--[อีอ้อย กับ พี่หมอ]--

เรื่องราวที่จะได้อ่านกันต่อไปนี้นะครับ เป็นเรื่องราวบ้าบอที่เกิดขึ้นในห้อง B-Kickz
ห้องย่อยเกี่ยวกับรองเท้าบาส ในโต๊ะศุภชลาศัย at pantip.com

เป็นการสนทนาของสมาชิก 2 ท่าน ท่านแรกคือ คุณเตียเป๋งลิ้ม รับบท หมอนพพร หรือ พี่หมอ
ส่วนท่านที่ 2 คือ ผมเอง นายสมันน้อย เบอร์ 14 รับบท น้องดุดดาว ที่มีนามจริง ๆ ว่า อีอ้อย!!!

เริ่มจากกระทู้รวบรวมรายชื่อสมาชิกนั่นแหล่ะครับ แต่ตอนนั้นมีศัพท์ประจำห้องว่า "เจ้ย"
จะขนานนามเจ้ยแต่ละคนที่เป็นสมาชิก ส่วนเจ้ย เป็นอะไร และเอามาจากไหน
ก็อ่านได้จากเนื้อความครับ มีบอกอยู่ จากกระทู้รวบรวมรายชื่อสมาชิก
กลับกลายเป็นกระทู้สอบถามปัญหาชีวิต ลามไปจนถึงกระทู้ผัวเมียไม่เข้าใจกันซะงั้น T_T

ลองอ่านดูครับ เป็นการสวมบทบาทที่หลุดโลกสุด ๆ
เพราะผมต้องเป็น อีอ้อย ส่วนไอ้เตีย ก็ต้องเป็นพี่หมอ
บลัฟ กัด แขว่ะ กันในกระทู้แบบสุดมันส์ และหลุดโลก!!!

เอาล่ะ อ่านกันได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา....





Start Now

Update สมาชิกชาวเจ้ย.... อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ ๑

สืบเนื่องจาก ยังมีบางท่านที่มาใหม่สงสัยอีกแล้วว่า ไอคำว่าเจ้ย ที่มีคนบ้าๆบอๆ พูดกันอยู่นี่มันคืออะไร

จาก จดหมายของ คุณ หน่อย อ้อมน้อย สาวโรงงานย่านพระประแดง ถามหมอ นพพร มาว่า สวัสดีคะ อาหมอ นพพร หนูอยากทราบว่าไอพวกห้อง B- Kickz มันชอบพูดถึงเจ้ยนี่ เจ้ยที่ว่าคืออะไรคะ

หมอ นพพร เลยต้องส่งต่อจดหมายจากทางบ้านมาให้ผม
เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องใต้สะดือแล้วหมอคงตอบไม่ได้ ตรงกันข้ามถ้าเรื่องต่ำกว่าสะดือ ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน !

ผมจะมาอัพเดทให้ทราบครับว่าทำไมต้อง เจ้ย ไม่ใช่เจ้ยแล้วเป็น เจ้ว ไม่ได้เหรอ ที่ไม่ใช้เจ้วเพราะว่าในห้องนี้มีคนใช้ไปแล้วครับ

อ่าว.....แล้วไอเจ้ยที่ว่านี่มันมาจากใสผู้ใดนำมา?

เราว่าวกันง่ายๆซื่อๆครับ เจ้ยสิมาจากตัวละครหนึ่งในหนังเรื่อง แหยม ยโสธร ในหนังนั้น น้องเจ้ย พูดประโยค " เจ้ยอยากได้ กะ แหยม แล้วแหยมถีบเจ้ยลงสระบัว ผมว่ามันดูเห่ยมาก... บวกกับประโยคนี้เพื่อนเก๊กก็เอามาพูดในวงอาหารค่ำตอนนึง เลยทำให้ผมเกิดความชอบประโยคนี้ขึ้นมา เลยเริ่มเอามาพิมพ์ในกระทู้ จนเกิดไวรัส เจ้ย ที่ Nod32 หรือ Norton ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ มันได้ลุกลามไปหาเพื่อนๆ ผมหลายคนในห้องนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคำว่า"เจ้ยอยากได้" มันจะ เห่ยได้ใจเพื่อนๆผมได้มากมายขนาดนี้ เวลาใครอยากได้อะไร ใครเสียดายอะไร เจ้ยจะถูกนำมากล่าวถึงตลอด มันเป็นชื่อที่ภูธรมากๆๆๆ พอพิมพ์มาก็รู้เลยว่า อารมณ์ในตอนพิมพ์เลย อิอิ

เอาหละครับ วันนี้ ผมขอ อัพเดท สมาชิกเจ้ยอยากเป็นทางการครับ ใครที่เคยพิมพ์ประโยคนี้โปรดมาแสดงตัว ไวรัสเจ้ยกันหน่อยดีกว่ามั้ยครับ เท่าที่ผมนึกออกมันมีประมาณ สี่ถึงห้าคนนะครับ ไอพวกที่เคยพิมพ์มาแล้วมาแสดงตัวหน่อยเร็วๆ อย่าอายที่จะมาเป็นพวกเจ้ย มามะ

ตอนนี้มีสมาชิกอย่างเป็นทางตามที่ผมทราบอยู่ดังนี้ครับ
1. เตียเป๋งลิ้ม
2. Ithipong
3. Kek 15
4. G - Unit (คนนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะติดไวรัสเจ้ยได้ เงียบๆแบบนี้ )
5. Shoes Collector
มีใครอีกมั้ยเนี่ยแสดงตัวหน่อยเร็ว


" May the " เจ้ย " be with you " แปลว่า " ขอให้เจ้ย จงอยู่กะท่าน "


ป.ล. แค่ท่านมาลงชื่อ " เจ้ยอยากได้ " หรือ " เจ้ยอยากตาย " ก็พอครับ

จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 13 ก.ย. 49 10:39:54 ]




ความคิดเห็นที่ 2

--[เจ้ยอยากด๊ายยยยยยยยย]--

อ้อ มันเป็นจั่งซี้!!!!
อยากได้ ก็อยากได้ อยากได้!!!!!
ส่วนนี่คือเนื้อความของจดหมายฉบับนั้นครับ!!!

