สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
28 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
"Journey is ...."


ไม่ว่าจะไปที่ไหน
ใกล้ หรือ ไกล นั้นไม่สำคัญ
แค่เราเปิดตา และใจให้กว้าง พร้อมรับประสบการณ์
เมื่อนั้น "การเดินทาง" ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว



Photobucket>




"The Journey of a thousand miles
begins with one step"


"การเดินทางนับพันไมล์
เริ่มต้นด้วยก้าวเล็ก ๆ เพียงก้าวเดียว"


.. เล่าจื้อ...


Photobucket>


Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 1 มีนาคม 2552 14:11:46 น. 49 comments
Counter : 1185 Pageviews.

 
Photobucket>



มีคน (แอบ) บ่นให้ได้ยินว่า
เอนทรีที่แล้ว เม้นท์ยาวเหยียด
ไม่ขึ้นหน้าใหม่ให้สักที

วันนี้จัดให้แล้ว
จะมาลงชื่อแสดงตัวหรือป่าวน้อ?

ไม่ง้าน...
จะยกบล็อกนี้ให้เป็นแกลลอรี่น้องหมิง หมิงซ้าที
จะดีมั๊ยคะ? พ่อ ก.ก๋า



โดย: สาวิกา วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:22:27 น.  

 
..

การเดินทาง
กำลังจะเริ่มต้นแล้ว..จริงๆค่ะ


โดย: ระเบียงดอกไม้ IP: 125.24.70.189 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:43:58 น.  

 
ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน

คิดอยู่ว่าจะลงความเห็นนี้ ก็ไม่ทันคุณสาวิกาขึ้นหัวข้อกระทู้ใหม่ เสียดายเลยตามเอามาลง กระทู้นี้ด้วยครับ

อ้างอิง***ความดี


การทำดีนั้น
"ทำยาก และเห็นผลช้า"
แต่ก็จำเป็นต้องทำ***

หาโอกาสสร้างบารมีคร้าบบบ

ข้อความข้างบน ทำให้ผมนึกถึงสาเหตุที่องค์พระโพธิสัตว์ต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา6ปีก่อนตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะเพียงแค่ในอดีตชาติเกิดความคิดขึ้นมานิดเดียวในทำนองว่า
การตรัสรู้ธรรมเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้า
ยาก

ผมจึงใคร่เสนอแนวความคิดว่า
"การทำดีนั้นง่าย และเกิดเป็นความดีทันทีในตัวเองที่ทำแล้ว
เมื่อปัจจัยทางธรรมต่างๆนั้นลงตัว(ให้ทำดี)"

"ในทำนองเดียวกันการบ่มบารมีบำเพ็ญพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นกัน ก็สามารถเป็นไปได้โดยง่ายหากเมื่อปัจจัยและเหตุลงตัวโดยธรรม"

ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยปัจจัยให้ ข้าพระพุทธเจ้าบำเพ็ญพระพุทธการกธรรม ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณได้โดยเลิศ ปราณีต ประเสริฐดีงาม
พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ สัมปติจฉามิๆๆ
สิทธมัตถุๆๆ

ผิดพลาดพลั้งไปขออภัยขมาครับ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 58.9.122.118 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:1:23:51 น.  

 
สวัสดีครับพี่

ผมคิดว่าถ้าเรานำคำสอนของเต๋ามาศึกษาดีดี
จะพบว่าหลักการทั้งเต๋า เซน และพุทธธนั้น
กลมกลืนกันเป็นอย่างยิ่งเลยครับ






โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:20:53:35 น.  

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกๆท่าน



การเดินทางที่แท้จริงนั้น...

คือ...การเดินทางในสังสารวัฏฏ์...

ซึ่งเป็นการเดินทางที่ยาวนาน...

กว่าจะผ่านพ้นจนถึงจุดหมาย...



การเรียนรู้ศาสตร์ใด ๆ ในโลก...

สู้...

การเรียนรู้ภายในใจตนไม่ได้...



โดย: นางเดินทัก IP: 114.128.66.163 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:21:27:07 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:8:11:43 น.  

 
***"Journey is ...."


ไม่ว่าจะไปที่ไหน
ใกล้ หรือ ไกล นั้นไม่สำคัญ
แค่เราเปิดตา และใจให้กว้าง พร้อมรับประสบการณ์
เมื่อนั้น "การเดินทาง" ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
***




ใจ...

สั้น...นิดเดียว

คร้าบบบ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 58.9.120.170 วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:23:47:09 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:8:27:13 น.  

 
หมิง..หมิง
เช็ดน้ำลาย หน่อยนะ...ก๊าบ
เปื้อนเสื้อแย้ว



โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:16:08:58 น.  

 




ประกาศข่าวงานบุญโดย
พระสมรัก ญาณธีโร 0862602702
//www.phrasomrak.com
//www.romdham.com
//www.subbhadham.com

ปล.สามารถนำข่าวงานบุญไปประชาสัมพันธ์ต่อได้ และผู้ร่วมบุญสามารถขอรับซีดีนิทานธรรมชุดที่ 3 ที่จะเกิดขึ้นจากงานบุญนี้ได้ โดยลงชื่อผ่านกระทู้แห่งนี้ หรือส่งชื่อผ่านเมล์ somrak43@hotmail.com

ลิงค์ประชาสัมพันธ์
//board.palungjit.com/showthread.php?t=176920


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:16:53:59 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:8:26:06 น.  

