--[1 กุมภาพันธ์ 2550]--
เอ๊ะ นี่กรูกำลังดูบอลไทยแข่งอยู่นี่นา แล้ว แข่งกับอะไรล่ะนั่น!!


นี่คือความคิดวูปแรกของผม ที่ได้ดูทีวีในร้านฟิตเนสแถวรังสิตเมื่อวานนี้


ก่อนจะอ่านต่อ ผมขอชี้แจงนิดนึงนะครับ อย่าเพิ่งด่าผมเลย
เพราะว่า ฟุตบอลกับผม ออกจะห่าง ๆ กันเอามาก ๆ
พูดตรง ๆ ก็คือ ผมไม่ค่อยได้ดูฟุตบอลเหมือนกับที่เพื่อน ๆ ในห้องนี้ดูกันนะครับ

ทำให้ผมไม่ค่อยรู้ข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับฟุตบอลไทย & เทศมากนัก
เลยไม่รู้จักชื่อนักฟุตบอลดัง ๆ ในสมัยนี้ซักเท่าไหร่ นักฟุตบอลดัง ๆ ที่ผมจำชื่อได้

ก็ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ดุสิต เฉลิมแสน อะไรเทือกนั้นนั่นแหล่ะครับ
ส่วนนักแตะต่างประเทศ ที่ผมรู้จัก ก็ มาราโดน่า อิลิค คันโตน่า ประมาณนั้นครับ

ประกอบกับว่า ที่บ้านผมนี่ มีทีวี 2 เครื่อง
เครื่องนึงอยู่ห้องแม่ ซึ่งผมไม่ค่อยได้เข้าไป นานๆ จะเข้าไปซักที
เพราะคุณแม่จะนอนไวมาก

ส่วนอีกเครื่องนึง ตั้งอยู่ในห้องผมครับ อะไรก็ดีหมดครับ เสียอย่างเดียว


นั่นก็คือ มันเปิดไม่ติด T___T


หรือพูดตรง ๆ ว่ามันเสียนั่นแหล่ะครับ แล้วก็เสียมานานแล้ว
(แต่ก็ไม่ยอมทิ้ง เพราะเป็นทีวีมรดก ได้รับตกทอดมาจากรุ่นทวด T_T)

หลายปีแล้วครับ ที่ผมไม่ค่อยได้ดูทีวีที่บ้าน นอกเสียจากไปบ้านเพื่อน
หรือไปนั่งกินเหล้า ก็จะได้ดูอยู่บ้างตามสถานการณ์!!!

ทำให้ผมไม่ได้รู้ข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับนักฟุตบอลทีมชาติไทยซักเท่าไหร่
ครั้งสุดท้ายที่ดูก็คือแมทซ์ ที่ทำให้พวกเราบอกให้ VJ Getout นั่นแหล่ะครับ


ไทเกอร์คัพหรืออะไรนี่แหล่ะ เท่าที่จำได้นะครับ!!!!


วันนี้ก็เช่นเดียวกันครับ ผมไม่รู้ว่า มันเป็นฟุตบอลแมทซ์อะไรกันแน่
ไม่รู้จริง ๆ ครับ อย่าเพิ่งหาว่าผมเกรียนหรือ มามุขอะไรเลย

ทุกวันผมจะแวะเข้าร้านฟิตเนสน่ะครับ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
เพราะหุ่นออกจะขี้ก้าง เลยต้องฟิตกันหน่อย T__T

วันนี้เข้าไปที่ร้านตอน 2 ทุ่มกว่า ๆ น่ะครับ ปกติจะเข้าไปตอนบ่าย ๆ
บังเอิญว่าวันนี้มีธุระต้องไปทำ เลยเข้าไปที่ร้านดึกหน่อย


ที่ร้านนี้ เค้าจะเปิดทีวีให้ดูด้วยครับ มีทีวีติดให้ดูอยู่ 2 เครื่อง เครื่องนึงเปิดละคร
อีกเครื่องนึงเปิดบอลคู่นี้แหล่ะ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็ไปวอร์ม
ระยะห่างจากทีวีประมาณ 5 เมตร


