ก็ว่าจะไม่รัก..(love me my dog story) ตอนที่3 เปิดกลุ่ม
“หมอขออนุญาตฉีดยาเพื่อให้มันหลับสบายนะครับ” ดลชนกเอ่ยขึ้นช้า ๆ เมื่อเขารู้ว่า คงไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าน้ำตาลอีกแล้ว มันต่อสู้มาเสียจนเกินกำลังแล้ว “เราช่วยมันไม่ได้แล้วเหรอครับคุณหมอ”
ต้นอ้อเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าเขาไม่มีหวังแล้ว “ผมให้คุณฟางแก้วตัดสินใจครับ”
ทุกสายตาจ้องมองมาที่ฟางแก้วหล่อนนิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “ปล่อยน้องไปสวรรค์เถอคะ”
“ครับ”
ดลชนกส่งยิ้มให้กำลังใจหญิงสาวก่อนจะเข้าไปทำหน้าที่ที่ดีที่สุดของเขาให้กับ เจ้าน้ำตาล “โธ่เอ้ย”
กอหญ้าปล่อยโฮออกมาก่อนจะหันไปซุกอกต้นอ้อ “ไม่เป็นไรน่าเราทำดีที่สุดแล้วเราช่วยมันจนถึงที่สุดเล้ว”
ต้นอ้อ แตะไหล่ กอหญ้าเบา ๆ ทำให้หญิงสาวคลายสะอื้น
พวกเขาเศร้าได้ไม่นานเพราะรู้ว่ามีงานต้องทำรออยู่อีกมากมาย ไม่มีเวลาเศร้าเพราะจำเป็นจะต้องช่วยเหลือสุนัขอีกมาก ที่กำลังเดือดร้อน จากน้ำท่วมที่ขยายวงกว้างและเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
สายโทรศัพท์แทบไม่ว่างจากการโทรเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือจากกลุ่มของพวกหล่อน น้ำไปถึงไหน ความเดือดร้อนก็ไปถึงที่นั่น
“จะนอนตรงไหนละนี่” ฟางแก้วเท้าสะเอวมองบนเตียงนอนขนาดหกฟุตของหล่อนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ โยนผ้าขนหนูที่เพิ่งเช็ดตัวออกจากห้องน้ำไปพาดบนตู้เสื้อผ้าอย่างชำนาญ
บนเตียงมีสิ่งมีชีวิตหก ตัวกำลังนอนอยู่อย่างสบาย
“โอ้ตเอามันไปมั่งไม่ได้เหรอ” หญิงสาวออกจากห้องมุ่งหน้าไปห้องน้องสาวที่อยู่ประตูติดกัน ภายในบ้านสองชั้นหลังนี้ที่อยู่กันสองคนพี่น้องและ สุนัขอีกหกตัว
ข้าวโอ๊ตเงยหน้าจากคอมพิวเตอร์ของตัวเองก่อนจะมองหน้าพี่สาว “เป็นอะไรนะพี่ฟาง” “ไม่มีที่นอนโดนแย่งที่” “เหรอ”
สำหรับข้าวโอ๊ตแล้วถือว่ามันเป็นเรื่องปกตินะนี่ “ปูฟูกนอนข้างเตียงไงละ ฮ่า...” “ไมต้องมาหัวเราะเลย”
“ก็อยากเลี้ยงเยอะนักทำไมละ ไม่รู้โอ๊ตไม่รับผิดชอบด้วยหรอกวันนี้เหนื่อยมากเลย อะพี่เห็นหรือยังเรื่องดี” “อะไร มีเนื่องดี ๆ กับเขาด้วยเหรอ” “คนที่มากดไลท์ให้กับทีมเรานะพี่จะครบหมื่นแล้วนะ” “หืมทำไมเร็วจัง”
หล่อนจ้องดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะระบายยิ้มในสีหน้าอย่างผ่อนคลาย
“มีเรื่องดี ๆ มั่งก็ดีแต่เธอมานี่เลย แบ่งไปสอง” “ไม่เอาอยากนอนเงียบ ๆ อย่างมีความสุขมั่ง”
ข้าวโอ้ตอิดออดแต่ในที่สุดก็ต้องตามพี่สาวออกไป อุ้มสุนัขพูเดิ้ลสีน้ำตาลอ่อนมาสองตัว มาวางไว้บนเตียงแต่นั่นละ ข้าวโอ๊ตก็เชื่อแน่ว่าสักพักมันก็จะวิ่งกลับไปนอนรวมอยู่ในห้องของพี่สาวหล่อนตามเดิม
..เอ อยากรู้จัง ถ้าพี่ฟางแก้วมีแฟน แล้วจะเอาแฟนซุกตรงไหนนะ..
