Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
O สีซอให้ .. ควายฟัง O









เพลง .. พญาโศก


-1-
O แว่วเสียงลมฟืดฟาด .. ดังบาดหู
เมื่อคอเอี้ยวเหลียวดู .. ก็รู้เห็น
ล้วนควายเจ้าของปล่อย .. เชือกร้อยเอ็น
ให้ลมเย็นพัดต้อง .. ยืนมองมา

-2-
O ยกความเชื่อยากพิสูจน์ .. มาพูดต่อ
อกใจหนอ-วนคิด .. แต่มิจฉา
พูดวิญญาณที่อุบัติ .. เป็นอัตตา
ลอยล่วงฝ่าข้ามภพ .. บรรจบใจ

O จึงว่าศัพท์แซ่ซ้อง .. ทำนองเรื่อง
ว่าง-เปล่าเปลืองคุณค่า .. หวังอาศัย
ร้างสิ้นความคลับคล้าย .. จุดหมายใด
จะรอให้ปรากฎ .. เข้าทดลอง

O เมื่อสืบสาวราวเรื่องแต่เบื้องหลัง
เห็นทุกครั้งทุกเที่ยว .. ที่เกี่ยวข้อง
ล้วนเป็นเรื่องตอกย้ำ .. ท่วงทำนอง-
ของมิจฉาฟูฟ่อง .. ให้มองดู

O นำความนัยยากพิสูจน์ .. มาพูดต่อ
ยกศรัทธาชูรอ .. เข้าต่อสู้
ล้มตัวเอาชีวาตม์ลงลาดปู
เพื่อสมสู่ด้วยเงาอันเปล่าปลาย

O เมื่อมีใจใฝ่เชื่อจนเหลือฉุด
ปล่อยเถิดให้เร่งรุด .. สู่จุดหมาย
อย่าได้พลอยละเหี่ย .. มัวเสียดาย
กับงมงายโง่เขลา .. เป็นเต่านั้น

O ไหนเล่าถิ่นงดงาม .. ดั่งความว่า
มีแต่หน้าโง่งม .. ผู้ซมสั่น-
ที่ความคิดถูกบีบจนตีบตัน
ถูกปิดกั้นบิดเบือน .. เกินเคลื่อนย้าย

O จึงเห็นฝูงอดโซ .. เดินโผเผ
ค่อยค่อยเร่สองตีนเข้าปีนป่าย
สู่คุณค่าโลมพลอดที่ยอด-ปลาย
ดูเถิดช่าง .. ขวนขวายไม่หน่ายเลย

O เช่นตาบอดคลำช้าง .. ทั้งร่างแล้ว
ปากจึงแจ้วเจื้อยดังให้ฟังเผย
ย่อมต้องยกคำเทียบขึ้นเปรียบเปรย
แบน .. กลม .. ยาว .. เฝ้าเอ่ย .. ยั่วเย้ยกัน

O เช่นตาบอดตาถั่ว .. ภาพมัวหม่น
แม้นยินยลยังประณีต .. ต่างขีดขั้น
ยิ่งตาบอดในเบ้า .. ที่เมามัน-
บรรยายธรรมารมณ์ .. กลางหล่มดิน

O กับความหมายแตกต่าง .. แต่งสร้างขึ้น
คลี่ทะมึนหมองมัวคลุมทั่วถิ่น
ส่งมิจฉาการณ์มอบให้กอบกิน
จนต่างดิ้นขลุกขลัก .. ในปลักโคลน

O เมื่อความหมายพล่ามเอ่ย .. ไม่เคยเห็น
เขาพูดเล่นกลับพลอยเข้าห้อยโหน
ยิ่งกว่าถ่อยการเมือง .. คือเรื่องโจร-
คอยหักโค่นหลักธรรม .. ด้วยคำเท็จ

O จักกลบเสียงโง่งม .. ต้องถ่ม .. ถุย
ให้ความเขลาเปื่อยยุ่ย .. เป็นปุ๋ย-เป็ด
จนกว่าแสงพราวพร้อยแห่งพลอยเพชร
จะอาจเล็ดลอดผกาย .. สบสายตา

O จริงหรือว่า .. มีบัวอยู่ทั่วแหล่ง
รอพันแสงเรื่อรอง .. สาดส่องหา
จริงหรือว่า .. กลีบบัวบานยั่วตา
ต้องพุ่งฝ่ามืดคล้ำ .. กลางน้ำริน

O จริงหรือว่า .. บางดอกไม่ยอมบาน
ด้วยสำราญยั่วหยอก .. ระลอกสินธุ์
อยู่ใต้น้ำออดอ้อน .. ด้วยขอนดิน
ฝากชีวินเกลือกอยู่ด้วยหมู่ปลา

O คงใช่แล้ว ..
จากเสียงแจ้วเจื้อยฟัง .. ก็ดังว่า
ความเชื่องเชื่อขั้นอุกฤษที่ติดคา
ล้วนบอดบ้าแผดดัง .. เสียทั้งนั้น !

