สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
10 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
ความมีขึ้น - และมีลง



สวัสดีค่ะ ... ทุก ๆ ท่าน


Photobucket>


มารายงานตัวแล้วค่ะ


















Create Date : 10 พฤษภาคม 2551
Last Update : 10 พฤษภาคม 2551 21:48:42 น. 95 comments
Counter : 4560 Pageviews.

 
ส่งท้ายร่ำลาสำหรับคืนนี้แล้วนะคะ

ขอทุกท่านมีความสุขมาก ๆ ค่ะ



Photobucket>


โดย: สาวิกา วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:55:42 น.  

 
วันพืชมงคล ไปที่สวนสันติธรรมมาค่ะ แอบมองหาคุณสาวิกา ไม่เจออ่ะ ^^


โดย: Geerorogunso วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:33:10 น.  

 
>>>วันพืชมงคล ไปที่สวนสันติธรรมมาค่ะ แอบมองหาคุณสาวิกา ไม่เจออ่ะ ^^<<<

ก็ป้ากิโลไปในวันที่สาวิกาไม่ได้ไปนี่นา แล้วจะเจอกันได้งัยอ่ะ?

วันพืชมงคลมะได้หยุดงาน
ส่วนใหญ่จะไปวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ค่ะ

คงได้เจอกันมั่งละเนอะ
ถามหาผู้หญิงแถวหน้า
ถามหาพี่ไก่ เจ๊ไก่ แม่ไก่

ถามคุณจิ๊บ ถามแม่ชีนุช
รับรองไม่พลาด
ใคร ๆ ก็รู้จักค่า ...


อิอิ ... ราคาคุยอะป่าวน้อ?


โดย: สาวิกา วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:52:56 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน

ก็ไม่ได้หายไปใหน...ยังคงอยู่ไกล้ๆเธอเสมอ

การไม่ได้เห็นหน้าไม่ได้หมายความว่าหาย...ส่วนการตายไม่ได้หมายความว่าจาก...ส่วนการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ...เป็นเรื่องธรรมดา

ปกติของผู้หญิงทั่วๆไปมักกลัวตีน


โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.213.51 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:39:39 น.  

 
ปกติของผู้หญิงทั่วๆไปมักกลัวตีน


อิ อิ
ตีนอันนี้ใช่ป๊ะ






นอกจากนี้...
ผู้หญิงส่วนมากยังกลัวจานนี้ด้วยนะ....




โดย: อำไพพร IP: 125.26.29.173 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:17:20 น.  

 
อยู่ใกล้เทอ...ใช่หายห่างใช่ห่างหาย
มิได้หมายไม่เห็นหน้า...ว่าลาร้าง
แม้ตายจากใช่จากตาย...เพราะวายวาง
ของรักห่างห่างของรัก...ล้วนธรรมดา.




โดย: ใกล้ใกล้แต่คล้ายไกล IP: 125.26.30.123 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:53:30 น.  

 

ใกล้หรือไกล...ใช้สิ่งใด...มาวัดค่า
อยู่ตรงหน้า ...ดูห่างไกล...เหมือนไม่เห็น
แม้นอยู่ไกล...ใจคำนึง...ถึงไม่เว้น
เธอคงเป็น...เช่นกำลัง...ให้ก้าวเดิน

ขอคำมั่น...และสัญญา...เคยให้ไว้
เป็นแรงใจ...ให้ก้าวเดิน...ไปข้างหน้า
เส้นทางนี้...ล้วนมากมี...ความมายา
อวิชชา...มักพาไกล...ไม่มั่นคง

อันธรรมะ...พุทธองค์...ที่ทรงตรัส
เร่งขจัด...ความลุ่มหลง...ในสงสาร
ความพากเพียร...ให้มากมี...ในทุกกาล
ขอดวงมาลย์...จงห่างไกล...ไร้ทุกข์เอย


โดย: สาวิกา วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:11:35 น.  

 
ใกล้หรือไกล...ใช้สิ่งใด...มาวัดค่า
อยู่ตรงหน้า ...ดูห่างไกล...เหมือนไม่เห็น


ย่าออำฯชอบสองวรรคนี้จังเลย
ใช้คำเก็บความได้ครบถ้วน
เสียงอักขระก็น่าฟัง

สำนวนนี้ของหนู ก เอ๋ย ก.ไก่
ย่าอำฯให้ห้าดาวจ้า.





โดย: อำไพพร IP: 125.26.30.123 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:04:51 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


เดี๋ยวนี้ลูกศิษย์ของย่าอักแต่งกลอนกันเก่งๆทั้งนั้นเลยนะ...ข้าผู้น้อย ขอคารวะ เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายหนึ่งจอก




นั่งมองดูศิษย์มีครูอยู่พร้อมหน้า...
กระบวนท่าเฝ้าชื่นชมคมวรรณศิลป์...
อักษราภรณ์ทุกบทตอนสอนดวงจินต์...
เหล่าเทวินทร์ต่างอวยพรขจรไกล...



โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.109.214 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:47:39 น.  

 

ขอขอบคุณ...ท่านเจ้าย่าฯ...ให้ห้าดาว
สุกสกาว...สว่างใส...ไปทั่วบ้าน
เหล่าเทวา...มาอวยพร...ให้ชื่นบาน
สุขสำราญ...กันถ้วนทั่ว...ทุกตัวคน






"สาวิกา"...พัฒน์กวี...ศรีสวัสดิ์
มาฝึกหัด...ขานคำกลอน...ในตอนไหน
ด้วยมีมิตร...ที่แห่งนี้...เป็นแรงใจ
"ครู" ผู้ให้...คำนิยม...และชมเชย






ขอคุณครู...เป็นกำลัง...เช่นกาลก่อน
เป็นคำอ้อน...วอนจากใจ...ใครคนนี้
ด้วยน้ำใจ...เป็นมิ่งมิตร...และไมตรี
สุขทวี...จากคำกลอน...ซ่อนคำคม






ขอคารวะ...ด้วยโซดา...สักหนึ่งจอก
แทนคำบอก..."ขอขอบคุณ" จะได้ไหม
ศิษย์คนนี้...ขอระลึก...ด้วยดวงใจ
ครูอยู่ไกล...แต่เหมือนใกล้...ไม่ห่างเอย




Photobucket>







โดย: สาวิกา วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:15:36 น.  

 
โลกธรรม ๘

โลกวิปัตติสูตร
เล่มที่ ๒๓
[๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรม ๘ ประการนี้แล ย่อมหมุนไปตามโลก และโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ประการ
๘ ประการเป็นไฉน คือ
ลาภ ๑
ความเสื่อมลาภ ๑
ยศ ๑
ความเสื่อมยศ ๑
นินทา ๑
สรรเสริญ ๑
สุข ๑
ทุกข์ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกธรรม ๘ ประการนี้แล ย่อมหมุนไปตามโลก และโลกย่อมหมุนไปตามโลกธรรม ๘ ประการนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ลาภก็ดี ความเสื่อมลาภก็ดี
ยศก็ดี ความเสื่อมยศก็ดี
นินทาก็ดี สรรเสริญก็ดี
สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี
ย่อมเกิดขึ้นแก่ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมเกิดขึ้นแม้แก่อริยสาวกผู้ได้สดับ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในข้อนี้จะมีอะไรแปลกกัน มีอะไรผิดกัน มีอะไรเป็นข้อแตกต่างกันระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับฯ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลาย มีพระผู้มีพระภาคเป็นมูล มีพระผู้มีพระภาคเป็นผู้นำ มีพระผู้มีพระภาคเป็นที่พึ่งอาศัย
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอเนื้อความแห่งภาษิตนี้แจ่มแจ้งกะพระผู้มีพระภาคเถิด ภิกษุทั้งหลายได้สดับต่อพระผู้มีพระภาคแล้ว จักทรงจำไว้ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น เธอทั้งหลาย จงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภย่อมเกิดขึ้นแก่ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เขาไม่ตระหนักชัด ไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงว่า ลาภนี้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็แต่ว่าลาภนั้นเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ความเสื่อมลาภ ...
ยศ ... ความเสื่อมยศ ...
นินทา ... สรรเสริญ ...
สุข ... ทุกข์
ย่อมเกิดขึ้นแก่ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เขาไม่ตระหนักชัด ไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงว่า ทุกข์นี้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็แต่ว่าทุกข์นั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์มีความ แปรปรวนเป็นธรรมดา แม้ลาภย่อมครอบงำจิตของเขาได้ แม้ความเสื่อมลาภ ...
แม้ยศ ... แม้ความเสื่อมยศ ...
แม้นินทา ... แม้สรรเสริญ ...
แม้สุข ... แม้ทุกข์
ย่อมครอบงำจิตของเขาได้ เขาย่อมยินดีลาภที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมยินร้ายในความเสื่อมลาภ ย่อมยินดียศที่เกิดขึ้น ย่อมยินร้ายในความเสื่อมยศ ย่อมยินดีสรรเสริญที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมยินร้ายในนินทา ย่อมยินดีสุขที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมยินร้ายในทุกข์ เขาประกอบด้วยความยินดียินร้ายอย่างนี้ ย่อมไม่พ้นไปจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส
เรากล่าวว่า ไม่พ้นไปจากทุกข์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภย่อมเกิดแก่อริยสาวกผู้ได้สดับ อริยสาวกนั้นย่อมตระหนักชัด ทราบชัดตามความเป็นจริงว่า ลาภเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็แต่ว่าลาภนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ความเสื่อมลาภ ...
ยศ ... ความเสื่อมยศ ...
นินทา ... สรรเสริญ ...
สุข ... ทุกข์
ย่อมเกิดขึ้นแก่อริยสาวกผู้ได้สดับ อริยสาวกนั้นย่อมตระหนักชัด ทราบชัดตามความจริงว่า ทุกข์นี้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็แต่ว่า ทุกข์นั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา แม้ลาภย่อมครอบงำจิตของท่านไม่ได้ แม้ความเสื่อมลาภ ...
แม้ยศ ... แม้ความเสื่อมยศ ...
แม้นินทา ... แม้สรรเสริญ ...
แม้สุข ... แม้ทุกข์
ย่อมครอบงำจิตของท่านไม่ได้ ท่านย่อมไม่ยินดีลาภที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ยินร้ายในความเสื่อมลาภ ไม่ยินดียศที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ยินร้ายในความเสื่อมยศ ไม่ยินดีความสรรเสริญที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ยินร้ายในนินทา ไม่ยินดีสุขที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ยินร้ายในทุกข์ ท่านละความยินดียินร้ายได้แล้วเด็ดขาดอย่างนี้ ย่อมพ้นไปจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
เรากล่าวว่า ย่อมพ้นไปจากทุกข์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นความแปลกกัน ผิดกัน แตกต่างกันระหว่างอริยสาวกผู้ได้สดับกับปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฯ ธรรมในหมู่มนุษย์เหล่านี้ คือ
ลาภ ๑ ความเสื่อมลาภ ๑
ยศ ๑ ความเสื่อมยศ ๑
นินทา ๑ สรรเสริญ ๑
สุข ๑ ทุกข์ ๑
เป็นสภาพไม่เที่ยง ไม่แน่นอน มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา แต่ท่านผู้เป็นนักปราชญ์ มีสติ ทราบธรรมเหล่านั้นแล้ว พิจารณาเห็นว่า มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ธรรมอันน่าปรารถนา ย่อมย่ำยีจิตของท่านไม่ได้
ท่านย่อมไม่ยินร้ายต่ออนิฏฐารมณ์ ท่านขจัดความยินดีและยินร้ายเสียได้จนไม่เหลืออยู่
อนึ่ง ท่านทราบทางนิพพานอันปราศจากธุลี ไม่มีความเศร้าโศกเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ ย่อมทราบได้อย่างถูกต้อง ฯ
จบสูตรที่ ๖




//www.tipitaka.com/lokadharma.htm





ปล. ปาด . . ทั่นพี่ชายชื่อนางฯ เดี๋ยวนี้ชักจะทำตัวใกล้ทั่นโพอี้เข้าไปทู้กวันแล้วนะคะ

แถม . . .

ปกติของผู้หญิงทั่วๆไปมักกลัวตีน

ภาษาเช่นนี้ ไม่เหมือนภาษาพี่ชายที่เรารู้จักเลย

หรือว่าเราจะรู้จักพี่ชายท่านนี้น้อยไปกระมัง



โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.118 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:28:56 น.  

 
ได้โซดา...แต่ยังขาดอีกสองอย่าง
น้ำแข็งท้างน้ำหวานสีสวยสวย
สาวิกาผู้มีน้ำใจรวย
จะเอออวยให้ไหมหนอ...รอดื่มเอย.


สาธุ...
ในโลกธรรมที่หนูอบส่งมาค่ะ



โดย: อำไพพร IP: 125.26.30.100 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:18:49 น.  