 
ใครพบเขาเปิดกระทู้พวกนี้รบกวนช่วยกรุณาบอกปลาทีนะคะ

--------------------------------------------------------------------------------

1.เปิดรับบริจาคปัจจัยให้แก่โรงพยาบาลสงฆ์
2.ไถ่ชีวิตโคกระบือ(ไม่เอาเป็นตัวนะค่ะพอดีปัจจัยน้อย แค่ร้อยสองร้อย)
3.สร้างวัดหรือวิหาร(ที่เขายังไม่มีกำลังเพื่อที่จะพัฒานาจริงๆค่ะ เช่น วัดที่อยู่ในชนบท วัดร้างที่กำลังฟื้นฟู)
4.บ้านพักคนชรา หรือมูลนิธิคนพิการ(ทางหู-ทางตาอะไรก็ว่าไปค่ะ) หรือบ้านเด็กอ่อน ฯลฯ

ใครมีสถานที่จะแนะนำเชิญความคิดเห็นด้านล่างได้เลยค่ะ

ปลาจะได้รวบรวมไปร่วม"ประชาสัมพันธ์"และนำไปพิจารณาด้วยเจ้าค่ะ

ขออนุโทนาบุญกับทุกท่านเจ้าค่ะ


ถ้าหากในกรณีที่จะแนะนำปลารบกวนขอ
1.รายละเอียด
2.ที่ตั้ง(ที่อยู่)
3.ชื่อและเลขบัญชีเจ้าค่ะ

//board.palungjit.com/showthread.php?p=1936660#post1936660


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:21:03:06 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:11:04:49 น.  

 
ผมคุยเล่นๆกับมาดามน่ะครับพี่
ว่ามรดกอย่างเดียวที่ผมมีก็คือ หนังสือ

ถ้าหมิงหมิงไม่รักการอ่านก็ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ
ผมจะเอาหนังสือทั้งหมดบริจาคให้ห้องสมุดทันทีครับ 55555

(ทุกวันนี้ก็บริจาคอยุ่ครับ)




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:13:51:23 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:8:08:47 น.  

 
: หัวใจให้เธอ


จากชีวิตที่เหมือนไม่มีจุดหมายปลายทาง
ไม่เคยหวังไม่คิดจริงจังอะไร
ปลดปล่อยความฝันทุกท่วงทำนองตามความพอใจ
รักแค่ตัวเอง ก็สุขใจมากพอ

แต่วันนี้ เธอเข้ามาเติมสิ่งที่ดีงาม
ให้ตัวฉันเห็นโลกในมุมต่างไป
และทำให้ฉันเรียนรู้ว่ารักด้วยการให้ไป
มันจึงเป็นความสุขแท้

แค่ได้รักคนดีดี มันก็ดีจนเกินพอ
แค่ขอคอยดูแลรักเธอด้วยใจ
ก็เพียงแค่ขอเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมเธอไกลไกล
และฉันยังเต็มใจทำเพื่อเธอ
ไม่หวังอะไรตอบแทน


อยากจะย้อนชีวิตที่มันผ่านพ้นเลยไป
เพื่อแก้ไขทุกเรื่องที่เคยผ่านมา
เพิ่งจะได้รู้ ค้นพบตัวเองว่ามีคุณค่า
ก็เมื่อเวลาที่ได้มาพบเธอ
หากพรุ่งนี้ถ้าฉันและเธอจะต้องไกลกัน
อยากให้รู้ว่าฉันภูมิใจเสมอ
ที่ฝากความรัก ความฝัน
และมอบหัวใจให้เธอ เป็นคนดูแลเก็บไว้

แค่ได้รักคนดีดี มันก็ดีจนเกินพอ
แค่ขอคอยดูแลรักเธอด้วยใจ
ก็เพียงแค่ขอเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมเธอไกลไกล
และฉันยังเต็มใจทำเพื่อเธอ
ไม่หวังอะไรตอบแทน ..


โดย: .. IP: 61.91.115.82 วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:9:01:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:8:11:25 น.  

 
สวัสดีเช้าวันหยุดครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:8:05:00 น.  

 
ยินดีครับ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง
นานๆจะถ่ายภาพเข้าตากรรมการสักที
อย่าลืมไปเยี่ยมกันอีกนะครับ



โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:21:14:28 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:8:26:47 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:8:20:55 น.  

 
ประวัติพระอาจารย์มั่น
โดย มูลนิธิ พระอาจารย์ มั่น ภูริทัตโต และ กระทรวงสาธารณสุข
waroon

//audio.palungjit.com/forumdisplay.php?f=57

อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โลก ผู้มีพระคุณ ญาติมิตร มนตรีบริวาร ในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต สัตว์ในอบายทุคติ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ




"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"
"พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ"
"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:15:51:48 น.  

