Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2562
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 กรกฏาคม 2562
 
All Blogs
 
100_[ผักชี@ปทุมธานี] : สุนัข จมูกบวม น้ำมูกไหล และ ฟันโยก

 


วันนี้โหมดบ่นนะคะ ดราม่าเองคนเดียว
ใครหาอะไรสวยงามอ่าน ผ่านไปก่อนเน้อ -"-

เอาที่ไม่ได้บ่นก่อนละกันค่ะ แต่ขอบคุณแทน
เอาผักชีไปฝากที่เดิมๆ พี่เลี้ยงดูแลดีตามปกติ หมาร่าเริงกลับบ้าน
พอดีเพิ่งสังเกตเห็นตอนขึ้นมาบนรถเดินทางกลับ

มีรอยที่จมูก ขนยุบๆ น่าจะกระแทกอะไรเข้า
คงเป็นความ ซน ส่วนตัวของผักชีเองนั่นแหละ
ปกติก็ชอบไปเที่ยวมุดไปเรื่อย

เราก็คอยสังเกตอาหาร นูน แข็ง จับแล้วคงเจ็บนิดหน่อย
เอียงหน้าหลบ แต่ไม่ร้อง
กลับบ้านแล้วเลยให้นอนพักไปก่อน
ตามภาพนะคะ



ทีนี้พอช่วงตื่นมาเย็นๆ
น้ำมูกไหล พลอยกลัวอักเสบ อยากประคบแต่ไม่รู้ต้องทำยังไง
เลยเสิร์ชเน็ต

เขาบอก มันมีกรณีอักเสบ เป็นไข้ บวมจมูก
เพราะรากฟันเป็นหนอง
T^T

งานเข้าเอาตอน เอะใจ ไปดูเหงือกหมา ซีด (คงเป็นหวัดนั่นแหละ)
แล้ว จับเอา ตอ ของเขี้ยวน้ำนมที่เคยหักหลุดไปแค่ครึ่งเดียว

พอกดแล้วมันโยกแบบรูสึกได้เลยว่าโคนฟันเอียงตามมือกด
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ถูกฟันขัดฟันเรื่อยๆ ไม่เคยเป็น

สรุป โทรถามคุณหมอโบ ที่แฮปปี้เพ็ท คลินิก
(ขอบคุณเป็นเรื่องที่ 2)
คุณหมอให้คำปรึกษาน่ารัก หลังจากฟังอาการ
ว่าถ้ากรณีเป็นหนองรากฟัน ต้องเอ็กซเรย์ ต้องมีเครื่องกรอแบบขุดนะคะ
ที่คลีนิกหมอไม่มีเอ็กซเรย์ ปกติถ้าเป็นเยอะต้องไป รพ.สัตว์ใหญ่ๆ

เลยถามคุณหมอว่า งั้นเดี๋ยวหาคลินิก ที่มีอุปกรณ์ 2 อย่างที่ว่ามาก่อนคร่าวๆ
ถ้าที่ไหนมีค่อยพาหมาไปตรวจก่อนเบื้องต้นได้ใช่ไหมคะ

คุณหมอบอกว่า ใช่แล้ว ^ ^

เป็นคำแนะนำเบื้องต้นที่ดีงาม
เนื่องจากคลินิกหมอโบ ไกลบ้านเราไปหน่อย+เริ่มย่ำค่ำ
เราเลยโทรอีกที่ตามนั้น เจอที่มีเอ็กซเรย์ฟัน ถ้าต้องทำอะไรต่อเยอะ
ก็ไม่มีอุปกรณ์เช่นกัน ค่อยไป รพ.สัตว์ใหญ่ๆที่มีอาจารย์ ไว้ว่ากันอีกที
เลยตกลงไปตรวจเบื้องต้นค่ะ