 



"สาวิกา" ...รินโซดา...คารวะ
คุณแม่..พระ ผู้พร่ำสอน...คำกลอนหวาน
อีกทั้งมี ...น้ำสีสวย...เจือน้ำตาล
เพิ่มความหวาน...แถมความเย็น...เป็นน้ำใจ







ขอคุณครู...ดื่มน้ำหวาน...สีสวยสวย
ที่เจือด้วย...น้ำโซดา...เป็นกระสาย
เติมความเย็น...ดับความร้อน...ช่วยผ่อนคลาย
แสนสบาย...มีความสุข...ทุกวันเอย








โดย: สาวิกา วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:17:20 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ ทุกๆท่าน..



..พอเข้าเดือน ๖ ฝนก็ตกพรำๆ..


โดย: ยายลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:22:46 น.  

 
เย็นน้ำหวานชื่นน้ำคำพร่ำเฉลย
ลมรำเพยยิ่งสบายไปไหนไหน
สายฝนปรอยพรมพร่างอย่างเป็นใจ
ส่งสายใยผ่านสายฝน...ว่าขอบคุณ.





ตอนนี้ที่บ้านกำลังฝนตก
ข้างตัวมีกระติกน้ำแข็ง
ในกระติกมีน้ำแข็งผสมน้ำเก๊กฮวย
ทำจากมือเองเลยแหละ
อร่อยมากค่ะ.





โดย: น้ำหวาน+น้ำฝน IP: 125.26.31.142 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:41:22 น.  

 


Raindrops Keep Falling on My Head


Raindrops keep fallin' on my head
And just like the guy whose feet are too big for his bed
Nothin' seems to fit
Those raindrops are fallin' on my head, they keep fallin'

So I just did me some talkin' to the sun
And I said I didn't like the way he got things done
Sleepin' on the job
Those raindrops are fallin' on my head, they keep fallin'

But there's one thing I know
The blues they send to meet me won't defeat me
It won't be long till happiness steps up to greet me

Raindrops keep fallin' on my head
But that doesn't mean my eyes will soon be turnin' red
Cryin's not for me
'Cause I'm never gonna stop the rain by complainin'
Because I'm free
Nothin's worryin' me

[trumpet]

It won't be long till happiness steps up to greet me

Raindrops keep fallin' on my head
But that doesn't mean my eyes will soon be turnin' red
Cryin's not for me
'Cause I'm never gonna stop the rain by complainin'
Because I'm free
Nothin's worryin' me


โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.118 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:56:53 น.  

 


โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.118 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:08:55 น.  

 
แวะพักเหนื่อย เห็นน้ำใส่น้ำแข็ง
สีแดงแดงน่าชื่นใจน่าจิบหนอ
มิรีรอเร็วรี่..ปรี่เอาน้ำแดงกลั้วคอ
ได้เรื่องหนอ..ตะกละนัก..สำลักโซดา.





โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:58:49 น.  

 














โดย: สาวิกา วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:03:32 น.  

 
แป่ววววว... แล้วเราแบบหนายหว่า


โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:09:07 น.  

 
"ในหลวง" มีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยแก่สหภาพพม่า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2551 19:39 น.
จากกรณีเกิดพายุไซโคลน "นาร์กีส" พัดถล่มสหภาพพม่า จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย โดยมีใจความดังนี้
" ฯพณฯ ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ แห่งสหภาพพม่า กรุงย่างกุ้ง
ข้าพเจ้า และสมเด็จพระราชินี รู้สึกเศร้าสลดยิ่งนักที่ได้ทราบข่าวพายุไซโคลนนาร์กีสในประเทศของท่าน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ข้าพเจ้า และสมเด็จพระราชินี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังท่านและประชาชนชาวพม่า ตลอดจนครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการสูญเสียอันน่าเศร้าและใหญ่หลวงครั้งนี้"
พระปรมาภิไธย ภูมิพลอดุลยเดช ปร.

+++++++++++
ที่มา //www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9510000053022


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:19:27 น.  

 
//larndham.net/index.php?showtopic=31693


ขอเชิญร่วมทำบุญในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ระหว่างวันอังคารที่ 13-19 พฤษภาคม 2551 ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(เยื้องวัดพระศรีมหาธาตุ) เขตบางเขน กรุงเทพฯ (รถประจำทางที่ผ่าน รถธรรมดาสาย 34,39,185,543 รถปรับอากาศสาย34,39,42,503,522,543,114)
ขอเชิญทำบุญพระกรรมฐาน 89 รูป วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2551 เวลา 06.30-09.30น.
ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(เยื้องวัดพระศรีมหาธาตุ) เขตบางเขน กรุงเทพฯ
กำหนดการ
06.30น.-พระกรรมฐาน 89 รูปถึงบริเวณพิธี
07.30น.-ประธานพิธี จุดธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัย
-เริ่มพิธีสงฆ์บูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระ รับศีล
08.00น.-ใส่บาตร
08.30-ถวายภัตตาหาร (เสร็จแล้วให้พร)
-ฉันภัตตาหาร (ฉันในบาตร)
-ประเคนเครื่องสังฆทาน เครื่องไทยทาน จตุปัจจัย
09.29น.-บรรยายธรรม บำเพ็ญธรรมภาวนานั่งสมาธิรวมจิตให้เป็นพลัง 9 นาที เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส 80 พรรษามหาราชาฯลฯ
-เสร็จพิธี
การบรรยายต่างๆ ระหว่างวันที่13-19 พฤษภาคม 2551 (ตั้งแต่เวลา10.00น.ถึง 20.00น.)อาทิเช่น
วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2551
12.00น-14.00น. -พลังรังษีธรรม-พลังดุริยมนตรา บรรยายโดย พระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2551
15.00น.-17.30น. -การดูแล/บำบัดสุขภาพองค์รวมในแนวพุทธ บรรยายโดย น.พ.อำนาจ ชัยชลทรัพย์
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2551
10.00น.-12.30น. -พลังออร่าและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน บรรยายโดย อาจารย์อาชวิน จิรจินดา(ชมรมคนเห็นผี)
วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2551
17.30น.-20.00น. -จิตใต้สำนึกกับการปฏิบัติธรรม บรรยายโดย ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์
วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2551
10.00น.-12.30น. -อวงจุ้ยกับพระพุทธศาสนา บรรยายโดย อ.กิตติพงษ์ ปังศรีวินิจ
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2551
12.30น.-15.00น. -วิธีตรวจพิสูจน์พลังพุทธคุณ(พระเครื่อง)ด้วยจิต บรรยายโดย อ.วีระศักดิ์ วัณราวิบูล
วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2551
10.00น.-12.30น. -วิชาธรรมจักร บรรยายโดย อ.มนัส อุปภัมภากุล
(หมายเหตุ-ในวันต่างๆ มีการบรรยายตามช่วงเวลาอื่นด้วย สามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ 0-2580-3559 และ0-2580-4790 และหากประสงค์จะร่วมทำบุญทางบัญชีธนาคารกรุณาโทรสอบถาม นิตยสารโลกทิพย์-โลกลี้ลับ 0-2248-3291-3 กำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:10:42 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน

นู๋อบ...ข้อความและภาษาที่เขียนใน คห. ที่ 6 นั้นไม่ได้หยาบคายอะไรเลยนะ...เพราะว่าคำตอบ ย่าอักช่วยเฉลยให้แล้วใน คห. ที่ 7...ถ้าคิดว่า คห. ที่ 6 กระทบกระเทือนใครไปบ้างก็ต้องขออภัยด้วยครับ...มิได้มีเจตนาจริง ๆ ครับ


ถ้าท้อถอยเป็นเพียงถ่าน...ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร

เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า ทั้ง ๆ ที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน
ไม้ที่ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน

แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮน์ ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นเพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม พร้อม ๆ กับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก

ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดกลั้น

ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับอยู่ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ ?

ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า

ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ

จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม เสมือนดั่งเพชร
แม้ว่าจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว แต่เพราะไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป จึงทำให้กลายเป็นคนใจเพชรได้ ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ

จนกาลเวลาผ่านไป เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ จากอดีต....ปัจจุบัน....ตลอดไปในอนาคต

เพชรแท้ ย่อมไม่กลัวการพิสูจน์



โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.210.249 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:51:54 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


ขำกลิ้งทั้งจักรวาล...เรื่องจริงขององค์การนาซ่า

องค์การนาซ่ามีภารกิจในการส่งยานอวกาศและมนุษย์อวกาศออกไปในท้องฟ้าอันมืดมิดอยู่ทั้งปีทั้งชาติ ก็เลยต้องพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้ให้มนุษย์อวกาศได้มีคุณภาพที่ดีบนยานอวกาศด้วย ดังนั้นเครื่องมือทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือออกกำลังกาย จาน ช้อน แก้วน้ำ โถส้วม จึงต้องถูกออกแบบให้สามารถใช้ในอวกาศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นั่นไร้แรงดึงดูด


...ทีนี้ก็มาถึงปากกา

คนเราลองให้ไปอยู่ที่ไหนมันก็ต้องเขียนต้องจดกันบ้าง ทั้งปากกาหมึกแห้งปากกาหมึกซึมที่เคยเอาขึ้นไปใช้ในสภาพไร้แรงดึงดูด เวลาเขียนทีหมึกกระจายลอยละล่องไปทั่วยานไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง ก็เลยมีการคิดค้นปากกาหรือเครื่องมือชิ้นนี้ขึ้น ลงหนังสือพิมพ์ป่าวประกาศให้นักประดิษฐ์ทั้งหลายช่วยกันคิดด้วย ก็มีการเสนอสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมากันใหญ่ บางคนเสนอให้ใช้หมึกที่สารผสมของเหล็กเพื่อเขียนบนกระดาษผสมสารแม่เหล็ก บางคนเสนอการใช้ปากกาที่ต้องมีแบตเตอรี่ และเขียนด้วยเลเซอร์ลงบนกระดาษที่คล้าย ๆ แผ่นฟิล์มรับแสง เสนอกันไปต่าง ๆ นานา องค์การนาซ่าเองก็ต้องคอยพิจารณาหลาย ๆ ทางเลือก เพราะบางชิ้นแก้ปัญหาสภาวะไร้แรงดึงดูดได้แต่น้ำหนักมากเกินไปที่จะเป็นเครื่องมือเขียน บางชิ้นแก้ปัญหาทุกอย่างได้หมด และน้ำหนักก็เบาพอแล้วแต่ราคาหนักเกินไปเสียอีก

แก้กันอยู่หลายเดือน วันดีคืนดีก็มีโทรศัพท์จากแม่บ้านคนหนึ่งโทรเข้ามาที่นาซ่า ปัญหาทั้งหมดก็คลี่คลายลงด้วยคำแนะนำง่าย ๆ สั้น ๆ จากแม่บ้านท่านนั้น


เธอโทรศัพท์มาบอกว่า

"ทำไมไม่ลองดินสอกันดูบ้างละคะ"

แล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่นไปทั่วจักรวาล555555555...



โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.210.249 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:42:31 น.  

 
สุขสันต์ ...วันอังคารค่ะ

ขอบคุณคุณมุ่งฯ และคุณนางฯ สำหรับข้อมูล ข่าวสาร ข่าวฝากที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ


Photobucket>


เมื่อคืนได้ยินเสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วทั้งจักรวาล ... แต่ทำไมเจ้าบ้านขำไม่ออกน้า?








โดย: สาวิกา วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:36:18 น.  

 
Photobucket>




โดย: สาวิกา วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:59:09 น.  

 
หน้าปลื้มใจมีคนชอบภาพถ่ายของคนฝึกถ่ายมือใหม่


โดย: ENWA IP: 203.146.150.36 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:33:47 น.  

 


โดย: vj อบค่ะ IP: 58.10.80.89 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:30:13 น.  

 
หน้าปลื้มใจมีคนชอบภาพถ่ายของคนฝึกถ่ายมือใหม่
โดย: ENWA IP: 203.146.150.36 13 พฤษภาคม 2551 13:33:47 น


น่านนนนนนนนนนนนนะซิ
แต่ทำไมไม่มีมาให้ดูอีกก็ม่ายรุ๊เน๊อะ ?
อยากดูอีกน่ะ
ภาพสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศของบรรพบุรุษย่าอำฯ
ตอนนี้ก็ได้แต่เศร้าใจ...
กับสภาพภัยธรรมชาติที่เขากำลังได้รับอยู่.


โดย: อำไพพร IP: 125.27.35.188 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:31:35 น.  

 
เจ้าย่าฯ ขา
วันนี้นู๋กาก็เศร้าใจค่ะ
เศร้าแต่เช้าเรยยยยย...
โอ๋นู๋หน่อยจิ


โดย: สาวิกา วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:38:47 น.  

 
ให้เจ้าแม่ค่ะ ..





โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:25:32 น.  

 
เจ้าย่าฯ ขา
วันนี้นู๋กาก็เศร้าใจค่ะ
เศร้าแต่เช้าเรยยยยย...
โอ๋นู๋หน่อยจิ
โดย: สาวิกา 13 พฤษภาคม 2551 15:38:47 น.


