สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
กระแสลมสี่สาย


กระแสลมสี่สาย โดย ริช เดอโวส
อยากประสบความสำเร็จในชีวิตควรอ่าน







การประสบความสำเร็จชีวิต ก็คล้ายกับการล่องเรือ
ซึ่งต้องอาศัยกระแสลม ในการนำพาไปสู่เป้าหมาย
หรือจุดหมายปลายทาง

ในวันที่อากาศดี ๆ เราอาจปล่อยมือจากหางเสือได้บ้าง
แต่ในวันที่อากาศแปรปรวน ซึ่งเป็นวันที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยง
และจะควบคุมสภาพอากาศก็ไม่ได้
เราคงต้องหาวิธีจัดการกับกระแสลม

เราอาจต้องใช้ความพยายามบ้าง
แต่ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เราได้กลับมาอยู่บนเส้นทาง
สู่จุดหมายปลายทาง นั่นเอง


//www.bloggang.com/mainblog.php?id=savika&month=30-09-2008&group=2&gblog=58


Create Date : 01 ตุลาคม 2551
Last Update : 1 ตุลาคม 2551 22:25:48 น. 41 comments
Counter : 1877 Pageviews.

 
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

บุคคลล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร



สาธุในสัมมาปฏิบัติของทุกท่านครับ

ธรรมสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:23:21:18 น.  

 
ถือโอกาสนำมาลงเพื่อระลึกถึงวันครบรอบวันเกิดคุณพ่อผม ซึ่งสนิทกับอาอังคารครับ
ตอนเด็กๆชั้นประถมปลายผมต้องคอยเดินไปขอยืมหนังสือไตรภูมิพระร่วงจากอาอังคารที่ซอยวัดมะลิ จรัญสนิทวงศ์35 บางขุนศรี มาให้พ่อค้นคว้า เพื่อเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ซอยวัดสุวรรณาราม บางขุนนนท์ครับ

ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีตอนหนึ่งไว้ว่า...
ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า
คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อม
หรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก
เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี
ประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว
มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม
อะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง
ความโกรธ ความเกลียดนั้น

ลายเซ็นต์จากคุณ : กาปูน



ติดตามกิจกรรมพระพุทธรูป
เพื่อติดตามกิจกรรมบุญกุศลเกี่ยวกับพระพุทธรูปครับ

//larndham.net/index.php?showtopic=30511&st=465&#top

ธรรมสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:23:44:21 น.  

 
เป็นวิตามินที่ได้ลองทานดูแล้วได้ผล จดมาจากคอลัมน์ที่เขียนโดย อ.สาทิส อินทรกำแหง ในไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ ปีไหนจำไม่ได้ เป็นวิตามินเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้,แพ้อากาศ ถ้าเริ่ม ๆ เป็น ทานแล้วจะหาย ถ้าเป็นมากอาการก็จะดีขึ้น (อย่าลืมเรื่องการดูแลสุขภาพตามปกติด้วย) วิตามินที่ใช้มีดังนี้
วิตามิน B5 มื้อละ 100 มก. จำนวน 3 มื้อหลังอาหาร
วิตามิน B6 มื้อละ 100 มก. จำนวน 3 มื้อหลังอาหาร
วิตามิน C มื้อละ 500 มก. จำนวน 3 มื้อหลังอาหาร
วิตามิน E มื้อละ 400 IU จำนวน 2 มื้อหลังอาหาร เช้า, เย็น
กรณีมีอาการไอ ให้ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติวันละ 1 ถ้วย, แอปเปิ้ลไซเดอร์และน้ำผึ้งอย่างละ 1-2 ช้อนโต๊ะในปริมาณที่เท่ากัน ผสมน้ำอุ่นครึ่งถ้วย จิบทุก 2 ชม.

จากคุณ : kuekasem
โรคภูมิแพ้,แพ้อากาศอ่านทางนี้

//larndham.net/index.php?showtopic=33284&st=0


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:23:58:17 น.  

 


สุขสันต์ ...วันพฤหัสค่ะ

ขอบคุณคุณมุ่งฯ สำหรับทุก ๆ เนื้อหาสาระที่นำมาฝากกันเป็นประจำ สม่ำเสมอนะคะ

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว ขอทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ ... ด้วยความระลึกถึง และห่วงใย จากใจเจ้าบ้านค่ะ


โดย: สาวิกา วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:10:39:38 น.  

 
"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"


ผมปรารถนาพุทธภูมิ เป็นพระพุทธเจ้ารื้อขนสัตว์เข้านิพพานแดนนิรทุกข์โดยเลิศยิ่งขึ้นไปครับ

ผมก็จะไปมูลนิธิหลวงปู่มั่นวันอาทิตย์นี้ครับ คาดว่าจะนำหนังสือชีวิตนี้น้อยนัก ของสมเด็จพระสังฆราชไปถวายด้วยครับ(ได้มาจากเพื่อนที่ขอประทานอนุญาตเพื่อพิมพ์แล้วครับ ) หนังสือชุดนี้มีพลังมากครับ(แนะยังกับพระเครื่องแน่ะ) หลวงปู่ครูบาอาจารย์รับมาแล้วก็ไม่วางทันที ต่างถือไว้พิจารณานิ่งอยู่นาน ครูบาอาจารย์อาสนะท้ายๆรับมาแล้วต่างก็รำพึงคำว่า สมเด็จพระสังฆราชฯออกมาใกล้กันประมาณ4-5รูปเลยครับ ผมมีโครงการจะชักชวนท่านผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันพิมพ์เพิ่มด้วยครับ) เข้าไปทักผมได้นะครับ ท่านอื่นก็ได้นะครับ แต่ต้องเข้าไปทักใกล้ๆเพราะผมสายตาสั้น มองใบหน้าผู้คนไม่ค่อยชัด แล้วมักมีสีหน้าออกเฉยๆดุๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้คร้าบบบ แล้วตอนกำลังยุ่งก็เข้ามาช่วยได้นะครับ จริงๆใจดีอยู่เหมือนกันนะครับ แหะๆ

คนตัวใหญ่ๆที่หอบหิ้วสัมภาระ พระเครื่อง หนังสือธรรมะ ปัจจัย4พะรุงพะรัง ถวายพระสงฆ์ไปสายบ่อยๆ นั่นละครับ ผม

วันเสาร์อาจไปวัดพุทธบูชาด้วยครับ ถ้าอาศัยติดรถเพื่อนไปได้ครับ

บ่ายนี้โชคดีได้เป็นประธานทอดกฐินอีกว้ด(เป็นวัดที่3แล้วครับ)ครับ ไปอาสาที่ชมรมพุทธทีโอที วัดถ้ำเขาตะล่อม กำแพงเพชรเพื่อสร้างอุโบสถครับ แล้วจะมาบอกรายละเอียดทีหลังครับ ใครสนใจติดต่อสอบถามร่วมบุญได้ครับ

พรุ่งนี้ใกล้พักเที่ยงผมอาจได้ติดรถไปกับคณะที่สร้างหนังสือ นำหนังสือไปแจกถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราชที่วัดบวรนืเวศฯครับ

ฑีฆายุโก โหตุ สังฆราชา

ธรรมสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:20:13:55 น.  

 
วัดบวรนิเวศฯครับ

ขออภัยนะครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:20:20:55 น.  

 
Photobucket>

สุขสันต์ ... วันศุกร์ ทุก ๆ ท่านค่ะ



วันศุกร์ทีก็มาร่ำลาฝากบ้านทีนึง ...วันศุกร์จึงเป็นวันสุขสำหรับเจ้าบ้านค่ะ ...

