Bloggang.com : Tanya-aa : แครนเบอร์รี่ บาร์ (Cranberry Bars) ส่งการบ้านแม่ปูค่ะ

แครนเบอร์รี่ บาร์ (Cranberry Bars) ส่งการบ้านแม่ปูค่ะ

ทำเมื่อตอนปีใหม่แจกญาติ ๆ ค่ะ แครนเบอร์รี่เปรี้ยว ๆ ครัมกรอบ ๆ นุ่ม ๆ เข้ากันดีจังค่ะ

ลิงค์ต้นฉบับบค่ะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pookhakae&month=11-2006&date=06&group=2&gblog=15

ขอบคุณแม่ปูขาเก เซมารู สำหรับสูตรและวิธีทำด้วยนะคะ

สูตร (ขอลอกแม่ปูมานะคะ)

แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๔ ถ้วย (ตวงก่อนร่อน)(ประมาณ ๕00 กรัม)
เนย ๓ ก้อน (ก้อนละ ๑๑๓ กรัม)
น้ำตาลทรายป่น ๑ ถ้วย
เกลือ ๑ ช้อนชา
ผงฟู ๑ ช้อนชา
ไข่แดงไข่ไก่ ๓ ฟอง (ขนาดใหญ่)

น้ำตาลป่นอีก ๑/๓ ถ้วย (น้ำตาลส่วนนี้เอาไว้ผสมกับแป้งที่จะทำครั้มท์โรยหน้า)

(Cranberry topping)

แครนเบอรี่ ๓๒0-๔00 กรัม
น้ำตาลทราย ๑ ถ้วย
น้ำส้ม ๑/๔ ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

เริ่มจากทำครัสท์ก่อนนะคะ

๑.เตรียมถาด ขนาด ๑๓ คูณ ๙ นิ้ว
ปูด้วยกระดาษฟรอยด์ให้ทั่วทั้งถาด ปูให้มาถึงขอบถาดเลยนะคะ จะได้ยกขนมออกมาได้ง่ายๆ

๒.เตรียมเปิดเตาอบไว้ อุณหภูมิ ๓๒๕ องศาฟาเรนไฮต์

๓.ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ รวมกันพักไว้

๔.ตัดเนยเป็นก้อนเล็กๆ ใส่หม้อ

ยกขึ้นตั้งบนเตา คนให้เนยละลาย
เอาพอให้เนยละลายก็พอนะคะ ไม่ต้องให้ปล่อยให้เนยร้อนจัด พักไว้แป๊บนึงก่อน

๕.ใส่ใข่แดงลงในอ่างผสม เทน้ำตาลป่นลงไป

คนให้เข้ากัน

จากนั้นจึงเทเนยละลายใส่ลงไปในอ่างผสมไข่ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง

๖.นำส่วนผสมเนย เทใส่ในอ่างผสมแป้งที่ร่อนไว้แล้ว

ใช้ไม้พายคนส่วนผสมให้เข้ากัน แป้งจะข้นๆเหนียวๆ ไม่แห้งมาก

๗.แบ่งแป้งออกมา ๒ ถ้วย กับอีก ๑/๔ ถ้วย
((( ส่วนที่เหลือเอาใส่ตู้เย็นไว้ก่อน จะทำต่ออีกตอนท้ายๆ )))
ใส่ในถาดที่ปูรองกระดาษฟรอยด์เตรียมไว้แล้ว
เกลี่ยแป้งให้ทั่วเสมอกันทั้งถาด เมื่อแป้งเรียบเสมอกันแล้ว
ก็ให้ใช้ส้อมจิ้มเป็นรูๆทั่วทั้งถาดเวลาอบแป้งจะได้ไม่ดันโป่งขึ้นมาแตก

๘.จากนั้นก็ยกถาดแช่ไว้ในตู้เย็นนานประมาณ ๑/๒ ชั่วโมง
ถ้าใครใจร้อนใช้วิธีลัดก็นำเข้าช่องฟรีซไปเลย แช่ไว้ประมาณ ๖-๗ นาที พอแป้งแข็งตัว
ก็เอาออกจากตู้เย็น หรือช่องฟรีซ นำเข้าเตาอบ อบนานประมาณ ๒0 นาที
อบแค่พอให้แป้งสุก แค่แป้งอยู่ตัวก็พอ

เวลาอบอย่าปล่อยให้ตรงขอบไหม้ ส่วนตรงกลางแป้งก็ยังนุ่มๆอยู่นะคะ

อบเสร็จแล้วให้ปรับอุณหภูมิเป็น ๓๕0 องศาฟาเรนไฮน์

ขั้นตอนต่อไปทำท้อปปิ้ง

ขั้นตอนนี้เราจะทำขณะที่อบครัสท์อยู่นะคะ พออบครัสท์เสร็จก็จะได้เทท้อปปิ้งราดได้เลย