*** **************
โหมดดราม่าทางจิตใจ (บ่น)

อย่างที่เคยบ่นในกระทู้ตั้งแต่แรกเริ่มริจะเลี้ยงหมาตัวนึง
สัตวแพทย์ที่เคยเจอหมา บ้านเราแยกประเภทง่ายๆเลยว่า
คุณหมอที่ใจดี ใจเย็นต่อน้องหมา มากกกกกก

กับอีกประเภทที่ ...แสนจะตรงข้ามกัน

เราโทรสอบถามว่ามีเครื่องเอ็กซเรย์ไหม เราได้รับคำแนะนำมาตามนี้
หลักๆ คือหาคลินิกที่มี สรุปได้ว่า เข้ามาเอ็กซเรย์ให้หมอเช็คเบื้องต้น 
ถ้าเป็นเยอะค่อยว่ากัน

** **************

หอบหมาตัวไซส์กลางๆ ปุเลงๆขึ้นรถ
อุ้มเข้าไปหาหมอ

พอเริ่มอธิบายว่า มันจมูกบวมนะ แต่มีรอยเหมือนชนอะไรมา
ปกติหมามันซน ชอบมุด อาจโขกแรงบ้างตามประสา แต่ไม่แน่ใจนะ
แล้วพอเช็คฟัน มันมีโยก เลยกังวลกลัวอักเสบจากฟัน
กลัวบวมเพราะหนอง ก็เลยมาตรวจรากฟัน...

เราคิดว่าเป็นคำอธิบายที่ เข้าใจได้ ว่า อ๋อมี 2 อาการนี้
1.จมูกบวม
2. ฟันโยก
(เราสงสัยว่าเกี่ยวกันไหม เลยจะเอ็กซเรย์
ถ้าไม่เกี่ยวก็โชคดีไป เพราะเราดูไม่เป็นต้องพึ่งพาคุณหมอที่มีความรู้มากกว่า)

แต่พอเริ่มเล่าว่ากังวลเรื่องเกี่ยวโยง ก็โดนขัดทั้งที่ยังเล่าอาการไม่จบ

เข้าใจว่าแพทย์อาจไม่ชอบใจ ที่เจ้าของคิดเอง เออเอง
เราก็เล่าตามที่บอกไป มันไม่ได้ยาว
แต่เราเช็คฟัน เพราะสาเหตุจากเจอว่าจมูกบวม

พลอยก็เลยต้องเป็นฝ่ายสรุปให้หมอเข้าใจว่ามี 2 อาการตามด้านบน
ที่พามาคืออยากเอ็กซเรย์

หมอถึงได้อธิบายตามวิชาการหน่อยว่า น่าจะแยกกันเพราะ
พลอยบอกว่าจมูกบวมแบบไม่เป็นหนอง
บวมแบบ คล้ายเวลาคนหัวโน แข็งๆ

ตรงนี้หมอดูเริ่มจะอารมณ์เสียหน่อยๆ
เพราะไม่ชอบให้เรา เอาอาการมาโยงกัน
พอเข้าใจได้...เราก็ อ่ะ ผ่านไป อาจผิดที่เราเองพูดยาวไป

เราควรบอกแค่ จมูกบวม (มีรอยกระแทก) กับอีกอาการ ฟันโยก
-"-

หมายเหตุ : การประเมินความ อารมณ์เสียของคนรอบตัว
เป็นมาตรฐานความรู้สึกส่วนตัวของพลอยล้วนๆนะคะ
เพราะฉะนั้นหากใครไม่ชอบดราม่า
ผ่านไปเลย ไม่ต้องอ่านบล็อกวันนี้ พลอยมาบ่นค่ะ

*** ******************
จากนั้น ก็สรุปกันที่ เดี๋ยวเอาหมาไปเอ็กซเรย์ 
จะให้พนักงานมาจับ
เราเลยรีบบอกมันไม่ชอบให้คนแปลกหน้าจับ มันกลัวเดี๋ยวจะกัดเพราะกลัว
เราจับเอง