อะไรน๊อ ?ที่เป็นเหตุให้หนูกาเศร้า เศร้า เศร้า
แต่เช้าเลย

โอ๋เตะ โอ๋เตะ
อิ อิ
เอาคำข้างบนมาทบทวนความหลัง
ผู้ที่เคยถูกโอ๋ด้วยคำนี้
โปรดมาแสดงตนโดยด่วนจ้า

ใครทำหนูเศร้า...
บอกย่าอำฯมาเล้ยยยยยยยยย
จะไปจัดการให้โดยด่วน
ทันทีที่รู้เลยแหละ
โอ๋อออออออออโอ๋อออออออออออออโอ๋นะ น นะ นะคร้รรรรรรรรรรรา




โดย: ย่าอำฯอดีตนักมวยหญิงจ้า IP: 125.26.31.25 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:29:18 น.  

 
คุณแม่ชีนุช ที่สวนสันติธรรม เข้าใจว่าคือ อดีตคุณนุชที่เคยทำงานท่ีส่วนงานเดียว กับผม ซึ่งเป็นภรรยาของอดีตพี่ปราโมทย์ หรือปัจจุบัน คือหลวงพี่ (หรือพระอาจารยฺ) ปราโมทย์ แห่งสวนสันติธรรม ที่ผมสนิทกับคุณนุชมากกว่าเพราะ นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆกัน เวลาผมติดขัดเรื่อง คอมพิวเตอร์ ยังมาช่วยดูให้ผมเลย แหะๆ ผมจะมีโอกาสเห็นคุณนุชถักหมวกไหมพรม ไว้ถวายครูบาอาจารย์อยู่หลายครั้ง เรื่องเจโต ฯ ของคุณแม่ชี ผมก็ได้แต่เดาเอา ว่ามีมานานแล้ว การปฏิบัติ ก็คง ไม่ต้องกล่าวถึง เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่า แม่ชีท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ คล้ายๆได้ข่าวมาว่าท่านก้าวหน้ามาก จากเมื่อประมาณสิิบปีมาแล้ว สาธุๆๆ อยากเห็นรูปภาพท่านครับ คุณสาวิกา ถ่ายรูปมาลงให้อนุโมทนาบ้างสิครับ
ธรรมะสวัสดีครับ
มุ่งเต็มใจ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:49:09 น.  

 


ดังมีคราวหนึ่งในตอนเย็นวันพระ 15 ค่ำ

.......... พระอานนท์ได้ยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินที่มีรัศมีส่องประกายก่อนจะลับขอบฟ้าไป
อย่างสวยงามมาก ท่านยืนมองไปจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว
............. ครั้นหันกลับมามองไปยังทางทิศตะวันออกซึ่งพระจันทร์เต็มดวงกำลังโผล่ขึ้นพ้นขอบฟ้าขึ้นมาอีกฟากหนึ่ง
........... พระจันทร์เต็มดวงในวันเพ็ญก็สวยงามไม่แพ้พระอาทิตย์กำลังจะตกดินเหมือนกัน

ท่านพระอานนท์กำลังดื่มด่ำกับการมองพระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่
แต่เมื่อกลับหลังหันมามองพระพุทธเจ้าซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางหมู่ภิกษุสงฆ์ภายใต้แสงจันทร์อันนวลผ่อง
........... แต่พระรัศมีของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายออกมากลับมีความสวยงามกว่าแสงพระอาทิตย์และแสงดวงจันทร์ที่กำลังโผล่ขึ้นขอบฟ้ามาเสียอีก

พระอานนท์ได้กราบทูลเรื่องนี้แก่พระพุทธองค์ว่า แสงแห่งพระอาทิตย์ในเวลาจะตกดินและแสงพระจันทร์เต็มดวงที่ขึ้นสู่ขอบฟ้าในยามที่ปราศจากเมฆหมอก ยังสวยสู้พระรัศมีของพระพุทธเจ้าไม่ได้
พระพุทธองค์ได้ทรงอธิบายถึงสิ่งที่รุ่งเรืองและงดงามในโลกนี้ 5 อย่าง คือ


พระอาทิตย์ จะรุ่งเรืองในตอนกลางวัน

พระจันทร์จะรุ่งเรืองในตอนกลางคืน

พระราชาจะรุ่งเรืองในขณะทรงเครื่องพระราชอิสริยยศ

เหล่านักพรตผู้ที่จะรุ่งเรืองที่สุด ก็คือ ผู้มีฌาน

แต่พระพุทธเจ้าจะรุ่งเรืองทั้งกลางวันทั้งกลางคืนเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด


@จากเรื่องฌานสมาธิที่พูดมานี้ แสดงว่าการมีฌานสมาธิไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจตามที่มีหลายคนเข้าใจ แต่เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญควรยกย่องและควรเชื้อเชิญให้มีการนำไปฝึกปฏิบัติกันมากๆ เพื่อผลแห่งการชิมรสพระสัทธรรมของพระพุทธองค์

@ดังนั้น ผลของสมาธิที่ได้จากฌาน จึงทำให้เกิดปัญญารู้เข้าใจความจริงขึ้นมาได้ เพราะอำนาจของฌานสมาธินี้เป็นผลทำให้เกิด ท่านจึงเรียกว่า

ฌานเป็นเหตุ ญาณ(ความรู้)เป็นผล


หรือสมถะเป็นเหตุวิปัสสนาเป็นผล ทั้งฌานและปัญญา 2 สิ่งนี้จะต้องเกิดต่อเนื่องกันไปไม่ใช่แยกกันทำ เมื่อปฏิเสธฌานที่เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาแล้ว ปัญญาที่หวังกันจึงเกิดขึ้นไม่ได้เพราะความเข้าใจผิดของผู้ปฏิบัติเอง ที่มุ่งเน้นเพื่อให้เกิดปัญญาโดยทั้งๆที่ไม่มีฐานรองรับ


“ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนแม่น้ำคงคาไหลไปสู่ทิศตะวันออก หลั่งไปสู่ทิศตะวันออก บ่าไปสู่ทิศตะวันออกฉันใด ภิกษุเจริญพอกพูนซึ่งฌาน ๔ ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพานฉันนั้น....


ฌานสังยุต มหา. สํ. (๑๓๐๑-๑๓๐๔ )
ตบ. ๑๙ : ๓๙๒-๓๙๓ ตท. ๑๙ : ๓๖๐-๓๖๑

//www.dhammathai.org/webboard/view.php?No=5825
ธรรมะสวัสดีครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:09:43 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน
นำธรรมะมาฝากเพิ่มเติมพร้อมภาพสวยๆครับ


ดวงจันทร์ในหยดน้ำค้าง การปรากฏขึ้นแห่งสภาวธรรม ( เกนโจโคอัน )
ดวงจันทร์ในหยดน้ำค้าง

การรู้แจ้งของมนุษย์
เปรียบได้กับภาพสะท้อน
ของดวงจันทร์บนผิวน้ำ
ดวงจันทร์นั้นไม่เปียก
และผิวน้ำก็ไม่แยกจากกัน
แม้ดวงจันทร์จะทอแสง
คลุมพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
แต่ดวงจันทร์ก็ยังคงแน่นิ่ง
อยู่ในห้วงน้ำอันน้อยนิด
ท้องฟ้านภากว้าง
มาสงบแน่นิ่ง
อยู่ในหยดน้ำค้าง
บนใบหญ้า
เพียงหยดเดียว

โดเง็น ( ค.ศ. ๑๒๐๐ –๑๒๕๓ )
สุวินัย ภรณวลัย แปล




O มายา อุปกิเลสข้อ ๙ ท่านแปลว่า “มารยา เจ้าเล่ห์”

ความหมายละเอียดว่า แสร้งทำ เล่ห์เหลี่ยม ล่อลวง กล ไม่จริง เพียงมายาหรือมารยาก็ทำให้รู้สึกได้ด้วยกันแล้วว่า เป็นความไม่ดีร้อยแปดประการ และเพื่อให้เกิดมายา ก็จะต้องคิดปรุงแต่งในทางชั่วร้ายมากมาย เพื่อให้ตรงกันข้ามกับความจริง

ความจริงดี ต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าไม่ดี หรือความจริงไม่ดี ต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าดี เพื่อประโยชน์ใดก็ตาม ก็ต้องคิดปรุงแต่งใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อล่อลวงให้ผู้อื่นเห็นตาม ให้เห็นดีเป็นไม่ดี หรือเห็นไม่ดีเป็นดี

มายาจึงเกิดจากความคิดปรุงแต่งเล่ห์กลเพื่อล่อลวง ความคิดปรุงแต่งเช่นนั้นเป็นความต่ำทราม สกปรก และความสกปรกภายในนั้น ก็เช่นเดียวกับความสกปรกภายนอก เมื่อเกิดขึ้นภายนอก จับเข้าที่ใดก็ย่อมทำให้ความสะอาดอันเป็นสภาพเดิมของที่นั้นปรากฏไม่ได้ เมื่อเกิดขึ้นภายใน จับเข้าที่จิต ก็ย่อมทำให้ความประภัสสรแห่งจิตปรากฏไม่ได้ ถูกบดบังไว้ภายใต้ความสกปรก

มายาก็เช่นเดียวกับอุปกิเลสทั้งหลาย ทำให้เกิดได้ด้วยความคิดปรุงแต่ง ถ้าแสดงออกตามที่รู้สึกที่รู้จริงเห็นจริง รู้อย่างไร เห็นอย่างไร แม้อาจจะเป็นการรู้ผิดเห็นผิด แต่การแสดงออกตรงตามความรู้เห็นนั้น นั่นไม่ใช่มายา นั่นไม่ต้องอาศัยความคิดปรุงแต่ง เกิดขึ้นเองจากความจริงใจ ไม่ใช่จากความคิดปรุงแต่ง ด้วยเลห์เหลียม หลอกลวง อันเป็นความไม่ดี เป็นความสกปรกต่ำทราม

เพียงไม่คิดปรุงแต่งเลห์เหลี่ยมเพื่อหลอกลวงเท่านั้น อุปกิเลสความเศร้าหมอง คือ มายาก็จะไม่เกิด เครื่องพรางชั้นหนึ่งของจิตก็จะไม่ถูกสร้างขึ้น ความประภัสสรแห่งจิตก็จะปรากฏได้บ้าง แม้อุปกิเลสอื่นยังมีเป็นเครื่องพรางจิตอยู่

ธรรมะสวัสดีครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:53:53 น.  

 


เทปเป : คนที่ไม่มีความรัก เปรียบได้กับผลแอ๊ปเปิ้ลใสๆ
เมื่อเริ่มมีความรัก ก็เริ่มมีความทุกข์ เริ่มเห็นแก่ตัว แอ๊ปเปิ้ลจะเริ่มขุ่นขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อแอ๊ปเปิ้ลขุ่นจนกลายเป็นผลไม้ธรรมดา เวลาผ่านไปแอ๊ปเปิ้ลก็จะเริ่มเน่า
เมื่อนั้นแหละ ความรักก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
เพราะความรักทำให้แอ๊ปเปิ้ลที่เป็นแก้ว กลายเป็นผลไม้ มีรสชาด นำมาทานได้
แต่ความรักไม่สามารถทำให้แอ๊ปเปิ้ลคงอยู่ได้
ต้องอาศัยความเข้าใจ ความผูกพันธ์ เงินทอง ความมั่นคง ลูกหลาน........
ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เพื่อประคองความรักไม่ให้เน่าไปซะก่อน

ริโกะ : รีบสรุปได้แล้ว

เทปเป : อื้อ..... รักด้วยความรู้สึก อยู่กับรักด้วยเหตุผล หมดรักแล้วต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครรักก็อย่าถอดใจ
ยังไม่ถึงเวลาก็อย่าไปฝืน วันนี้ไม่ใช่พรุ่งนี้ก็ยังมี วันพระเป็นของพระ ส่วนวันธรรมดาก็เป็นของเรา
ถ้าไม่สู้ก็ไม่รู้หรอกว่าจะชนะหรือไม่ ดังนั้นอย่าไปยอม อย่าถอดใจ


Love Generation..

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=my-sister-is-beautiful&month=12-2007&group=4



โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:00:55 น.  

 
ขอบคุณดอกไม้จากนู๋ไทมส์ และโอ๋ ๆ จากเจ้าย่าฯ ค่ะ

เจ้าย่าฯ ขา
นู๋กาเห็นภาพผู้ช่วยของเจ้าย่าฯ แล้ว นู๋กาขำกิ๊ก...จนลืมเศร้าใจไปเรยยยอ่ะค่ะ

เจ้าย่าฯ รีบพา (แม่) นักมวยหญิงปากแดงกลับเข้าค่ายซ้อมไปดีก่า ...ก่อนแต่นู๋กาจะโดนเธอชกจนน็อคนับถึง 100 ก็ยังไม่ฟื้นอ่ะค่ะ

ก็ครูอาจารย์เคยสอนเสมอ ๆ ...ไม่มีใครทำให้ใครดีใจ เสียใจ หรือเศร้าใจได้ นอกเสียจากเราจะทำตัวเราเอง ...ทุกข์เกิดจากความคิดค่ะ

หากจะมีใครทำให้นู๋กาเศร้าใจได้ ...ป่านฉะนี้เขาคงดีใจ นั่งหัวเราะจนพุงกระเพื่อมแล้ว ... และคงไม่มา "โอ๋ ๆๆ นิ่งเตะ ๆๆ" อย่างเจ้าย่าฯ หรอกอ่ะ ...คงจะสมน้ำหน้า และก็ซ้ำเติมนู๋กาเข้าให้อีกต่างหาก ...