 
เชิญฟังเสียงธรรมะกันต่อครับ

พระธรรมเทศนา เรื่อง พระโพธิสัตว์...เมตตาบารมี
โดย พระอาจารย์อนันต์ อกิญจโน
วัดมาบจันทร์ 8/1 หมู่ 7 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง 21160

//audio.palungjit.com/showthread.php?t=2118


ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้กระผมเจริญในอภัยทานและเมตตาบารมีไม่มีประมาณได้ยิ่งๆขึ้นไปเทอญ

อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โลก ผู้มีพระคุณ ญาติมิตร มนตรีบริวาร สัมพันธชน ในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต สัตว์ในอบายทุคติ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ




"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"
"พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ"
"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"

ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:17:23:20 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:8:31:07 น.  

 
ขอเชิญญาติโยมร่วมทำบุญสร้างพระประธานหน้าตัก 99 นิ้วถวายสำนักสงฆ์สิงหเดชเตโชธรรม

--------------------------------------------------------------------------------

ขอเชิญญาติโยมสร้างพระประธานถวายสำนักสงฆ์สิงหเดชเตโชธรรม
หมู่ที่ ๙ ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พระประธานที่สร้างหน้าตัก 99 นิ้ว เป็นแบบปูนปั้นจร้า

เนื่องด้วยทางสำนักสงฆ์เองอยู่บนยอดเขาและห่างไกลตัวเมืองถึง 50 กิโลเมตร ตอนแรกอาตมาโทรไปถามพระอาจารย์ท่านแล้ว งบประมาณทั้งองค์อยู่ที่ 70,000 กว่าบาท และพอดี ตอนนี้โยมดนัยและทีมงานกำลังสร้างแม่พิมพ์องค์พระหน้าตัก 99 นิ้วพอดี เลยจะช่วยให้ประหยัดงบในการสร้างพระมากไปกว่าครึ่งนึงเลยก็ว่าได้

สรุปแล้วพระธานองค์นี้งบประมาณฉะเพาะค่าปูนหล่อทั้งองค์พระ 10,000 บาท

ส่วนค่าสีทาองค์พระยังไม่ได้สอบถาม แต่อาตมาเองได้ตั้งงบไว้แล้ว ไม่เกิน 20,000 บาท(รวมค่ารถเดินทางไปส่งพระด้วย) หากญาติโยมท่านใดที่จะร่วมบุญสร้างพระประธานถวายไว้ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ สามารถโอนปัจจัย ค่าสร้างพระประธานได้ที่บัญชีอาตมาได้เลย

สำหรับสำนักสงฆ์แห่งนี้อาตมาเองก็ได้เป็นเจ้าภาพหล่อพระศรีอารย์หน้าตัก 30 นิ้ว ถวายไว้ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ด้วย 1 องค์ ก็กะว่าจะนำไปถวายพร้อมกันเลย ทั้งพระประธานหน้าตัก 99 นิ้ว และ พระศรีอารย์หน้าตัก 30 นิ้ว

งานบุญนี้อาตมารับผิดชอบคนเดียวทั้งหมด หากไม่มีท่านใดร่วมบุญอาตมาเองจะรับเป็นเจ้าภาพทั้งองค์พระเอง แต่เห็นด้วยว่างานบุญนี้เป็นบุญใหญ่เลยนำมาบอกบุญญาติโยมด้วย จะได้สร้างบุญกุศลร่วมกัน เหอะๆๆไม่อยากรับบุญคนเดียวแต่อยากกระจายบุญมากกว่าจร้า

ญาติโยมที่จะร่วมบุญสามารถโอนปัจจัยร่วมบุญได้ที่

ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ย่อยเทสโก้ โลตัส โพธาราม
ชื่อ บัญชี พระชยภัทร อนามโย
เลขที่บัญชี 712-0042-044
บัญชี ออมทรัพย์

สอบถามโทร 084-4484480(พระชยภัทร อนามโย)

เงินทุกบาททำบุญทั้งหมดจร้า รับลองได้ เก็บก็ใช้หนี้สงฆ์ตายหล่ะงานนี้
เดี๋ยวจะเอาแบบพระมาให้ชมกันจร้า

อาตมาขออนุโมทนาบุญกับญาติโยมทุกท่านด้วยจร้า สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:21:19:53 น.  

 
//board.palungjit.com/showthread.php?t=174857


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.1.130 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:21:22:20 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:8:29:56 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องหมิง น้องหมิง
ยังยิ้มแย้ม ตาใสแจ๋ว แม้จะอากาศร้อน
โตวัน โตคืน นะคร้าบบบบ

แวะมาทักทาย บ้านนี้
เจอแต่น้อง หมิง หมิง กับ คุณมั่ง
เจ้าบ้าน มิรุ ไปหลบร้อน อยู่ ที่ใด
สว. กิ๊ดดดด ถึงจ้ะ
หลายวันก่อนได้รับ message
แต่พอดี กำลังทำหน้าที่ อยู่ที่ขอนแก่น
เลยไม่ได้มาร่วมวงเสวนา

เว็บ ลานธรรม ป่วยนานจัง คราวนี้
ใครรู้ความคืบหน้า แจ้งให้ทราบบ้างก็ดี





โดย: โอรัช IP: 203.157.48.252 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:10:38:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ...พี่อร พ่อ.ก.ก่า คุณมุ่งฯ และทุก ๆ ท่าน

ขออนุโมทนาในกุศลทั้งหลายทั้งปวงของคุณมุ่งฯ และทุกท่านด้วยนะคะ

เจ้าบ้านไม่ได้หลบลมร้อนไปอยู่ที่ไหนค่ะ พี่อร ...