5 กันยายน 2549 เขียนที่ศุภัชลาศัย สนามกีฬา ณ พันทิพ ดอท คอม....

เรียนคุณหมา เอ้ย หมอนพพรที่เคารพคะ ครือว่า ก่อนอื่น หนูคงต้องขออภัยคุณหมอด้วยนะคะ ที่เขียนมารบกวนเวลาอันมีค่าในการตอบปัญหาใต้สะดือของคุณหมอ แต่ หนูมีข้อข้องใจอยากทราบจริง ๆ ค่ะ
คือ ช่วงหลัง ๆ นี่ ผัวหนูไม่ยอมทำการบ้านเลยค่ะ วัน ๆ เอาแต่เล่นเนท ซึ่งแรก ๆ หนูก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะปกติเค้าก็เล่นเนทเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า หลัง ๆ เค้าเล่นแต่เนทค่ะ ไม่สนใจหนูเลย หนูก็พยายามทำทุกอย่างแล้วนะคะ ไม่ว่าจะยั่วยวน ใส่สายเดี่ยวโชว์นม ที่โชว์จนแทบจะเอานมออกมาฟาดกบาลมันอยู่แล้ว!!!! ..... แต่เค้าก็ยังไม่สนใจหนูเลยค่ะ ยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเนท ในเมื่อนมเอาเค้าไม่อยู่ หนูจึงต้องใช้วิธีอื่นแทนค่ะ หนูก็ไปหากระโปรงสั้น ๆ หรือไม่ก็กางเกงสั้น ๆ รัด ๆ ปลิ้น ๆ มาใส่ และก็พยายามเดินโฉบไปโฉบมาหน้าคอมพิวเตอร์ที่เค้าเล่นอยู่

แต่คุณหมา เอ้ย หมอคะ ความพยายามของหนูไม่เป็นผลเลยค่ะ เพราะเค้าไม่แม้แต่จะเหลียวหน้ามามอง ทั้งที่หนูก็ใส่โคตรสั้น น้องหนูแทบจะออกมาโชว์ใส่หน้ามันอยู่แล้ว............T_T จนทุกวันนี้ เวลาก็ผ่านมาหลายเดือนมากแล้ว ที่ผัวหนูไม่ตกถึงท้องหนูเลย จนหนูเริ่มคิดที่จะหาผัวใหม่แล้วเนี่ย!!!

เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้นสิคะคุณหมอ เมื่ออาการของผัวหนูเริ่มแสดงอาการ ออกมา คือ หลัง ๆ มานี่ เค้าเริ่มหันไปสนใจรองเท้าบาสค่ะ ทั้ง ๆ ที่เค้าก็ไม่เล่นกีฬานะคะ




ความคิดเห็นที่ 3

ถึง น้องดุจดาว

จากอาการที่น้องดุจดาวว่ามา หมอก็ยังไม่เคยเจอคนที่สนใจรองเท้ามากกว่าการแต่งตัวรัดปลิ้นของแฟนตัวเอง...อันนี้ต้องเป็นกรณีศึกษานะครับ

หมอแนะนำให้หาผัวใหม่ครับ น้องดุจดาว จะได้มีคนส่งการบ้านได้สม่ำเสมอ ตรงนี้หมอพอจะช่วยหาได้ครับ ว่าแต่น้องดุจดาว ชื่อเหมือนางเอกหนังเรื่อง เพื่อน สนิท เลย ท่าทางคงจะสวย แบบนี้หมอว่าไม่นานคงจะหาคู่ชีวิตได้ไม่ยาก

.....หมอมีคนนึงแนะนำครับน้องดุจดาว รับรองน้องจะต้องชอบพี่คนนี้เขาแน่ๆ พี่เขาเป็นคนอบอุ่นเวลาน้องอยู่ใกล้น้องจะรู้สึกเหมือนมีเตาไมโครเวฟมาอยู่ข้างๆ
.....เรื่องส่งการบ้านก็ไม่ต้องห่วง พี่เขาหมั่นซ้อมด้วยตัวเองมาบ่อยๆ ส่วนเรื่องการ เอาอก! เอาใจ! นั้นไม่มีปัญหา พี่เขาเอาหน้าซุกอก เก่ง แถมเรื่องเอาใจนั้น พี่เขาเอามือลูบใจน้องสบาย
คนนี้น่าจะผ่านนะครับ

