื่อชิมรสแล้ว ถูกใจได้ที่ ก็ให้ใส่ตะไคร้ ที่หั่นฝอยแล้ว ลงไป



11). ใส่ใบมะกรูด และผักชี ที่หั่นฝอย แล้วลงไป

12). นวดคลุกเคล้าให้เครื่องทุกอย่าง เข้ากันเป็นเนื้อเดียว

13). นำขวดน้ำพลาสติก (ขนาด 500 ซีซี) ตัดตรงคอขวด เจียนให้เรียบ (จะได้ไม่ปาดมือ) นำเอาไส้หมูที่ล้างสะอาดไว้แล้ว มาถ่างแล้วครอบลงไป ดึงให้ไส้ขึ้นมาครอบตรงคอขวดให้เยอะหน่อย เวลายัดจะได้ไม่หลุด

14). กรอกเนื้อหมูที่ผสมเตรียมไว้ บรรจุลงไป โดยใช้นิ้วหัวแม่โป้ง ยัดใส่ลงไป




15). ระหว่างที่บรรจุนั้น....ไส้อาจจะลื่น ควรบีบไส้ที่ครอบกับคอขวดน้ำให้แน่น ใช้มือค่อย ๆ บีบไส้ ไล่เนื้อหมูลงมาตรงส่วนปลายของอีกด้าน (อย่ายัดไส้ให้แน่นมากเกินไป เพราะจะทำให้ไส้แตกเวลานำไปทอด หรือย่าง)

16). เมื่อกรอกเนื้อบรรจุเต็มไส้แล้ว ใช้เชือกหรือด้าย ผูกปลายทั้งสองด้านให้แน่น เนื่องจาก....เตาย่างที่นี่ไม่ค่อยกว้างมากนัก และทานครั้งเดียวไม่หมด (เพราะทำเยอะ...อิอิ) ก็เลยจับผูกเป็นท่อน ๆ ยาวท่อนละประมาณ 4-5 นิ้ว (พอลงกล่องพอดี) เพื่อความสะดวกในการแบ่งเก็บเข้าแช่แข็ง นะคะ
เวลาจะรับประทานก็นำไปทำให้สุก.....โดยการทอด หรือย่าง

วิธีการทอด

ใช้ไม้จิ้มฟัน หรือไม้จิ้มลูกชิ้น จิ้มไส้ เพื่อไล่อากาศก่อนทอด กระทะก้นลึกตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่ไส้อั่วลงไป ขณะที่ทอด ให้ใช้ไม้แหลมคอยจิ้มไล่อากาศออกด้วย เมื่อเห็นว่าไส้ตึงตัว มิฉะนั้นไส้จะแตก ทอดจนสุกเหลือง ตักออกวางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ถ้าต้องการให้เหลืองหอม และไส้อั่วแห้ง ให้นำเข้าเตาอบต่อ โดยใช้ไฟ 350 องศาฟาเรนไฮด์ อบประมาณ 30 นาที จะได้ไส้อั่วที่หอมเหลือง แห้ง และไม่ชุ่มน้ำมัน หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ เสริฟ์พร้อมกับผักสด , ขิงดอง , แตงดอง ฯลฯ



สำหรับตัวเองนั้น.....ไม่นิยมนำไปทอดกะเค้าหรอกค่ะ (เพราะยุ่งยากและกลัวน้ำมันมั๊ก ๆ ) ชอบวิธีที่นำไปย่างมากกว่า

วิธีการย่าง

ใช้ไม้จิ้มฟัน หรือไม้ปลายแหลม จิ้มไส้แทงไล่อากาศออกก่อน แล้วก็นำไปวางเรียงบนตะแกรงย่าง ใช้ไฟอ่อน เวลาย่างไฟต้องคอยกลับบ่อย ๆ ดูอย่าให้ไหม้ (เห็นน้ำมันที่ออกมาใต้ตระแกรง...แล้วอดหยองเล็ก ๆ ไม่ได้เลยค้า



พอสุกแล้ว ก็หั่นเป็นท่อน หรือ ชิ้นขนาดพอคำ ยกเสริฟ์พร้อมผักตามชอบได้



รูปนี้....เป็นไส้อั่วที่ส่งทางทังเกียวบิงไปให้คุณกุ้งใหญ่/โตเกียว เค้าช่วยชิม น้องเค้าถ่ายรูปส่งมาให้ชมค้า