คุณมุ่งฯ ...
แม่ชีนุช ก็คืออดีตคุณนุชที่คุณมุ่งฯ รู้จักนั่นละค่ะ ...แล้วสาวิกาจะนำภาพมาฝากนะคะ ไปกราบท่าน กอดท่านอยู่ทุกครั้งที่ไปกราบลพ.ค่ะ

ส่วนเรื่องคุณธรรมของท่าน คงไม่สามารถนำมาบอกกล่าวในที่นี้ได้ ... แต่คงก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้วอย่างคุณมุ่งฯ บอกค่ะ

ช่วงนี้น้องคอมพ์ฯ มีปัญหาอีกแล้ว กว่าจะเข้าบ้านตัวเองได้ ก็อ่อนใจแล้วอ่ะค่ะ...ร่ำลาสำหรับคืนนี้แล้วนะคะ ...ขอทุกท่านมีความสุข ...ไม่ทุกข์ใจ ร่าเริง เบิกบาน ยิ้มไว้ ๆ ทุกท่านค่ะ


โดย: สาวิกา IP: 124.120.100.168 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:02:13 น.  

 


แอ็ปเปิ้ล...เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก
ฉันจะเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง

คัดจาก
//apple-good-time.exteen.com/page/2



โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:07:26 น.  

 







เจ้าย่าฯ รีบพา (แม่) นักมวยหญิงปากแดงกลับเข้าค่ายซ้อมไปดีก่า...
โดย: สาวิกา IP: 124.120.100.168 13 พฤษภาคม 2551 22:02:13 น.


แฮะ แฮะ
เก็บแล้วจ้า
แต่ส่งผู้ช่วยคนใหม่มาให้นะ
ถูกใจไหมเอ่ย ?



โดย: ชินจังซะอย่าง...ขจัดได้ทุกความเศร้าจ้า IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:01:17 น.  

 
คล้ายว่าใกล้คล้ายว่าไกล...หายไปไหน ?
อยู่ใกล้ใกล้แต่เหมือนไกล...น่าใจหาย
อยู่ไกลไกลแต่เหมือนไกล...แค่ข้างกาย
อยู่อยู่คล้ายไกลใกล้...ใจอาวรณ์.




โดย: กิ๊ดตึ๋งจัง...หนูเวลา คุณอร คุณยายลิง คุณโอ ฯ IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:20:40 น.  

 
คล้ายว่าใกล้คล้ายว่าไกล...หายไปไหน ?
อยู่ใกล้ใกล้แต่เหมือนไกล...น่าใจหาย
อยู่ไกลไกลแต่เหมือนไกล...แค่ข้างกาย
อยู่อยู่คล้ายไกลใกล้...ใจอาวรณ์.




โดย: ลืมไป ๓ ท่านค่ะ...คุณอบ คุณมุ่งฯ คุณนางฯ ฯลฯ IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:27:54 น.  

 


โดย: สำหรับหนูเวลาจ้ะ IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:32:49 น.  

 


โดย: สำหรับคุณอร...มีความสุขกับงานนะคะ IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:36:46 น.  

 


โดย: สำหรับหนูกา IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:41:22 น.  

 


โดย: สำหรับคุณยายลิง IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:43:16 น.  

 


โดย: สำหรับหนูอบ IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:49:52 น.  

 
คล้ายว่าใกล้คล้ายว่าไกล...หายไปไหน ?
อยู่ใกล้ใกล้แต่เหมือนไกล...น่าใจหาย
อยู่ไกลไกลแต่เหมือนใกล้...แค่ข้างกาย
อยู่อยู่คล้ายไกลใกล้...ใจอาวรณ์.


โดย: แก้คำผิดค่ะ...บ๊ายบาย. IP: 125.26.27.175 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:57:35 น.  

 


ขอบพระคุณคุณย่าอำฯ ค่ะ

ช่วงนี้งานยุ่งมากกกกค่ะ

ดูแลสุขภาพทุกๆ ท่านนะคะ


โดย: นู๋เวลา IP: 58.181.136.90 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:03:27 น.  

 
ความมีขึ้น - และมีลง



ความมีขึ้น


มีลง



โดย: oratch IP: 203.157.48.252 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:07:42 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ ความระลึกถึงค่ะ
อากาศเปลี่ยนแปลง
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:09:48 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ ทุกๆท่าน

ขอบพระคุณ..คุณย่าอำฯมากๆนะคะ สำหรับทุกๆอย่างค่ะ

ยายลิงเห็นสภาวะธรรมบ้างแล้วค่ะ
จากฝนตกวันก่อน.. ฝนตก แดดออก มันก็เป็นอยู่อย่างนั้น
อารมณ์คนเราก็เหมือนกันค่ะ
แต่คนเรา ทุกข์ เพราะความคิด(ผิด)จริงๆค่ะ

ยายลิงชอบกลอนใกล้-ไกลของคุณย่าอำฯจังเลยค่ะ
ก็ยายลิงต้องจากไปไกลอีกแย้วววค่ะ
จู่ๆพี่ก็เกิดเปลี่ยนคิว..ให้ยายลิงไปเฉยเลย
เมื่อวาน..โกลาหลมากๆ พี่ก็รู้ว่า ยายลิงจาเครียด แต่ๆยายลิงก็ปฎิเสธพี่ไม่ได้ค่ะ
ก็จะไปพรุ่งนี้แล้ว เป็นเลขาส่วนตัวให้พี่..
เฮ้อ..src=https://www.bloggang.com/emo/emo8.gif>

ของยายลิง มี(แต่)ขึ้นจริงๆค่ะ น้ำหนักไงคะพี่อร


โดย: ยายลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:08:13 น.  

 



หลานยาย..


โดย: ยายลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:16:31 น.  

 
..สวัสดีค่ะ คุณสาวิฯ ยายลิง คุณอร นู๋อบ
หนูไทม์ คุณนางเดินทัก(นักเดินทาง..คนเดิม) คุณมุ่ง และทุกๆท่าน

ได้โอกาสแวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ..นานๆจะมาที ดูบ้านนี้มีสีสันและความอบอุ่น มากเลยนะคะ..

ด้วยความคิดถึงค่ะ..มีโอกาสจะแวะมาใหม่
มาฟังเพลง(ของดีเจคนเก่งด้วยค๊า..)



โดย: เย็น IP: 202.139.223.18 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:41:37 น.  

 
Photobucket>



ขอขอบคุณ...ท่านเจ้าย่าฯ...อีกห้าจุ๊บ
ชวนสนุก...และสุขสันต์...ในบ้านฉัน
มาเยี่ยมเยือน...เป็นเพื่อนกัน...ทุกคืนวัน
สารพัน...นำมาแจก...แขกทุกคน




Photobucket>


จะอยู่ไกล...หรืออยู่ใกล้...ไม่สำคัญ
เธอมีฉัน...เรามีกัน...อยู่ใช่ไหม
หากเธอทุกข์...ฉันปันสุข...ให้เธอไป
ขอคนไกล...มีรอยยิ้ม...พริ้มพรายเอย




โดย: สาวิกา วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:18:23 น.  

 
<อ้างอิง
ยายลิงชอบกลอนใกล้-ไกลของคุณย่าอำฯจังเลยค่ะ ก็ยายลิงต้องจากไปไกลอีกแย้วววค่ะ
จู่ๆพี่ก็เกิดเปลี่ยนคิว..ให้ยายลิงไปเฉยเลย
เมื่อวาน..โกลาหลมากๆ พี่ก็รู้ว่า ยายลิงจาเครียด แต่ๆยายลิงก็ปฎิเสธพี่ไม่ได้ค่ะ
ก็จะไปพรุ่งนี้แล้ว เป็นเลขาส่วนตัวให้พี่..>>

ขอให้น้องลิงเดินทางไป-กลับ ปลอดภัยค่ะ
พบแต่สิ่งดี ๆ คน ดี ๆ ค่ะ
แฮ่ แฮ่ เอารูปสวย ๆ มาฝากด้วยนะคะ



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:24:38 น.  

 

ขอบคุณพี่อรนะคะ...
มาแบ่งปันทัศนะตรงหัวข้ออยู่คนเดียว

พี่ลิงจ๋า...
เดินทางปลอดภัย แล้วเที่ยวเผื่อนู๋กาด้วยน้า
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางค่ะ


ขอบคุณคุณเย็นที่ยังไม่ลืมกัน นาน ๆ แวะมาที ดีใจจังค่ะ

ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มีกันและกันนะคะ

ใครมีความรักขอให้มีความสุข
ใครมีทุกข์ ขอให้ทุกข์จางคลาย
ใครมีความสุข ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป




Photobucket>


โดย: สาวิกา วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:26:49 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน
ผมขออนุญาตนำมาฝากสาวๆเป็นวิทยาทาน ผ่านบ้านนี้ครับ จะได้เป็นปัจจัยให้โชคดีบ้าง แหะๆ





รู้วิธีรักอย่างมีกึ๋น . . . ของผู้หญิงฉลาด


ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า

ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ก็อย่าหวังว่าใครอื่นจะมองเห็น การที่คุณหลงรักใครสักคน และต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเค้าคนนั้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เมื่อคุณเปลี่ยนเขาก็จะหมดความสนใจในตัวคุณ หากเทียบกับตอนที่เขาหลงรักคุณใหม่ๆ เขารักในตัวตนของคุณไม่ใช่คนที่เขาใฝ่ฝันอยากให้เป็น ซึ่งเป็นเพียงจินตนาการของผู้ชายเท่านั้น แต่คุณเป็นคนในโลกแห่งความจริง จงเป็นตัวของตัวเองและปรับเปลี่ยนเพียงพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อตัวคุณเองนะ ไม่ใช่เพื่อเขา


เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย
ก่อนที่ผู้หญิงฉลาดจะสนิทสนมกับใครสักคนทางกาย ควรรู้จักเขานานพอที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร รักสุขภาพตัวเองแค่ไหน และควรให้แน่ใจว่าหากคุณมีสัมพันธ์กับเขา คุณจะปลอดภัยทั้งทางจิตใจและร่างกาย และถึงแม้ว่าเขาจะดีพร้อมทุกอย่างก็ไม่จำเป็นว่า คุณจะต้องนอนกับเขาหากคุณไม่พร้อม เสรีภาพทางเพศหรือฟรีเซ็กซ์ควรควบคู่ไปกับความรับผิดชอบด้วย เรารู้จักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์เลยด้วยซ้ำ หากเขาจริงจังกับคุณ


ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ

หากคนที่คุณคบอยู่เป็นคนดี และคุณชื่นชอบเขา ติดเพียงแค่เขาไม่ใช่หนุ่มหล่อในสเป็ค ให้คุณลองมองดูในจุดดีของเขา และลองมองดูถึงอนาคตว่า เขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับคุณได้ด้วยความสุขหรือไม่ ลองสังเกตแฟมิลี่แมนที่ไปเดินชอปปิ้งในซูเปอร์มาเกต หรือพาแฟนไปเดินเที่ยว หรือทานดินเนอร์ เขาเหล่านั้นใช่จะหน้าตาดีไปซะทุกคนซะหน่อย ลองมองที่จิตใจแล้วคุณจะเห็นความ(ดี)งาม


ความเป็นเพื่อนยาวนานกว่าความรัก

คู่รักคือมิตรภาพที่ยาวนาน นั่นคือคุณสามารถพูดคุยกับเขาได้ทุกเรื่องไม่เว้นเรื่องกระจุกกระจิกของผู้หญิง ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจแต่เขาจะตั้งใจฟังคุณและช่วยคุณแก้ปัญหา


ความรักมีปริมาณ 50-50

การที่ต่างฝ่ายต่างมอบความรู้สึกห่วงใย ซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ดี ทุกคู่ควรเป็นทั้งฝ่ายรับและฝ่ายให้ เพราะถ้าอีกฝ่ายเป็นคนให้มากเกินไปเขาอาจจะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผิด เพราะเหมือนเป็นการโดนหลอดใช้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อความรักในระยะยาว การมอบสิ่งดีๆให้แก่กัน เป็นสิ่งที่ไม่ยากเพียงพยายามฟังและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือต้องการ


ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว
การที่คบกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา คุณเองก็ต้องการจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนผู้หญิงบ้าง พูดคุยกันในเรื่องที่คุยได้เฉพาะกับผู้หญิง เขาก็เช่นกันต้องการไปสังสรรค์กับเพื่อน หรือแม้แต่ใช้เวลาว่างเท่าที่เขาต้องการ แต่ต้องไม่ใช่ละเลยคุณ แต่คุณอาจจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมกับเขาบ้าง แค่อย่าไปจุกจิกกับเขามากนักเลยนะ


เราไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้

ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ นอกเสียจากเขาต้องการจะทำเช่นนั้นเอง ฉะนั้นอย่าเสียเวลาในการขอร้องให้เขาเปลี่ยนแปลง เอาเวลาที่มีค่านั้นมาปรับปรุงสถานการณ์บางอย่างของคุณและเขาให้มีแต่ความสัมพันธ์ดีๆ ดีกว่านะ หรือคุณอาจจะเป็นฝ่ายปรับเปลี่ยนตัวเอง คุณสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าอย่าเปลี่ยนไปซะหมดเพราะเขาคงไม่ชอบใจแน่ และหากเขาแสดงการกระทำที่ไม่ให้เกียรติคุณ เขาก็ไม่สมควรได้รับในสิ่งดีๆ ที่คุณพยายามหรือความห่วงใยจากคุณแล้วล่ะ อย่าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับคุณเพราะเขาจะยิ่งทำตัวแย่มากขึ้นเรื่อยๆ


งานบ้านไม่ใช่หน้าที่เฉพาะผู้หญิง

อย่ากลัวที่จะขอให้เขาช่วยเหลือ บางครั้งที่เขาไม่ช่วยเพราะเขาไม่สนใจมันจริงๆ หรือเขาคิดว่า คุณอยากจะทำเอง หรือเขาอาจจะขี้เกียจ แต่ในเมื่อคุณไม่ขอเขาก็ไม่ทำ และหากเขาช่วยงานคุณแล้ว อย่าอยู่ใกล้คอยชี้นิ้วสั่ง และอย่าเข้าไปทำเสียเองหากเขาทำไม่ได้ดั่งใจคุณ อย่าลืมว่าเขาต้องการการฝึกฝน คอยแนะนำการทำงานของเขาแต่อย่าตำหนิเมื่อเขาทำพลาด สิ่งที่สำคัญคือการที่เขารักคุณไม่ได้หมายความว่า คุณต้องรับใช้เขา ผู้ชายที่ทำงานบ้านเป็นผู้ชายที่แสนจะเซ็กซี่และน่ารักที่สุด


การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว
ความผูกพันระหว่างคนสองคนต้องการเวลาและขั้นตอนในการพัฒนาตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีบ้านสวยหรู หรือแหวนเพชรวงโต และไม่ใชการมีเซ็กซ์เท่านั้น การแต่งงานคือการประนีประนอมเพื่อความเข้าใจในการใช้ชีวิตคู่ ชีวิตคู่ไม่ต้องโรแมนติกตลอดเวลา ก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้

ข้อมูลจาก
สมาชิก Kapook Planet โดยคุณ Ooopzaa
//hilight.kapook.com/view/4479


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:36:25 น.  

 
ความมีขึ้น


มีลง (ยากจัง)



ของฝากน้องลิงค่ะ

เรามาคำนวณกันว่าตอนนี้เราอ้วน
ผอม หรือสมดุล
โดยคำนวณค่าที่เรียกทางภาษาแพทย์ว่า BMI (Body Mass Index) คิดตามสมการนี้ค่ะ

BMI = น้ำหนักตัว(kg) ÷ ความสูง (เมตร)2
ตัวอย่าง : ถ้าคุณหนัก 60 กิโลกรัม และมีความสูง 150 เซนติเมตร (แปลงเป็นเมตร จะได้ 1.50 เมตร) คุณก็กดเครื่องคิดเลข โดยกดเลข 60 ก่อน แล้วกดเครื่องหมายหาร ตามด้วย 1.50 แล้วกดหารซ้ำด้วย 1.50 อีกครั้ง (คือหาร 1.50 เป็นจำนวน 2 ครั้ง) คุณจะได้ตัวเลขที่บอกค่า BMI ของคุณค่ะ ตามตัวอย่างนี้จะได้

BMI = 26.66 แล้วมาดูกันว่าค่า BMI นี้บ่งบอกถึงอะไร

จากข้อมูลการประชุม Asian Pacific 2000 ได้ข้อสรุปดังนี้

ภาวะของร่างกาย ค่า BMI
โรคผอมระดับ 3 < 16.0
โรคผอมระดับ 2 16.0 – 16.99
โรคผอมระดับ 1 17.0 – 18.49
น้ำหนักพอดี 18.5 – 22.9
เริ่มอ้วน (ภาวะน้ำหนักเกิน) 23.0 – 24.9
โรคอ้วนระดับ 1 25.0 – 29.9
โรคอ้วนระดับ 2 ≥ 30.0
ค่าที่แสดงนี้ เหมาะสำหรับคนเอเซีย ซึ่งตัวเลขจะแตกต่างจากคนยุโรป

อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งชะล่าใจ หลายคนมี BMI เพียงเริ่มอ้วน จึงยังนิ่งนอนใจอยู่ แต่ไขมันอาจพอกไปที่พุงของคุณเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน เอาสายวัดมาวัดเอวเลยค่ะ วัดโดยผ่านสะดือนะคะ

ถ้าคุณผู้ชายวัดรอบเอว > 90 ซม.
และคุณผู้หญิง วัดรอบเอว > 80 ซม.

แสดงว่าคุณมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคแล้วค่ะ
(คัดลอกมาจาก อาหารกับชีวิต : รู้จักตนเอง ในธรรมะใกล้ตัว
ฉบับที่ ๐๐๗ พฤหัสบดีที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐)

คำนวณแล้ว น้ำหนักของ สว. อยู่ในช่วง
เริ่มอ้วน ถ้าจะให้อยู่ในเกณฑ์น้ำหนักพอดี
ต้องลดลง 3.5 กิโลกรัม

จะลดสำมะเร็จ มั้ยเนี่ยะ........

สมาชิกฯ ท่านอื่น ลองคำนวณ BMI ดูนะคะ
ว่าอยู่ในเกณฑ์ใด




โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:56:20 น.  

 

ขอบคุณพี่อรและนู๋กา..ค่ะ
แต่ๆๆ ยายลิงไม่ต้องไปแล้วค่ะ ดีใจ้ ดีใจ..
แฮ่ๆ กำลังจิตยายลิงยังคงพอมีแรงอยู่ค่ะ
ครือว่า ขออาไรในใจแล้วยังพอได้
พี่แบบว่า..ไปแบบกึ่งformal..กับผู้ใหญ่ค่ะ
พี่เห็นคิววันนี้แล้วรู้ว่า หนักเกินไปสำหรับยายลิง
ก็เลย รอดตัว..ไปค่ะ


โดย: ยายลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:59:15 น.  

 
<<< อ้างอิง
คห.ที่ 57 ของคนมีความสุข
รู้วิธีรักอย่างมีกึ๋น . . . ของผู้หญิงฉลาด>>>

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กับ บทความที่คุณมุ่งฯ นำมาลง

ไม่ใช่เฉพาะให้ผู้หญิงอ่านนะคะ

ผู้ชายยิ่งต้องอ่าน จะได้เข้าใจผู้หญิง



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:13:13 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


ผู้ชายที่ไม่ควรเสียเวลาด้วย เมื่อคุณเป็นผู้หญิงอายุ 29 Up


ผู้ชายที่ไม่ควรเสียเวลาด้วย...เมื่อคุณเป็นผู้หญิงอายุ 29 ปลายฝนต้นหนาว...เลข 29 มาเยือน คุณเอ๋ย ยังเสียเวลากับผู้ชายแบบนี้อยู่หรือเปล่า

1 ผู้ชายที่คิดว่างานบ้านเป็นเรื่องของผู้หญิงและไม่คิดจะช่วย...คิดว่าไม่ผิดที่ผู้ชายจะมีกิ๊กหรือชู้...ต้องโทษประหาร สับแล้วโยนให้เป็ดกิน

2. มีหนี้ท่วมหัว เป็นหนี้พนันบอล บัตรเครดิตและหนี้อื่นๆ

3. ผู้ชายวัยทำงานที่ยังนั่งเล่นเกมส์เป็นกิจวัตร...และไม่ทำกิจกรรมอะไรนอกจากนอนในวันหยุด...ต้องส่งกลับไปอยู่ รร อนุบาลกินนอน...เราเคยเจอสามีเพื่อนเอาเกมส์ไปต่อกับทีวี ห้องพักฟื้น...หลังจากเพื่อนเราเพิ่งคลอดลูกอ่ะ ไม่ไหวนะ ผู้ชายแบบนี้

4. ผู้ชายที่อายุมากกว่าแต่รายได้ต่ำกว่า...มีแฟนเหมือนมีพ่อ แถมขอเงินก็ไม่ได้

5. ผู้ชายอายุน้อยกว่า ที่คิดว่าเรามีรายได้มากกว่า...และจ้องแต่จะให้เราจ่าย มีแฟนแบบนี้เหมือนมีลูก

6. ไม่พาเราไปแนะนำให้ครอบครัวเค้ารู้จักและไม่เคยพาไปบ้านช่องเค้า...คงโกหกอะไรชัวร์ หรือครอบครัวคงเป็นแบบ Adam?s Family

7. ผู้ชายที่ไม่แน่ใจตัวเองว่าชอบผู้หญิงหรือเปล่า...ประตูหน้า Lock lock lock!! แบบนี้ระวังโรค

8. ผู้ชายที่มีครอบครัว อ้างว่าแยกกันอยู่แล้วแต่หย่าไม่ได้ (แถวบ้านเรียกว่าโกหก)...มุขนี้ผู้ชายแก่อายุ 35 ขึ้นไปชอบเอาไว้หลอกเด็กอายุ 20 กว่าๆ...อายุ 29 แล้วอย่าหลงกลเอาน้ำร้อนราดมันซะ!

9. ไม่สามารถเสียสละเวลางานเพื่อเราได้ ไม่ว่าเรื่องจะฉุกเฉินแค่ไหน...บ้างานแบบนี้จะแต่งกับมันเอาโล่ห์ เหรอ

10. ผู้ชายที่ Give silent treatment...มีปากแต่ไม่รู้จักใช้พูดปรับความเข้าใจมีเรื่องทีไรเงียบตลอด

11. ผู้ชายที่แมนมาก ไม่เดินจับมือ ไม่ช่วยถือของ...และเดินนำหน้าผู้หญิงตลอด เราเดินตกท่อมันยังไม่รู้เลย

12. ไม่คิดจะแต่งงานกับเรา ไม่มีการออมเงินเพื่อแต่งงานหรือสร้างครอบครัว ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้

13. ผู้ชายที่คบกับคุณเพราะคุณรวย...หวังเงินหรือผลประโยชน์จากคุณและครอบครัวคุณ

14. ผู้ชายที่ไม่เคารพพ่อแม่คุณ

15. พูดจาหยาบคายกับคนอื่น แต่พูดดีกับคุณ

16. ผู้ชายที่คอยบอกให้เราไปหาหมอเวลาที่เราป่วย แต่ไม่เคยพาเราไปหาหมอ

17. ผู้ชายที่ชอบพูดว่าไม่จำเป็นต้องทำดีในวันพิเศษหรอก วันไหนก็ทำได้...ขนาดวันพิเศษมันยังไม่ทำ วันธรรมดาก็อย่าหวัง 555...แฟนใครเป็นแบบนี้ 5 ข้อขึ้นไป เตรียมตัวเผ่นเถอะ...เลข 3 จะมาเยือนคุณแล้ว ชีวิตควรมีคนดูแลคุณได้ดีกว่านี้



เอาผู้ชายมาเผาแบบนี้...แล้วเราจะรอดมั๊ยเนี่ย

ใครกันหนอทำให้เจ้าบ้านเศร้าได้นะ..ช่างใจร้ายกับคนน่ารักได้ลงคอ...เอ ! หรือว่า เจ้าบ้านจะคิดมากไปเองหว่า



โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.86.166 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:23:27 น.  

 





เรวัต พุทธินันทน์
เต๋อ - 1
มือน้อย
คำร้อง : เต๋อ
ทำนอง : จาตุรณ
เรียบเรียง : จาตุรณ

ใสสะอาดดุจดัง น้ำค้างกลางแสงเดือน
เหมือนกุหลาบดอกน้อย ไร้ร้องรอยราคี
แต่เธอนั้นมีใจต่อฉัน


แค่จับมือเธอฉันรู้ทันใด
ใจของเธอเคลิ้มสั่น
เมื่อมือนั้นเริ่มเย็นเพราะเป็นคลื่นใจ
สื่อไปยังรัก....

รัก...เธอ...รักให้สมดังใจ
รักมั่นไว้ใจเดียว
ผูกพันกลมเกลียว
เกี่ยวกันไปใจเรา...ที่รัก....

รัก...เธอ...รักให้สมใจปอง
รักเพื่อสองใจเรา
จะคอยเป็นเงา
เฝ้าดูแลเพียงเธอ...
เสมอ . . .