....ส่วนวิธีตามหาเขานั้นไม่ยาก ยิ่งน้องดุจดาวอยู่แถวพระประแดงแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ครับ น้องดุจดาวนั่งสองแถวออกไปหน้าปากซอยนะครับ อย่าลืมเอาร่มไปด้วยนะครับเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แล้วต่อรถเมล์มาลงสนามหลวง ขึ้นรถแอร์นะครับ เด๋วจะร้อนแล้วไม่สวย หลังจากนั้นน้องดุจดาวต่อรถมาแถวประตูน้ำ อาจจะรถติดนิดหน่อย จากประตูน้ำน้องดุจดาวต่อรถเมล์หรือถ้าเหนื่อยก็นั่งแท๊กซี่ไปลงแถวอนุสาวรีย์ ตรงนั้นจะมีคิวรถตู้ไปรังสิตครับ อย่าพึ่งเหนื่อยนั่งรถตู้แอร์มันจะเย็นบวกกับมีพวกโรคจิตชอบนั่งเอาข้อศอกเบียดหน้าอกที่สามีน้องไม่เคยสนใจ น้องคงจะไม่ว่าอะไร หลังจากนั้นน้องนั่งไปลง ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตคับ ละแวกนั้นมันจะมีร้านเนท ร้านแรกไม่ต้องนะครับ เนทไม่เร็วเท่าไหร่ เข้าร้านสองครับ นั่งเก้าอี้ตัวที่สี่ซ้ายมือ เสร็จแล้วน้องเข้าเว็บนี้ครับ //www.pantip.com/ พอน้องเข้าไปแล้ว น้องเสิร์ชชื่อ " สมันน้อย " ในช่องให้เสริชครับ น้องดุจดาวห้ามผวนชื่อพี่เขาเด็ดขาดนะครับ คนที่เข้ามาอ่านที่หมอนพพรเขียนก็ห้ามลองผวนนะครับ อย่าลองเลย พอน้องเสิร์ชเสร็จ น้องจะได้ตัวอย่างดังนี้ครับ
//www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S4703857/S4703857.html


เจ้าของกระทู้คนตั้งนั่นแหละครับ คนนี้แหละที่หมอจะแนะนำให้ รับรองว่าคงจะทำให้น้องมีความสุข เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด เลยหละ ทำไมต้องเชื่อหมออะเหรอ อิอิ หมอเคยลองมาแว้ว.....

.....หลังจากเจอแล้วน้องก็เอาเบอร์มือถือน้องส่งหลังไมค์ไปหาบอกว่าชื่อดุจดาว พี่คนนี้เขาบ้าหนังเรื่อง Season Change หมอมั่นใจว่าพี่เขาต้องติดต่อมาแน่ๆ เสร็จแล้วน้องจ่ายเงินค่าเนทแล้วเดินทางกลับไปรอผลที่บ้าน จากรังสิตกลับพระประแดงไม่ไกลครับ

......เอาหละสุดท้ายนี้หมอจะบอกน้องไว้ว่า สามีเก่าน้องอะมันคงกู่ไม่กลับแล้วหละครับ หมอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรองเท้าบาสมันจะมีอะไรดีมากมาย ที่หมอสะสมนี่ก็มีแค่ Jordan 1-21 ทุกเวอร์ชั่นก็ไม่เห็นว่ามันจะวิเศษตรงไหน ยิ่งล่าสุดหมอไปสั่งทำ 2K5 id มาเป็นชื่อตัวเอง ก็ยังเฉยๆอยู่ ยิ่งหมอมาเจอ collection ของ Lebron ที่หมอสั่งไปก็ไม่รู้จะสั่งไปทำไม หมอยังไม่เข้าใจเลยว่าสะสมรองเท้าบาสแล้วมันดีตรงไหน เก็บมาเกือบจะห้าสิบคู่แล้ว ยังไม่รู้สึกว่าจะพอเลย แต่มาเจอคู่นึงนี่แหละที่อยากได้และหมอนพพรกำลังเก็บเงินสอยอยู่ ไอเงินที่หมอเก็บก็มาจากการตอบปัญหาใต้สดือให้พวกเรานี่แหละ ตอบไปจนไม่มีอารมณ์ทางเพศแล้วเลยมาสะสมรองเท้าบาส .... เฮ้อ

.......ว่าแต่ว่าน้องดุจดาวนี่เป็นชื่อจิงหรือนามแฝงครับ เพราะหมอก็มีอาการเดียวกันกับสามีของน้องดุจดาวเลย เพียงแต่ภรรยาของหมอนั้นชื่อ น้อง อ้อย อยู่แถวพระประแดงเหมือนกัน ... ตอนแรกๆหมอก็คิดว่าจะสะสมรองเท้าบาสเล่นๆ แต่ที่ไหนได้ ยิ่งสะสมเหมือนยิ่งติด บวกกับแฟนเราก็อ้วนขึ้นทุกวันเมื่อก่อนเหมือนดั่งดอกซากุระบานยามเช้า ตอนนี้หมือนวัวปาไบซัน มันจะแต่งตัวรัดจนปลิ้นยังไงหมอก็ไม่มีอารม มันเลยทำให้หมออยากสะสมรองเท้ามากยิ่งขึ้นเพราะมันเป็นิวธีเดียวที่จะระบายความเครียดได้ และในที่สุดหมอต้องเอามาวางไว้บนหัวนอนเพราะมันจะทำให้หมอนอนหลับแบบสบายอารม เพราะถ้ามองไปข้างๆแล้วมันสยองนักหมอจะเงยหน้ามองรองเท้าข้างบน และจินตนการถึงนักบาสผิวดำ ตัวล่ำๆหล่อๆ คิดแล้วมัน ขนแขนแสตนอัพ แสตนอัพ แสตนอัพ ใกล้เธอที่ไรขนแขนแสตนอัพ....