ฝนตกกระหน่ำ เย็นฉ่ำใจแบบนี้ พี่อรคงมีความสุขกับการได้ดมดอมกลิ่นหอมของไม้ดอกนานาชนิดรอบ ๆ บ้าน ...อืมม์ แค่คิดก็มีความสุขไปกับพี่อรด้วยแล้วค่ะ ...ความสุขมีอยู่รอบ ๆ ตัวจริง ๆ เนอะ

ขอวันศุกร์ ... จงเป็นวันสุขสำหรับทุก ๆ ท่านเช่นเจ้าบ้านนะคะ


Photobucket>


โดย: สาวิกา วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:10:36:44 น.  

 
นู๋กา..จ๋า

สว.กำลังเป็นห่วงต้นไม้
ต้นไม้หอม ไม้ดอก ชอบแดดจัด และ น้ำปานกลาง ไม่ชอบน้ำมาก
ฝนตกต่อเนื่องนี้ รากจะเน่าค่ะ
เข็มอินเดียพึ่งจะฟื้นไข้รากเน่า
ฝนมาตกซ้ำอีก ต้องยกแอบฝน

เมื่อวาน สว. เก็บดอกพุดน้ำบุศย์สีเหลืองจัดเกือบ 20 ดอก ปักแจกันเล็ก ๆ ไว้ในบ้าน กลิ่นหอมฟุ้งเลยค่ะ

อนุโมทนาบุญนู๋กา ค่ะ




โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:12:26:03 น.  

 
Subject: เสี่ยบุญหลาย

เสี่ยบุญหลาย ตัวไม่เหมือนใคร แต่หัวใจไม่พิการ

ในขณะที่คนปกติ มีอวัยวะครบ 32 กำลังท้อแท้สิ้นหวังกับชีวิต
แต่ในมุมเล็กๆ ของอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
กลับมีอีกชีวิตหนึ่งที่แม้ว่าร่างกายไม่สมประกอบ แต่หัวใจของ "บุญหลาย"
พ่อค้าเร่แห่งบ้านหนองเลิงคำ กลับไม่เคยย่อท้อในความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง
ตรงกันข้ามเขากลับมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ และเป็น "เสี่ย" ที่หลายๆ คนรักใคร่

เด็กชายบุญหลายเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความยากจนข้นแค้นของครอบครัว
นางทองฉัน บุญแสง หญิงชาวนา วัย 54 ปี บอกเล่าเรื่องราวของ บุญหลาย หรือ โชติ
ลูกชายคนสุดท้องให้ฟังว่า เมื่อ 25 ปีก่อน หลังให้กำเนิดลูกคนนี้มาเพียงเจ็ดวัน
เขาก็เกิดอาการชัก ตัวเกร็ง ซีดเหลือง กัดฟันแน่น
พาไปหาหมอทั้งทางการแพทย์และไสยศาสตร์ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นโรคอะไร
จนกระทั่งเขาอายุได้ 12 ปี ก็เกิดอาการชักขึ้นอีก
ตอนนั้นโรงพยาบาลประจำอำเภอเพิ่งสร้าง เราเลยพาไปหา
หมอก็บอกว่าอาการที่เกิดกับเขาคือ "โรคพิการทางสมอง"

นอกจากเรื่องอาการชักที่ติดตัวมาแต่กำเนิด บุญหลาย
ยังมีพัฒนาการและการเคลื่อนไหวทางร่างกายที่ช้ากว่าเด็กคนอื่น สองขาที่เล็กลีบ
รวมทั้งสมองที่สั่งการช้ากว่าปกติ ทำให้เขาเดินเหิน
และสื่อสารกับคนทั่วไปได้ไม่สะดวกนัก และทันทีที่ บุญหลาย เดินได้ในวัยแปดขวบ
ทองฉัน ตัดสินใจนำลูกชายเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนในหมู่บ้าน
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปเพียงเจ็ดวัน ครูใหญ่ของโรงเรียนก็มาหาที่บ้าน
บอกว่าไม่สามารถให้บุญหลายร่วมชั้นเรียนได้ เพราะเขาไม่ยอมหยุดเดินในขณะเรียน
ครูว่าก็ไม่ยอมนั่ง ทำให้เพื่อนๆ ในห้องไม่ได้เรียน
และหลังลูกชายสิ้นสุดชีวิตการเป็นนักเรียนแค่เพียงเจ็ดวัน ชาวนาการศึกษา ป.4
อย่างทองฉันก็หันมาสอนหนังสือขั้นพื้นฐานให้ลูกเอง
เท่าที่ความรู้ความสามารถจะเอื้ออำนวย โดยใช้เวลาตอนกลางคืนหลังกลับจากทำนา

"เขาเขียนหนังสือไม่ได้ ถึงตอนนี้ก็ยังเขียนไม่ได้
ถ้าลองให้เขียนชื่อตัวเองนี่ คือเต็มหน้ากระดาษเลยนะ เพราะมือเขาแข็งเกร็ง
ไม่ใช่แค่เรื่องการเขียนนะ
แต่เรื่องการสะกดคำหรืออะไรที่เกี่ยวกับตัวอักษรนี่หัวเขาจะไม่รับแล้วก็ไม่สนใจเ
ย" นางทองฉัน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์
กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่บุญหลายพอจะเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว
และสิ่งนั้นก็กลายเป็นพื้นฐานที่ทำให้เขาหาเลี้ยงชีพ
และยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างทระนงองอาจ ทั้งๆ
ที่ชีวิตอาจไม่ได้โสภาสง่างามมากนัก

ปัจจุบัน "บุญหลาย" ในวัยเบญจเพส มีกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง
ด้วยการรับซื้อพืชผักต่างๆ เช่น พริก กระเทียม มะนาว หัวหอม ฯลฯ มาตระเวนขาย
เขาเรียนรู้วิชาทำอยู่ทำกินจากบุพการี สมัยเมื่ออายุได้ 14 ปี
และยึดเป็นอาชีพนับแต่นั้นมา โดยก่อนหน้านี้บุญหลายช่วยพ่อแม่ขายผักได้สองสามปี
ก็เริ่มหันมารับซื้อของเก่าจำพวกลวดทองแดง เศษเหล็กตามหมู่บ้าน
โดยช่วงแรกนั้นเด็กชายยืมเงินพี่มาลงทุน
ครั้นทำได้ไม่กี่ปีหนี้สินดังกล่าวก็หมดไป
กระทั่งเริ่มมีเงินก้อนแรกเป็นของตัวเอง

"แรกๆ เขาไปขายเอาเปอร์เซ็นต์ก่อน เจ้าของคอยเก็บตังค์อย่างเดียว
เสร็จแล้วก็จะแบ่งกำไรให้บุญหลาย ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอก
มารู้อีกทีตอนที่เถ้าแก่เขาเอาเงินมาให้ เขาเอาเงินมาให้ทีเดียว 20,000 บาท
แล้วบอกเงินของบุญหลาย เราเห็นก็งง ไม่กล้ารับเงิน เถ้าแก่เขาก็เลยอธิบายให้ฟัง
เลยรู้ว่าเป็นของเขาจริง เถ้าแก่พวกนี้รักบุญหลายกันทุกคน
พวกเขาบอกว่าบุญหลายเป็นคนซื่อสัตย์ ขยันทำงาน
แล้วก็ไม่เคยโกงเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากทำไปได้ราวสี่ปีคนอื่นๆ
หันมาทำกันมากขึ้น บุญหลายจึงเบนเข็มหันมาขายผักในตลาดแทน" ทองฉัน
บอกเล่าเรื่องราวของลูกชายด้วยรอยยิ้ม

