วันสุดท้่าย ที่เซฟเฮาส์..
เอากระดาษปากกา มาเขียนข้อความบนสะพานไม้
นอนราบเอนกาย มองสายน้ำ
ริมฝั่งสะพานน้อย เรือเล็กเดียวดาย..
ลมหายใจเรียบอุ่น กลางลมโชย.
วันนี้ได้พายเรือเล็ก ดีที่น้ำไม่แรง พายวนมันอยู่ตีนท่าน้ำนั่นแหละ
ไม่รู้ทำไมมันหมุนเป็นวงกลม พายไม่เป็น
เลยเอาพายสองอันมามัดรวม หนักจัง.
แต่พายได้นะ ค่อยไปได้หน่อย ค่อยๆวัก กดใบพาย ยก วาดน้ำเบาๆ
พอแรงส่งจางก็ลงอีกด้าน ค่อยๆไป
เพิ่งรู้ว่าคลองที่มาพัก เป็นซอยเล็กๆ ถ้าไปไกลต้องหลงแน่ๆ
กลับดีกว่า..
ขากลับแวะตรงที่ลงกระชังกุ้งไว้ ได้มานิดหน่อย ดีแล้วไม่อยากทำบาปเยอะ
ได้ปูมาบ้าง กับปลาอีกสองตัว อิ่มว่ะ คนเดียว อิอิ..
เพื่อนรักมารับกลับตั้งแต่เย็น แต่อยากนอนต่ออีกคืน
มันก็ไม่ว่า เล่าให้ฟังว่าหลับบนสะพานไม้ มันทำหน้าแบบอ่อนใจ เอิกๆ
เลย ถามมันว่าแปลกตรงใหน มันหัวเราะไม่ว่าไร
แล้วถามไปห้องน้ำที่ใหน บอกไปทุ่ง มันยิ่งขำ 555
ก่อนที่มันจะแกล้งผมมากกว่านี้ เลยไล่มันกลับ ยึดบ้านมันอีกคืน
ที่นอนมีเจ้าของ เราคนอาศัยไปนอนทับที่ใคร มันไม่ดี
ผมเลือกนอนบนสะพานไม้ เพราะเกรงใจมัน บางเรื่องไม่จำเป็นต้องอธิบาย..
บางครั้ง เพือนที่เข้าใจเพือน มีค่ากว่าแฟน มีค่ากว่าครอบครัว..
จะมีเพือนกี่คนที่รุ้ว่าเพือนรอใครอยู่ มันลากสายโทรศัพท์ให้ผม 25 เมตร
กับโน้ตบุคหนึ่งตัวยาวไปถึงท่าน้ำ มันรุ้ว่าผมจะไม่นอนบนบ้าน ..
มันมีแปลสายไว้ให้ แต่ผมก้ไม่ได้ใช้
ขอบใจมากว่ะเพื่อน ..
ยินดีที่แวะเวียนไปทักทายนะคะ...
ชอบบรรยากาศในเรื่องเล่าของคุณจัง เป็นธรรมชาติมาก ๆ