เคยมีเพื่อนแนะนำ...ให้นำไปทอด หรือย่างให้สุกเสียก่อน แล้วสามารถนำไปเก็บแช่ฟรีสเอาไว้ อยากรับประทานเมื่อไหร่ ก็นำมาออกมา ทิ้งไว้ให้ละลาย อุ่นให้ร้อนด้วยเตาไมโครเวฟ ลองทำดูแล้ว ไม่ค่อยจะชอบวิธีนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่า....เนื้อมันจะแข็งกระด้างไม่ค่อยนุ่ม ชอบแบบที่แช่แข็งสด ๆ มากกว่า ....ก่อนรับประทาน ก็จะนำออกมาทิ้งไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา (ตอนกลางคืน) ให้ละลายเสียก่อน แล้วก็ใช้น้ำร้อนเทราด (ลวก) ลงไปบนไส้ก่อน (เพื่อให้ไส้นิ่ม คืนตัว) แล้วค่อยนำไปย่าง หรือ ทอด ตามวิธีปกติค่ะ

ที่เค้าขาย....เวลาย่าง กลิ่นหอมชวนรับประทานจริง ๆ



ไส้อั่วที่อร่อยจะมีรสเผ็ดเล็กน้อย ส่วนประกอบส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรเครื่องแกงที่ช่วยขับลมได้เป็นอย่างดี

**เสน่ห์ของอาหารไทย..... สมุนไพรต่าง ๆ ที่ใส่ในอาหารไทยนั้น ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติและความอร่อยของอาหารจานนั้น ๆ อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย....เรามาดูสรรพคุณทางยา ของเครื่องปรุงบางชนิดที่ใส่ในไส้อั่ว ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้างนะคะ

ที่มา.....จาก //www.samunpri.com/modules.php?name=Kitchen

ตะไคร้ ( Lemon Grass)....ช่วยขับลม แก้ปวดท้อง ลดความร้อน แก้ไข้ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย บรรเทาอาการปวดประจำเดือน แก้เบื่ออาหาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ (ขับปัสสาวะ – นิ่ว) ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ และนอกจากนี้ยังใช้ดับกลิ่นคาวได้ด้วย หรือแม้กระทั่งนำมาใช้ใน เรื่องการเสริมสวย จะช่วยทำให้ เส้นผมดกดำ แก้ผมแตกปลาย ช่วยกำจัดรังแค โดยใช้ตะไคร้สดๆ ตัดใบทิ้งประมาณ 3-4 ต้น ตำให้ละเอียด เติมน้ำสะอาด 2 แก้ว ขยำให้เข้ากัน แล้วคั้นเอาแต่น้ำ ชโลมให้ทั่วผมที่สระไว้แล้ว หมักพักไว้ 10-15 นาที จึงจะสระออกให้หมด

มะกรูด (Leech Lime) , ใบมะกรูด (Kiffir Lime)... มีรสปร่ากลิ่นหอมติดร้อน ใช้นำไปประกอบอาหารช่วยดับกลิ่นคาว ช่วยแก้อาการท้องอืด แก้ปวดท้องในเด็กอ่อน บำรุงโลหิต ช่วยขับเสมหะ แก้โรคลักปิดลักเปิด ขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้ลมจุกเสียด และช่วยขจัดคราบสบู่ ฯลฯ

ผักชี (Coriander).....ใช้ได้ทุกส่วน นิยมนำมาบริโภคเป็นผักสด และใช้เป็นส่วนประกอบอาหารได้หลายชนิด ช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอม ช่วยรักษาอาการปวดท้อง แก้โรคกระเพาะ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย มีฤทธิในการขับลม ขับปัสสาวะ

ขมิ้น (ขมิ้นชัน Turmaric)....มีน้ำมันหอมระเหย เป็นน้ำมันสีเหลือง รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้โรคกระเพาะ ลดการอักเสบในกระเพาะ บรรเทาอาการท้องเสีย ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องอืดเฟ้อ แน่นจุดเสียด อาหารไม่ย่อย ขับลม แก้ผื่นคัน บำรุงตับ เพิ่มน้ำดี
เหง้าของขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย เชื้อรา ลดการ อักเสบ และ มีฤทธิ์ในการ ขับน้ำดี น้ำมันหอมระเหย ในขมิ้นชัน มีสรรพคุณบรรเทา อาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นจุดเสียด ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย...สนใจอ่านต่อได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ //www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/..%5Cpubhealth%5Ccurcuma.html

คงต้องขอจบกระทู้ไว้เพียงแค่นี้....ขอขอบคุณ...ท่านเจ้าของรูปบางรูป รวมทั้งแหล่งที่มาของข้อมูลประกอบการนำเสนอต่าง ๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ลากันที่จานนี้....ขอให้อร่อยกันทุกท่านนะคะ


***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้......

หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ

Guest Book

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมและขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ



Create Date : 21 กรกฎาคม 2550
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 6:56:36 น. 12 comments
Counter : 17866 Pageviews.