ทุกคนเริ่มเซ็งแซ่ จะยังไง ใส่มัดปากได้ไหม ฯลฯ
ปัญหาที่พอจับความได้ หมาต้องนอนลงเพื่อถ่ายภาพบนฟิล์มเอ็กซเรย์

ซึ่งจริงๆแล้ว มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยค่ะ
เนื่องจาก ผักชีนอนลงได้ ถ้าจะให้นอนอ้าปากอะไรก็แค่บอกเรามา

แต่ว่าเหมือนคุณหมอจะไม่ โอ.เค. ล่ะ
เข้าใจว่า หมาดุ ต้องไม่ โอ.เค ไม่แฮปปี้ในการตรวจแน่

กระบวนการขั้นตอนทั่วไปจากนั้น
เลยเลวร้ายลงสำหรับอ้วนอ๋องที่ยืนอุ้มผักชี
และพลอยที่ยืนอธิบายกับหมอ

หมอบอกต้องตรวจจมูกก่อน ต้องจับ
ต้องตรวจฟันก่อน ค่อยไปเอ็กซเรย์ ว่าโยกตรงไหนยังไง

เราก็บอกว่า ตรวจได้ แค่ให้อ้วนอ๋องอุ้มหมาไว้
และพลอยปิดตา (พลอยมีหน้าที่พูดเบาๆ กล่อม
ชีชีก็จะใจเย็นๆเสมอมาตอนได้ยินคนโอ๋เธอให้อุ่นใจ)

** *************

พอปิดตา ผักชีไม่รู้ไม่เห็น หมอก็มาลูบจมูกได้
พลอยเอามือนึงปิดตาหมา อีกมือก็ยกเหงือกเปิดให้
คุณหมอก็เอาที่คีบ มาคีบฟันโยกดู

ทุกขั้นตอนง่ายมาก ใช้เวลานิดเดียว
แต่หมอไม่แฮปปี้เลย... ดูไม่ค่อยสบอารมณ์ตลอดเวลา

ผักชีนิ่งมาก ไม่เกร็งจัด แค่กลัวๆขืนตัวนิดหน่อยไปพิงอ้วนอ๋องไว้

(แต่หมอบอกตั้งแต่ต้นจนจบว่า มันเป็นน่าจะเป็นแค่หินปูนแน่นอน
เพราะเขี้ยวฟันน้ำนมปกติ โดนเขี้ยวแท้ๆ งอกใหญ่ยาวขนาดนี้
ยังไงก็ไม่เหลือ ต้องโดนเบียดหลุดแล้วแน่นอน

-- อันนี้เราก็เงียบฟังหมอ เพราะเราไม่อยากต้องมานั่งเถียงกัน
สำหรับเรา ที่อยู่กับหมาตลอดเวลา นั่งนับฟันทุกซี่ที่หลุดออกมา
เขี้ยวน้ำนมที่หัก ก็พอเห็น แต่ว่า พอหมอบอกไม่น่าจะอันตรายหรืออักเสบ
พลอยก็พอใจ)

อนึ่ง คุณต้องทราบก่อนว่า พลอยเป็นพวก
ไม่เถียงไม่ค้านความคิดเห็นแพทย์ในส่วนวิชาการนะคะ
กรณีไม่มีผลประหลาดต่อการรักษา พลอยค่อนข้างเชื่อหมอทุกครั้ง

แต่บทสนทนาและบรรยากาศหลังจากทุกคนได้ยินว่า หมาไม่ให้จับตัว
เราก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความระอุจากคุณหมอแบบชอบกล และเพิ่มขึ้นเรื่อย
ทั้งที่ชีก็นิ่งให้ตรวจจมูกและฟันแบบไม่มีปัญหาอะไรเลย