“เฮ้ยไอ้ปุยอะไรฟะ”
รเมศจะหลับแล้วแต่เพราะเขาได้กลิ่นแปลก ๆ จึงต้องลืมตาตื่นด้วยความรำคาญและก็พบเจ้าปุยกำลังพยายามขดตัวอยู่บนหมอนของเขา
..มันจะขาดความอบอุ่นไปถึงไหนกันละเนี่ย.. เขาคิดก่อนจะโยนมันลงไปจากเตียงหากเพียงไม่นานมันก็บุกขึ้นมาใหม่
“มานี่อยากโดนทับตายก็มา”
เขาคว้าเข้าขนปุยมากอดกะให้แน่นจนหายใจไม่ออก ที่ไหนได้มันกลับนอนนิ่งและหลับไปในที่สุด เช่นเดียวกับเขาที่ไม่พร้อมจะทะเลาะกับใครอีกแล้ว เพราะร่างกายต้องการพักผ่อน
คิ้วของฟางแก้วขมวดเข้าหากันอย่างช้า ๆ ก่อนจะเป็นปมหนักขึ้นเมื่อฝ่ายตรงข้ามเอ่ยในเรื่องที่หล่อนคาดไม่ถึง ไม่ใช่เรื่องขอความช่วยเหลือ นำสุนัขและแมวออกจากพื้นที่น้ำท่วมหรือเดือดร้อนอะไร แต่เป็นเรื่อง ศิลปินดังที่ต้องการมาร่วมทีมกับหล่อน
“คุณคะ คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ เอสโอเอสของเราไม่ใช่กลุ่มใหญ่ที่มีชื่อเสียงอะไรนะคะ เป็นแค่กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นเองคะ ..”
“ฟังผมก่อนสิครับ นักร้องของผมต้องการไปร่วมกิจกรรมช่วยสัตว์เลี้ยงกับพวกคุณนะครับ เขามีความตั้งใจจริงมาก ๆ นะครับ ที่จะร่วมช่วยเหลือสัตว์กับพวกคุณ“
เอ่ยไปเดชาก็ยังไม่รู้ว่า รเมศจะได้ครึ่งที่เขาเอ่ยถึงหรือไม่ “แต่มันจะไม่สะดวกในการทำงานของพวกเรานะคะอีกอย่างเขาคงทำแบบพวกเราไม่ได้หรอกคะ”
ฟางแก้วเอ่ยขึ้นหล่อนกำลังนึกภาพ คนดังที่จะมาทำงานแบบหล่อนไม่ออก
“ไม่เป็นไรครับเรื่องนั้นเขาจะปรับปรุงตัวของเขาเองครับเพราะเขาเป็นคนเลือกกลุ่มนี้เองครับ ขอแค่มีกล้องมีนักข่าวไปทำข่าวเท่านั้นเองครับ อีกอย่างก็จะเป็นผลดีแก่กลุ่มของพวกคุณด้วยนะครับเพราะจะได้มีคนสนใจเพิ่มมาขึ้นและทำงานง่ายขึ้น เงินบริจาคก็เพิ่มมากขึ้นแน่นอน ผมคิดว่าพวกคุณมีแต่ได้กับได้”
เดชาเอ่ยยืดยาวทำเอาฟางแก้วอึ้งไปเลย ทุกอย่างที่เอ่ยออกมานั่นคือผลประโยชน์และธุรกิจที่หล่อนมั่นใจว่าตัวเองไม่ชอบใจนัก
“นะครับ”
“ฉันขอปรึกษาน้อง ๆ ก่อนนะคะแล้วจะให้คำตอบคะ” “ผมคิดว่าถ้าคุณ ตั้งใจจะทำเพื่อนหมาแมวและสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ จริง ๆ คุณควรจะตอบรับทำงานร่วมกับผมครับ เพราะผลประโยชน์มันจะเกิดแก่พวกสัตว์จริง ๆ และพวกคุณไม่มีทางเสียผลประโยชน์แน่นอน“