ส่วนผสม แครนเบอร์รี่ (วันนี้ใช้แบบแช่แข็งค่ะ) น้ำส้ม น้ำตาล

๑.เตรียมแครนเบอร์รี่ ล้างให้สะอาด สะบัดน้ำออกให้แห้งใส่แครนเบอรี่ลงในหม้อ พร้อมกับน้ำตาล

ตามด้วยน้ำส้ม ยกขึ้นตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง

คนส่วนผสมให้เข้ากันไปเรื่อยๆจนน้ำตาลละลาย และส่วนผสมเดือด
ตอนนี้จะได้ยินเสียงแครนเบอรี่แตกดังเป๊าะๆก็คนไปเรื่อยๆจนส่วนผสมเริ่มข้น
(แครนเบอรี่มีสารแพคตินสูง เวลาทำซ้อสจะข้นมาก)
เมื่อแครนเบอรี่แตกโป๊ะๆทั่วทั้งหม้อและส่วนผสมข้นดีก็ให้ยกลงจากเตา
พักไว้ให้เย็นสักหน่อย(จะข้นขึ้นอีก)ระหว่างนี้ก็รอให้ครัสท์สุกด้วย

*** สงสัยปลาจะกวนจนข้นไปหน่อยสีเลยไม่แดงเหมือนของแม่ปู ***

ระหว่างที่รอครัสท์สุก และรอให้แครนเบอรี่ท้อปปิ้งเย็นตัวลง
ก็ให้นำแป้งส่วนที่เหลือออกมาจากตู้เย็น ใส่น้ำตาลป่นลงไป

ใช้นิ้วมือบดๆให้เป็นเม็ดๆ อย่าให้เล็กมาก ทำเสร็จแล้ว พักไว้ก่อนสักครู่

๒.เมื่อครัสท์สุกแล้ว ก็ให้เทแครนเบอรี่ ท้อปปิ้งราดลงไป (สีไม่แจ่มเลยค่ะ)

แล้วก็โรยครั้มท์ลงไป โรยลงไปให้เสมอทั่วกันทั้งถาด

เรียบร้อย นำเข้าเตาอบได้ อบนานประมาณครึ่งชั่วโมง
หรือจนครั้มท์ออกสีเหลืองสวย เมื่อคิดว่าขนมสีเหลืองสวยสุกดีแล้ว ก็ปิดเตาอบ
พักขนมไว้ในเตาอบก่อนสักประมาณ ๑ ชั่วโมง จนขนมอยู่ตัว

แล้วค่อยนำออกมาตัดแบ่งเสิร์ฟ ปลาแพ็คใส่ห่อแบบนี้ค่ะ แจกง่ายดี

นอกเรื่องนิดนึงค่ะ พอดีกระทู้ก่อนเจ๊หลีขอดูตู้ใส่เตาอบ วันนี้มีโอกาสเอามาให้ชมค่ะ(เจ๊หลีจะมามั้ยน๊า)

เป็นตู้ไม้สักอัดนะคะ ไปสั่งร้านเฟอร์นิเจอร์แถวบ้านทำมาค่ะ 2,000 บ.
แถมเถียงกับอาแป๊ะเจ้าของร้านไปอีกหลายรอบ

เหตุเนื่องมาจากอาแป๊ะเค้าไม่เข้าใจค่ะว่าอะไรคือ บิวท์อิน เล่นเอาปลามึนเหมือนกันค่ะ
แบบว่าหนูก็รู้นิดหน่อยเองค่ะ นึกว่าแป๊ะจะเข้าใจ

จะไปจ้างช่างดี ๆ แบบที่เค้ารับออกแบบครัวไรพวกนี้ก็แพงเหลือเกินค่ะ ไปถามมาก็ถูกสุด 9,000 บ. ไม้ MDF

แพงจังเก็บตังไว้ซื้ออุปกรณ์ทำขนมดีกว่า อีกอย่างถ้ามีที่วางก็ไม่คิดจะทำอยู่แล้ว
แต่เมื่อไม่มีที่ก็จำเป็นต้องทำค่ะ

กว่าจะเสร็จได้เล่นเอาเหนื่อยเลยค่ะ เพราะสรุปต้องคิดเองทุกอย่างว่าจะทำแบบไหนดี
ทีแรกว่าจะทำแบบเอาเตาอบไว้ข้างล่างแล้วทำท็อปด้านบนจะได้มีพื้นที่
แต่คิดไปคิดมา ก้ม ๆ เงย ๆ คงไม่ดีแน่ เอาแบบที่เราถนัดดีกว่าเลยได้ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

ด้านบนใส่ไมโครเวฟ (มีช่องว่างด้านข้างด้วยนะคะ เพราะว่าเตาอบใหญ่กว่า )

ตรงกลางใส่เตาอบ ความจริงกรอบเตาอบต้องยึดติดกับขอบตู้พอดี
แต่แป๊ะเค้าทำไม่ได้ค่ะ เลยต้องทำแบบนี้ แต่จะมีผลตอนใส่เข้าไป
เพราะฐานจะสูงไม่เท่ากัน ก่อนใส่ต้องเอาแผ่นไม้หนาสัก 5-6 มิล มารองก่อนค่ะ