ลานธรรมใกล้หายป่วยแล้ว...ได้ข่าวว่า วันสองวันนี้จะใช้ได้แล้วค่ะ ...ไม่มีลานธรรม ก้อยังมีที่อื่นอีกมากมายนะคะ...พี่อร


โดย: สาวิกา IP: 124.120.141.153 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:12:34:41 น.  

 
อาโย๋ ไม่ได้มานานเลยค่ะ

ช่วงนี้ยุ่งมากๆๆๆค่ะ

และก็ยังไม่หายยุ่งซักกะทีเลยค่ะ

ช่วงก่อนเครื่องโดนไวรัสลงอะค่ะ

เลยต้อง format เครื่องใหม่

อะไรๆ ก็หายไปเยอะเลยค่ะ

รวมทั้ง url ต่างๆ ที่เก็บไว้ใน favorite ด้วยอะค่ะ

พี่อรขา

อนุโมทนาสาธุนะคะ

ได้รับเงินโอนมาร่วมบุญทอดผ้าป่าแล้วค่ะ

สาธุค่ะ

ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีเงินใช้ไม่ขาดมือนะคะ


โดย: นู๋อบค่ะ IP: 58.10.80.164 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:13:56:30 น.  

 


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:24:11 น.  

 
ไหนๆมาเยี่ยมแล้ว ก็จะมาเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง และมาบอกบุญด้วยนะคะ

อยู่มาวันหนึ่งปีที่แล้วนี่เอง

ก็มีคนที่เช่าบ้านอยู่ที่เชียงใหม่มาหาแม่

บอกว่าจะพาแม่ไปเที่ยว

แล้วก็พาไปแถวๆถ้ำเชียงดาว

ไปพบพระอาจารย์ท่านหนึ่ง

ท่านบอกว่าในอดีตชาติท่านเป็นลูกของสมเด็จท่าน (โปรดใช้วิจารณญาณ)

แล้วท่านก็เล่าเรื่องราวหลายเรื่อง

เท่าที่แม่อบจำมาเล่า และอบจำมาอีกทีหนึ่ง (โปรดใช้วิจารณญาณ อีกแล้ว . . .)

ท่านบอกว่าเมื่อก่อนท่านธุดงค์ไปทั่ว

ไม่ได้คิดอยากอยู่ที่ไหนเป็นหลักแหล่ง

อยู่มาวันหนึ่งท่านก็ธุดงค์มาแถวนี้ (แถวๆนั้น ใกล้ถ้ำเชียงดาว)

ก็มีชายสองคนเอาพระพุทธรูปมาถวายท่าน

ท่านบอกประมาณว่า ท่านเป็นพระธุดงค์ ท่านธุดงค์ไปเรื่อยๆ ท่านรับพระพุทธรูปไม่ได้หรอก

ชายสองคนก็ยืนยันว่าต้องรับให้ได้

เขาสองคนมาจากกาญจนบุรี

ได้รับคำสั่งจากสมเด็จท่านให้นำพระมาถวาย

โดยให้มารอที่นี่ พอเจอพระมาก็ให้ถวาย

นี่เขาก็เจอแล้ว จักต้องถวายให้ได้ตามคำสั่ง

ท่านก็ยืนยันอีกว่าท่านจักรับได้อย่างไร ก็ในเมื่อท่านก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ และท่านไม่ได้มีวัดเป็นหลักแหล่ง ท่านเพียงธุดงค์ผ่านมา แล้วท่านก็กำลังจะธุดงค์ต่อไป

ชายสองคนนั้นก็บอกว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องวัด เดี๋ยวเขาจะมาช่วยสร้างให้เอง

แล้วก็ แล้วก็ แล้วก็ . . .

อบจำรายละเอียดไม่ได้น่ะค่ะ

แต่สรุปว่า หลังจากวันนั้นท่านก็ถูกปักหมุดอยุ่ที่นั่นไม่ได้ไปไหนอีกเลยจนทุกวันนี้

มีคนมาสร้างวัดให้เสร็จสรรพ

ใครมาก็บอกว่าสมเด็จฯสั่งให้มาค่ะ


ทีนี้มีอีก

อยู่มาวันหนึ่งก็มีคนมาบอกหลวงพ่อว่าให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดศรีสามรัก

หลวงพ่อก็งงค่ะ ว่ามายังไง อยุ่ดีๆมาสั่งให้หลวงพ่อเปลี่ยนชื่อวัด

เขาบอกว่าสมเด็จสั่งมา

ศรีสามรัก หมายถึง สามพี่น้องค่ะ




วันนึงก็มีโยมผู้หญิงสองคนที่หาหลวงพ่อท่าน

ท่านก็รู้สึกว่าอยากกราบผู้หญิงสองคนนี้เหลือเกิน

ใจก็พิจารณาดูว่าทำไมเราซึ่งเป็นพระนี้ จึงอยากกราบผู้หญิงสองคนนี้เหลือเกิน

แต่ทำไม่ได้เพราะเป็นพระ

ท่านก็พิจารณาพบว่า

ผู้หญิงสองท่านนี้เป็นแม่ในอดีตชาติของท่านนั่นเอง

คือท่านเป็นเจ้าหญิงสองพี่น้องจากเมืองหนึ่ง (อบจำไม่ได้) ซึ่งถวายพระนเรศมา

องค์พี่ไม่มีลูก แต่องค์น้องมีลูก ก็คือหลวงพ่อในอดีต

แต่องค์น้องไม่ได้เลี้ยง เป็นองค์พี่ที่เลี้ยงท่านขึ้นมา

ทั้งสองท่านจึงเป็นเหมือนดั่งแม่ของท่านนั่นเอง

ทั้งสองท่านในปัจจุบันนี้ เป็นคนของสมเด็จพระราชินีส่งมาให้มาดูแลท่านว่าขาดเหลือสิ่งใด



หลวงพ่อท่านชื่อหลวงพ่อบัณฑิต

แม่ไปเล่าให้ท่านฟังว่าได้ไปวัดวรเชษฐ์ และได้พบหลวงพ่อสิงห์ทน

ซึ่งจบดร.ทางพุทธศาสนา จากอินเดีย

หลวงพ่อบัณฑิตท่านก็บอกว่า ท่านเองที่เป็นคนส่งหลวงพ่อสิงห์ทนไปเรียน

ทุกอย่างก็มาคลิกกันอย่างนี้เอง

คนในวงศ์วานเดียวกัน

อย่างไรก็ต้องมาเกี่ยวข้องเกื้อกูลกัน

(ควรฤาที่ใครจักอยู่เฉย)




เมื่อครั้งที่แม่ได้ขึ้นไปกราบหลวงพ่อบัณฑิตคราก่อน

คุณแม่ก็ได้พบกับบุคคลที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนพระองค์ท่าน (สมเด็จฯ)

และคราวนี้ ท่านผู้นี้ก็ได้กรุณาพาแม่ขึ้นไปกราบหลวงพ่ออีกครั้ง

ท่านผู้นี้เธอชื่อคุณแกะ เธอเป็นภรรยาของนายทหารท่านหนึ่งที่เชียงใหม่นี่เอง

เธอมีศรัทธาสร้างพระรูปหล่อแบบลอยตัวของทั้งสามพระองค์

ซึ่งคุณแม่ก็บูชามาได้เพียงพระองค์เดียวคือสมเด็จท่าน

องค์อื่นหมดเสียแล้ว

อบเองยังแอบเสียดายว่าอย่างน้อยน่าจะได้พระองค์ขาวมาอีกองค์

คุณแม่บอกว่างามมาก แต่คุณแม่ได้เก็บไว้ที่เชียงใหม่ค่ะ

ไม่ได้เอากลับมาด้วย

เดี๋ยวถ้าไปคราวนี้อาจจะมีโอกาสได้เห็นกันค่ะ

และอบก็อยากจะอัญเชิญท่านมาที่บ้านที่นี่ด้วยค่ะ





หลวงพ่อท่านต้องการฝังลูกนิมิตที่วัดศรีสามรักค่ะ

ซึ่งท่านก็ได้พยายามสะสมปัจจัย แต่ก็เหมือนจะยังไม่ถึงความพร้อมเสียที

คุณแม่ก็เกิดกุศลเจตนาด้วยศรัทธาอันแรงกล้าว่า

อยากจะจัดทอดผ้าป่าเพื่อช่วยหลวงพ่อในการฝังลูกนิมิตของวัดค่ะ

คุณแม่ก็โทรมาเล่าและปรึกษากับอบว่าจะกระทำการอย่างไร

อบก็บอกกับคุณแม่ว่า

ก็พวกเราจะขึ้นไปอยู่แล้วนี่

เหมือนสิ่งต่างๆได้ถูกจัดเรียงร้อยไว้ให้แล้ว

เพียงแค่เรามาถักทอต่อเนื่องให้เป็นเรื่องราวที่ลงตัว

จึงบอกคุณแม่ว่า

ถ้าเช่นนั้น อบจะไปเล่าเรื่องราวและแจ้งต่อเพื่อนๆในกระทู้ว่า

ในทริปนี้ เราจะร่วมบุญร่วมกุศลกัน

ในการที่จะดทอดผ้าป่าเพื่อสมทบทุนให้หลวงพ่อท่านได้ทำพิธีฝังลูกนิมิต


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:26:03 น.  

 
[IMG]//board.palungjit.com/picture.php?albumid=1503&pictureid=21934[/IMG]


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:28:40 น.  

 


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:32:03 น.  

 


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:33:10 น.  

 


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:33:56 น.  

 



พระอธิการบัณฑิต


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:35:46 น.  

 
Photobucket


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:40:57 น.  

 
Photobucket


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:42:04 น.  

 
Photobucket


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:14:42:49 น.  

 
Photobucket


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:15:28:37 น.  

