6 เมืองตัวอย่างของโลกกับการวางแผนพัฒนาเมืองที่ดี โดย ผศ.ดร.สญชัย ลบแย้ม
6 เมืองตัวอย่างของโลกกับการวางแผนพัฒนาเมืองที่ดี (6 Well-planned Citiesaround the Globe) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.สญชัย ลบแย้ม (drsonchai@gmail.com) - 5 มกราคม 2558 อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาการวางแผนภาคและเมืองคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (ประวัติ)
การวางแผนภาคและเมือง(Urban and Regional Planning) เป็นสาขาวิชาหรือศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องการวางแผนการพัฒนาเมืองและภูมิภาคในหลายมิติทั้งด้านกายภาพ สังคมเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ประกอบด้วยองค์ความรู้หลักการ และเครื่องมือที่หลากหลายให้เลือกใช้เพื่อการวางแผนและพัฒนาเมืองหรือชุมชนที่แตกต่างกันในการนี้ ขอแนะนำตัวอย่างเมืองที่มีการพัฒนาตามหลักการผังเมืองที่ดี จำนวน 6เมือง ตามหลักการผังเมือง (planning principles) จำนวน 6 ข้อ ได้แก่ 1) การวางแผน (Planmaking) 2) เมืองเขียว (GardenCity) 3) การฟื้นฟูเมือง (Urban Revitalization) 4) การควบคุมการเติบโตเมืองอย่างชาญฉลาด(Smart Growth) 5) การพัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรม(Brownfield Redevelopment) 6) การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-orientedDevelopment: TOD) เมืองเหล่านี้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลกวัตถุประสงค์ของบทความเพื่อการถอดบทเรียนว่าการพัฒนาเมืองที่ดีสามารถนำไปสู่การเจริญเติบโตในด้านอื่นๆ ได้อีกมากมาย 1. การวางแผนเมือง (Plan Making) - ผังเมืองฟิลาเดเฟีย ผังเมืองฟิลาเดเฟีย:หนึ่งปีหลังจากคุณวิลเลียม เพนส์ (นักปรัชญาและศาสนา นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้ก่อตั้งจังหวัดเพนซิลเวเนียในสมัยที่สหรัฐอเมริกาเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ) อนุมัติพื้นที่ตั้งของเมือง และผังเมืองปีค.ศ. 1683 (พ.ศ. 2226) ก็อุบัติขึ้น เมืองฟิลาเดเฟียเป็นเมืองใหญ่มีประชากรมากเป็นอันดับห้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย เป็นเมืองแรกที่ใช้ระบบถนนแบบตารางหมากรุก(Grid street pattern) เพื่อ 1) เสริมสร้างพื้นที่โล่งสีเขียวแบบจัตุรัส(Open green public squares) 2)เพื่อให้ถนนมีขนาดความกว้างอันหลากหลายตามหน้าที่ของมัน (Streetfunction) และ 3) เพื่อกันที่ไว้สำหรับการพัฒนาเมืองในอนาคต(Future growth)
รูปที่ 1 ผังเมืองฟิลาเดเฟีย
2. เมืองเขียว (Garden City) เมืองนิวเฮพเวนมลรัฐคอนเนคติกัต ด้วยดำริของรัฐมนตรี จอนดาเวนพอร์ต และคหบดี เซพฟียเลียส อีตัน ได้วางแผนสร้างเมืองใหม่ในปี ค.ศ. 1638(พ.ศ. 2181) ตามพื้นฐานความเชื่อเรื่องเมืองอุดมคติในคัมภีร์ไบเบิ้ล หลักเกณฑ์การวางแผนและออกแบบเมืองคือให้มีด้านแต่ละด้านกว้างประมาณครึ่งไมล์(800 เมตร) โดยประกอบไปด้วยแปลงพื้นที่ทั้งสิ้นเก้าแปลงหรือ เรียกผังเมืองนี้ว่า Nine Square Plan ผังเมืองนี้ยึดหลัก สร้างพื้นที่สีเขียวใจกลางชุมชนหรือเมืองและแวดล้อมด้วยถนนลักษณะตารางหมากรุกซึ่งเป็นรูปแบบถนนที่แพร่หลายในเมืองใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณอนุภูมิภาคNew England (New England ประกอบด้วย 6 มลรัฐ คือ แมสซาชูเซทส์ รัฐเมน รัฐคอนเนคติกัต โรดไอแลนด์ และนิวแฮมเชอร์)และรัฐทางตะวันตกของประเทศในขณะนั้น
