Group Blog
 
 
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
20 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
O เมื่อปีกผีเสื้อกระหยับ .. O









เพลง .. นกเขาไฟ
ศิลปิน .. พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ



O ปีกผีเสื้อกระหยับลายเมื่อบ่ายคล้อย
ข่าวแสร้งปล่อยบิดเบือนก็เลื่อนไหล
ขณะลมแผ่วพลิ้ว, ลายริ้วไกว
ถ้อยสาไถยก็ประดัง .. ขรม-ทั้งเมือง
O เพียงใบไม้ลับล่ม .. กับลมอุ่น
ทั้งอำนาจเงินทุนก็หนุนเนื่อง
ริษยาคุกรุ่นพาขุ่นเคือง-
ร่วมปลดเปลื้องปลงหวังลงทั้งเป็น
O กระเพื่อมพลิกพลิ้วใบกลางไอแดด
ร้อนที่แผดเผาต้องก็มองเห็น
ร่มเงาแผ่-รื่นล้ำ, ร้อนลำเค็ญ-
ระริกภาพไหวเต้นอยู่ตำตา
O ผลจากเหตุ .. เวทนาความสามารถ-
ที่การวาดเรียวลิ้น .. นั้น-สิ้นท่า
ความยากจน, ทุกข์เข็ญที่เป็นมา
ยังอยู่คาค้ำเมือง-ฟ้องเรื่องราว
O วิสัยทัศน์ชั้นหาง .. กั้นขวางอยู่
บอกทุกผู้รู้ทางก่อนย่างก้าว
เส้นคดเคี้ยวเลี้ยวลอดที่ทอดยาว-
ต้องว่าตรงทุกคราวที่ก้าวเดิน
O โอ .. โวหารภาพพจน์กำหนดรูป-
กลางกลิ่นธูปม่านควัน, ความ-สรรเสริญ-
ก็แว่ว-เสียง, บทกรรม .. ขึ้นก้ำเกิน-
ความตื้นเขินตรรกพิสัยที่ในตน
O วิสัยทัศน์ชั้นหางกั้นขวางเมือง
ก่อความเชื่อความเชื่องเป็นเบื้องต้น
จับจูงความคิดเห็นความเป็นคน
ให้วกวนเวียนฝ่าศรัทธาเดียว
O จึงเห็นปีกผีเสื้อกระหยับกระพือ
เพื่อบรรลือปฏิพากย์ให้กรากเชี่ยว
ท่ามกลางลมแผ่วพลิ้ว-เห็นนิ้วเรียว-
กุมกอดเปลี่ยวเปล่าอยู่ไม่รู้วาง
O ใต้แสงวันผ่านพลอด .. ลงทอดทับ
ปีกกระหยับกระพือโบกอวดโลกกว้าง
ยังบินวกเวียนวนในหนทาง
และปีกบางยังกระพืออย่างถือดี !
O โอ .. โวหารภาพพจน์กำหนดรูป-
ควันเทียนธูปพรางตา, ม่านราศี-
ก็แผ่ผ่านมารยาเป็นวาที-
ขึ้นชูชี้อติพจน์กำหนดตน
O ความชำนิชำนาญบรรสารสร้าง
อวด, แอบอ้างคุณค่าโกลาหล
ปิดปากที่ปลอบปลุกความทุกข์ทน-
อันลุกโหมลวกลนอยู่บนใจ
O เรียวลิ้นแลบปลายตวัดฉวัดเฉวียน
เพรียกทาสเธียรรับค่าคำปราศรัย
เพื่อโลกรู้สืบสาวความยาวไกล-
ของพิสัยกระบวนทัศน์การจัดทำ
O มองจากผล-โลกดู .. ก็รู้เหตุ
ทั้งรู้เลศนัยของความพร้องพร่ำ
สามารถแห่งปากคอหรือพอนำ-
ชาติให้ล้ำเลยเขา .. หรือเท่าเทียม ?
O มองจากผล – ปัญญาความสามารถ-
ไม่เก่งกาจเหมือนถ้อยที่คอยเสี้ยม
การเร้นแฝงวาระที่ตระเตรียม-
ก็ห่ามเหี้ยมให้เห็นทุกเส้นทาง
O ปีกผีเสื้อกระหยับลายที่ปลายช่วง
ความเขาบวงแว่วปลุกไปทุกย่าง
เดือนพรากพลบมืดดำก็อำพราง-
การยกวางรอยก้าว – ทุกก้าวเดิน
O แว่วความคำเนรมิตนั้นติดปาก
ร่วมแบกลากสาธกกันงกเงิ่น
ในความเห็น, โมหะกรรมก็จำเริญ-
ความตื้นเขินในรสแห่งพจนา
O ใต้แสงเดือนแสงดาวพร่างพราวอยู่
ความสื่อสู่, รสลิ้นเหมือนสิ้นท่า
หม่นทั่วยังว่าแสงย้อนแยงตา
ปีกลวดลายจะโบกฝ่า .. ทั้งราตรี ?





Create Date : 20 กันยายน 2559
Last Update : 10 ตุลาคม 2563 18:06:17 น. 0 comments
Counter : 1596 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.