 
อันนี้เป็นบัญชีที่อบเปิดขึ้นมาเพื่อให้เพื่อนๆได้ร่วมบุญกันนะคะ

อบจะเดินทางเช้าวันที่ 27/3 ค่ะ หากเพื่อนๆประสงค์จะร่วมบุญ ขอให้โอนเงินภายในวันที่ 20/3 นะคะ

Photobucket

Photobucket


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:15:56:24 น.  

 
Photobucket


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:15:57:06 น.  

 
เมื่อวันเสาร์ ไปเดินแถววัดสุทัศน์ เสาชิงช้ามา

เพื่อไปหาซื้อผอบสำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

เพื่อนำไปถวายที่วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ในกาลที่จะไปทอดผ้าป่า

ก็เลยนำรูปมาฝากจ้ะ

Photobucket


ราคาผอบเจดีย์ และผอบน้อยอีกแปดอัน

รวม ๔๖๐๐ บาท

ที่แปดอันเพราะเจดีย์แปดเหลี่ยมค่ะ

ใครจักร่วมบุญกันก็ยินดีนะคะ

(ไม่หวงบุญเลยค่ะ)

อยากให้ได้มีส่วนร่วมในบุญกุศลครั้งนี้กันทุกคนค่ะ


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:16:01:51 น.  

 


โดย: แม่อบ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:16:19:24 น.  

 
6 วิธีสร้างสมาธิ เสริมพลังจิต

--------------------------------------------------------

(น.พ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล / มติชน : ธรรมชาติบำบัด)

พลังสมาธิมีบทบาทช่วยบำบัดโรค มีข้อพิสูจน์มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี มีสรรพวิธีประการต่างๆ ที่ช่วยให้คนเราเกิดสมาธิได้ดีขึ้น ถ้าเลือกใช้วิธีให้เหมาะสมกับตน พระ ดร.สิงห์ทน นราสโภ ได้แนะนำทางเลือกที่ช่วยให้เกิดสมาธิไว้ดังนี้ :

"คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าสมาธิเป็นวิธีที่ทำได้ยาก ต้องเป็นผู้ที่ต้องปลงแล้วเท่านั้นจึงจะทำได้ แต่ความจริงคนเราแต่ละคนก็ตามล้วนต้องมีสมาธิ แม้แต่การทำอะไร จะคิดอะไร ก็ต้องมีสมาธิ จึงจะไม่มีผิดพลาด การจะมีสุขภาพดีก็ต้องมีสติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้เป็นพระสูตรในการรักษาโรค เช่น โพชฌงค์เจ็ด ก็เริ่มด้วยสติ ซึ่งก็คือสติปัฏฐานสี่ มีบทสรุปที่สำคัญว่า "ไม่ยึดติดไม่แต่นิดเดียวว่า มีตัวของเราหรือมีตัวตน" ซึ่งต่างกับความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ที่เชื่อในความเป็นอัตตาตัวตน พระองค์ได้มาตรัสในอนัตตลักขณสูตร ได้บอกว่า ไม่มีอัตตา มีแต่ขันธ์ อายตนะ ดังนั้น ถ้าใครก็ตามสามารถทำลายอัตตา ทำลายตัวตน กิเลสก็ไม่มีที่อาศัย โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มีที่อาศัยเช่นเดียวกัน คนเราที่ทุกข์ก็เพราะมีอัตตาสูง เมื่อมีตัวเราของเราสูง ก็ทำให้เกิดความทุกข์ เพราะเข้าใจว่ามันเป็นตัวเรา เป็นของเรา ฉะนั้น พระองค์จึงตรัสสอนว่า ต้องทำให้เป็นสติปัฏฐาน เป็นกาย เวทนา จิต และธัมมานุปัสสนา"

ตรงนี้ละครับ ถ้าได้ตีความให้ลึกซึ้ง นั่นน่าจะเป็นแผนที่เดินทางไปสู่การปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยการมีสติ เข้าถึงซึ่งการรับรู้ความไม่มีตัวตนของสรรพสิ่ง รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บด้วย จึงทำให้เกิดการรักษาโรคได้ด้วยพลังของสมาธิ

ลองมาพิจารณาสรรพวิธีสำหรับการสร้างพลังสมาธิกัน
ก่อนอื่นว่าด้วยวิธีอานาปานสติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่ามี 16 ขั้นตอน

ขั้นตอนแรก หายใจเข้ายาวก็กำหนดรู้ หายใจออกยาวก็กำหนดรู้

ขั้นตอนที่สอง หายใจเข้าสั้นก็กำหนดรู้ หายใจออกสั้นก็กำหนดรู้

ขั้นตอนที่สาม ถึงแม้ลมหายใจจะสั้นและแผ่วก็กำหนดรู้ได้ว่ามั่นเริ่มตรงไหน เข้าไปและสิ้นสุดตรงไหน ออกจากไหนไปสิ้นสุดตรงไหน

ขั้นตอนที่สี่ ลมหายใจเมื่อฝึกไปจะแผ่วลงๆ แล้ววูบไป เรียกว่าจิตตกภวังค์ ตรงนี้แหละถ้ามีอินทรีย์แก่กล้าพอสมควร ก็จะเข้าอัปปนาสมาธิ จนก้าวสู่ขั้นที่ไม่ยึดติดในตัวตน