 
ถ้ามีวิธีทำให้ด้วย จะขอบพระคุณมากๆคะ อายจัง เป็นคนเชียงใหม่แท้ๆแต่ทำไม่เป็นคะ


โดย: mintny_n วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:11:40 น.  

 




แวะมาชวนปายดู แฟนทั่ม เดอะมูฟวี่ค่ะ

กรี๊ดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส้ายยย อั่วววววว
ของชอบๆๆๆๆๆ
อยากกิงๆๆๆๆๆๆ
แต่ไม่อยากทำ อิๆๆๆ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:02:25 น.  

 
ชอบเหมือนกันคะคุณเต่าญี่ปุ่น
แต่คงทำเองไม่ได้คะ มันยากเกินไปค่ะ



โดย: Amber n the Gang วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:15:15 น.  

 
น่าทานจังเลย ทำเผื่อด้วยได้ไหมค่ะ


โดย: meaw_1985 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:54:59 น.  

 
อ่าว..ยังไม่จบได้ไงล่ะคับเนี่ย..
คลุกตามอยู่เรย..
ล้างมือก่อนแล้วกัน
รอภาคสองนะค้าบ


โดย: เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:38:24 น.  

 
เก่งจัง

น่าทาน

อย่างนี้ก็ทำแกงลูกรอกเป็นสิคะ

แม่โสมอยากทานมาหลายปีละ

ช่วยทำให้แม่โสมทานหน่อย

แม่โสมทำเองแล้วเหม็นอะค่ะ

ซ้ำร้าย ไส้เหนียวอย่างกับหนังกะติ๊ก



โดย: โสมรัศมี วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:48:59 น.  

 
เราชอบกินไส้อั่วล่ะ
ไม่ได้เป็นคนเหนือนะ คนกรุงเทพนี่แหละ
อยากทำเป้นจัง
แบบ อร่อย ๆ นะ


โดย: nanny_nanny วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:21:22 น.  

 
ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะมาเยียมชมและชิมนะคะ

คุณ mintny_n....อดใจรอสักนิ๊ดนะคะ พยายามหาเวลามาโพสต่อจนได้ทานแน่ ๆ ค้า

ป้าซ่าส์......อยากกิน แต่ไม่อยากทำ แล้วเมื่อไหร่มันจะได้กินค้า

คุณ Amber.....อย่าเพิ่งคิดว่ายากส์...ซิคะ ลองทำดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าไม่ยากจริง ๆ

คุณเหมียว.....ทำเผื่อแล้วจะส่งไปให้ได้ยังงายค้า

คุณเก่ง.....รับรองจ้า...ล้างมือสะอาดแน่นอน เราเป็นคุณนายสะอาดอยู่แล้ว

แม่โสม....แกงจืดลูกรอก...ทำไม่ยาก อร่อยซดน้ำคล่องคอดี แต่ไม่ได้ทำทานนานแล้วเหมือนกัน ไว้มีเวลาจะนำมาฝากกันนะค้า

คุณnanny....สูตรนี้...อร่อยหรือเปล่า? ต้องลองทำแล้วชิมดู ถึงจะรู้จ้า


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:19:15 น.  

 
เจ๊หลีอยากรู้ว่าอร่อยอ่ะป่าว ต้องส่งมาให้เจ๊หลีกินซะดี ๆ ว่าแต่ขั้นตอนยิบ ดีจังค่ะ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:48:24 น.  

 
เก่งจริงๆครับ..นับถือจริงๆ เห็นแล้วอยากทานมากๆ


โดย: Megu วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:59:04 น.  

 
ของโปรดเลยค่ะ เป็นคนเหนือแต่ทำบ่เป็น รอกินอยู่นะ


โดย: sailamon วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:59:59 น.  

 
รีบมาดูย่างว่องไว ยังไม่จบหลักสูตรหรือคะ คุณครูรีบต่อคอร์สด่วนเลยค่ะ


โดย: มันอยู่ในปอด วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:08:13 น.  

เต่าญี่ปุ่น
Location :
埼玉県 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 234 คน [?]




ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^ มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
Friends' blogs
[Add เต่าญี่ปุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.