ด้วยรัก . . จากใจ . .





ปล.
๑ มารายงานตัวแล้วค่ะ
๒ ขอบคุณรูปน่ารักมากๆๆๆ จากย่าอำค่ะ
๓ ขอบคุณบทความเกี่ยวกะความรักฉลาดๆจากพี่มุ่งค่ะ
๔ สวัสดีและคิดถึงพี่ญิงเย็นค่ะ
๕ พี่อร ของนู๋อบประมาณ 19.23-19.63 ค่ะ
๖ สวัสดีพี่ไก่ นู๋เปิ้ล พี่ยายลิง พี่นางฯ พี่โอ ค่ะ

จาก . . .



โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.107 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:46:14 น.  

 
..เจ้าบ้านเศร้าสร้อยเพราะคิดถึง..คุณพี่โอเลี้ยง หรือ โอยั้วเหรอจ๊ะ???
ก็มีคุณพี่โอรัช..แล้วงัยจ๊า

วันก่อน..เห็นข่าวคุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์อะค่ะ
ทำไมยายลิงถึงแว๊บไปนึกถึงพี่โอ..ก็ไม่รุ้อะค่ะ

ตอนแรก ยายลิงคิดว่า คุณย่าอำฯ..คือพี่โอซะอีกค่ะ
เห็น ตาหลก..เขียนกลอนเก่งเหมีอนกานไง
แถมมีไหวพริบเหมือนกันเลยยค่า

พี่อรขา..ยายลิงไม่กล้าชั่งน้ำหนักอะค่ะ
ยายลิงใช้หลักธรรมในการปล่อยวาง..เรื่องนี้ค่ะ


โดย: ยายลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:27:33 น.  

 
พี่ . . .

เอารูปดอกไม้มาฝากอีกจิ


นะนะ




โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.107 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:46:53 น.  

 

ดอกแอ๊ปเปิ้ล ค่ะ


ดอก Sweet Pea

ก๊อป มาให้น้องอบ...ค่ะ


โดย: โอรัช ไม่ใช่ โอเลี้ยง IP: 125.24.149.83 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:57:46 น.  

 
เอาโอเลี้ยง .. มาฝาก .. พี่โอรัช ค่ะ





โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:09:02 น.  

 
<< อ้างอิง
เอาโอเลี้ยง .. มาฝาก .. พี่โอรัช ค่ะ>>>

อิ อิ อิ อิ
ถูกจาย จังเลย ของชอบค่ะ
ขอบคุณน้องเวลาค่ะ


โดย: โอรัช IP: 125.24.149.83 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:31:55 น.  

 
พี่ลิงอ่ะ...ทำนู๋ขายหน้าอีกแล้วนา..เด๋วใคร ๆ ก็รู้ฟามลับนู๋หมดอ่ะ ...จะโอเลี้ยง โอยั๊ว หรือโออิชิ คงไปลับแล้วละ ...ฮืออออ มีแต่คนใจร้ายกับนู๋เนอะ

ตอนนี้น้องคอมพ์ฯ ของเจ้าบ้านเกเรอีกแร้วอ่ะ ...

ภาพไม่ขึ้น ...

หากภาพในกล่องเม้นท์ และสีสรรมีปัญหาต่อสายตาของสว.ท่านใด...ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ...

พรุ่งนี้จึงจะสามารถแก้ไขได้ค่ะ ...
บายแล้วนะคะ ... จุ๊บๆๆ



โดย: สาวิกา วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:45:53 น.  

 


รินน้ำใจจากใจให้ใจหนึ่ง
ด้วยคำนึงห่วงหาอาวรณ์ถึง
ทุกคำกานท์ทุกอาทรยังติดตรึง
วันวารซึ้งระลึกถึงมิเว้นวาย

อุอุ..




โดย: times IP: 124.120.198.185 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:47:38 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน




วิธีอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบ

รู้ไหมว่า...เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้คนละกี่ปี
ชีวิตนั้นสั้นยิ่งกว่าหยดน้ำค้างเสียอีก
จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า

ถ้าเราใช้เวลาอันแสนสั้นนี้ไปมัวหลับๆ ตื่นๆ
อยู่ในความรัก โลภ โกรธ หลง
หมั่นไส้คนนั้น ปลาบปลื้มคนนี้
ริษยาเจ้านาย ใส่ไคล้ลูกน้อง
ปกป้องภาพลักษณ์ (อัตตา) กด (หัว)
คนรุ่นใหม่หลงไหลในเปลือกของชีวิต โดยลืมไปเลยว่า
อะไร คือ สิ่งที่ตนควรทำอย่างแท้จริง
คิดดูเถิดว่า เราจะขาดทุนขนาดไหน

ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า

น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง
ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน
ฆ่าชีวา คือ พร่าค่าคืนวัน
จะกำนัลโลกนี้มีงานใด

คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจ
ให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก
เพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลส
กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ
กิเลสไม่เคยเหนื่อย
แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า

ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมา
เพื่อที่จะชอบ หรือไม่ชอบใคร
หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบ หรือมาชัง
แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้
เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำ

เอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้น
หันกลับมามองตัวเองดีกว่า
ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสาร
มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ

นอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออกไปอีกว่า
เราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง

คนทุกคนนั้นต่างก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเอง
ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขา
จิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้
เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจด้านไม่ดีของคนอื่น
ก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่า

บางที่ คนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้น
เขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกันกับเราเลย
เราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียว
ด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสีย
วันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้
ไม่เคยทำให้ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลย

ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า
คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อม
หรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก
เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี
ประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว
มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม

อะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง
ความโกรธ ความเกลียดเหล่านั้น




โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.212.35 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:52:34 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



เอื้อการุณกรุ่นสายใยในความรัก...
เฝ้าฟูมฟักสายสัมพันธ์อันแน่นหนา...
อยู่ด้วยกันพลันไม่นานกาลโรยรา...
ความห่วงหาเป็นเกลียวมั่นพันผูกใจ...




โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.212.35 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:09:56 น.  

 
ทิวาวันรวีว้างเพราะห่างขวัญ
คิดถึงกันบ้างไหมหนอขอเอ่ยถาม
........................................
........................................


แฮะ แฮะ
แต่งอีกสองวรรคไม่ได้ง่ะ
ใครก็ได้จ้า
ช่วยย่าอำฯด้วยเน้อ.






โดย: ย่าอำฯ IP: 125.26.28.21 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:10:49 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



ทิวาวารกาลอ้างว้างเพราะห่างขวัญ...
คิดถึงกันบ้างไหมหนอขอเอ่ยถาม...
เคยชิดไกล้ไม่เคยห่างร้างนงราม...
ต้องคืนคามในยามจากพรากอาดูร...




ช่วยแต่งต่อขอแก้ไขให้ย่าอัก...
กลอนกานท์จักถูกใจหรือไม่หนอ...
ข้าผู้น้อยด้อยกำลังยังรั้งรอ...
หวังเพียงขอร่วมด้วยช่วยเอื้อกัน...




โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.203.115 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:30:20 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


อาหารต้องห้ามยามเป็นโรค


วันนี้ "108 เคล็ดกิน" จะมาไขข้อข้องใจให้ว่า "ของแสลง" ก็คือบรรดาอาหารที่ไม่ถูกกับโรคทั้งหลายแหล่

แต่บางที ก็ทำให้เรางงเหมือนกันว่าเกี่ยวกันยังไง แต่ของอย่างนี้ "108 เคล็ดกิน" บอกว่าอย่าลบหลู่ เพราะขึ้นชื่อว่าภูมิปัญญาชาวบ้านแล้วไซร้ ฟังหูไว้หูก็ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 โรคที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้

1. เป็นไข้หวัด
มีไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่สุก อาหารที่เย็นมากๆ อาหารทอด อาหารมัน ซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยากจะทำให้เกิดความร้อนสะสม เปรียบเสมือนอาหารเชื้อเพลิง หรือเป็นการเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟ

2. โรคกระเพาะ
ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ชาแก่ๆ กาแฟ ของเผ็ด ของทอด ของมัน เพราะอาหารเหล่านี้ ทำให้เกิดความร้อนสะสม ทำให้โรคหายยาก ทางที่ดีควรจะรับประทานอาหารปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และเป็นอาหารที่ย่อยง่าย

3. โรคความดันเลือดสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาเลือดเลือดแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูง เช่น หมูสามชั้น ไขกระดูก ไข่ปลา โกโก้ รวมทั้งเหล้า เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมในร่างกาย และความชื้นก็มีผลก็ทำให้เกิดความหนืดของการไหลเวียนทุกระบบในร่างกาย และความร้อนก็จะไปกระตุ้นทำให้ความดันสูง นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด หรืออาหารหวานมาก รวมทั้งผลไม้อย่างลำไย ขนุน ทุเรียน

4. โรคตับและถุงน้ำดี
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหารมัน เนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทอด อาหารหวานจัด เพราะแพทย์จีนถือว่า ตับและถุงน้ำดี มีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหาร การได้อาหารประเภทดังกล่าวมากเกินไปจะทำให้สมรรถภาพของการย่อยอาหารอ่อนแอลง และเกิดโทษต่อตับและถุงน้ำดีอีกต่อหนึ่ง

5. โรคหัวใจและโรคไต
ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เพราะจะทำให้มีการเก็บกักน้ำ การไหลเวียนเลือดจะช้า ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตต้องทำงานขับเกลือแร่มากขึ้น ส่วนอาหารรสเผ็ดก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะทำให้กระตุ้นการไหลเวียนสูญเสียพลังงาน
และหัวใจก็ทำงานหนักขึ้นเช่นกัน

6. โรคเบาหวาน
หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน หรือแป้งที่มีแคลอรี่สูง เช่น มันฝรั่ง มันเทศ ควรรับประทานอาหารพวกถั่ว เช่น เต้าหู้ นมวัว เนื้อสันไม่ติดมัน ปลา ผักสด

7. นอนไม่หลับ
หลีกเลี่ยงชา กาแฟ (รวมทั้งการสูบบุหรี่) เพราะอาหารเหล่านี้มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ไม่ง่วงนอน หรือนอนไม่หลับสนิท

8. โรคริดสีดวงทวาร หรือท้องผูก
หลีกเลี่ยงอาหารประเภทหอม กระเทียม ขิงสด พริกไทย พริก เพราะอาหารเหล่านี้อาจทำให้ท้องผูก หลอดเลือดแตก และอาการริดสีดวงทวารกำเริบ

9. ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ หรือโรคหอบหืด
ควรหลีกเลี่ยงเนื้อแพะ เนื้อปลา กุ้ง หอย ปู ไข่ นม และอาหารรสเผ็ด เพราะจะไปกระตุ้นและทำให้อาการทางผิวหนังกำเริบ

10. สิว หรือต่อมไขมันอักเสบ
งดอาหารเผ็ดและมัน เพราะทำให้เกิดการสะสมความร้อนชื้นของกระเพาะอาหาร ม้าม มีผลต่อความร้อนชื้นไปอุดตันพลังของปอด การควบคุมผิวหนัง ขนตามร่างกาย ทำให้เกิดสิว

หากการปฎิบัติข้างต้นเป็นเรื่องยุ่งยาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ ด้วยวิธีที่ง่ายกว่านี้ก็ได้นะ


โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.203.115 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:43:29 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ ทุกๆท่าน..

เอารูป..คนที่นู๋กาคิดถุง..มาฝากค่า


โดย: ยายลิง IP: 125.25.93.28 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:32:33 น.  

 

ขอ (อ) นุญาต...สานบทกลอน...ต่อเจ้าย่าฯ
ผู้ซึ่งมา...เป็นครูสอน...กานท์กลอนฉัน
ฉันคนนี้...มีฝีมือ...ขึ้นทุกวัน
กลอนของฉัน...จึงไพเราะ...เพราะจริงเลย




ทิวาวัน...รวีร้าง...เพราะห่างขวัญ
คิดถึงกัน...บ้างไหมหนอ...ขอเอ่ยถาม
เคยชิดใกล้...กลับทิ้งห่าง...ร้างนงราม
ลุคืนคาม...เธอแปรไป...ใจร้ายจัง





พี่ลิงจ๋า...
อย่าถามหาคนที่นู๋กาคอยรอเลย
เด๋วพี่อร...จะหาว่านู๋เว้าวอน คอยใครอีกละน้า
นู๋ไม่คอยใครแล้วแระ ...
มีแต่คนใจร้ายกับนู๋กาท้างน้าน
ฮืออออออออ...
ให้เจ้าย่าฯ โอ๋เตะ ๆๆๆ ดีก่า


โดย: สาวิกา วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:43:01 น.  

