เรื่องเกี่ยวกับงานเขียน
ผมกำลังคิดว่าจะลองเขียนงานตามอารมณ์ และตามใจตนเองดู และกำลังคิดว่าอาจจะมีอะไรแปลกๆแสดงออกมาในงานเขียนของตนเอง เพราะผู้อ่านคงรู้ดีว่าผมไม่ปกติ
ผมพยายามทำตัวปกติ แต่มันก็ไม่ใช่ ในทุกที่ที่ผมไป ผมรู้สึกแตกต่าง โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อน
ผมเข้าใจว่าทุกคนมีข้อแตกต่างกันไป แต่ผมกลับรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นมาก
บางครั้งผมรู้สึกอิจฉาคนอื่นในสิ่งที่ผมไม่มี แต่เมื่อมองคนที่เขาลำบากกว่า ก็ยังพอตัดใจให้ลืมได้
เกือบสองเดือนแล้วที่อาการกำเริบ ผมได้ยินเสียงคนคุยกันในหัวของผมหลายต่อหลายครั้ง บางครั้งต่อเนื่องและยาวนาน ผมต้องกินยาหลายขนาน ซึ่งยาบางตัวออกฤทธิ์ทำให้ง่วงและอยากอาหาร ส่งผลให้ผมนอนหลับมากขึ้น และกินมากขึ้น
ข้อเสียของการไม่ได้ทำงานประจำคือการใช้ชีวิตแบบไม่มีระเบียบได้ ทำให้ผมกินและนอนไม่เป็นเวลา วงจรชีวิตรวนไปหมด
ผมไม่รู้ว่าจู่ๆโรคประจำตัวมันกำเริบขึ้นมาได้ยังไง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ผมจัดระเบียบในชีวิตได้แล้ว
ผมเริ่มคิดทบทวนว่าอะไรทำให้ผมต้องล้มป่วยอีก มันคือสิ่งที่ผมควบคุมไม่ได้ สภาพอากาศ ความตึงเครียดของสภาพแวดล้อม อารมณ์ของคนอื่น มีตัวแปรมากมายที่ผมคุมไม่ได้
เหมือนผมรู้แต่ป้องกันและควบคุมไม่ได้ เหมือนกับการนอนแล้วตื่นขึ้นมาคัดจมูกเพราะอากาศเปลี่ยน ผมกำลังคิดว่ากลไกในสมองผมคงทำงานไม่ปกติไปแล้ว และยากนักที่จะทำให้กลับมาสมดุลใหม่ได้
แก้วน้ำที่แตก เมื่อเอามาประกอบกันใหม่ยังไงก็ไม่มีวันเหมือนเดิม ได้แต่หาทางรักษารูปทรงและสมานรอยแตกร้าวนั้นไว้ให้ดีที่สุด
ผมเคยคิดว่า ที่ผมเป็นโรคนี้เพราะนิสัยส่วนตัวของผมหรือเปล่า ตั้งแต่เด็กๆ เพื่อนๆจะรู้ว่าผมไม่ชอบยอมแพ้ และกระหายที่จะเอาขนะคนอื่น เมื่อชนะซ้ำซากก็เกิดการพึงพอใจและเสพติดความพึงพอใจนั้น และเมื่อขาดมันผมก็เริ่มไม่เป็นสุข
ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ติดสารเสพติดอะไร นอกเสียจากความสำเร้จ ที่ทำให้ปริมาณเอ็นโดฟินในสมองเพิ่มขึ้นและส่งผลให้เกิดความพึงพอใจ
ผมติดความสุขไปเสียแล้ว แล้วจู่ๆผมก็สูญเสียมันไป
ผมคิดว่าอาการของผมคืออาการขาดสารเสพติดที่เรียกว่าเอ็นโดฟิน อาการขาดความสุขทำให้กระสับกระส่ายใฝ่หาความสุขไม่รู้จบ จนไม่เป็นอันกินอันนอน ทำให้โดปามีนเสียสมดุลอีก
พอสารสองตัวนี้เสียสมดุลไปหมด ก็ออกอาการเหมือนคนเลิกยาเสพติด บางคนไม่ไปหาหมอ ก็คงต้องหักดิบด้วยตนเอง
อาการขาดสารเสพติดที่เรียกว่าความสุข ทำให้ร่างกายสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาทดแทน เรียกว่าความสุขอย่างเทียม psue-do happyness ซึ่งผมไม่รู้ว่ากลไกของมันเกิดขึ้นได้อย่างไร อาการนี้ทำให้เกิดภาพหลอน หูแว่ว หลงผิด
ผมเคยเจอปรากฏการณ์ที่คล้ายคลึงกับการเห็นผี แต่ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบหูแว่วและมโนภาพเสียมากกว่า ผมไม่เคยติดเหล้า จึงไม่รู้ว่าเวลาเลิกเหล้ามันคล้ายกันไหม (เดาว่าคล้าย แต่ผู้รู้ไม่ต้องบอกผมก็ได้ครับ)
วันนี้นึกได้แค่นี้แหละครับ ช่วงนี้เพิ่งฟื้นจากอาการหลอน ความทรงจำบางส่วนหายไป ทักษะบางอย่างด้วยลง คงอีกนานหน่อย กว่าจะกลับมาเขียนอะไรยาวๆได้
สวัสดีครับ
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2557 15:08:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 500 Pageviews. |
|
|
คุณเขียนบทความได้ดี ดิฉันอยากอ่านในส่วนอื่นๆของชีวิตของคุณบ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