ผักชีผู้สงบและหวาดกลัว พอกับเวลาเจอหมอทุกที่นั่นแหละค่ะ
เธอขอแค่ กอดและปิดตา เพื่อให้เธอได้หลอกตัวเอง
ว่ามือที่จับ ตรวจ ทำนั่นนี่บนตัว คือมือเจ้าของที่บ้าน

หมอย้ำเราหลายทีว่า ถ้าหมาไม่ให้ตรวจ หมอต้องรอวางยาซึมนะ
เราก็ โอ.เค. เราเข้าใจความจำเป็น แต่เสียงหมอเริ่มไม่เป็นมิตร

*** *****************

เราเข้าใจว่า สัตวแพทย์และพนักงานผู้ช่วย
ต้องเซฟตัวเองทุกกรณี ไม่ให้โดนสัตว์เจ็บทำร้าย

แต่ในเมื่อหมอก็ชี้แจงชัดเจนว่า ถ้าหมาทำไม่ได้ คือขั้นต่อไป วางยา
และเราคือคนรับผิดชอบจับหมา ให้ได้ตามที่หมอต้องการ

หมอบอกให้ เอาหมานอนตะแคง ให้หัวอยู่กลางแสงไฟ
เอาข้างที่ฟันโยกแนบลงพื้น

ผักชีโดนดึงนอนลง ทุกคนในห้อง
(หมอและพนักงาน เอาแต่โวยวายเสียงดังไปมา)

คำแนะนำสำหรับสัตวแพทย์ที่อาจผ่านมา
หมากลัว ขอความเงียบสงบ ให้เจ้าของทำงานง่ายเถอะค่ะ
พอมันตื่นกลัว ยิ่งดิ้นจะลงจากเตียง

** **************

ผักชีโดนบังคับลง เอนตัวนอน แต่เอียงผิดข้าง 
พลอยเลยจะให้ลุกแล้วจัดทางใหม่

หมอก็เอาแต่ให้กดหัวลง แต่เราก็บอก
หมอจะให้เอียงอีกข้างที่ฟันโยกไม่ใช่เหรอคะ?
ต้องให้มันเริ่มแล้วเอียงใหม่

(ผักชีมีสเต็ปการสอนมา ว่าเวลาให้นอนลง
ต้องเริ่มจากท่ายืน แล้วค่อยบังคับอีกที ว่าจะให้เอียงทางไหนยังไง)

จังหวะนั้นพีกสุด หลังหมอพูดเสียงดังๆใส่เราด้วยน้ำเสียงไม่ โอ.เค.จัดหนักมาก

และทั้งที่เราก็บอกไปหลายทีว่าหมาไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาจับตัว
หมอ ที่ยืนท้ายเตียง ทางด้านหลังอ้วนอ๋อง
ก้าวมายื่นมือ กระชากเสื้อผักชีอย่างแรง คงจะให้นอนลงสักทีนั่นแหละ
แต่เราสองคนตกใจ หมาก็ตกใจสะดุ้งเฮือกหนัก ดีว่าอ้วนอ๋องกดตัวไว้แน่น
-"-

หมาเราเอนลงแล้วนะคะ แต่เรายังไม่ให้เอาหัวแนบเพราะเธอเอนลงผิดข้างไง
เราไม่ได้จัดท่าหมาไม่ได้ เราแค่ต้องค่อยๆทำ
ผักชีดิ้นแรงมาก ถีบหนีแต่ช่วง นาทีแรก จากนั้นก็เริ่มจับหมอบลงมาได้
ทั้งหมดนั่นราวๆ 3-5 นาทีไม่เกินนี้นับจากเราเข้าไปถึงโต๊ะเอ็กซเรย์
เราไม่ได้ใช้เวลายาวนานจนทุกคนรอคอยอะไรขนาดนั้น
ไม่มีคนต่อคิว คลินิกไม่ได้ยุ่งจัด

เราบอกแล้วว่าหมาเราขี้กลัวนะ
จะมารังแกมันทำไมคะ ในเมื่อมันก็อยู่ในคอนโทรล แค่อาจไม่ไวดังใจคุณ