ทุกๆ วัน บุญหลายจะตื่นนอนก่อนไก่ขันตั้งแต่ตีสาม
ออกไปคนเดียวท่ามกลางความมืด ค่อยๆ ใช้สองขาลีบเล็กผิดรูป
ปั่นจักรยานไม่มีเบรกด้วยความรวดเร็ว
ขณะที่แขนข้างหนึ่งยกขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลโซมกายเป็นระยะ
สายตาจ้องมองพื้นถนนมากกว่าเส้นทางเบื้องหน้า เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร
เพื่อเลือกซื้อของจากพ่อค้าขายส่งในตลาด แล้วนำไปขายปลีกตามหมู่บ้านต่างๆ
ซึ่งแม้สินค้าของบุญหลายอาจไม่ได้ขายดีแบบเทน้ำเทท่า
แต่ก็ไม่มีสักครั้งทีจะมีของเหลือติดตัวกลับมาบ้าน
หากเขาไม่ได้ตั้งใจนำกลับมาให้ญาติพี่น้อง

"มอ สระอี นอ กระเทียม มอ สระอี นอ บักนาว (มะนาว) มาแล้ว หะ... หะ...
ห้าหน่วยสิบบาท เร็วว..." พ่อค้าหนุ่มลูกอีสานผู้อยู่ในทรงผมแบบบรูซ ลี
กำลังป่าวประกาศเสียงดังถึงสินค้าที่อยู่ท้ายจักรยาน ซึ่งนอกจากจะสะกดคำผิดแล้ว
ดูเหมือนคำว่ามะนาวกับกระเทียมของเขาจะเขียนเหมือนกันอีกต่างหาก

สาเหตุที่สินค้าของบุญหลายขายดีจนหมดเกลี้ยงทุกวัน
ไม่ได้เป็นเพราะความเห็นอกเห็นใจของผู้ซื้อ แต่ยุทธวิธีการขายแบบไม่เอากำไรมาก
เน้นขายได้เยอะๆ คือ ขายถูกกว่าราคาตลาดเกือบทั่วตัว
ลูกค้าส่วนใหญ่จึงหันมาซื้อของของเขา เพราะมันถูกกว่า พูดง่ายๆ ว่า กินน้อยๆ
แต่กินนานๆ กินได้ตลอด

"กำไรนิดๆ หน่อยๆ ก็พอแล้วไม่ต้องเอาม่า... ม่า... มากหรอก
บางคนสนิทกัน ผมก็ถุ... แถมให้เขาบ้าง ขายแบบนี้ คนเขาก็ซื้อเราเยอะ
ไม่ต้องใช้เวลานา... นา... นานก็หมด"

นอกจากวิธีถูกเข้าว่า
บุญหลายยังใช้วิธีการสับเปลี่ยนสินค้าไปตามราคาของตลาด
เขาจะสำรวจราคาของอยู่ตลอดเวลาว่าช่วงไหนผักหรือผลไม้แต่ละชนิดมีราคาเท่าใด
เพื่อที่จะนำสินค้าราคาถูกมาขายในช่วงนั้น
ซึ่งวิธีการนี้ทำให้เขาไม่ต้องประสบภาวะข้าวยากหมากแพงดังเช่นพ่อค้าคนอื่นๆ
เพราะไม่ว่าราคาข้าวของจะขึ้นลงยังไง ยอดขายและกำไรของเขาก็ยังคงอยู่เท่าเดิม

สำหรับที่ไปที่มาของฉายา "เสี่ย" ที่ชาวเลิงนกทามอบหลายๆ คนเรียกนั้น
วิเชียร เนาวนิตย์ พ่อค้าขายส่งผักเล่าว่า ผมว่าคนสมองดีๆ อย่างเราๆ
นี่ยังทำงาน ยังขยันสู้เขาไม่ได้เลยนะ ของเรานี่ยังเหลือ ของเขาขายหมดทุกวัน
คนที่นี่บางคนเห็นเขาขยันทำงานขายของหมด มีเงินมีทอง ทั้งๆ ที่ร่างกายไม่ดี
ก็เลยแซวแล้วก็เรียกเขาติดปากว่า "เสี่ยบุญหลาย" แล้วที่เป็นเสี่ยอีกอย่าง คือ
ความที่บุญหลายชอบเลี้ยงคนอื่น ใครแถว บขส. (บริษัท ขนส่ง จำกัด)
อยากกินอะไรเขาก็เลี้ยงหรือเวลามีเทศกาล งานประจำปี
เขาก็มักจะซื้อลูกอมเป็นถุงไปหว่านแจกที่หน้าเวทีเลย ทั้งเด็กๆ
และคนแถวนั้นก็จะแย่งกันเก็บ

นอกจากน้ำใจที่แผ่เผื่อไปถึงเพื่อนมนุษย์นอกบ้านแล้ว
พ่อค้าหนุ่มรู้ดีว่าการดูแลคนอื่นจะไม่มีประโยชน์
หากคนที่บ้านไม่เคยได้รับสิ่งดีๆ จากเขา
โดยทองฉันเล่าถึงวัตรปฏิบัติของลูกชายว่า ทุกวันเขาจะซื้อกับข้าวมาให้เรา
บางทีก็ซื้อขนมติดไม้ติดมือมาให้หลานๆ
ยิ่งถ้าช่วงต้นเดือนเขาจะซื้อของกินของใช้มาเป็นลังเผื่อเอาไว้เลย
แล้วเขาไม่ได้ซื้อให้แต่พ่อกับแม่นะ พี่และญาติคนอื่นๆ เขาก็ซื้อให้ด้วย

ตลอดเวลาที่ผ่านมา บุญหลายมีท่ารถบขส. เป็นบ้านหลังที่สอง
มันเปรียบได้กับอาณาจักรส่วนตัวและโลกอีกใบหนึ่งของเขา แทบทุกวัน หลังบ่ายโมง
หากใครต้องการพบบุญหลาย เป็นอันรู้กันว่าให้ไปหาตัวได้ที่ท่ารถ บขส.
ที่นี่ชายหนุ่มจะทำตัวตามสบาย ยิ้มแย้ม แจ่มใส
ซึ่งหากว่างจากการโบกรถให้ผู้โดยสาร
เขาก็จะไล่แซวหยอกล้อกับพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง
นอกจากจะมาโบกรถและไล่แซวแม่ค้าจนกลายเป็นความบันเทิงของชีวิต
บุญหลายยังมาที่นี่เพื่อจะนั่งรถโดยสารออกไปดูโลกกว้าง
บ่อยครั้งที่เขามักขอติดรถไปเที่ยวยังจังหวัดอื่นๆ
เพราะบุญหลายเป็นหนุ่มชอบเที่ยว เขาออกเดินทางมาแล้วหลายจังหวัด
ซึ่งเวลาเดินทางแต่ละครั้งเขาจะพกเงินไปเองครั้งละ 1,000-1,500 บาท
ซึ่งเป็นเงินของเขาเองติดตัวไปด้วย

"เขาบอกว่าเขาคงจะดีใจมากถ้าแม่ได้ไปเที่ยวกับเขา
เพราะเขาอยากให้แม่ได้เห็นเหมือนที่เขาเห็น" ทองฉันเล่าถึงความฝันลึกๆ
ของลูกชายที่มีต่อตนเอง

ท่ามกลางลมหายใจและเวลาชีวิตที่น้อยลงทุกวัน
มนุษย์ที่มีศักยภาพอันสมบูรณ์บางจำพวกกลับไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นมาใช้ชีวิตอย่าง
ี่ตัวเองต้องการ แต่สำหรับ "บุญหลาย"
หนุ่มลูกอีสานคนนี้เลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตตามแรงปรารถนาของหัวใจ
แม้ชีวิตอาจจะไม่ได้มีแต้มต่อใดๆ เลยก็ตาม

ข้อมูลจากและภาพประกอบจาก

นิตยสาร ฅ ฅน ปีที่ 3 ฉบับที่ 9 (33) เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2551


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:21:29:58 น.  