O ใช่แน่นอน ..
แน่ะ - ฟังย้อนมุสาธรรม .. หมายห้ำหั่น
"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" .. เอาถู-ดัน
แต่กูนั้นมั่นใจ .. ว่าใช่มึง !

O ไอ้โง่เอ๋ย ..
มา-จะเผยความนัย .. ควรใฝ่ถึง
สัจจะแท้แก่นธรรม .. ควรคำนึง
มีเพียงหนึ่งทางเลือก .. ใช่เปลือกกระพี้ !

-3-
O แว่วสังคีตอ้อยอิ่ง .. หวานยิ่งนัก
จังหวะชักคันรอ .. คล้ายซอ-สี
ฝูงควายเริ่ม .. สับสนฟังดนตรี
ก่อนหัวหางวาดวี .. ควบหนีไป





Create Date : 03 เมษายน 2555
Last Update : 26 มิถุนายน 2561 19:38:45 น. 5 comments
Counter : 2287 Pageviews.

 
เข้ามาอ่านคะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:21:23:53 น.  

 


O จริงหรือว่า .. บางดอกไม่ยอมบาน
ด้วยสำราญยั่วหยอก .. ระลอกสินธุ์
อยู่ใต้น้ำออดอ้อน .. ด้วยขอนดิน
ฝากชีวินเกลือกอยู่ด้วยหมู่ปลา

มากินหญ้าเขียวชอุ่ม..อาบน้ำโคลน..ฟังเสียงซอ...


โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.156.157 วันที่: 4 เมษายน 2555 เวลา:0:50:12 น.  

 

สวัสดีครับ..โอน่า...
ยินดีที่แวะมา





มินตรา...
อยู่เยอรมัน ไม่กินไส้กรอกดอกรึ
มากินอะไรแบบนั้น ไปทำไม

กับสังคม เชื่องเชื่อ บางครั้งต้องใช้คำกระแทกแรงๆ แบบนี้แหละ
เขียนเป็นฉันท์ ศัพท์แสงมันมากไป อ่านไม่รู้เรื่องกันซะเปล่าๆ

แค่นี้พวกลูกศิษย์ แนว ฤทธิ์ ปาฏิหารย์ มโนมยิทธิ อะไรนั่นก็อารมณ์กระตุกจะแย่อยู่แล้ว 55


โดย: สดายุ... วันที่: 4 เมษายน 2555 เวลา:13:11:13 น.  

 

ดายุ..

ที่พูดเช่นนั้น มิได้พูดประชดนะ..แต่ภาพกระบือที่นำมาลงนั้น
สวยงาม สงบสุขมากจนมีอารมณ์จะลิ้มรสหญ้านุ่มน่ากินจริงจริง..
ที่เยอรมัน มีการอาบน้ำโคลนด้วยเพื่อให้ผิวหนาขึ้น เพราะ..
หากผิวบางมากจะไม่มีหนังหนาพอที่จะปกป้องผิวชั้นในหรือเส้นเลือด..
ส่วนเสียงซอนั้น นั่งสีให้ตนเองฟังประจำเมื่อตอนเด็กเด็ก...

เรื่อง"ธรรมชาติ"และเคารพ"สิ่งแวดล้อม"เป็นหัวข้อใหญ่ในเยอรมันเพื่อให้เทคโนโลยี่ที่มนุษย์คิดได้ล่าสุด "กลมกลืน"และ"อยู่ร่วมกันได้กับธรรมชาติ"...ทุกอย่าง"มีความสำคัญในตนเอง""มีคุณค่าในตนเอง"มิใช่เรื่องดัดจริต ที่จะชอบสิ่งเล็กสิ่งน้อยเหล่านี้..

จะโปรดสดายุมากเวลาใช้คำพูดอ่อนหวาน..
แต่เวลามี"อารมณ์"จะ "หนัก"นะ แต่ก็เหมาะสมกับสิ่งที่พูด..
ส่วนนี้ของสดายุ ทาง"ความกร้าว"นี่ มินตราเลิกรักไปเลย..555

(เวลามินตราเข้ามาคุยด้วย..มิได้คิดว่าตนเอง"เก่ง"หรือ"รู้มาก"
หรือ"อวดจะรู้"..เพียงแต่จะบอกประสพการณ์และสิ่งที่ตนเองรับมาเท่านั้นเอง..."มิได้มีมุมเดียว"ในชีวิตคนเรานะ..)


โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.51 วันที่: 4 เมษายน 2555 เวลา:14:11:08 น.  

 


__/\\__ :'))




โดย: witch IP: 118.172.112.80 วันที่: 4 เมษายน 2555 เวลา:16:17:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.