...... ทำไมชีวิตหมอกับน้องดุจดาวมันช่างตรงกันเยี่ยงนี้ ถ้าน้องไม่ใช่น้องดุจดาว หมอยังเผลอคิดเลยว่าน้องคือ น้องอ้อยเมียของหมอเอง..... หมอรับไม่ได้นะที่น้องอ้อยต้องมาแต่งตัวรัดปลิ้นโดยไม่ดูหุ่นตัวเอง น้องน้ำหนักเกือบร้อยโลมาแต่งตัวรัดปลิ้น แบบนี้ใครมันจะไปมีอารมครับ ท่านผู้อ่าน ไอนมที่มันรัดจนล้นนั่นอะ หมอยังแยกไม่ออกเลยว่านั่นมันนมหรือพุง ยิ่งตรงพุงมีไฝด้วยไอเราก็นึกว่านม ไปๆมาๆเหมือนมีเมียเป็นลูกวัวเลย นมกะพุงรวมกันแล้วมีเกือบหกเต้า จะให้หมอมีอะไรกะลูกวัวได้อย่างไร จิงมั้ยครับ ถึงหมอจะชอบกิน นม กินลูกชิ้นเนื้อวัว แต่หมอมีอะไรกับลูกวัวไมได้ครับ

...........สุดท้ายนี้ถ้าเป็นเรื่องจริงตามที่หมอคิดมา น้องอ้อยไปมีผัวใหม่เหอะครับ คนที่หมอแนะนำอะส่งหลังไมค์มาขอเบอร์ก็ได้ ส่วนตัวหมอเองขอก้มหน้าก้มตาสะสมรองเท้าบาสไปเรื่อยๆดีกว่า เพราะถ้าให้หมอมีอะไรกะลูกวัวแล้ว หมอคงพูดได้คำเดียวว่า

" เจ้ยอยากตาย "


สุดท้ายนี้น้องดุจดาวไม่ต้องไปฮังการีหรอกจะ หมอว่าน้องไปฟาร์มโชคชัยดีกว่า ที่นั่นน้องจะได้เจอเพื่อนมากมาย น้องคงมีความสุขอยู่ที่นั่น บายๆ ลาก่อน..

จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 13 ก.ย. 49 12:02:37 ]




ความคิดเห็นที่ 9

เรียนคุณหมอนพพร ด้วยความเคารพค่ะ

..... ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คุณหมอ เรื่องของบุคคลที่คุณหมอแนะนำมานั้น หนูรู้จักเค้าดีค่ะ เนื่องด้วย หลังจากที่ได้เข้ามารู้จักกับชาวเจ้ยทั้งหลายอยู่ซักระยะ หนูก็ได้อ่านบทความ หรือที่ชาวเจ้ยทั้งหลาย เรียกว่า "กระทู้" ของคนที่คุณหมอแนะนำ ก็จะใครซะอีกล่ะคะ ถ้าไม่ใช่ คุณสมันน้อย (ขอบอกว่าแอบผวนไปแล้วค่ะ คิกคิก!!!) หรือที่บรรดาชาวเจ้ย เรียกกันว่า "น้าหมัน" นั่นแหล่ะ

..... คุณหมอคะ หนูอยากจะบอกไว้ตรงนี้ค่ะ ว่า จากที่สังเกตุดูผู้ชายคนนี้ในกระทู้ต่าง ๆ แล้ว จะเห็นได้ว่า ไอ้น้าหมันของชาวเจ้ยเนี่ย "โรคจิต" ค่ะ แน่นอน หรือตามภาษาการแพทย์เรียกว่า "โรคจิตหงุดเงี้ยว" (ห้ามผวนนะคะ เป็นศัพท์เทคนิคค่ะ) แล้วคุณหมอคะ อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะคะ หนูอยากจะถามคุณหมอว่า ไอ้น้าหมันคนที่คุณหมอว่าเนี่ย มันดูน่าอบอุ่นตรงไหนคะ!!!!!

ดูจากหุ่นแล้ว หนูยังข้องใจอยู่ กลัวว่า คนที่จะให้ความอบอุ่น จะกลายเป็นหนูแทนน่ะสิคะ แหม คุณหมอก็ พูดออกมาได้ เอาอะไรคิดคะคุณหมอ!!!

แล้วหนูจะบอกให้นะคะคุณหมอ อย่างไอ้น้าหมันน่ะ หนูทับทีเดียว มันก็ขาดครึ่งแล้ว!!!! ผอมแห้งปานไม้เสียบผี หน้าตายังกะผีเน่าขนาดนั้น

แล้วกระทู้ที่คุณหมอให้หนูตามไปอ่านนั่น ก็น่าสมเพชเวทนามากค่ะคุณหมอ โดนผู้หญิงหลอกเอาง่าย ๆ (หลอก เอาง่าย ๆ อ่านดี ๆ นะคะ เดี๋ยวความหมายผิดหมด) ก็น่าสมน้ำหน้ามันอยู่แหล่ะค่ะคุณหมอ แล้วคุณหมอคิดเหรอคะว่า คนที่ซวยซับซ้อนขนาดนั้น หนูไปอยู่ใกล้ๆ ด้วย แล้วมันจะไม่พาหนูซวยไปด้วย

และอีกอย่างค่ะคุณหมอ ..... มันคงเลี้ยงหนูไม่ไหวหรอกค่ะ หนูกินเยอะจะตาย!!!!