 

สวัสดีค่ะ ...พี่อร และทุกท่าน

กลับมารายงานตัวแล้วค่ะ ...นำบุญกุศลมาฝากทุก ๆ ท่านนะคะ

เห็นฝนตกทีไร ใจก็ชอบความชุ่มฉ่ำเย็น แล้วพลอยให้นึกถึง (ต้นไม้) พี่อร

พี่อรคงมีงานให้ทำเยอะแยะเลยเนอะ เดี๋ยวยกกระถางตากแดด เดี๋ยวยกหลบฝน แต่พี่อรจะรู้สึกสนุกด้วยหรือป่าวนี่อะจิ

คิคิ ... มาเล่าให้นู๋กาฟังบ้างนะคะ


โดย: สาวิกา วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:19:10:17 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน


หายไปบ้างบางเวลาอย่าว่ากัน...
แต่ใจนั้นยังเป็นห่วงปวงน้องพี่...
ทุกสิ่งล้วนมีเกิดดับนานนับปี...
แต่ไมตรียังคงมั่นนิรันดร...


โดย: นางเดินทัก IP: 117.47.215.73 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:21:10:46 น.  

 
สวัสดีค่ะ ทุก ๆ ท่าน _/|\\_


ง่วงค่ะง่วง..
ปรับเวลารับประทานและเวลานอนไม่ทัน..
พอยายลิงมา อากาศก็หนาวต้อนรับเราเลยค่ะ
ฝนตกและลมแรง เดินไม่ค่อยจะสนุกเลย

ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่นะคะ
แต่ดูๆว่าพี่จะเป็นห่วง อยากให้มาเปิดโลกทัศน์และพักผ่อนใจค่ะ

ไปเดินช้อปปิ้งมา ไม่รู้สึกอยากได้อาไรเลยค่ะ
เหมือนๆกับว่า อยากได้ความสุข ความสงบมากกว่า..
ดูๆคล้ายกับว่า ชีวิตเราคงต้องฝากไว้กับพี่และเป็นของพี่ไปแล้วค่ะ :-)


โดย: ลิง IP: 86.168.74.170 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:23:09:41 น.  

 
พี่ไก่ ความเห็นที่ 4 น่ะ ตัวอะไรคะ

มาลงชื่อทักทายพี่ๆและทุกคนค่ะ

ไม่ค่อยจามีเรื่องอะไรจาเล่ากะเขาเท่าไหร่ค่ะ

ขอให้พี่ๆรักษาสุขภาพกันทุกคนนะคะ



โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.159 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:12:57:58 น.  

 
สวัสดีครับทุกท่าน
มาทักทายครับ
วันศุกร์ผมลงเรื่องธรรมะ ไว้ซะยาวเฟื้อยแต่เครื่องโปรแกรมอัตโนมัติ ไม่ลงให้
บอกว่าต้องให้เจ้าของกระทู้พิจารณาก่อน
สงสัยจะยาวไป คุณไก่เลยไม่ลงให้
พอดีตอนนั้นผมรีบนะครับ
เลยลงเรื่องทั้งหมดไว้ในความเห็นเดียว
ไม่เป็นไรไว้หาเรื่องสั้นกว่านี้มาลงร่วมเพิ่มบุญกุศลบารมีด้วยอีกครับ

ธรรมะสวัสดีไปก่อนครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:15:45:53 น.  

 
เป๋บ้างเซบ้างก็ไม่เป็นไร ขอเพียงให้เราก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง...

ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆ ครับ


โดย: ตั้งสติ วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:17:31:55 น.  

 
สวัสดีค่ะ...คุณนางฯ นู๋อบ พี่ลิง คุณมุ่งฯ ตั้งสติ และทุก ๆ ท่านค่ะ

ขอขอบคุณคุณนางฯ นะคะ ...สำหรับการมาเยี่ยมเยียนกันตามโอกาสที่อำนวยให้ ...คงงานยุ่ง ...ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

นู๋อบจ๋า...รูปในคห. 4 จะตัวอารายก็ม่ายรู้เหมือนกัน เห็นมี hello เลยนำมาแปะเพื่อ hello กับทุก ๆ ท่านอ่ะ (คิคิ...อายจังที่ไม่รู้)
เหมือนหนังสือคุณตุลย์เลย "ผิด...ที่ไม่รู้"

คุณมุ่งฯ ต้องขออภัยด้วยนะคะ ... เวลาเข้ามาบล็อกนี้ จะตั้งหน้านี้ไว้เป็นหน้าแรก เลยจะไม่เห็นว่ามีเม้นท์ที่รอพิจารณาอยู่อ่ะค่ะ เจ้าบ้านนำมาแปะไว้ให้แล้วนะคะ ...ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่นำมาฝากอยู่เสมอ ๆ

พี่ลิงจ๋า ... ไม่รู้ว่าจะอิจฉาดีหรือป่าว ได้เดินทางเปลี่ยนบรรยากาศอยู่เรื่อย ๆ ตอนนี้คงเริ่มปรับตัวได้แล้วเนอะ ... มีอารายดี ๆ มาเล่าให้ฟังบ้างน้า ...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: สาวิกา วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:18:24:38 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ


อย่าอิจฉาพี่ลิงเลยจ้ะนู๋กา..
พี่น่ะ รู้สึกอิจฉาคนขายหมูปิ้งอย่างที่หมูหยองเคยเปรยๆไว้จ้ะ
รวมทั้งนู๋กา ที่ได้ทำบุญกศล ได้ไปวัด..
ได้มีความสุข ความสงบเบิกบานใจอยู่เสมอ ๆ

กรรมสัมพันธ์ทำให้ต้องมา..
นั่งคิด นอนคิดอยู่เสมอๆและก็ยังหาคำตอบไม่ได้จริงๆเลยว่า ทำไม..
ทำไม.. ถึงต้องเป็นเรา น่ะจ้ะ

แต่ก็อย่างที่นู๋เวลาว่าไว้ ความขี้เกียจเฉื่อยชาทำให้ไม่รู้ว่า มีศักยภาพ..
พอมีค่ะ เพราะ ยังคิดไม่ออกจริงๆเลยว่า
ถ้าทำดี ทำงานผ่าน.. สอบผ่าน แปลว่าต้องอยู่ยาวววววค่ะ
ถ้าทำไม่ดี สอบตก ได้กลับเมืองไทย อย่างไหนจะดีกว่ากันน้า

ยิ่งเลิกกับพี่ช.นู๋กา ตอนนี้ หมดข้ออ้างเลยยย
แต่ก็โอเคนะ แต่เบื่อคนไง..จ๊ะ
ต้องมานั่งคอยมอง คอยอิจฉา คอยปัดแข้งปัดขากัน..
ดูเหมือน หลายๆคน เรียกว่า แทบจะทุกคนเลยอยากมา..
แต่พี่ลิงเป็นข้อยกเว้น เพราะ เป็นคนไม่ปกติไง แบบว่า เพียนมั๊งจ๊ะ