อย่างไรก็ดี พลังสมาธิจะได้มาไม่ใช่ง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครไม่เคยฝึกสมาธิมาก่อนตั้งแต่ยังสุขภาพแข็งแรง ครั้นรอให้เจ็บป่วยแล้วค่อยมาฝึกสมาธิ นั่นนับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง เพราะยามที่คนเราเจ็บป่วย ย่อมต้องมีความเจ็บปวดไม่สบาย ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เวทนาเหล่านี้เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้เกิดสมาธิ จึงต้องอาศัยวิธีอื่น ๆ ต่อไป ดังนี้คือ

วิธีที่หนึ่ง ใช้คำว่า "โอม" คำนี้มาจากคำว่า "อุ" "อะ" "มะ" กล่าวคือ "อุ" ได้แก่ อุตตมธรรม คือธรรมะของพระพุทธเจ้า "อะ" คืออรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า "มะ" คือมหาสังฆะ คือพระสงฆ์ ให้ใช้วิธีหายใจยาวให้ท้องพองเต็มที่ แล้วเปล่งเสียง "โอม" ขณะที่เปล่งเสียงใช้จิตกำหนดที่ระหว่างคิ้ว ถ้าทำไปแล้วจะเห็นรังสีหรือออร่าของตัวเอง เป็นการตรวจสอบออร่าของตัวเองด้วย ถ้าเห็นสีม่วง สีคราม สีน้ำเงินแก่ สีเขียว ส้ม แดง ก็แสดงว่าสุขภาพไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเห็นเป็นสีเทา ก็แสดงได้ว่าตนกำลังเจ็บป่วยอยู่ หรือเป็นโรคอยู่แต่กำลังจะหาย แต่ถ้าเห็นเป็นสีดำแสดงว่าท่านอาจกำลังจะมีภัย หรือเจ้าตัวมีโรคทางใจ มีราคะ โทสะ โมหะ ก็จะมีสีดำเช่นกัน

วิธีใช้เสียงโอม ให้เริ่มจากการใช้เสียงสูงก่อน ร้องให้ยาวที่สุด ตามด้วยเสียงโอมที่ต่ำลงทีละน้อย ต่ำลงๆ จนไม่อาจจะเปล่งได้ เสียงสั่นสะเทือนที่ถูกเปล่งจากสูงมาหาต่ำ จะสร้างช่วยกระตุ้นจักระต่างๆ ในตัว มีผลในการรักษาโรคภัยเจ็บ

วิธีที่สอง เป็นวิธีของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ใช้สวดบทอิติปิโสว่าให้ได้ 9 จบชั่วอึดใจหนึ่ง คือใช้บทพุทธคุณบทเดียว คิดดูก็แล้วกันว่าใครที่ตามที่สามารถว่าถึง 9 จบภายในลมหายใจเดียว ย่อมทั้งท่องบทสวดนั้นได้คล่องมาก และต้องมีลมหายใจยาวมากด้วย เวลาสวดก็ใช้เสียงสูงกลางต่ำให้เพลินไป เวลาหัดแรกๆ ก็อาจไม่ถึง 9 จบ ก็ไม่เป็นไร นานๆ ก็ได้เอง

วิธีที่สาม เป็นวิธีแบบโยคะ หรือปราณยาม คือ :

- หายใจเข้ายาวๆ นับในใจ 5

- จากนั้นอดกลั้นลมหายใจยาวเป็นสองเท่าของลมหายใจเข้า นับในใจ 10

- แล้วหายใจออกนับในใจ 5

- จากนั้นปล่อยให้ว่าง นับในใจอีก 5

เริ่มหัดจาก 5, 10, 5, 5 แล้วเพิ่มเป็น 6, 12, 6, 6 ต่อไปเพิ่มเป็น 7, 14, 7, 7 จนถึง 10, 20, 10, 10 ด้วยการฝึกเช่นนี้ลมหายใจจะยาวขึ้นๆ เกิดการฟอกล้างลมปราณ สารพิษจากตัวด้วย แถมยังเป็นบาทฐานในการฝึกอานาปานสติภาวนาอีกต่างหาก

วิธีที่สี่ เป็นวิธีของ น.พ.แอนดรูว์ ไวล์ เขียนใน Spontaneous Healing กล่าวถึงการกระตุ้นร่างกายให้รักษาตัวเอง โดยสนใจเป็นพิเศษทำอย่างไรให้เราเข้าสมาธิได้ ได้ใช้นักศึกษาทดลองวิธีต่างๆ แล้วสรุปว่า "ถ้าใครอยากจะเข้าสมาธิหรือเข้าฌานได้ จะต้องฝึกลมหายใจให้ยาว คือ 1 นาทีหายใจได้ 6 ครั้ง" ฝึกจนกระทั่งในภาวะปกติก็เป็นแบบนี้ ถ้าใครฝึกได้อย่างนี้ เมื่อไหร่จะเข้าฌานก็จะเข้าฌานได้ง่าย ให้เกิดปีติ เกิดสุขขึ้นในระหว่างเข้าถึงอัปปนาสมาธิ หรือถ้าใครฝึกลมหายใจยาว แม้จะเข้าฌานยังไม่ได้ก็จะมีสุขภาพดี จะไม่มีโรคปวดหัว ไมเกรน นอนไม่หลับ ความดันสูง ความดันต่ำ หรือระบบย่อยอาหารทั้งหลาย