เอาล่ะค่ะ จบเรื่องของน้าหมันไปก่อนนะคะ เอ่อ แต่อยากบอกค่ะคุณหมอขา........... คราวหลังถ้าจะแนะนำทาง บอกที่หมายเลยค่ะ หนูมีรถ!!!! แต่ถ้าจะให้ดี หนูนั่งเล่นเนทอยู่บ้านดีกว่าค่ะ หนูคงไม่ถ่อไปถึงรังสิต เพื่อไปส่งหลังไมล์ให้คนโรคจิตหงุดเงี้ยวอย่างนั้นหรอกค่ะ

ปล่อยให้มันหงุดเงี้ยวต่อไป จนกว่าน้ำจะออกหูมันตายไปเองเถอะ!!!

เอาล่ะค่ะ ต่อไปเรื่องของหนูนะคะ

.....คุณหมอขา ทำไมคุณหมอถึงได้บรรยายลักษณะของตัวผัวหนูได้ตรงขนาดนั้นละคะหมอ หรือว่า ............. คงไม่หรอกมั้งคะ เพราะถ้าเป็นผัวหนูจริง เค้าต้องเก่งเด็ดขาดเรื่องบนเตียงแน่ ๆ ใช่ไหมคะ ก็ขนาดให้คำแนะนำคนอื่นได้เป็นฉาก ๆ ขนาดนี้แล้วตัวเองก็ต้องสุดยอดสิคะ อุ้ย อายจังเลย (แสดดดดดด จะอายทำด๋อยอะไรฟระ)

.....คุณหมอคะ คุณหมอรู้ได้ยังไงคะ ว่าหนูตัวใหญ่ปานช้างสาร 8 คนโอบไม่รอบ!!! คุณหมอเป็นหมอดูด้วยเหรอคะ ที่แค่อ่านลายมือก็นึกภาพคนเขียนออก ...... แหม แต่คุณหมอขา ถึงหนูจะล่ำบึกขนาดนั้น แต่ทุกอย่างของหนูก็มีคุณภาพคับบ้านนะคะ (แก้วมันเล็กไป เอาไม่อยู่) หนูพยายามจะทำให้ผัวหนูได้รับในสิ่งที่คุ้มค่า โดยการ เพิ่มเต้านม จาก 2 เต้า เป็น 6 เต้า อย่างที่คุณหมอบอกนั่นแหล่ะค่ะ เผื่อ 2 เต้าบนผัวหนูเค้าเบื่อ เค้าจะได้เปลี่ยนมาหาเต้าอื่น ๆ แทน

..... แต่หนูคงคิดผิดไปหน่อย ที่บังเอิญวันนั้น เผลอเอานมไปทับเค้าเข้า จนเค้าเกือบตาย แต่หนูไม่ได้ตั้งใจนี่คะ แค่พลิกตัวแค่นั้นเอง คุณหมอ อย่าดูถูกความตั้งใจของหนูนะคะ เรื่องที่หนูแต่งตัวยั่วผัวหนู!!!

..... คุณหมอลองนึกภาพดูสิคะ ว่าหุ่นน้องช้างอย่างหนู จะไปหาสายเดี่ยวเสียวหลุดที่ใหญ่ขนาดนั้น มาได้จากที่ไหน แล้วไหนจะกระโปรงสั้นปรี๊ดดดดด นั่นอีกล่ะ หนูหาไม่ได้จริงๆ นะคะ ไปที่ไหน แม่ค้าก็เบือนหน้าหนีหนูกันหมด แถมยังพูดให้กำลังใจหนูมาอีกว่า

"ถ้าเป็นผ้าห่อควายละก็พอมี!!!"

..... นั่นแหล่ะค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น เพราะในที่สุดหนูก็หาเสื้อและกระโปรงตัวที่เหมาะกับหนูจนได้ หนูทำยังไงรู้ไหมคะ หนูก็เอาคำแนะนำของเจ้าของร้านขายเสื้อผ้ามาใช้นะสิคะ คือ ใช้

"ผ้าห่อควาย"

ค่ะ หนูเอาผ้าห่อควายมาตัดเสื้อและกระโปรง ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่า มันช่างพอดี๊ พอดีตัวเสียจริง ๆ ตอนนี้ก็ใส่อยู่ค่ะคุณหมอ ใส่แล้วรู้สึกว่า หัวตัวเองมันหนัก ๆ เหมือนจะมีเขางอกออกมายังไงไม่รู้สิคะ แถมข้าวปลาก็ไม่อยากกิน อยากกินแต่หญ้า!!!!!

เอาเถอะค่ะ หนูพอเข้าใจแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผัวหนูทำไมผัวหนูถึงได้แปลงร่างเป็นเจ้ยอย่างนั้น ตอนที่เขียนอยู่นี้ หนูเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนแรก หนูว่าจะไปฮังการี่ เพื่อไปตามหาความฝันเหมือนกับหนังเรื่อง seasons change แต่หลังที่อ่านคำแนะนำจากคุณหมอแล้ว หนูเปลี่ยนใจแล้วค่ะ ว่าหนูจะไม่ไปอังการี่ แต่หนูจะไป เดนมาร์ค แทน เพราะคิดดูแล้ว ที่นั่นน่าจะเหมาะกับหนูที่สุด เพราะเพื่อน ๆ อยู่ที่นั่นเยอะค่ะ!!!!