อยากมีฟามสุขแบบคนธรรมดา ๆ
ไม่อยากได้อะไรมากมายเลยในชีวิต
เมื่อไม่อยาก ก็ไม่ขนขวาย และ แบบพอใจในสิ่งที่เคยเป็นไงจ๊ะ

แต่พี่ก็ดีกับเรามาก ดีจนเราสะอึก พูดไม่ออก
เราเอง ก็รองไห้ แบบว่า กลัวทำไม่ได้ไง
แต่จริงๆทำได้ แต่ไม่ชอบ..ค่ะ
ชีวิต..เลยช่วงที่อยากจะพเนจรแล้ว เลยช่วงที่จะกระตือรือร้นแล้ว

คงต้องแล้วแต่ ดวง แล้วแต่ กรรม จริงๆ
รู้นะ พอรู้ว่า พี่สบายใจที่มีเรา แต่เราก็ไม่หลงเข้าข้างตัวเอง
หรือ สำคัญตนผิดหรอกค่ะ

วันนี้ อากาศดี แดดออกเป็นวันแรกเลย
อาสาอยู่บ้านคนเดียวเพื่อโทรประสานงานที่พอจะถนัดค่ะ
แต่ฝรั่ง และ แขกเยอะนะที่นี่ ทำให้รู้สึกสบายใจ
คนที่นี่จะเท่ากันค่ะ ไม่มีชั้นวรรณะ ก็เลยคุ้นเยตรงเนี้ยแหละค่ะ

ทำงานต่อนะ ที่นี่เพิ่งจะ เที่ยง 45..
เวลาห่างกัน 6 ชม.ค่ะ
สิ่งที่เป็นมากๆ คือ เวลาเห็นบ้านเมือง บรรยากาศสวยๆแล้ว..
ก็คิดถึงคนทางเมืองไทยค่ะ อยากให้คนที่อยากมา ได้มาด้วยกันน่ะค่ะ


โดย: ลิง IP: 81.159.28.58 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:18:46:51 น.  

 

สวัสดีครับทุกๆท่าน


สงสัยความรู้รอบเอวของเจ้าบ้านน้อยไปหน่อย...เรามองเห็นครั้งแรกก็รู้ละว่าเป็นตัวอะไร...เป็นลูกเม่นที่เพิ่งเกิดจ้า...ไม่ใช่ลูกแมวนะ...คริ คริ


โดย: นางเดินทัก IP: 222.123.100.250 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:21:07:31 น.  

 
นั่นอะจิ คุณพี่นางฯคนสวย นู๋อบก็คริดคริดอยู่ว่าจาเป็นลูกเม่นอ๊ะป่าว แต่ไม่เคยเห็นน่ะ นึกว่าอาจมีการตัดต่อ ตกแต่ง ต่อเติม

ดูคล้ายๆลูกหนู อยู่ในเปลือกเงาะ (ที่ยังไม่แก่) นะคะ

ชอบเรื่องนายบุญหลายจัง

พี่ลิงไปประเทศอะไรคะ ต่างกันหกชั่วโมง อากาศดีไหมคะ รักษาสุขภาพนะคะ

พี่อรก็เพลิดเพลินกะไม้หอม ว่างๆ ลองทำ เค้าเรียกอะไรนะ ที่เป็นดอกไม้แห้งๆ ใส่ถุงผ้าหอมๆน่ะค่ะ

เผื่อเป็นของขวัญปีใหม่แจกคนใกล้ชิด (แถวๆนี้) ไงคะ . . อิอิ . .

^_^


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.159 วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:9:30:28 น.  

 
นายหน้าค้าหุ้นทิ้งตลาดวอลล์สตรีทไปบวชเป็นพระ

นิวยอร์ก 6 ต.ค.-นายหน้าค้าหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทคนหนึ่งตัดสินใจละทิ้งอาชีพเดิมที่ทำอยู่ แล้วหนีความวุ่นวายจากย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก ไปใช้ชีวิตอย่างสงบโดยการบวชเป็นพระคริสต์ในบัลแกเรีย

นายหน้าค้าหุ้นรายนี้มีชื่อว่า นายฮริสโต มิชคอฟ วัย 32 ปี เขาทำงานอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์แนสแดค ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต จึงตัดสินใจละทิ้งมหานครอันศิวิไลซ์ กลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดที่ประเทศบัลแกเรีย

หนังสือพิมพ์ เดลี เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า นายมิชคอฟบวชเป็นพระที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งห่างจากกรุงโซเฟียไปทางตะวันตกประมาณ 48 กิโลเมตร หลังบวชเป็นพระแล้ว ชุดสูทและรองเท้าหนังอย่างดีจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป

นายมิชคอฟ บอกว่า ความละโมบโลภมากของนักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทและที่เมืองใหญ่แห่งอื่นของโลก ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติการเงินขึ้น จึงสมควรแล้วที่คนพวกนี้จะได้รับบทเรียนจากการล้มละลายของธนาคารและสถาบันการเงิน เพื่อเอาไว้สอนใจตัวเองให้ดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น

เพื่อน ๆ ในวงการต่างตื่นตกใจเมื่อรู้ข่าวว่า นายมิชคอฟตัดสินใจไปบวชเป็นพระ แต่เขายืนยันจะใฝ่หาความสงบในทางศาสนา มากกว่าใฝ่หาความมั่งคั่งทางวัตถุ เขายังกล่าวทิ้งท้ายได้อย่างน่าคิดว่า ความไม่สมดุลบนโลกเกิดจากคนกลุ่มหนึ่งบริโภคทรัพยากรมากเกินความพอดี ส่งผลให้คนอีกกลุ่มต้องถูกทอดทิ้งให้อดอยาก.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-10-06 16:09:42


โดย: นู๋อบค่ะ (แม่อบ ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:04:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ...คุณนางฯ นู๋อบ พี่ลิง คุณมุ่งฯ และทุก ๆ ท่าน




คิคิ ... คนเอวบางอย่างเจ้าบ้าน ความรู้รอบเอวก็ต้องน้อยไปด้วยเป็นทำ-มะ-ดา ค่า

อิอิ ...แต่ที่ขำกว่าก็คือ คุณนางฯ กลายเป็นคนสวยของนู๋อบไปซะแระ อย่างเจ้าบ้านคงเป็นสาวหล่ออะจิ ...ช่ายป่ะนู๋อบ

ก็เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ไปวัดกับน้องที่ไปด้วยกันประจำ ... จู่ ๆ ก็ทักว่าเจ้าบ้านหล่ออ่ะ 555

พี่ลิงจ๋า ...แวะมาบ่อย ๆ หน่อยน้า เล่าไรต่อไรให้ฟัง สนุกและได้ข้อคิดดี ๆ อยู่เรื่อย ๆ ค่ะ

พี่อร ... คงได้ไอเดียกิ๊บเก๋จากนู๋อบ เก็บดอกไม้หอม ๆ รอบ ๆ บ้าน มาทำบุหงารำไป (เรียกถูกป่าวหวา) เป็นของขวัญปีใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้อ่ะนะ ..

