|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
O ลมยามเช้า....O
Kitaro - Caravansary
O คือลมอันเหน็บหนาวแห่งเช้าตรู่ พลิ้วผ่านอยู่ยั่วหยอกม่านหมอกขาว เม็ดน้ำค้างดารดาษวางหยาดพราว เกลื่อนอยู่ราวเพชรรุ้งบนรุ่งวัน
O พลิ้วรอบร่ำผ่านหมอกโลมดอกไม้ วูบฝ่าไอหมอกเช้า, ความหนาวสั่น- ก็-โอบรัดร่างไว้กลางไพรวัลย์ พารูปฝันในอก..ขึ้นยกตัว
O คือฝันในคืนมืด..อันยืดยาว ทั้งร้อนหนาวเย็นยะเยือก..รอเกลือกกลั้ว เหตุและผลสืบมา..นั้น-พร่ามัว เอาหยอกยั่วเดียงสา-ให้ปรารมภ์
O แต่ละรอบราวเรื่องที่เบื้องหน้า พจน์, พรรณนา-ผ่านรู้..เข้าสู่สม ภาพเขาสร้างงามล้ำ, ถ้อยคำคม- ก็ห้อมห่มปัญญาจนล้าแรง
O เก็บรับโดยเดียงสา..อันล้าเลื่อน ความเขาเปื้อนนัยป้ายรำบายแฝง ความเป็น..มี..เก็บงำ..รอสำแดง ค่อยเติมแต่งม่านมัวสุมตัวตน
O ซึมซับพากย์, ถ้อย, รูป-คอยวูบเร้า แทรกรูปเขลาฝากแฝงทุกแห่งหน โอ - วงรอบภาพพจน์กำหนดคน พาวก-วนเวียนอยู่ไม่รู้วาง
O เมื่อดวงวันลอยดวงโชนช่วงแสง จึง-กำแหงอวดโอ่..ค่อยโผล่หาง อยู่กับความสับสนในหนทาง โอบความอ้างว้างแอบอยู่แนบกาย
O ดุ่มเดินเข้าตอบรับความอับจน ด้วย-หัวใจสับสนเที่ยววนว่าย อยู่ท่ามกลางโลกธรรม-ล้อมรำบาย ตอบความหมายด้านในหัวใจตน
O หมอกขุ่นขาวลอยแซม..ลงแต้มภาพ จนกำซาบ..รื่น-สุข..ไปทุกหน ใบไม้พลิกร่อนวาง, ใจบางคน- ยังคงอลวนอยู่ไม่รู้วาง
O โดยภาพและโดยพจน์..คือบทบาท ความเป็นชาติภพเปลี่ยน-เฝ้าเวียนสร้าง สายลมหวนระลอก, ม่านหมอกพราง- เช่นน้ำค้างคล้อยเคลื่อนจนเลือนลับ
O มัวหม่นก็ว่างามไปตามเห็น มี..อยู่..เป็น..แทรกซ้ำเป็นลำดับ คุณค่าอันดีงามก็ตามรับ ส่วนเลวทรามก็จู่จับเกินนับทัน
O ภาพมัวยังมองเห็นอยู่เช่นเดิม หากคอยเพิ่มพูนอยู่ เกินรู้กั้น ม่านขาวขุ่นพร่าไหวเหมือนไฟควัน ลมผ่านก็ฉับพลัน..สูญสิ้นรอย
O รำร่ายในปรารมภ์ล้อลมร่ำ สับสนในพฤติกรรม, ความต่ำต้อย- ก็ร่ายรำแฝงฝ่า..แววตา-คอย เพียงแววความเลื่อนลอย ที่คอยรอ
O บอกโลก, ชน เบื้องหน้าผ่านท่าที- ของความดี, ความรู้..เอาชูล่อ สุมซ้อนอยู่เต็มหัว..จนตัวงอ- นั้น-มากพอกอบกินแทนข้าวปลา
O ลมเช้าพอเข้าสายก็คลายหนาว เหลือเพียงทรวงร้อนผ่าว..ยังก้าวหา เหยียบย่ำโลกทั้งผองผ่านสองตา ด้วยรู้ว่าทางยาว..รอก้าวเดิน
O ลมเช้าโผผ่านล่วงฝ่าช่วงแดด ที่คอยแวดล้อมกาลอยู่นานเนิ่น รับรู้ว่ามืดดำ..ยังดำเนิน- รอบ-จำเริญรุมเร้า..ใต้เงาวัน
O ลมสายผ่านอบอุ่น..ลงหนุนเสริม ใจเคลิบเคลิ้มอ่อนโยน..เฝ้าโชน-ฝัน โลกหล้าใต้ฝ่าเท้า..เหมือนเมามัน- เลื่อนแล่นรับรองขวัญ..อยู่อลเวง
O หอมหวานกรองกลิ่นฉม, สายลมร่ำ- ล้อมโลกต่ำคอยฉุดให้รุดเร่ง ไร้สิ้นม่านหมอกมัว, ยังกลัวเกรง- ดวงวันเปล่งปลาบแสงเข้าแยงตา
O ใบไม้ปลิดปลิว..พลิกพลิ้วหล่น ต้องลมวนลอยล้อ..อยู่ต่อหน้า คือภาพและคือบทกำหนดมา เพื่อรอฝ่าเท้าต่ำ..เหยียบย่ำลง
Create Date : 17 เมษายน 2554 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2563 8:34:27 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1391 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Peakroong วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:18:37:06 น. |
|
|
|
โดย: Me IP: 183.89.77.189 วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:21:19:09 น. |
|
|
|
โดย: medkhanun วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:22:30:32 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:15:52:55 น. |
|
|
|
โดย: me IP: 118.69.35.251 วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:7:24:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|
ลุคใหม่สวยงามเป็นระบบ ครบรสชาด
Silk Road - Kitaro เหมาะกับทั้งลมยามเช้าและเจ้าพระยามาก
เหมือนเรื่องราวถูกบรรยายมาในลำนำสายน้ำนะคะ
สิ่งที่เคยมี เคยอยู่ เคยเป็น ยังมี ยังอยู่ และยังเป็นไหม
ตอบว่ายังมี ยังอยู่ และยังเป็น ต่างไปแค่ถูก-ผิด- ชั่ว-ดี ไม่อาจเหมือนเดิม
เพียงเพราะว่าเวลา"ผ่าน"ไปแค่นั้นเอง
เหมือนสายน้ำรินรินทิ้งตะกอนไว้เป็นสันดอน
สายน้ำเชี่ยวกรากทำลายทุกสิ่งอย่างทิ้งไว้แต่ซากปรักหักพัง
ลมเย็นให้ความชื่นฉ่ำ ลมแรงมีแต่สร้างความหายนะ
ป่าไม้ สายลมและสายน้ำก็สัมพันธ์กันในอัตราส่วนที่ธรรมชาติกำหนด (เกี่ยวกันจนได้สิน่า)
สรุปว่างานเก่ายังเคี่ยวเข้มไม่เค็มไม่จืด
(ถือเป็นคำชมแล้วกันนะคะ)แค่อยากวางคำ
สุขกับทุกงานสร้างค่ะ