.....คุณหมอขา หนูแนะนำอะไรอย่างนึงนะคะ เรื่องรองเท้าที่คุณหมอกำลังเป็นโรคเดียวกับผัวหนูอยู่นี่ หนูได้ข่าวมา (จากกระทู้ด้านล่าง) ว่า ตอนนี้ jordan V กำลังออก Retro มาแล้วนะคะ ชอบสีไหนก็เตรียมสอยได้ตามใจเจ้ยเลยค่ะ ส่วนหนู ต้องขอลาไปเดนมาร์คก่อนค่ะ เค้ามารับแล้ว!!!!


..... ขอแสดงความนับถือ

ดุจดาว ณ.Seasons Very Change
ผู้ที่เล่นไวโอลินไม่เป็น เป็นแต่ สีซอให้ควายฟังเท่านั้น....

จากคุณ : สมันน้อย เบอร์ 14 - [ 13 ก.ย. 49 13:40:42 ]




ความคิดเห็นที่ 12

โอ้ว....น้องดุจวัว เอ้ยดุจดาว..... ที่แท้น้องก็คือน้อยอ้อยเมียในตำนานของพี่นี่เอง พี่หมอขอโทษนะที่ไม่สามารถเป็นจ๋ามีที่ดีของน้องอ้อยได้ น้องอ้อยไปเถอะ จะไปเดนมาร์ค สำเพ็ง ฮังการี หรือ ขอนแก่น น้องอ้อยไปเหอะ พี่ยอม ถ้าน้องจะมีความสุข.....

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าพี่ก็บอกน้องแล้วใช่มั้ยครับว่า อย่าไปเดินตลาดนัด ของแบบนั้นมันไม่เหมาะกับน้องหรอก "ผ้าห่อควาย"ที่น้องเอามาใช้นั่นอะพี่บอกแล้วว่ามันไม่ไฮโซตอนนั้นพี่ไปถึงเมืองนอกซื้อผ้าปูที่นอนมาตัดเสื้อให้น้อง น้องกลับไปแยแสไม่สนใจพี่เลย แถมยังมาบอกว่ามันแพงไป

" ไม่ชอบผ้าปูที่นอนทำไมไม่บอก "

อีกเรื่องถ้าพี่ไม่รักน้องอ้อยจริง พี่ไม่ทนอยู่กะน้องมาตั้งแต่น้อง หนัก 43 จนตอนนี้ 143 หรอก น้องคิดดูสิ 100 กิโลในสี่ห้าปีนี่น้องทำได้ยังไง ถ้าน้องไม่กินไก่ดิบ

พี่อยากจะเตือนน้องนะว่า พี่รู้ว่าน้องชอบกินไก่ดิบ ไปที่อื่นอะมันไม่เหมือนที่บ้านเราหรอก น้องคิดดูพี่ต้องทนไปเดินโลตัส ซื้อไก่ดิบกลับบ้านมาเป็นสิบๆตัวต่ออาทิตย์ เพื่อให้น้องกิน จนแคชเชียร์เขาจะคิดว่าพี่เป็นปอปหรือตัว กินไก่อยู่แล้ว พี่หมอก็อายนะ จนบางทียังได้ยินเสียง

นินทาลับหลังว่า " ตัว Hey " เลย

น้องคิดดูสามีใหม่น้องจะรับสภาพน้องกินไก่ดิบได้เหรอน้องอ้อย อยู่ที่บ้านเราเวลาเรากินข้าวกัน พี่เขวี้ยงไก่ดิบลงคลองข้างบ้าน น้องคลานไปกินในน้ำได้เลยภาพที่ออกมาน่ารักมาก ดูกระหนุงกระหนิงเหลือเกิน พี่โยนน้องก็ยังวิ่งไปคาบกลับมากินได้ จะมีที่ไหนที่น้องอ้อยจะกินไก่ดิบเท่าที่บ้านเราไม่มีอีกแล้ว น้องอ้อย มังกรคอมมานโด ของพี่.....

คิดดูสิตอนนั้นที่เราไปต่างจังหวัดแล้วโลตัสปิดพี่ยังพาน้องขับรถไปนอกเมืองหาบ้านชาวบ้านที่เลี้ยงไก่ไว้ใต้ถุนบ้าน ให้น้องปีนไปกินเลย พี่ทำเพื่อนน้องขนาดนี้ ใครมันจะให้น้องได้บ้าง .....

จนตอนเช้าชาวบ้านไปแจ้งตำรวจหาว่ามีปอปหรือ Hey มากินไก่ที่บ้าน น้องยังรอดมาได้เลย . . . .

ถ้าน้องจะงอนในเรื่องพี่ไม่ส่งการบ้าน พี่ก็ขอโทษ แต่มันมีสาเหตุที่นอกจากน้องอ้วนนะจ๊ะ

ไหนๆก็ไหนๆ พี่ขอระบายมั่งก็แล้วกัน

....คืนวันเสาร์ยามฝนพรำ ยามตีสี่ พี่กำลังพรอดรักกะน้องอยู่ น้องกับพี่เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรามีความสุขมาก พี่รู้สึกอบอุ่น ทันใดนั้นเอง...! แทนที่น้องอ้อยจะร้องครางออกมา . . . .