สมัยเจ้าบ้านยังวัยละอ่อน คน (เคย) รู้ใจ ชอบให้ดอกไม้สวย ๆ เป็นประจำทุกอาทิตย์ เวลาได้มาก็ชื่นชมดมหอมจนเฉาไป และก็เก็บตากแห้ง สะสมไว้จนพอที่จะทำบุหงารำไปได้ ...คริ คริ แต่ทำแล้วไฉนต้องทิ้งไปหมดก็ม่ายรู้เหมือนกันอ่ะค่ะ

ถ้าพี่อรทำสำเร็จ นู๋กาขอนุยาดชื่นชมด้วยคนนะคะ




ขอขอบคุณทุก ๆ การมาเยี่ยมเยียน ของทุก ๆ ท่านนะคะ ...ดูแลสุขภาพกันด้วยค่ะ


โดย: สาวิกา วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:09:08 น.  

 
ติดตามสารพันข่าวได้ที่นี่ค่ะ

//board.palungjit.com/showthread.php?t=3906&page=626


โดย: นู๋อบค่ะ (แม่อบ ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:18:21 น.  

 
เรือชายชมมิ่งไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ
เพล็ดดอกออกแกมกัน ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร

ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสล้มแย้มเกสร
คิดความยามบังอร แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม

จำปาหนาแน่นเนื่อง คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม
คิดคะนึงถึงนงราม ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง

ประยงค์ทรงพวงร้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง
เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม

พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุกรม
หอมชวยรวยตามลม เหมือนกลิ่นน้องต้องติดใจ

สาวหยุดพุทธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป
นึกน้องกรองมาลัย วางให้พี่ข้างที่นอน

พิกุลบุนนาคบาน กลิ่นหอมหวานซ่านขจร
แม้นนุชสุดสายสมร เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย

เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย
หอมอยู่ไม่รู้หาย คล้ายกลิ่นผ้าเจ้าตาตรู

มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเป็นพวงร่วงเรณู
หอมมาน่าเอ็นดู ชูชื่นจิตคิดวนิดา

ลำดวนหวนหอมตรลบ กลิ่นอายอบสบนาสา
นึกถวิลกลิ่นบุหงา รำไปเจ้าเศร้าถึงนาง

รวยรินกลิ่นรำเพย คิดพี่เคยเชยกลิ่นปราง
นั่งแนบแอบเอวบาง ห่อนแหห่างว่างเว้นวัน

ชมดวงพวงมาลี ศรีเสาวภาคย์หลากหลายพรรณ
วนิดามาด้วยกัน จะอ้อนพี่ชี้ชมเชย

//www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=93712&page=2


เอาวิธีทำบุหงาสด บุหงาแห้งมาฝากค่ะ

//www.pm.ac.th/ebook/pdf/bu.pdf


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.123 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:11:14:53 น.  

 
วันก่อนคุณแม่มาขึ้นรถ ก็เอาดอกไม้หอมมาด้วย อบก็เอาไปวางไว้หน้า console หอมอยู่หลายวัน แล้วก็แห้งสนิทดีด้วยค่ะ

เป็นการชื่นชมทั้งตอนสดและตอนแห้ง และทำให้รถหอมด้วยค่ะ

เผื่อเป็นไอเดียค่ะ



โดย: นู๋อบค่ะ (แม่อบ ) วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:11:27:50 น.  

 


สวัสดีจ้า...นู๋อบ และทุกท่าน

คิคิ ... ขำนู๋อบ มีวิธีทำบุหงาฯ มาฝากพี่อรด้วย แต่มะรู้พี่อรจะสนใจอะป่าวอะจิ

เพราะตอนนี้พี่อรกำลังมีความสุข (หรือจะทุกข์หวา) กับการดูแลไม้ดอก ไม้ใบ ไม้หอม นานาสารพัด

แค่คิดก็มีความสุขด้วยทุกทีสิน่า




โดย: สาวิกา วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:14:20:03 น.  

 






โดย: สาวิกา วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:14:21:16 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ


คิดถึงคนที่ชอบจิบชา กาแฟ กับ บราวนี่อะค่ะ
ที่นี่ มีแต่ของอร่อย ๆ
น้ำหนักที่ลดลงมา 6 กิโล คงจะดีดสปริงขึ้นเป็นแน่ ฮือๆๆ
เพราะพี่ชอบพาไปทานของอาหร่อยๆค่ะ
แถม มื้อเย็น ค่ำอีกตังหาก

ที่นี่ ลอนดอนจ้ะ นู๋อบ
อาหารญี่ปุ่นและจีนอร่อยมาก
ห้างต่างๆ ก็มีของมาก กิเลสกำเริบขึ้นมานิ๊ดดนึง
แบบว่า วันละนิ๊ดดด กว่าจะกลับคงจะหลายนิ๊ดดดล่ะค่ะ

ในห้างมีเครื่องสำอางเยอะมากกกก
มีแบรนเนม.. เต็มไปหมดค่ะ
แต่ยายลิงชอบแต่งตัวเซอร์ ๆ แบบว่าสบายมากๆ
พอพิมพ์ๆอยู่ พี่มักจะเรียก ทำให้สะดุดขัดจังหวะหลายครั้ง
ก็เลยยกเลิกไปเลยค่ะ นี่ก็โดนเรียกให้ไปทานข้าวกลางวันเป็นเพื่อนอีกแล้ว
ให้แต่งตัวสวยๆ เรามีแต่ ซวยๆ เซอร์ๆอะค่ะ

ขำพวกพี่ๆ เขาพยายามจะจับคู่ให้เพื่อนๆรวมทั้งเราที่เพิ่งจะโสดซิงๆอีกด้วยค่ะ
เพื่อนพี่ๆมีแต่คนรวย พ่อหม้าย ระดับชาติ..
ใครเห็นเป็นต้องรู้จักค่ะ

เข้าห้องแชทต่อนะคะ ยายลิงมักจะไปแขวนไว้ค่ะ
เมื่อวานหลังจากทักทายกับคุณย่าอักฯ ยายลิงก็ออกไปทั้งวันค่ะ
กลับเข้ามาก็ค่ำๆของที่นี่ ตีหนึ่งตีสองของเมืองไทย
แต่วันนี้ พี่ๆจะกลับบ้านนอกเมือง เราได้อยู่คนเดียว..สบายๆอีกแล้วค่ะ


โดย: ลิง IP: 81.159.28.58 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:16:07:28 น.  

 

มาเขียนก่อนนอนค่ะ
ตอนนี้สามทุ่มเศษ ก็ตีสามกว่าบ้านเรา..

วันนี้ ออกไปเกือบจะทั้งวันค่ะ
ตอนทานอาหารจีนที่โรงแรม ได้บรรยากาศอีกแบบนึง..
ในความรู้สึก เห็นคนรวยคุยกัน แล้วเราก็มานึกพิจารณาตัวเราเองค่ะ
..ว่า เราคงจะทำทานมาน้อย จึงพอมีพอใช้แค่นี้

ความรู้สึกหนึ่งก็คือ รู้สึกโชคดี ที่ได้มาอยู่ในบรรยากาศนี้..
ได้ประสบการณ์ที่น้อยคนจะได้สัมผัส
อีกความรู้สึก ก็คือ รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าเสียเหลือเกินค่ะ
แต่ การที่พอจะมีธรรมะ เข้าใจในหลักธรรม..
ทำให้มองเห็นทุกอย่างเป็นบุญเป็นกรรมไปหมดค่ะ

ราตรีสวัสดิ์นะคะ พิมพ์แล้วก็ลบ จนเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ง่วงแล้วค่ะ


โดย: ลิง IP: 81.159.28.58 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:3:53:15 น.  