“ฉันขอทราบชื่อนักร้องคนนี้ได้ไหมคะ” “รเมศครับ” “รเมศ” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันและรำพึงพอที่เดชาจะได้ยินว่า
“ใครวะ”
“พี่ฟางอะโครตเชยเลย”
กอหญ้าทำท่ายิ้มหวานทันที เมื่อคิดถึงนักร้องในดวงใจไม่น่าเชื่อว่าอยู่ดี ๆ เขาจะอาสามาทำงานจิตอาสาร่วมกับหล่อน หมายความว่าหล่อนจะได้ใกล้ชิดเขาด้วยนะสิ อย่างนี้ก็ได้ถ่ายรูปได้ขอลายเซ็นนะสิ
“เฮ้ย..ฝันหวานมากไปแล้ว”
ต้นอ้อเอาเท้าแหย่กอหญ้าเบาๆ
“เขามาเขาก็แค่ถ่ายรูปและทำเหมือนกับว่าทำงานจริง ทั้ง ๆ ที่แค่เอาหน้าเท่านั้นเองไม่ยอมลงน้ำแบบแกกับฉันหรอกน่า แต่ให้เขามาก็ดีแหละพี่ฟาง”
“อ้าวไงหักมุมเอาตอนจบ” “เผื่อติดกล้องไปจะได้ดังมั่ง และเขาจะต้องสนับสนุนเรามั่งแหละ”
“ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ฟางแก้วพยักหน้า ทุกคนพากันยิ้ม เห็นด้วย ไปในคนละทิศละทาง
กลุ่มเอสโอเอส เอนิมอล ไทยแลนด์ เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เดือดร้อนในช่วงน้ำท่วมหนักเวลานี้ และจำเป็นต้องระดุมทุนเพื่อซื้ออาหารและยารักษาโรคสำหรับสัตว์ที่ป่วย และเมื่อช่วยมาแล้วก็ต้องมีโรงเรือน ที่พักให้กับสัตว์เหล่านี้ด้วยเป็นการดูแลในระยะยาวต่อไป
หากมีคนมีชื่อเสียงมาร่วมแม้จะเป็นแค่การสร้างภาพแต่ก็น่าจะสร้างผลดีตามที่เดชาบอกมากมายทีเดียว เพียงแต่เขาจะมาสร้างปัญหาอะไรที่พวกหล่อนคาดไม่ถึงหรือเปล่า นี่สิเรื่องที่หล่อนน่าจะหวั่นใจ
“ถามหน่อยเถอะกอหญ้า เขาดังมากไหม” “ดังสิระดับซุปเปอร์สตาร์เลยนะเพลงเขามีเพราะ ๆ ตั้งเยอะที่พี่ชอบ ๆ ฟังนะ”
เพลงที่หล่อนชอบฟังแต่ไม่ค่อยได้สนใจคนร้องสักเท่าไหร่เพราะฟังเพลงไม่ได้ดูหน้าคน
“แล้วถ้าสมมุติเขามาทีมเรา แล้ว มีแฟนคลับเขาตามมา มีคนอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขาโทรมาป่วนนี่ เราจะทำยังไงกันดี รับมือไหวมั้ย ”
“จริงดิ” มันเป็นเหมือนเรื่องที่พวกเขาต้องคิดหนักเสียแล้ว
คิดภาพพวกแฟนคลับที่ตามให้กำลังใจนักร้องในดวงใจไปไหนไปนั่น มีคนบริการแม้กระทั่งปัดปูที่นั่งให้ อย่างนี้จะมาสมบุกสมบัน ฝ่าน้ำฝ่าฝนฝ่าแดดไปลำบากกับพวกเขาได้ยังไง เพียงแค่คิด ต้นอ้อและกอหญ้าก็ส่ายหน้าพร้อม ๆ กัน
แด่หัวใจทุกดวงที่โหยหาความอบอุ่นและรักแท้
Create Date : 26 ธันวาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 26 ธันวาคม 2554 20:07:39 น. |
Counter : 589 Pageviews. |
|
|
|
ตอนที่3เลยเหรอ?