น้องอ้อยดันเรอ.... เรอ...ธรรมดาพี่ไม่ว่าหรอก แต่น้องพึ่งกินไก่สดเป็นอาหารก่อนนอน พี่นั้นเข้าใจว่าน้องหิว แต่ที่น้องอ้อยเรออกมานี่ หัวไก่มันกระเด็นออกมาด้วย นึกถึงภาพหัวไก่ดิบกระเด็น ออกมาจากปากน้อง มันลอยมาพอดีกับช่วงที่พี่กำลังจะพัก ไอหัวไก่นรกนั่น มันลอยหมุนติ้ว....ติ้ว....ติ้ว...

แล้วปากของไก่มันมาจิกที่ นก..เขา..ของพี่หมอ ทำให้เลือดมันพุ่งออกมา ดูแล้วเหมือนผู้ชายมีเมนส์ ทุเรศสายตามากๆ น้องเคยได้ยินสำนวนว่า

" ไก่จิก เด็กตาย บนปากโอ่งมั๊ย " เวลานั้นพี่หมอรู้เลยว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง

พี่หมอขอเรียกเหตุการณ์นั้นว่า " ไก่จิก หมอตาย ล่มปากอ่าว "

น้องอ้อยยังเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกแถมหัวเราะออกมาอีกสามสี่ทีเบา แล้วก็บอกว่า "ขอโทษคะพี่หมอน้องอ้อยเคี้ยวไม่ละเอียด"



eอ้อยเวน
" เคี้ยวไม่ละเอียด ทำไมไม่บอก "....!

หลังจากเหตุการณ์นั้นมันทำให้พี่หมอ ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องส่งการบ้านกะน้องอ้อยอีก พี่หมอขอโทษด้วยที่พี่หมอไม่สามารถลบความจำเกี่ยวกับ หัวไก่ที่ตีลังกา ราวดร้อป 360 องศาแล้วมาปักที่ XXXของพี่หมอได้



ถ้าน้องจะเข้าใจที่พี่หมอเขียนมาทั้งหมดนี้ น้องอ้อยจะไปพี่ก็ไม่ว่าอะไรแล้ว

ลาก่อนเมียจ๋า ชาติหน้าเจอกัน
ชาตินี้ไม่มัน ชาติหน้าแก้ตัว......

พี่หมอที่รักของน้องอ้อย

จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 13 ก.ย. 49 15:03:37 ]





ความคิดเห็นที่ 16

เรียนคุณหมอนพพร ที่เคารพรักอีกครั้งนะคะ!!!

..... ในที่สุด ความลับทั้งหมดก็เปิดเผยออกมาซะที คุณพี่คะ ที่แท้หมอนพพรกับคุณพี่ ก็เป็นคนเดียวกันนี่เอง มิน่าล่ะ หนูอ่านดูแล้วกลิ่นคุ้น ๆ ว่า คน ๆ นี้


"มันผัวกรูหรือเปล่า!!!!"

..... พี่คะ สิ่งที่พี่พูดมาทั้งหมดนั้น อ้อยขอยอมรับความจริงทั้งหมด ยกเว้นเรื่องที่อ้อย กินไก่ดิบเป็น 10 ตัวนั้น เมื่อก่อนก็ใช่อยู่ แต่เดี๋ยวนี้ พี่ลืมไปแล้วหรือคะว่าตั้งแต่ไข้หวัดนกอีมูระบาดในบ้านเรา อ้อยก็เลิกกินไก่มาตั้งแต่นั้นแล้วค่ะ

ทำให้น้ำหนักของอ้อย ที่พี่บอกว่า หนัก 143 กก. เมื่อตอนที่พี่ยังทำการบ้านกับอ้อยอยู่ตอนนั้น จนถึงตอนที่พี่ไม่สนใจอ้อย ตอนนี้ ทำให้อ้อยตรอมใจ น้ำหนักลดฮวบ ๆ จาก 143 ลดลงมาอย่างน่าใจหาย เหลือเพียง 142 กิโลเท่านั้น!!!


"ไม่ชอบคนอวบ ทำไมไม่บอก!!!"


หุ่นเพรียวลมขึ้นตั้งเยอะแน่ะค่ะคุณพี่........
แต่มันก็คงสายไปแล้วแหล่ะ เพราะอ้อยกำลังจะจากพี่ไปอยู่ที่เดนมาร์ค ดินแดนแห่งแม่พันธุ์วัวแล้วค่ะ

อ้อยจำได้ดีค่ะ เมื่อตอนที่เรายังสวีทกันเมื่อครั้งนั้นอ้อยยังจำได้ เมื่อตอนที่พี่โยนไก่ให้อ้อยวิ่งไปคาบ คุณพี่จำได้ไหมคะ ว่า ตอนที่คุณพี่โยนไก่ แล้วคอไก่ขาดติดมือพี่นั่นแหล่ะค่ะ อ้อยขำจนปวดท้องเลย อ้อยรู้ค่ะว่าพี่อาจจะรู้สึกเสียฟอร์มเล็กน้อย เพราะคอไก่หลุดติดมือ อ้อยจึงแก้เก้อให้โดยการวิ่งไปคาบมาไงคะ ไม่งั้น คุณพี่ก็คงต้องยืนถือคอไก่เก้ออยู่อย่างนั้นเอง

คุณพี่คะ อ้อยชินแล้วค่ะ ที่ตอนนั้น อ้อยชอบกินไก่อย่างมาก มีคนเรียกอ้อยว่า ตัว hey อย่างที่พี่พูดจริง ๆ ด้วย แต่อ้อยไม่ถือค่ะ เพราะเค้าคงจะอิจฉาอ้อย ที่ไม่มีไก่กินเหมือนกับอ้อย