 

สวัสดีค่ะ ...พี่ลิง และทุกท่าน

ขอบคุณพี่ลิงนะคะ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนกัน ถึงห่างกัน แต่ดูไม่ห่างไกลเลย ...สามทุ่มในกทม. ยังหัวค่ำอยู่เลยอ่ะเนอะ

ไกล หรือใกล้ไม่สำคัญ หากใจยังคิดถึงกันอยู่ นู๋กาเคยมีคนอยู่ไกล เหมือนอยู่ใกล้ คิดถึงยามใด ใจก็เป็นสุขทู้กที

เดี๋ยวนี้ใครจะอยู่ไกล หรืออยู่ใกล้ ก็ไม่สำคัญแล้วค่ะ ใจสามารถมีความสุขสงบได้ด้วยตนเอง ...ใจเริ่มผูกติดกับผู้อื่นน้อยลง ๆ ทุกที ... เห็นความสลดสังเวชในสังสารวัฎฎ์นี้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน



โลกของความสุข อยู่ในมือของเราเองค่ะ ... ยิ้ม ๆ กันไว้นะคะ


โดย: สาวิกา วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:11:44:06 น.  

 
ซาหวัดดีค่ะ _/|\\_


เด๋วต้องออกไปทานอาหารกลางวันกับพี่และเพื่อนพี่อีกแล้วค่ะ
ชีวิตที่เคยเรียบง่ายและการที่ไม่ชอบออกงานสังคมเจอผู้คนจำต้องเปลี่ยนไป..

บางคนอาจจะชอบ ได้เจอใครต่อใครมากมายระดับ ไฮเอ็น..
แต่สำหรับเรา เหมือนกับเป็นกา..หลงอยู่ในฝูงหงส์ยังไงยังงั้นเลยค่ะ

ไม่มีใครคุยด้วยเลย เมื่อไม่มีใครอยากคุย ก็คงจะขอยุติเพียงแค่นี้ค่ะ _/|\\_


โดย: ลิง IP: 81.159.28.58 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:15:27:06 น.  

 
**
บางคนอาจจะชอบ ได้เจอใครต่อใครมากมายระดับ ไฮเอ็น..
**

หุหุ..กลุ่มคนพวกนี้..ดูแล้วน่าปวดหัวนะคะ
บางทีก้อน่าขำค่ะ
แต่ก้ออีกนั่นแหละค่ะ..เรามองเค้าแบบนั้น..
เค้าก้อคงมองเรา..อิอิ..ยังไงดีอ่ะคะ 555+

สวัสดีคุณยายลิงค่ะ _/|\\_

ที่ลอนดอนเป็นไงบ้างคะ..
บ้านเมืองเค้าวุ่นวายไหมคะ รวมถึงเศรษฐกิจด้วย..

มองๆ ดู..
มีแต่ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์กันจังเลยค่ะ..
หุหุ..ผลประโยชน์ใครกันน้ออออ

:-)


โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:15:35:06 น.  

 
อยากโพสต์รูปดอกไม้..ฝากคุณยายลิงนะคะ

อิอิ.. เจ้าแม่จ๋า..โพสต์ให้หน่อยจิ..:-)



โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:15:38:05 น.  

 

ซาหวัดดีจ้ะ นู๋เวลา นู๋กา..

ชีวิตผู้คนที่นี่ ก็คึกคักดี มีผู้คนเดินตามห้างตามท้องถนนมากมายจ้ะ
ชีวิตคงไม่ลำบาก ถ้าทำตัวตามฐานะ อยู่ในสังคมที่เรา belong นะ
แต่ที่ยายลิงลำบากใจ ก็คือ เราไม่ belong งัยจ๊ะ
และพี่ก็ชอบแนะนำว่าเป็นญาติ เป็นน้องเคยอยู่เมกาตั้งแต่เด็ก..
ไม่ได้บอกว่า เป็น ญาติจนๆ หุหุ
ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด หรือมองการแต่งตัวของเราค่ะ

คนรวย เค้าแค่มองการแต่งตัวก็จะรู้นะ โดยเฉพาะคนไทย
แต่ฝรั่ง ง่ายๆ สบายๆ ค่ะ

กิน กาม เกียรติ .. คนที่ไหนๆก็เหมือนกันนะ
แต่คนไทยจะยึดติดอยู่ใน เกียรติ เยอะมากๆๆๆ

ของยายลิง พยายาม กินน้อย เพราะ กลัวอ้วน อิอิ
กาม.. ก็อยากได้กระเป๋า อยากสวยงาม แต่ปัจจัยไม่อำนวยค่ะ อิอิ
ส่วน เกียรติ.. ไม่มีให้ต้องแบก เบาสบาย แต่จำต้องรักษาหน้าพี่ไว้บ้าง อิอิ


โดย: ลิง IP: 81.159.28.58 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:16:01:16 น.  

 
อืมม..การใช้ชีวิตตามความต้องการของคนอื่น..
ตามกระแสสังคม..เป็นเรื่องน่าฝืนใจนะคะ..
คนเรา..มักไหลตามกระแส(โลก)ไปเรื่อยๆ ค่ะ
บ้างรู้ตัว..แต่โดยมากไม่รู้ตัว
ส่วนที่รู้ตัว..ก็ยังคงตามๆ ต้านๆ อิอิ..ตามสภาวะความอยากของจิตใจ 555+
แต่..อย่างน้อย..ก็ยังดีกว่า..ปล่อยตัวปล่อยใจ..ไหลตามไปโดยไม่ทำอะไรเลย..นะคะ

คนเรานี่..มีเรื่องให้ต้องรักษาเยอะจังนะคะ..
รักษาใจตัวยังไม่พอ..
ต้องห่วง รักษาหน้าคนอื่น..ด้วยสถานภาพทางสังคม หรือ ความสัมพันธ์บางประการ)..
ตัวแปรเยอะค่ะ..

:-)


โดย: ..เวลา.. IP: 58.181.136.90 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:16:27:58 น.  

 
มาช่วยคุณยายลิงคุย ถ้าไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรครับ

คือคำถามที่เคยถามเกี่ยวกับพระว่า หลวงปู่ที่คุณยายลิงเคยกล่าวถึงว่านับถือ ท่านคือใครนะครับ

ถามแค่นี้ครับ
เพราะคงมีท่านอื่นมาชวนคุยอยู่แล้วครับ

ว่างๆจะนำเรื่องราวมาเล่าให้ทุกท่านฟังอีกครับ ตอนนี้คอมพ์ฯที่โตะรวนอยู่ครับ เลยเข้ามาไม่ได้บ่อยๆครับ

บุญรักษาทุกท่านครับ



โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:20:40:07 น.  