พอเราตั้งสติ เราก็ปลอบหมาเงียบ ชีชีก็นอน

หมอเลยบอกว่า ให้เอนลงไปเลย

คือ มันไม่ได้ยากนะหลังจากนั้นน่ะ...
พลอยแค่กอดเธอ เอาแก้มแนบกันค่อยๆบอกให้ "ตึ้ง"
บอกเธอเบาๆว่า ตึ้งนะลูก ผักชีเข้าใจคำสั่งพวกนี้
พลอยทำบ่อยเพราะต้องสอน ฝึก ไว้สำหรับขัดฟันเองที่บ้าน

พี่ผู้ช่วย หยิบเสื้อกันรังสี
แล้วถามว่า เสื้อนี่ใครใส่ มีตัวเดียว
จากนั้นพี่เขาก็บอกหมอว่าเจ้าของจับหมา ให้เจ้าของใส่ละกัน

แต่ หมอดุ หมอบอกไม่ต้อง!
จากนั้นก็เบาโทนเสียงลงนิด แต่ความไม่พอใจต่างๆชัดเจนมาก

(คิดว่าหมอคงรู้สึกไม่อยากดูแลตั้งแต่บอกว่าหมาไม่ให้จับ
คงกลัวกัด แต่ถ้าแบบนั้น หมอปฏิเสธการรักษาแบบใช้เงื่อนไข
ว่าขอวางยาซึมถึงตรวจให้ ก็จะดีกว่านะคะ
ถ้าเราไม่ โอเค เราก็ไปที่อื่นต่อได้น่ะ)

พลอยคิดไปเองไหม...พลอยว่าร้ายคนอื่นหรือเปล่า
อืม...เป็นเรื่องที่ตอบยากมาก

เพราะพลอยก็คงเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ ว่าไม่ได้คิดไปเองนะ
เวลามีคนไม่ชอบเราจัดๆ น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางเขาออกมาหมดเลย
แต่ในเมื่อเขายังสะกดตัวเองทำหน้าที่หมอ เราก็ต้องอดทนทำหน้าที่เจ้าของหมา
ที่ต้องรักษาสัตว์เลี้ยงในวิธีทางอันจำเป็น

ความไม่พอใจของหมอล้นออกมาในทุกสิ่ง
พูดตวาดในทำนองว่าไม่จำเป็นต้องให้เรา แค่นี้เอง

แต่คุณเคยรู้สึกไหมเวลาเจอใครที่ทำอาการใส่คล้ายจงใจประชด
หรืออยากสั่งสอนเราน่ะค่ะ?

ที่เราสะดุดเล็กน้อย คือ นี่มันเรื่องของรังสีเอ็กซเรย์...

เราจะโอเคกว่า ถ้าคุณใช้น้ำเสียงท่าทางให้เราทราบ
ว่าคุณห่วงความปลอดภัยพนักงานมากกว่า (มันไม่ใช่เรื่องผิด)

แต่ถ้าทำกิริยาต่างๆ ให้เราเข้าใจว่า เราจะมีความเสี่ยงในระดับไหน
ก็เรื่องของเธอสิ..สมควรล่ะ!

อะไรทำนองนี้ เราก็จะรู้สึกแย่มาก อยากอุ้มหมากลับบ้าน
พอมองหมาแล้วก็ทำไม่ได้...
ด้วย เห็นแก่เครื่องเอ็กซเรย์ เราจึงได้แต่นิ่งเงียบ

คุณไม่ถามเราด้วยซ้ำ ว่าเรามีความเสี่ยงในการเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ไหม

พลอยพูดขึ้นแบบนี้เพราะว่า เพิ่งไปคลินิกทำฟันอื่นๆ
เขามีป้ายเตือนกรณีตั้งครรภ์ และพนักงานกับแพทย์ในห้อง
จะถามย้ำก่อนแม้ว่าผู้หญิงที่เข้าไปเอ็กซเรย์ฟันดูปกติทั่วไป