อ้อยไม่โกรธเค้าหรอกค่ะ แต่อ้อยไม่อยากให้เค้าเหล่านั้นเข้าใจผิดมากไปกว่านี้ อ้อยจึงพยายามจะอธิบายให้เค้าฟังว่า อ้อยไม่ใช่ตัว Hey นะ ถึงแม้ว่าพฤติกรรมจะคล้ายก็ตามที อ้อยจึงเดินเข้าไปหวังจะอธิบายให้เข้าเข้าใจ แต่พวกเค้า คงคิดว่าอ้อยจะเข้าไปทำร้าย

พวกเค้าจึงชิงทำร้ายอ้อยก่อน โดยที่อ้อยไม่ได้คิดจะทำอะไรพวกเค้าเลย จริง ๆ นะคะ แต่พอพวกเค้าเข้ามาอย่างนั้น อ้อยก็ต้องป้องกันตัวใช่ไหมคะ อ้อยก็แค่ปัดป้องเท่านั้นเอง ไม่ให้เค้าเข้ามาถึงตัวอ้อยได้ แต่ไม่รู้ว่ามันพลาดยังไง

ทุกวันนี้พวกเค้ายังนอนหยอดน้ำเกลืออยู่โรงพยาบาลอยู่เลยค่ะ ตอนที่รถพยาบาลมาเอาพวกเค้าไป พวกเค้ายังบอกอ้อยเลยค่ะว่า

"อีเชี่ย สู้คนทำไมไม่บอก!!!"

วันที่พี่มาเอาตัวอ้อยออกไปจากห้องขังไงคะ พี่จำได้หรือเปล่า ครั้งที่พี่ไปเคลียรฺกับตำรวจ ตอนที่มีคนมาแจ้งว่า มีตัว Hey นั่นแหล่ะค่ะ

คุณพี่คะ หัวไก่มันไม่ดีตรงไหนคะ ถึงแม้ว่าคุณพี่จะโดน

"ไก่จิก เด็กตาย ล่มปากอ่าว"

แต่อ้อยก็ไม่สนใจหรอกนะคะ ตราบใดที่หนูน้อยยังอยู่ อ้อยรับได้ค่ะ ขอแค่พี่ส่งการบ้านบ้าง ซักนิดก็ยังดี แต่นี่พี่ไม่สนใจอ้อยเลย อ้อยจะทนได้อย่างไรละคะ


"ไม่ทำการบ้าน ทำไมไม่บอก"


อ้อยเข้าใจว่าอ้อยอาจจะตัวใหญ่ไปนิ๊ดนึง แต่พี่คะ พี่หลับตาก็ได้นี่คะ ไม่ต้องมองอ้อยก็ได้ อ้อยไม่ว่าหรอก หรือว่าพี่จะเอาหน้ากากน้องแพนเค้กมาให้อ้อยใส่ อ้อยก็ไม่มีปัญหา แม้ว่าหุ่นอ้อยจะไม่ใช่แพนเค้ก แต่เป็นเค้กปอนด์แทน อ้อยก็จะพยายามค่ะ

และอ้อยก็เสียใจที่เรอหัวไก่ใส่หนูน้อยของพี่ในวันนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าอ้อยเคี้ยวไม่ละเอียดหรอกนะคะ แต่ว่า มันเป็นระบบการย่อยอาหารของอ้อยเองค่ะ ที่ไม่เคี้ยวให้ละเอียดก็เพราะว่า อ้อยเอาไปเก็บไว้ในกระเพาะอีกอันหนึ่ง อ้อ ลืมบอกไปว่า อ้อยมี 2 กระเพาะค่ะ เอาไว้เก็บอาหารกระเพาะนึง เรื่องนี้พี่อาจจะไม่ทราบมาก่อน

นั่นแหล่ะค่ะพี่ วันนั้น บังเอิญว่าอ้อยเกิดหิวขึ้นมากะทันหัน อ้อยจึงขย้อนหัวไก่ที่เอาไปเก็บไว้กินยามหิว และไม่มีไก่ให้กิน ออกมาเพื่อเคี้ยวเอื้อง เพียงแต่เผลอเรอออกมาเท่านั้นเอง

จริง ๆ แล้วอ้อยไม่ได้ตั้งใจนะคะ หวังว่าคุณพี่คงเข้าใจ

ตอนที่คุณพี่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้
อ้อยคงเดินทางไปถึงเดนมาร์คแล้วแหล่ะค่ะ

หวังว่าพี่จะรักษาสุขภาพนะคะ

อ้อยจัง



น่าเสียดายที่เรื่องราวยังมีต่อ แต่ผมไม่ได้เก็บไว้ ผมมีหลักฐานความบ้าบอของผมและเพื่อนอยู่เท่านี้
เป็นที่น่าเสียดายเป็นยิ่งนัก จำได้ว่าวันนั้นทั้งวันไม่ต้องทำอะไร นั่งคิดบทอีอ้อยอยู่นั่นแหล่ะ

เอาเป็นว่า ไม่มีสาระอันใดจะมอบให้นะครับสำหรับอันนี้
อ่านคลายเครียดก็แล้วกัน เสียดายที่มันไม่จบ ว๊า แย่จัง T_T


สมันน้อย เบอร์ 14

Create Date : 02 เมษายน 2550 Last Update : 2 เมษายน 2550 12:30:07 น. Counter : 766 Pageviews.		14 comments
Share Tweet