 


Pink Tulip
shot with 2 500watt floods with umbrella's

Created by: Lloyd.
Tools Used: Minolta Dimage A1
Created on: May 2004
//www.thelensflare.com/gallery/p_tulip_1241.php


วันนี้เอาทิวลิปสวยๆมาฝากค่ะ

ขอบคุณดอกไม้สวยๆ กลอนเพราะๆ เคล็ดลับความรู้จากทุกคนค่ะ

//www.oknation.net/blog/home/blog_data/313/4313/images/125.jpg


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.107 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:44:23 น.  

 
>>
ทิวาวัน...รวีร้าง...เพราะห่างขวัญ
คิดถึงกัน...บ้างไหมหนอ...ขอเอ่ยถาม
เคยชิดใกล้...กลับทิ้งห่าง...ร้างนงราม
ลุคืนคาม...เธอแปรไป...ใจร้ายจัง
>>



ไกลหรือใกล้วัดที่ไหนใครกำหนด
กายเบียดบดเคลียคลอไม่ห่างหาย
แต่ดวงใจไกลสุดฟ้า..เวิ้ง..เดียวดาย
ใกล้แต่กายใจกลับห่าง..อ้างว้างจริง.



ไปก่อนนะคะ .. แอบแวบมาค่ะ



โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:03:20 น.  

 
ช่วยเสริมข้อมูลดอกแอปเปิ้ลของ พี่อรครับ
จาก
http:mail.hu.ac.th/~s4502520050/HTML/Tools/flower1.html
ดอกไม้ประจำเดือนเกิด ในช่วงวันที่ 16-23เดือนเมษายน คือดอกแอปเปิ้ล
ดอกแอปเปิ้ล ( Apple Blossoms )
ไม่มีดอกไม้วันเกิดใดจะงดงามน่ารัก เท่าดอกแอปเปิ้ลอีกแล้ว ซึ่งเริ่มตั้งแต่ดอกตูมจนบานสะพรั่ง รับแสงแดด ไล่สีขาว จากครีมจนถึงชมพูระเรื่อ ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ เช่น อัลมอมนด์และกุหลาบป่า ดอกแอปเปิ้ลจะให้กลิ่นหอมที่สุด ในช่วงเช้า ดังนั้นของขวัญวันเกิด ที่วิเศษที่สุดคือ การปิคนิค ในสวนแอปเปิ้ลที่อบอวลไปด้วย กลิ่นดอกไม้แสนบอบบางชนิดนี้ การมอบต้นแอปเปิ้ลก็นับว่าเป็น การมองการณ์ไกลเพราะแอปเปิ้ล มีอายุยาวนานนับศตวรรษ ต้นแอปเปิ้ลป่ามีกลิ่นที่หอมมาก เช่นกัน และยังขนาดเล็กพอ ที่จะตั้งไว้ตามระเบียง จึงเหมาะอย่างยิ่ง ที่จะเลือกเป็นของขวัญวันเกิด ข้อแม้ว่า อากาศต้องเย็นพอ ดอกแอปเปิ้ลจึงจะบานอยู่นาน

เมืองไทยจะไปหาสวนแอปเปิ้ล ได้ที่ไหนกัน อาจแก้เคล็ดด้วย การหาคนชื่อแอปเปิ้ลหอมๆ มาฉลองวันเกิดข้างๆแทน แหะๆ แต่ผมไม่ได้เกิดช่วงเวลานั้นหรอกครับ

อนึ่ง คนที่ไม่ได้เกิดช่วงเวลานั้น ถ้าจะฉลองวันเกิดด้วยดอกแอปเปิ้ล ก็คงไม่มีใครห้ามกระมังครับ


ทราบกันไหมครับ ประเทศอะไรส่งออกแอปเปิ้ลมาก ที่สุดในโลก ไม่ใช่สหรัฐครับ

ข้อมูลบอกว่าในปี 2005 มีการผลิตแอ๊ปเปิลออกสู่ตลาดโลก อย่างน้อย 55 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์ โดยจีนเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่ง คือประมาณสองในห้าของทั้งหมด ตามมาโดยสหรัฐฯ ที่ผลิตได้ประมาณ 7.5 เปอร์เซ็นต์ และมีตุรกี, ฝรั่งเศส, อิตาลี่ และอิหร่านตามมาห่างๆ

ในเอเชียเราก็ปลูกแอ๊ปเปิลได้หลาย ประเทศ รวมทั้งไทยและลาวที่เรียก แอ๊ปเปิลว่า “หมากโป่ม” ด้วย

แต่ผลิตได้น้อย แอ๊ปเปิลที่กินๆ กันในบ้านเราส่วนใหญ่นำเข้ามาจาก
ประเทศจีนครับ.

คุณเปิ้ลหนูเวลา จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า คุณ "หมากโป่ม" คร้าบบบบ

(มี)ขึ้นต้นเนื่องจากความคิดเห็นพี่อร
ไหง(มี)มาลงที่เปิ้ล
ธรรมะสวัสดีครับคุณ หมากโป่ม
ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน ขอให้มีความสุขกันทุกท่านครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.222 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:21:56 น.  

 






พรานล่อเนื้อ

เจ้ายักคิ้วให้พี่ เจ้ายิ้มในทีเหมือนเจ้าจะมีรักอารมณ์
ยั่วเรียมให้เหงา มิใช่เจ้าชื่นชม
อกเรียมก็ตรม ตรมเพราะคมตาเจ้า

เรียมพะวักพะวง เรียมคิดทะนง แล้วเรียมก็คง หลงตายเปล่า
ดังพรานล่อเนื้อ เงื้อแล้วเล็ง เพ่งเอา ยั่วใจให้เมา เมาแล้วยิง นั้นแล

น้าวศรเล็ง เพ่งเอาทุกสิ่ง
หากเจ้าหมายยิง ก็ยิงซิแม่
ยิง อกเรียมสักแผล
เงื้อแล้วแม่ อย่าแปร อย่าเปลี่ยนใจ

เรียมเจ็บช้ำอุรา เจ้าเงื้อเจ้าง่า แล้วเจ้าก็ล่า ถอย ทันใด
เจ็บปวดหนักหนา เงื้อแล้วรา เลิกไป เจ็บยิ่งสิ่งใด ไยมิยิงพี่เอย

. . .



โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.172 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:22:11 น.  

 
สวัสดีค่ะทุก ๆท่าน...

อนุโมทนาสาธุกับทุกบุญของทุก ๆ ท่านค่ะ

ขอบคุณเพลงไพเราะจาก ดี.เจ. ประจำบ้าน

ที่สุดก็ขอบคุณกับคุณนางฯ หนูกา หนูเวลา
ที่กรุณามาเชื่อมต่อส่วนที่ขาดหายไปของร้อยกรองค่ะ

ย่าอำฯ
เขียนต่อไม่ออกจริง ๆ

เพราะเข้ายึดเอาภาพดอกทิวาของหนูเวลาไว้
และเพิ่มดอกราตรีซึ่งเป็นดอกไม้ที่คู่กันกับดอกทิวา

ซึ่งดอกทิวามีกลิ่นหอมในตอนกลางวันกลิ่นหนึ่ง
และดอกราตรีมีกลิ่นหอมในตอนกลางคืนอีกกลิ่นหนึ่ง

ย่าอำฯชอบกลิ่นหอมของดอกไม้ทั้งสองชนิดนี้มาก
จึงพยายามที่จะเชื่อมเอาดอกไม้ทั้งสองชนิดเข้ามาไว้ในบทร้อยกรอง

แต่ทำไม่ได้

เว้นเวลาไปหนึ่งคืน
พิจารณาว่า...
ทำไมหนอถึงแต่งต่อไม่ได้ ?

เช้านี้ได้คำตอบ
เพราะเรายึดมั่นในความคิดเดิมไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

เมื่อไม่เปิดทางกว้าง...
ให้แนวความคิดอื่น ๆ เข้ามาแทนที่
มันจึงอัดอั้นตันอยู่อย่างนั้น

ก่อให้เกิดทุกข์
ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

นึกสงสารตัวเองจังเลย
จะจำไว้เป็นบทเรียนว่า...

หากตั้งแนวความคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วไม่สามารถเดินทางไปได้
ต้องปรับเปลี่ยนแนวความคิด

เพื่อให้เขามีทางเดินออกไปได้
แล้วค่อยกลับมาเชื่อมโยงเอาใหม่

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่กรุณาเปิดทางเดินให้กลอนของย่าอำฯจบได้สวยทุกสำนวนค่ะ.


โดย: อำไพพร IP: 125.26.29.80 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:59:28 น.  

 
ทิวาวันราตรีว้างเพราะห่างขวัญ
คิดถึงกันบ้างไหมหนอขอเอ่ยถาม
ฝากกลิ่นหอมทิวาราตรี...มาส่งความ
ทุกทุกยามอวลกลิ่นหอม...อยู่ข้างกาย.



เย้ เย้
เขียนต่อได้แล้วจ้า

เรื่องบางเรื่อง...
หากคิดแล้วไม่สามารถดำเนินการณ์ให้สำเร็จได้ในเวลานั้น
ปล่อยเวลา...
ให้สมองว่างจากความยึดเดิม ๆ ไปสักระยะหนึ่งก่อน
แล้วลองกลับมาทบทวนและคิดใหม่
ก็จะสบความสำเร็จได้นะ

ดีใจจัง
ได้ทั้งธรรมะ
และบทร้อยกรอง.




โดย: เย้! เย้! ย่าอำฯผู้ประสบความสำเร็จจ้า IP: 125.26.29.80 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:22:29 น.  

 

..ขอบพระคุณค่ะคุณย่าอำ
ยายลิงรู้น๊า..ว่าคุณย่าอำกำลังสอนยายลิงอยู่ค่ะ

เมื่อคืน ตื่นมากลางดึกแล้วก็นอนไม่หลับ
คิดถึงเรื่องข่าวดัง..เรื่องดาราน่ะค่ะ
ก็นึกย้อนถึงพ่อของ"ไฮโซสาว"ที่พวกเราคนเก่าแก่ในลานธรรมรู้จักกันดี

นึกแล้วเกิดความกลัวมากๆในกรรมวิบากค่ะ
เพราะได้เห็นจะๆว่า คนเรามีกรรมเป็นทายาทจริงๆ
บางที พ่อทำเอาไว้ แล้วลูกก็มารับผล..
ทำให้พ่อต้องรับทุกข์หนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ
แบบว่า.. คิดเดาเอาเองค่ะ

ที่เห็นๆก็คือ ถ้าพ่อเป็นคนตรง..ที่ชอบแฉ..คนอื่นๆ
ลูกก็เลยมาเจอ..คนชนิดเดียวกันค่ะ

น่ากลัวมากๆๆๆๆเลยนะคะ
ยิ่งในเน็ต..ในลานธรรมด้วย ยิ่งกรรมแรง
เหมือนกระจายรวดเร็วเลย..เช่น ข่าวนี้น่ะค่ะ

ยายลิงก็เกือบๆไปค่ะ โชคดีที่มีกัลยาณมิตรช่วยไว้ค่ะ

วันนี้เปื่อยอยู่กับบ้าน(อีกแล้ว)ค่ะ
เห็นสภาวะธรรมจริงๆ..
คงต้องระมัดระวัง วจีทุจริตให้มากๆค่ะ

คุณย่าอำขา... ฝนตกอ๊ะป่าวคะ ยายลิงขอลาไปงีบนะค้า..


โดย: ยายลิง IP: 125.25.93.28 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:38:46 น.  

 


คุณพี่นรน. + คุณย่าอำฯ ค่ะ


โดย: ยายลิง IP: 125.25.93.28 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:51:52 น.  

 
ขอบพระคุณ คุณย่าอำฯ ที่แสดง แบ่งปันแง่คิดดีดีค่ะ











.. คิดถึงกลอนคุณป๋าเหมือนกันนะนี่ ..



โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:30:37 น.  

 
pouring alittle love




รักฉันวันละนิดๆ ก็เพียงพอ
ขอแค่เธอ ไม่ร้อนรน
รักทุ่มเทลุ่มหลงรุณแรง
โปรดเก็บไว้ . .

ค่อยเติมความรัก . . ทุกวัน
หมั่นเติมความหวาน . . เบาๆ
ค่อยซึมค่อยซับ . . ใจเรา
ซ้อนกันอย่างช้าๆ . .

ให้ยามแรกรัก . . รื่นรมณ์
ยิ่งนานยิ่งหวาน . . ชื่นชม
บ่มใจคลอเคล้า . . อารมณ์
ค่อยๆ เติมรักเรา . .





โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.172 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:23:19 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


สัจธรรมแห่งรัก

ความรักคืออะไร ยังไม่มีใครให้คำจำกัดความออกมาได้ มันเริ่มต้นจากอารมณ์ อย่างไม่มีเหตุผล และยังตั้งรับไม่ทันอีกด้วย กว่าจะรู้ตัวหัวใจมันก็ให้ถลำเข้าไปเสียแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขัดขืน แม้แต่ผู้ที่ถูกมองว่า มีแต่ความเย็นชากระด้างไร้หัวใจ ก็ยังถูกอานุภาพความรักรุกกระหน่ำเอาได้

อธิบายไม่ได้แต่รู้สึกสัมผัส เป็นทั้งความอบอุ่นเป็นทั้งความเจิดจรัส เป็นทั้งโคมประทีปแห่งแสงสว่าง หากเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในรักนั้น แต่มันก็เปลี่ยนกลับไปเป็นยาพิษ เป็นความมืดบอดแห่งอนธกาล หากหลงไหลในอารมณ์ที่ถูกชักจูง .. ไม่ว่าอย่างไร.... มีรักดีกว่าไม่มี ..!!