สายตาผมสั้นครับ มองไม่ค่อยเห็นหรอก ไม่ได้ใส่แว่น T__T

ผมมองไปที่ทีวี "เอ๊ะ บอลนี่หว่า"
ใจก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ เพราะผมก็ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้วตามสันดานของตัวเอง

แต่ที่ผิดปกติก็คือ พี่ ๆ ที่เค้าเล่นเวทอยู่ตอนนั้น ไม่มีใครสนใจจะเล่นเลย
ยืนดูบอลกันหมด ผมก็เลยหยุดเล่นบ้าง แล้วเดินไปดูด้วย

อ้อ ลืมบอกไปอีกอย่างครับ เค้าเปิดให้ดู แต่เค้าไม่ได้เปิดเสียงให้ฟังนะครับ T_T
เหมือนพวกลานเบียร์ประมาณนั้นแหล่ะครับ มีแต่ภาพให้เราคิดเอาเองว่าใครเป็นใคร


ก่อนจะถามอะไรใคร ผมก็มองไปที่จอทีวีนั่น

"เอ๊ะ ทีมไทยแข่งนี่หว่า โห คนเพียบเลย"
(ตอนแรกยังนึกว่า มาเตะที่ไทยด้วยซ้ำ T__T)

แล้วคำถามในใจก็ตามมาว่า

"แล้วนั่น เชิญทีมต่างชาติที่ไหนมาแข่งอีกล่ะ"

ที่คิดเช่นนี้ก็เพราะว่า เราชอบเชิญทีมเก่ง ๆ ของต่างประเทศมาแข่งอยู่บ่อย ๆ
จะไม่ให้ผมคิดได้ไง ก็ฝรั่งเพียบเลย มีนิโกรด้วย T_T


ผมหันไปถามพี่ที่ยืนดูเยื้อง ๆ กันอยู่ข้างหน้า

"พี่ ๆ ไทยแข่งกับอะไรอ่ะ"
"แข่งกับสิงค์โปร!!!"

"ฮ๊ะ สิงคโปร์!!!"

ในหัวก็เริ่มประมวลผลทันที ว่า เดี๋ยวนี้ชาติพันธุ์ของสิงค์โปรเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
สิงค์โปร ก็น่าจะหน้าออกจีน ๆ อะไรเทือกนั้น หรือไม่ก็แขก (ตามความคิดผมนะครับ)

แต่นี่ ฝรั่งเพียบเลย T___T

ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะใจก็ยังคิดว่า สิงค์โปรเค้าก็คงพัฒนาฟุตบอลของเค้าเหมือนกัน
แต่ยิ่งดู ๆ ไป หน้ากองเชียร์ ที่เชียร์อยู่บนอัฒจรรย์ กับนักเตะ ทำไมมันถึงได้


"แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเยี่ยงนั้นเล่า T__T"



ดู ๆ ไปเรื่อย ๆ เห็นนักเตะไทยคนนึง มีผ้าพันแผลอยู่บนหัว

โอว แม่เจ้า!!!!

โหม่งลูกบอลจนหัวแตกหรือไปโดนศอกใครเค้ามาล่ะนั่นน่ะ T_T

แล้วนี่เค้ากำลังเตะบอล หรือว่า ชกมวยอยู่กันแน่เนี่ย
เสียบกันแต่ละที ถ้าโดนกลางตัวก็ตัวขาดไปเลย T_T

ผมจำจังหวะนึงได้ ที่นักเตะสิงค์โปร 2 คน (ที่หน้าฝรั่งโคตร ๆ) กระโดดขึ้นโหม่ง
โดยมีนักเตะไทย ยืนอยู่ตรงกลาง แล้วดูเหมือนว่านักเตะไทยจะรู้ตัว กระโดดหลบ

เค้าเลยชนกันเองซะงั้น T_T

คิดดูนะครับ ว่าถ้านักเตะไทยคนนั้น (ผมไม่รู้จักชื่อเค้า) กระโดดโดยไม่ได้ดู
ว่าฝรั่ง เอ้ย สิงค์โปรอีกคนนึงก็กระโดดแซนวิสมาด้วย จะเกิดอะไรขึ้น T_T