 
ฟ้าผ่า! อุโบสถ"วัดทุ่งศรีเมือง" วัดคู่บ้านคู่เมืองอุบลฯ



ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อ เวลา14.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ว่า ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าที่บริเวณพระอุโบสถภายในวัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จากการตรวจสอบพบว่า ฟ้าผ่าที่บริเวณหลังคาพระอุโบสถ ทำให้กระเบื้องหลังคาแตกหัก และเศษกระจกหลุดแตกกระจาย ขณะที่พระและเณรในวัดได้ช่วยกันเก็บทำความสะอาด โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถามพระครูสังฆรักษ์ จันดี พระลูกวัดกล่าวว่า ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าขึ้น จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมา ซึ่งในเบื้องต้นเทศบาลนครอุบลราชธานีได้เข้ามาตสวจสอบความเสียหายไปข้างแล้ว ซึ่งพบว่า ฟ้าผ่าที่บริเวณหลังคา ทำให้เกิดไฟไหม้รังนกที่ทำรังอยู่ในซอกหลืบของพระอุโบสถ แต่โชคดีที่พระ เณร ในวัด ช่วยกันดับไฟได้ทัน อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการตรวจสอบความเสียหายภายในพระอุโบสถอีกครั้งว่า มีอะไรเสียหายไปบ้าง

ส่วนการเกิดฟ้าผ่าในครั้งนี้พระครูสังฆรักษ์ กล่าวว่า วัดทุ่งศรีเมืองเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นบางคนอาจคิดว่าเป็นอาเพศ หรือสิ่งไม่ดีแก่บ้านเมือง ซึ่งแล้วแต่มุมมองของคน แต่ถ้าเราคิดว่าดี ก็จะเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งที่วัดทุ่งศรีเมืองได้เกิดเหตุฟ้าผ่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ในปี 2543 แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย



-----------
ที่มา:
//www.matichon.co.th/news_detai...id=03&catid=19

//board.palungjit.com/showthread.php?p=1564992#post1564992


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:21:52:38 น.  

 
สุขสันต์วันศุกร์ครับ

มาสวัสดีวันศุกร์ทุกท่านครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:12:06:22 น.  

 
สวัสดีค่ะ _/|\\_


เช้านี้ อากาศดีค่ะ
แต่งานที่ทำไม่แน่นอน เปลี่ยนไปตามคิวนัดหมายของพี่..
ทำให้เห็นความไม่เที่ยงอยู่เรื่อย ๆค่ะ
คนขี้กลัว ขี้วิตกกังวลอย่างเรา ก็เลยต้องนั่งลุ้นอยู่ตลอดเวลาค่ะ เฮ้อ..


คุณมุ่งฯคะ ยายลิงไม่ทราบหรอกค่ะว่า หลวงปู่ท่านใด..
ความที่คนโน้นบอกอย่าง คนนี้บอกอีกอย่าง
ทำให้ไม่กล้า ฟันธง.. เป็นความเชื่อส่วนตัวค่ะ
ว่ามีหลวงปู่และเหล่าเทพฯพิทักษ์รักษาอยู่..


เดิมเคยขอพรหลวงปู่เคน..ค่ะ ศิษย์หลวงปู่ลุน เคยมีตะกรุดของท่าน
ตอนหลัง เกิดความไม่แน่ใจว่า องค์ไหนก็เลยขอพรแบบกว้าง ๆค่ะ
ขอพรหลวงปู่.. ที่มีกรรมสัมพันธ์กับยายลิงค่ะ _/|\\_


คนเรามีความเชื่อส่วนตัวนะคะ
บางที ไม่ต้องให้ใครบอก เราก็พอจะรู้ แต่หากมีใครมายืนยันอีกทีก็จะเชื่อมั่นมากขึ้นค่ะ

ยายลิงเคยเล่าไว้ว่า มองเห็น เมขลาเป็นเส้นสาย..ลอยไปมาอยู่ในอากาศ..
พระอาจารย์ติ๊ก อ.อุทัย..และคุณตุลย์บอกว่าเป็นเหล่าเทพ..
..เทวดาที่มีกรรมสัมพันธ์ตามเราอยู่ค่ะ เกี่ยวเนื่องกับพี่ชายด้วย

ความจริง เราคิดว่า เราตามพี่สาวมาเกิดมากกว่าพี่ช.ค่ะ
เพราะเป็นญาติทางด้านพี่สาวนะ ก็เลยงงๆค่ะ

แต่.. ความที่เราเห็นทุกข์เร็ว และไม่ประสบความสำเร็จทางโลกนัก
ทำให้หันมาทางธรรมค่ะ แต่พี่เราประสบความสำเร็จทางโลก ก็เลยมุ่งทางโลกมากกว่า..

เราก็เลยได้เห็นข้อเปรียบเทียบและเห็นอะไรมากมายค่ะ
ทำให้ได้คิดและพิจารณา ความจริงโลกและธรรมอาศัยซึ่งกันและกัน

เราโชคดีตรงนี้ค่ะ ตรงที่เราเห็นแล้วไม่หวั่นไหว..
มองเห็น ทุกข์ ตัวเบ้อเริ่มอีกตังหากค่ะ
ยิ่งมี ยิ่งทุกข์ เพราะต้องยิ่งรักษานะคะ
มีมาก ทุกข์มากจริง ๆ ขนาดเรามีน้อย ยังคอยห่วง คอยพะวงเลยค่ะ กลัวหมด อิอิ

ไปแล้ว มีนัดทานข้าวเที่ยงอีกแล้วค่ะ
ที่นี่มีของสวยงามมากมาย อยากซื้อ แต่อยากไปใช้ที่เมืองไทยค่ะ
อยู่ที่นี่ แต่งตัวอย่างไรก็ได้ แนวเซอร์ๆ จะออกเท่ห์ ๆ แบบว่า เข้าข้างตัวเองค่ะ

ส่วนมาก ทานเสร็จจะเดินช้อปต่อค่ะ เป็นงานที่ชอบตรงนี้แหละค่ะ
แต่ไม่มีปัญญาซื้อ เพราะของแพงมาก..
ต้องบอกกับตัวเองว่าจะต้องเก็บเงินค่ะ
กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำทุกวัน ที่เมืองไทยเป็นตีหนึ่ง ตีสองแล้วค่ะ


โดย: ลิง IP: 81.159.28.58 วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:16:05:47 น.  

 
สาธุครับคุณยายลิง
เลยได้ประสบการณ์ที่อ้งกฤษ ประดับปัญญาด้วยอีกครับ ผมก็เข้ามาอ่านเป็นระยะอยู่ครับ
ติดที่เครื่องมันรวนนะครับ อาจเข้ามาไม่ได้บ่อยครับ

ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:21:38:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ ...พี่ลิง คุณมุ่งฯ และทุกท่าน

ขอบคุณพี่ลิงค่ะ ที่มาฝากตัวอักษร เล่าเรื่องราว ข่าวคราว บรรยากาศการใช้ชีวิตที่โน่นให้ฟัง ...

เผลอแป๊บ ๆ เดียว ก็จะถึงวันออกพรรษาแล้ว พระลูกชายใกล้จะลาสิกขาแล้วค่ะ ครูอาจารย์ท่านให้ใช้ฤกษ์สะดวก ...

ต่อไป วัดหนองเลง คงเป็นเรือนนอนในช่วงวันหยุด เพราะเจ้าบ้าน และพลพรรคไปยึดหัวหาดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตั้งแต่วันพฤหัส นู๋อบกับคุณแม่ ก็ไปอาศัยวัดหนองเลงเป็นเรือนนอนเช่นกัน กลับสาย ๆ วันอาทิตย์ ขออนุโมทนาด้วยจ้า


โดย: สาวิกา วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:19:03:15 น.  

 
กระแสลม 4 สาย เป็นเรื่องราวที่มีความหมายดีมาก อ่านแล้วทำให้มีแง่คิด มุมมองการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ...มีเรื่องอะไรก็แชร์กันอักด้วยนะครับ...เออ ผมลืมถามไปว่าบอกวิธีการทำแบบตอบกระทู้หน่อยครับ...ที่ E-mail tanakorn.pojit@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ


โดย: อ.ทอม IP: 115.67.223.146 วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:19:07:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.