ผู้ที่ก่อเกิดความรักย่อมรู้จักการให้รัก ผู้ที่ได้รับรักย่อมยินดีที่เป็นที่รัก ทั้งนี้เนื่องเพราะไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธรักได้ ทั้งยังไม่กล้าปฏิเสธอีกด้วย มีบ้างบางคนกล่าวว่าความรักที่สมหวัง เป็นปรากฎการณ์ที่น่ายินดี หากกลับกลายเป็นผิดหวัง ก็รังแต่จะเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนสลด

แท้ที่จริงความรักมิใช่เรื่องของความสมหวังหรือผิดหวัง ความรักก็คือความรัก เกิดจากอารมณ์หนึ่งที่ก่อเกิดความรู้สึกรัก ความสมหวังเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน อันสืบเนื่องจากความรู้สึกที่ดีต่อความรัก ความผิดหวังก็ก่อเกิดจากอารมณ์อีกหนึ่ง อันสูญเสียความรู้สึกที่ดีต่อความรัก หากยึดถือเอาความรู้สึกที่ต่อเนื่องมาจากความรัก ก็จะหลงผิดอยู่ในอารมณ์นั้นซึ่งคิดไปว่าเป็นความรัก จึงมักได้พบนิยามแห่งความรักไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า ความรักทำให้เราเป็นสุข .. นั่นเนื่องเพราะยึดถือเอาความสุข อันต่อเนื่องอารมณ์จากการมีรัก ความรักคือความทุกข์ .. นั่นเนื่องเพราะยึดถือเอาความทุกข์อันต่อเนื่องอารมณ์จากการมีรัก

สำหรับผู้สามารถมีรัก กล้ายึดถือในความรัก และรู้สึกได้ถึงความรัก ก็จักสามารถเข้าใจในความรักนั้นได้ จากอารมณ์.. ที่ก่อเกิดเป็นอารมณ์สุข ทุกข์ เศร้า เป็นทั้งพลังผลักดัน และการบั่นทอนในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีรักจึงต้องอาศัยความกล้าหาญ กล้าที่จะแยกแยะหรือแม้แต่เผชิญกับอารมณ์อันต่อเนื่องจากการมีรัก เราจึงมักพบกับตำนานรักในหลายรูปแบบ บ้างว่าความรักก่อเกิดจากการฟักตัวของกาลเวลา อันเป็นผลมาจากความเข้าใจ และสานสัมพันธ์กันระหว่างคนสองคน บ่มเพาะขึ้นเป็นรากเหง้าที่หยั่งลึกลงในจิตใจ ประดุจรากไทรเกาะกุมให้เป็นฐานที่มั่นคง ของใจน้อย ๆ สองดวงให้ประสานกัน ก่อเกิดเป็นพลังที่ทะลายฟ้าทะลวงดินปานกัน

บ้างบางตำนานเปรียบความรักประดุจดาวตก ที่ให้แสงเจิดจ้ากระจ่าง กรีดผ่านม่านรัตติกาลแล้วลับหายไปกับขอบฟ้า ในเวลากระชั้นสั้น ... ซึ่งสำหรับชีวิตผู้ที่มืดมนเปรียบประดุจรัตติกาล ในช่วงหนึ่งแห่งชีวิตที่พบกับ ความบันเจิดเพริดแพร้วของความรัก แม้ในช่วงสั้นแห่งกาลเวลา ก็นับเป็นช่วงแห่งชีวิตที่มีค่า ให้ประทับอยู่ในความทรงจำได้แล้ว

แหละมีบ้างก็ว่าความรักเกิดจากความบ้าของช่วงอารมณ์หนึ่ง เป็นช่วงอารมณ์ที่ปล่อยไหลไปตามความรู้สึก แห่งการได้เห็น ได้ยิน ได้รับรู้ ได้สัมผัส และได้จินตนาการ กลั่นออกมาจากใจที่แสนใสซื่อบริสุทธิ์ เป็นความรักที่เกิดขึ้นมาค้างคาในจิตใจให้คอยคิดคำนึง ที่เต็มไปด้วยความร้ายเดียงสาอันอันสัตย์ซื่อกระไรปานนั้น

แต่ไม่ว่าความรักจะมั่นคงดั่งภูผา หรือรวดเร็วปานดาวตก จะอย่างไรหากถามผู้ที่เคยมีความรัก จะพบว่าในห้วงหนึ่งแห่งความรักที่ก่อเกิด มีทั้งสุขสมและทุกข์ตรม ต่างต้องบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าในห้วงแห่งกาลเวลานั้น นับเป็นช่วงเวลาที่บรรเจิดเพริดแพร้วกระไรปานนั้น ประทับเป็นความทรงจำของช่วงชีวิต ที่ไม่อาจลบเลือนได้โดยเด็ดขาด

มีบ้างว่าความรักเป็นเรื่องของความเสียสละ ความรักเป็นเรื่องของการให้โดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน ความรักเป็นเรื่องของการหวังเห็นผู้ที่รักเป็นสุขก็เพียงพอ ความรักประเภทนี้ออกจากหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ทำได้ดั่งนี้จะต้องเป็นผู้ที่กล้าที่จะรัก และเข้าใจในความรักที่จะก่อเกิดอารมณ์ต่อเนื่อง ว่าเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข ความรักเช่นนี้ นับเป็นสิ่งสวยงามที่จรรโลงโลกให้อบอุ่น จะมีใครสักกี่คนที่สามารถเข้าใจได้และกระทำได้ มิใช่ไม่มี ...! หากแต่ต้องอาศัยความกล้าหาญ และความเข้าใจที่ยิ่งใหญ่ บุคคลเช่นนี้เพียงพอใจที่จะรัก กล้าที่จะรัก โดยไม่นำพาต่ออารมณ์ต่อเนื่องที่เป็นทุกข์ที่เป็นสุข หากแต่จะเป็นที่รักสำหรับผู้ที่เข้าใจได้

กับปุถุชนทั่วไปแล้วความกล้าหาญที่จะเสียสละ จะกลับกลายเป็นความทุกข์ที่ไม่อาจยอมรับ ความรักดั่งนี้ย่อมต้องการสิ่งตอบแทน ย่อมต้องการการครอบครอง คล้ายดั่งกับการเห็นแก่ตัวก็ไม่ปาน ดังนั้นในจิตใจจึงเต็มร้อนไปด้วยระอุแห่งเปลวไฟ ที่คอยเผาไหม้ตนเองให้ร้อนรุ่มอยู่ทุกทิวาราตรี เป็นเปลวเพลิงไร้สภาพที่ไม่อาจเห็น แต่สัมผัสได้ ไม่มอดไปตามกาลเวลา เป็นเปลวเพลิงแห่งไฟรัก อีกหนึ่งตำนานที่ขานไขว่ารักคือเปลวไฟ ที่ให้ทั้งความร้อนแรงและอบอุ่น

ความรักไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง เมื่อก่อเกิดขึ้นในจิตใจผู้คน จะเป็นความสวยงามที่ติดตาตรึงใจตลอดไป ให้เป็นตำนานเล่าขานไม่รู้จบ ความรักจึงเป็นนิรันดร์...



โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.81.93 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:48:46 น.  

 
>>
สัจธรรมแห่งรัก
โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.81.93 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:48:46 น.
>>



โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:00:50 น.  

 
รู้ไม่เท่าเขลาขลาดจึงพลาดพลั้ง
ไม่รู้ยั้งเพลินหลงไปในแสงสี
อวิชชากิเลสพามายามี
พากันปรี่รี่เข้าเกาะกุมใจ

บนโลกแห่งมายาน่าสับสน
มากผู้คนแสวงสุขไว้อาศัย
ให้กิเลสนำพาเพลินเพลิดใจ
จึ่งข้องติดอาลัยในใจตน.



โดย: times IP: 58.181.136.90 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:12:49 น.  

 

ขอมาขำๆๆๆคุณนางเดินทักค่ะ

แล้ว.. สัจธรรมแห่งไม่รัก..มีมั๊ยคะ อิอิ


โดย: ยายลิง IP: 125.25.93.28 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:16:29 น.  

 
สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


สัจธรรมแห่งความไม่มีรักก็มีครับคุณยายลิง....

คำสุภาษิต กล่าวไว้ว่า...ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์...

แต่ถ้า ที่ใดไม่มีรักที่นั่นมีทุก (ทุกๆสิ่งที่เราต้องการและไม่เป็นทุกข์)


โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.81.93 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:07:45 น.  

 
เก๊าะน่านนนนนนนนนนะซิ
เห็นด้วยจริง ๆ แหละ
เพราะเมื่อย่าอำฯสลัดความรัก(ทางโลก)ออกไปได้
ย่าอำฯก็มีทุก ๆ อย่าง
อย่างที่คุณนางฯบอก
แถมไร้ทุกข์และได้เข้าใกล้ชิดพระธรรมสุด ๆ
จนทำให้รู้สึกว่า...
ย่าอำฯไม่เสียชาติเกิดนะ
ย่าอำฯจึงขอสนับสนุนสาว ๆ บ้านนี้จ้ะ
(หรือหนุ่ม ๆ บ้านนี้ด้วยเก๊าะได้นะ)
ว่า...
ที่ใดไม่มีรักที่นั่นมีทุก (ทุกๆสิ่งที่เราต้องการและไม่เป็นทุกข์)
จริง ๆ จ้า...
ขอยืนยัน.





ทรงมอบอริยทรัพย์ให้พระราหุล


โดย: อำไพพร IP: 125.26.27.85 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:49:40 น.  

 
วันนี้สมาชิกบ้านฯถกกันว่าด้วย
"สัจธรรมแห่งรัก"
และ "สัจธรรมแห่งไม่รัก"

สังเกตุว่า สว.จะเห็นด้วยกับ
"ที่ใดไม่มีรักที่นั่นมีทุก (ทุกๆสิ่งที่เราต้องการและไม่เป็นทุกข์)"

ส่วน สส. มิรุจะมีความเห็นว่าอย่างไร

ดอกแอ๊ปเปิ้ล เนี่ยสวยจริงๆ
สว.เพิ่งจะเคยเห็น
สว.เคยไปสวนแอ๊ปเปิ้ลและสวนลูกพลับ แต่ที่ไปคราวนั้น มีแต่ลูกเต็มต้น
จึงไม่เห็นดอก

Professor พาอาจารย์และนักศึกษาไปปาร์ตี้มื้อกลางวันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ เป็นประเพณีปฏิบัติ
ทุกคนก็ห่อข้าวกันไปคนละห่อ
นั่งกินกันในสวน แล้วก็เลือกเก็บแอ๊ปเปิ้ลและลูกพลับกินกันตามอัธยาศัย
ถ้าหน้าซากุระบานก็ไปปาร์ตี้ใต้ต้น
ซากุระ แต่เผอิญสว.ไม่เคยได้อยู่ถึงฤดูซากุระบาน



โดย: โฮรัช IP: 125.24.136.57 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:40:47 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ ทุกๆท่าน

จะเป็นไปได้อย่างไรคะ.."ไม่มีรัก" น่ะ
เพราะ ความรักแบบชายหญิง-หนุ่มสาวน่ะไม่เท่าไหร่ค่ะ
เลิกกัน..ก็เป็นคนอื่นไป
แต่..ความรักมีตั้งหลายแบบนะคะ
ยายลิงยังมีพ่อแม่น้องหลาน.. ที่รักมากๆๆๆอยู่
ยังมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลานๆในนี้ที่เป็นกัลยาณมิตรที่รักอยู่
ยังมีญาติมิตรและเพื่อนร่วมโลก ร่วมทุกข์+สุขอยู่
ยังมีอีหนู..shasa หลานสาวตัวเดียวที่ยายลิงรักและผูกพันอยู่..
และท้ายสุด ก็ยังมีความรักให้ตัวเองอยู่..

ดังนั้น..จึงยังต้องมีทุกข์อยู่ค่ะ

แต่ๆๆ..วันนี้ วันสุข..จึงขอปลอดทุกข์สักวันจะได้ไหม


โดย: ยายลิง IP: 58.137.0.83 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:22:14 น.  

 





อสงไขย
THE SIS

ปล่อยความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น

ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องคืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ

ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา

หากเพลงคิดถึงที่ปลิวไปในอากาส
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ
ให้บทเพลงนี้ล่องลอยเรื่อยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ

ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา

แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา





ปล.
ขอบคุณ "สัจธรรมแห่งรัก" จากพี่นางฯค่ะ







โดย: dj อบค่ะ IP: 58.10.80.172 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:03:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.