รูปที่ 2 New Heaven "Garden City"
3. การฟื้นฟูเมือง (Urban Revitalization) โครงการไฮไลน์เมืองนิวยอร์ค โครงการไฮไลน์ (HighLine project) เป็นโครงการฟื้นฟูเมืองแบบยังคงมีรากฐานเดิม (urbanrevitalization) ซึ่งต่างจาก urban redevelopment (การรื้อร้างสร้างใหม่)โครงการนี้เป็นการเริ่มต้นการใช้โครงสร้างระบบขนส่งทางรางแบบยกระดับ (elevatedrailway) ซึ่งเลิกการดำเนินงานไปนานแล้วภายหลังยุคอุตสากรรม (industrialera) ส่งผลให้เป็นแหล่งเสื่อมโทรมของชุมชน และซ่องสุมของอาชญากรในเบื้องต้นหรือเรียกว่าเป็นระยะทดลอง การฟื้นฟูได้นำพื้นที่บางส่วนของระบบรางมาพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะ(public space) เช่น สวนสาธารณะ และทางเดิน แก่ประชาชนเมืองนิวยอร์คโดยถือเป็นโครงการทดลองด้านผังเมืองโครงการหนึ่งด้วย (urban experiment) โครงการเริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ.2552) ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการมีผู้เข้าเยี่ยมชมแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนโครงการมีระยะทางครอบคลุมชุมชนประมาณ 6 ช่วงตึก (sixblocks) เริ่มจากถนนหมายเลข 14 ถึงถนนหมายเลข 20ทั้งนี้เมืองนิวยอร์คได้ประกาศว่าจะเพิ่มระยะทางโครงการเป็นสองเท่าภายในปีนี้อีกด้วย (พ.ศ. 2558) นับเป็นโครงการฟื้นฟูเมืองที่เป็นแบบอย่างให้กับเมืองต่างๆ ไปทั่วโลก
รูปที่ 3 High Line project map
รูปที่ 5 ทัศนียภาพ (ต่อ)
4. การควบคุมการเติบโตเมืองอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) เมืองพอร์ตแลนด์ มลรัฐโอเรกอน บ่อยครั้งที่เมืองพอร์ตแลนด์(Portland) มลรัฐโอเรกอน ถูกใช้เป็นกรณีตัวอย่างด้านการวางแผนและจัดการเมืองที่ดีตามหลักการผังเมืองสมัยใหม่เริ่มเมื่อ ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522) พอร์ตแลนด์ได้ใช้แนวทางการควบคุมการเติบโตเมืองอย่างชาญฉลาดนี้โดยสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เชิงเข้มข้น (intensity) และมีความหนาแน่น(density) ที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ใจกลางเมือง (cityscore) โดยยังคงเก็บรักษาพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรมไว้อย่างเข้มงวดการพัฒนาใด ๆ นอกเหนือจากข้อกำหนดการใช้ที่ดินที่วางไว้จะถูกตรวจสอบอย่างเคร่งครัด การเดินทางของประชาชนได้ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นหลักเช่น รถไฟฟ้า และรถโดยสารประจำทาง เป็นต้น อีกทั้งส่งเสริมการเดินทางแบบไม่ใช้เครื่องยนต์(non-motorization mode) เพื่อการเดินทางระยะสั้นและเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบ ได้แก่ การเดิน และจักรยาน การควบคุมการเติบโตเมืองเช่นนี้นับเป็นวิวัฒนาการที่แตกต่างไปจากแนวทางการวางผังเมืองในยุคเดียวกัน ที่ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตตามชายขอบถนน(ribbon development) และการกระจายการเติบโตของเมืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุดตามแนวถนนต่างๆ (scattered development and sprawl) ที่รุกร้ำและสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างขาดประสิทธิภาพ
รูปที่ 6 Portland "Smart Growth City"
รูปที่ 7 Portland City
5. การพัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรม (BrownfieldRedevelopment) เกาะแกรนด์วิวล์ เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา เกาะแกรนด์วิวล์เริ่มการพัฒนาเปลี่ยนแปลงโฉมเมือง ในปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513)โดยการพัฒนาพื้นที่ทิ้งร้างและเสียหายจากการดำเนินโครงการนิคมอุตสากรรมบนพื้นที่ตั้งมากกว่า 37 เอเคอร์ (ประมาณ 15 ไร่) การพัฒนาพื้นที่นี้ ที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบฟอลส์นับเป็นตัวอย่างการพัฒนาแบบสร้างใหม่ประเภทหนึ่ง (urban redevelopment) ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในทวีปอเมริกาเหนือจนถึงปัจจุบันก็ว่าได้ จากการถอดบทเรียนเกาะแกรนด์วิวล์นี้พบว่าการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่และดีสามารถทำได้ในทุกพื้นที่และสภาวะ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง
รูปที่ 8 Grand Ville Island
6. การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-orientedDevelopment: TOD) เมืองอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอแลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของประเทศเนเธอแลนด์เมืองอัมสเตอร์ดัมเริ่มเฟื่องฟูในคริสต์ศตวรรษที่ 14 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17ผังเมืองรวมของเมืองก็ได้บัญญัติและบังคับใช้ ด้วยรูปร่างของเมืองที่มีสัณฐานเมือง(urban form) แวดล้อมด้วยคลองรูปร่างครึ่งวงกลมทั้งสี่ ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากอ่าวไอเจ(IJ Bay) โดยมีการพัฒนาพื้นที่พานิชยกรรม แหล่งงานและที่อยู่อาศัยที่หลากหลายบริเวณโดยรอบ เฉลี่ยไม่เกิน 2 กิโลเมตรจากที่ตั้งสถานีขนส่งมวลชน และเน้นการเดินทางระยะสั้นและการเดินทางเชื่อมต่อด้วยระบบจักรยานและการเดิน ในปัจจุบันการขยายถนนมีอัตราต่ำกว่าร้อยละ 20 ของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งและพบว่าปริมาณการสัญจรด้วยรถยนต์ของเมืองมีเพียงร้อยละ 20 ของการสัญจรทั้งหมดเมืองอัมสเตอร์ดัมจึงนับได้ว่าเป็นเมืองที่มีสภาพแวดล้อมดี น่าอยู่ติดอันดับโลก และมีการสัญจรด้วยจักรยานมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลกอีกด้วย
รูปที่ 9 Amsterdam map
รูปที่ 10 Amsterdam "City for Bicycle"
จากการนำเสนอหลักการวางแผนพัฒนาเมืองและชุมชนในบริบทนานาชาติทั้งหกประการพบว่ามีความเป็นไปได้ในการนำหลักการไปใช้เพื่อบรรเทาหรือแก้ไขปัญหาของเมืองที่มาจากหลากหลายปัจจัยและสาเหตุในปัจจุบัน ดังนั้นเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของประเทศไทย เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงยังคงมีความหวังที่จะบรรเทาปัญหาที่สั่งสมมาจากการวางแผนเมืองที่ผิดพลาด(หรือขาดการวางแผน!) ในอดีตที่ผ่านมาหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับ การวางแผนภาคและเมืองอย่างจริงจัง แหล่งอ้างอิง Center for Transit-OrientedDevelopment. (2010). Performance-Based Transit-Oriented Development TypologyGuidebook: Center for Transit-Oriented Development. Portland Bureau of Transportation.(2009). Portland Streetcar System Concept Plan: A Framework for FutureCorridor Planning and Alternatives Analysis. Portland: The City of PortlandOregon. //www.cnu.org //www.ctod.org //www.epa.gov //www.smartgrowthamerica.org
Create Date : 06 มกราคม 2558 |
Last Update : 11 มกราคม 2558 8:48:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1693 Pageviews. |
|
|