วิธีที่ห้า เป็นวิธีที่โบราณจารย์ของไทยฝึกสอนกันมา คือให้ดำน้ำทำตะกรุด จะมีรูปแบบของตะกรุดแล้วแต่อาจารย์ท่านไหน จะแนะให้ลูกศิษย์เขียนตะกรุด โดยใช้ทีแรกเป็นแผ่นทองเหลือง ต่อมาให้สูงขึ้นเป็นเงิน เป็นนาก และเป็นทองคำ เมื่อเริ่มเขียนจรดเหล็กจานลง ก็ให้เขียนให้เสร็จแล้วก็ม้วนมาให้อาจารย์ดู อาจารย์เพียงแต่ดูก็จะรู้ว่าลูกศิษย์มีสมาธิขนาดไหน

พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสไว้ว่า คนตาย คนเข้าสมาธิ คนดำน้ำ และคนอยู่ในท้องแม่ อยู่ในสภาวะที่ไม่หายใจ แต่การจะทำได้ ไม่ใช่จู่ๆ ก็ทำได้ โดยพยายามอดลมหายใจเอง ถ้าร่างกายไม่พร้อม การอดกลั้นลักษณะนั้นก็เป็นการทรมานตัวเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ทรงเห็นด้วย แต่ถ้าฝึกลมหายใจไปแต่ละขั้นตอน สุดท้ายก็ฝึกนั้นจะทำให้เรามีอินทรีย์แก่กล้า สามารถทำได้เอง เพราะมีความพร้อมที่เข้าสมาธิ จิตจะตกวูบเข้าสู่ฌานจิต

วิธีที่หก คือการสวดมนต์ เป็นวิธีสำคัญมากที่คนไทยเรามีมาแต่โบราณ แท้จริงการสวดมนต์ให้ถูกต้องจะได้บุญถึง 10 ประการ การสวดให้ดีต้องสวดให้ออกเสียง ไม่ใช่สวดอ้อมแอ้ม สวดให้ดีต้องออกเสียง ยิ่งดังยิ่งดี เป็นพลัง vibration เป็นการสั่นสะเทือนแบบขัดเกลา การสวดมนต์จะช่วยให้ได้ประโยชน์ทั้งสามประการ โดยเฉพาะสวดไปๆ จะเกิดการขัดเกลา เกิดการน้อมรับ ซึมซับ ธรรมะซึมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว มีตัวอย่างมากมายสวดไปแล้ว เกิดผุดรู้ ผุดเห็น สามารถบรรลุตามพลังบารมีที่ตัวได้บำเพ็ญมา เกิดการปฏิบัติตามมรรคแปดโดยไม่รู้ตัว

เหล่านี้ท่านประมวลมาเป็นวิธีลัดไปสู่ฌานจิต ซึ่งเป็นจุดที่กายและจิตสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว และเกิดการบำบัดรักษาตนเองของผู้เจ็บป่วย


ที่มา //www.mongkoltemple.com/page02/articles031.html
//board.agalico.com/showthread.php?t=22597
//board.palungjit.com/showthread.php?t=174508

//board.palungjit.com/showthread.php?t=164726&page=54


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:17:21:42 น.  

 
ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยปัจจัยให้ ข้าพระพุทธเจ้าสุขภาพแข็งแรง บำเพ็ญพระพุทธการกธรรม ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณได้โดยเลิศ ปราณีต ประเสริฐดีงาม
พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ สัมปติจฉามิๆๆ
สิทธมัตถุๆๆ

อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โลก ผู้มีพระคุณ ญาติมิตร มนตรีบริวาร สัมพันธชน ในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต สัตว์ในอบายทุคติ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ


"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"
"พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ"
"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"

ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:17:26:30 น.  

 
สวัสดีครับพี่






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:10:39:54 น.  

 
ทำอย่างไรเมื่อเจอปัญหารอบด้าน
โดยท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมโกศาจารย์(ศ.ดร.ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิยาลัย

//audio.palungjit.com/showthread.php?t=3285


เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับผู้กำลังเดินทางครับ

ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยปัจจัยให้ ข้าพระพุทธเจ้าสุขภาพแข็งแรง บำเพ็ญพระพุทธการกธรรม ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณได้โดยเลิศ ปราณีต ประเสริฐดีงาม
พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ สัมปติจฉามิๆๆ
สิทธมัตถุๆๆ

อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โลก ผู้มีพระคุณ ญาติมิตร มนตรีบริวาร สัมพันธชน ในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต สัตว์ในอบายทุคติ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ


"พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
"เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"
"พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ"
"เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"

ธรรมะสวัสดีครับทุกท่าน


โดย: มุ่งเต็มใจ IP: 203.113.0.206 วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:14:53:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]























Friends' blogs
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.