***ดังนั้นหากคนอ่านท่านใดมีความเสี่ยงให้จำไว้ว่าต้องบอกหมอเองนะคะเผื่อเขาไม่ถาม

แต่ในเมื่อพลอยไม่ได้เป็นอะไร
และหมอก็สรุปไปเองเรียบร้อยแล้วว่า พลอยไม่มีทางเป็นอะไรหรอก

เราจึงจับผักชีนอน และรอเขาถ่ายภาพแค่แชะเดียวก็จบ

อ้วนอ๋องกดตัวและขาหมา พลอยจับที่ช่วงคอหมากับขาหน้าให้เลื่อนลงมาต่ำๆ

ถ้าไม่นับตอนผักชีดิ้นในนาทีแรกที่วางบนโต๊ะ
ทุกขั้นตอนทำได้ง่ายดายหมด แค่ทำตามที่เจ้าของสุนัขแนะนำ
อีกทั้งคุณหมอและพนักงาน ไม่มีความเสี่ยงสูงใดๆเลย

เพราะตอนคุณหมอก็ไม่ได้มาเข้าใกล้จัดในระยะอันตราย
มีเอื้อมมือมาลูบบ้างก็ยืนไกลๆหลังเคาน์เตอร์กั้น แป๊บเดียวก็เสร็จ

ถ้าหมอรู้สึกไม่ปลอดภัยพอที่จะรักษา ก็ควรบอกว่าไม่รักษาจะดีกว่า
สาเหตุเพราะจับตัวไม่ได้ ก็ว่ากันไป เป็นที่เข้าใจได้นะ

หมาไม่หือ ไม่อือ หมาได้แต่ซบพิงแนบอก ของเจ้าของที่อุ้มเอาไว้
ยอมรับกับการถูกปิดตาและเสียงปลอบใจ

พอเรากอดเอาแก้มแนบกัน ให้เอนหัวลงกับโต๊ะเอ็กซเรย์
ผักชีก็ดูจะเริ่มผ่อนคลาย

เราใช้เวลารอฟิล์มไม่นานค่ะ
แต่เรานั่งมองหน้ากันพร้อมความเครียดมหาศาล
ถามตัวเองในหัวว่า ทำไมเราไม่หาคลินิกอื่นแทนนะ...

*** *************

ตอนอธิบายฟิล์มหลังจากนั้นไม่กี่นาที คุณหมออธิบายดีค่ะ
ดูเย็นๆลงนิดหน่อยล่ะ

แต่ก็เริ่มมีวาระอีกรอบ ตอนจะฉีดยาแก้อักเสบ(จมูก) ให้หมา
พยายามจะรัดปากหมาไว้ กลัวดิ้นเข็มหัก หมอบอกฉีดเข้ากล้ามเนื้อนะ มันเจ็บมาก

ซึ่งพลอยค้านเพราะ ผักชีเคยฉีดมาแล้วหลายทีกับยานี้
ถ้าปกติ พลอยนี่แหละที่เรียกผ้ามัดปากเองแม้หมอคนอื่นจะบอกแป๊บเดียว
พลอยเน้นความปลอดภัยของสัตวแพทย์และพนักงานอื่นเป็นหลัก

แต่วันนี้ จมูกชีบวมตุ่ย ฟันชีก็โยกมาก
ชีเจ็บและไม่พร้อมรับการมัดปาก
อีกทั้งเพิ่งเครียดหนักหนาสาหัสจากเสียงเอะอะของคนรอบกาย

ก็เลยตามเดิม พลอยปิดตา คุยปลอบ
อ้วนอ๋องล็อกตัวให้นอนไว้
พนักงานอีกท่าน มากดเท้าแน่น บอกกลัวดิ้น
เราเลยยืนยันว่าเคยมาฉีดยานี้ที่นี่แล้ว ตอนป่วยหนก่อนโน้น

สรุป ฉีดยาไป ชีชีไม่ได้สนใจใครเลย นิ่งมาก...