ผมว่า มีน๊อคกันมั่งแหล่ะ โห กะเอากันตายเลยมั้งนั่นน่ะ


แล้วผมอยากถามเพื่อน ๆ ซักอย่างกับสิ่งที่ผมเห็นในการแข่งน่ะครับ

ที่ทีมไทยได้ฟรีคิก แล้ว ฝรั่ง เอ้ย สิงคโปร์ตั้งกำแพง รู้สึกว่า
ระยะกำแพงมันจะไม่ได้ (ไม่ได้ยินเสียงพากษ์ T_T)
ทำไมเค้า
ไม่ไล่กำแพงให้ร่นไปอีกล่ะครับ ทำไมเค้ามาให้เราเลื่อนจุดตั้งบอลอย่างนั้นล่ะ

กฎใหม่ของฟีฟ่าเหรอครับ (แสดงว่าผมตกข่าวอย่างแรง T_T)

อ้อ เดี๋ยวนี้เค้าให้เลื่อนบอล แทนที่จะเลื่อนกำแพงแล้วหรือ!!!!


ส่วนเรื่องลูกโทษเจ้าปัญหานั้น ผมคงไม่มีความคิดเห็นอะไรครับ
เพราะขนาดภาพช้า ผมยังมองไม่ถนัดเลย ว่าตกลงล้มเอง หรือว่าดึงกันแน่

แต่จังหวะก้ำกึ่งอย่างนี้ ก็นะ .......... เป่าไปแล้วด้วย
กรรมการจะเรียกเสียงนกหวีดคืนก็คงไม่ได้เสียแล้ว

แต่หลาย ๆ จังหวะก็น่าเกลียดเกิ๊นนะบังนะ T_T

รู้สึกขนลุกตอนที่โค้ชของทีมเรา ชี้ไปที่ธงไตรรงค์หน้าอกเสื้อ!!!
ตอนที่ทีมเราวอล์คเอ้าท์ออกมาจากสนามนั่นแหล่ะครับ

เลือดรักชาติพุ่งปรี๊ดดดดดดดดด

ผมไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะผมดูบอลไม่เป็น
รู้อย่างเดียวว่า ผมรักประเทศชาติผม รักทีมชาติไทยของผม
เหมือนคนไทยทั้งประเทศแหล่ะครับ ปากก็ด่าในตอนแรก ๆ ด่า VJ คนเดียว T_T
แต่พอถึงคราวจริง ๆ ทีมชาติไทย ก็คือประเทศไทยนั่นแหล่ะครับ

ให้ใครมาหยามมิได้!!!
ยังไงก็ลูกหลาน เพื่อนพ้องของเราเองทั้งนั้น


เลือดย่อมข้นกว่าน้ำครับ นี่เป็นสิ่งจริงแท้เสมอ!!!


ตีกันอยู่ในหัวอยู่สองอย่างทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องบอลเท่าไหร่คือ

1. จะเดินออกมาทำไมล่ะนั่น เตะไปเลย
เตะต่อให้จบ โดนก็โดนไป ตามเอาคืนให้ได้ สปิริตนักกีฬานะโว้ย!!

กับ

2. เดินออกโลด ให้มันรู้ซะมั่ง ว่า กรูเห็นนะโว้ย
มรึงเป่าได้สุนัขไม่รับประทานมาก ไม่ใช่ครั้งแรก แต่หลายครั้งมากแล้ว T_T


พอกลับไปเตะอีกครั้ง


ในใจผมก็ยังมีความหวังอยู่เล็ก ๆ ว่า เอาน่ะ ฝรั่ง เอ้ย สิงคโปร์ เค้าก็คงเห็นใจเราแหล่ะ
เค้าคงเตะเบา ๆ ให้เรารับเหมือนที่ปิยะพงษ์เคยทำไง

ที่ไหนได้

ไอ้ฝรั่ง เอ้ย สิงคโปร์ เบอร์ 15 นั่น แมร่งกดซะตาข่ายแทบขาด T_T
ไร้ความปราณีมาก ๆ พี่แกเล่นยิงย้ำกันสุด ๆ

ก็โอเค ไม่ว่าอะไร เกมส์กีฬา หวังชัยชนะ แต่ที่รับไม่ได้ก็คือ
มันวิ่งดีใจยังกะยึดประเทศได้ ความรักชาติในกายผมพุ่งปรี๊ดดดดดด อีกแล้วครับ

ผมหันไปถามพี่คนข้าง ๆ ทันทีว่า

"นี่เค้าได้แช้มป์เลยเหรอครับพี่"

พี่เค้าหันมาบอกด้วยหน้าตาเคียดแค้นสุด ๆ
ดีเค้าไม่ต่อยหัวผมหลุด กล้ามใหญ่โคตร T_T

"นัดชิงแล้ว แต่แข่งบ้านเค้าก่อน วันอาทิตย์นี้ มันจะมาแข่งบ้านเรา"


แสดดดดดดดดดดดดดด

เลือดรักชาติพุ่งปรี๊ดดดดดดด
อีกแล้วครับ T_T
วันอาทิตย์นี้ ตรูจะรีบกลับบ้านมายึดห้องแม่ดูบอล ตรูจะเชียร์ทีมไทย

ไม่กล้าไปที่สนามครับ กลัวอดใจไม่ไหว
เอาขวดน้ำเขวี้ยงกบาลไอ้เบอร์ 15 ของฝรั่ง เอ้ย สิงคโปร์นั่น
โทษฐานดีใจได้เหยียดหยามเลือดในกายกรูมาก ๆ T_T


ทีมไทย สู้ ๆ เชียร์สุดใจขาดดิ้นเลยเว้ย!!!!
อย่าให้ฝรั่ง เอ้ย สิงคโปร์มาหยามเราได้ในบ้านนะครับ!!!



ปล.สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะไปเชียร์ที่สนามในวันอาทิตย์นี้นะครับ


ฝาก 1 ขวด ให้เบอร์ 15 ครับ!!!



สมันน้อย เบอร์ 14



Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 13:03:03 น.
Counter : 396 Pageviews.

9 comments
  
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:28:34 น.
  
เมื่อคืนนะพี่หมัน ดูแล้วอยากกระโดดถีบได้ดำเสื้อเหืองอ่ะ

รับไม่ได้อย่างแรง

ปล.พี่หมันใส่แว่นด้วยหรอกั๊บ
โดย: หลานยายจุล วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:05:35 น.
  
คิดเหมือนกันเลยค่ะ กะลังกล่อมไอ้ตัวเล็กนอนอยู่ด้วย ของจะขึ้นแรงก้อไม่ได้ เด๋วไอ้ตัวเล็กตื่น แค้นชะมัดเลยอ่ะ ....
โดย: หนูชล วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:13:37 น.
  
ไม่ได้ดูค่ะ ไม่ชอบดูกีฬา แต่ชอบนักกีฬา ค่ะ
โดย: beautiful civil วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:34:03 น.
  
ดูบอลล์มะเปงงะ งิงิ
โดย: หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:49:33 น.
  
พูดดี ๆ ก็ได้ อย่าขู่...

เดี๊ยวกลัว...

เฮ้ออออ
โดย: ปฐม (พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:5:34:04 น.
  
ซื้อตั๋วไปเชียร์ทีมไทยติดขอบสนามกันเถอะ อิอิ
โดย: ~'o'~LiLLa_KrOnPrInSeSsA~'o'~ (SnOwY~SeAsOn ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:35:28 น.
  
โดย: kwangjang วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:13:12:42 น.
  
ดูบอลไม่เป็นเหมียนกัลลล แฮะ...แฮะ
โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:14:14:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมันน้อย เบอร์ 14
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

:: หลังไมค์หาผมได้ครับ ::


Custom Search



กุมภาพันธ์ 2550

 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
1 กุมภาพันธ์ 2550
All Blog
MY VIP Friend