พอเสร็จ อ้วนอ๋องอุ้มไปนั่งรอจ่ายตังค์
รับยาแก้อักเสบแบบกินไปอีกสามวัน
เพื่อให้จมูกยุบ ลูกสาวก็ทำหูลู่ใส่ สบายใจว่าพ้นหมอแล้ว
^ ^
ค่าเอ็กซเรย์ 450 บาทนะคะ ที่เหลือก็ค่ายา ค่าวินิจฉัย ไม่ถึงพันบาทหรอก

*** ************

โหมด เวิ่นเว้อของพลอยสวย

สิ่งที่พลอยเข้าใจ เวลาไปพบแพทย์ ไม่ว่าจะของมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง

1. แพทย์อาจมีทัศนคติ ติดลบ กรณีคนมาหาชอบเสิร์ชอาการทางเน็ตแล้วมโนเป็นตุเป็นตะ
แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยแค่เพียง อธิบายความเชื่อมโยงที่สงสัย และรอวินิจฉัยหมอแบบสงบ ก็ฟังให้จบสักรอบหน่อยค่ะหากไม่ยาวเกินไปนัก

หมายเหตุ : อย่าถึงขั้นแว้ดใส่หน้าจอว่า พลอยไม่มีวันเข้าใจหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์นี่หรอก
คือ ยืนยันว่าเข้าใจนะคะ เคยต้องเป็นหนึ่งในบุคลากรที่ต้องรับฟังเรื่องพวกนี้โดยตรง เต็มๆ เลยล่ะ แม้จะไม่ใช่หน้าที่หลักก็ประหนึ่งใช่ (คนน้อย ทำอะไรได้ก็ทำหมด 55+)

เพราะพลอยไม่ไว้ใจตัวเอง ในการอ่านข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ
พลอยถึงบากบั่นพาหมาไปพบคุณหมอทั้งหลายนะคะ
เราอธิบายความเชื่อมโยง พร้อมข้อสันนิษฐานส่วนที่เราสงสัย
แต่เราไม่เคยสรุปผล เรารอผลสรุปอาการจากแพทย์เท่านั้นและพร้อมที่จะเชื่อ

การวุ่นวายไปพบแพทย์แต่ละสาขาวิชานั้น
ในมุมมองด้านนึง คือการสร้างภาระการตรวจรักษาโดยไม่จำเป็น

แต่ในมุมมองอีกด้าน การไปพบแต่เนิ่นๆ ดีกว่าปล่อยให้ป่วยลุกลามแล้วเพิ่งมา จนเป็นภาระแพทย์ในการรักษาเช่นกัน

** ********************

2. สัตวแพทย์อาจกลัวสุนัขดุ

กรุณาปรึกษาเจ้าของ หากประเมินว่าทำการรักษาไม่ได้ ให้ตั้งเงื่อนไขตามสมควรโดยไม่ใช้อารมณ์มาเกี่ยวข้องเกินเหตุ อาทิ ใช้ยาซึม วางยาสลบ ฯลฯ

การทำงานโดยไม่มีความสุข
จะไม่มีใครสบายใจเลยค่ะ

- การกลัวสัตว์ดุร้าย เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เข้าใจได้

- การดูแลความปลอดภัยตัวเอง ก็เข้าใจได้ (ในเคส ชุดกันรังสีเอ็กซเรย์)
แต่ควรแจ้งความเสี่ยงแก่อีกฝ่ายด้วยเสมอ เพื่อให้ร่วมตัดสินใจรับการเสี่ยงนั้นๆ

สัตว์เลี้ยงไม่พูด ไม่บอก อดทน
แต่สัตว์หลายตัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวและฝังใจง่ายดาย

** *********************

3. เป็นข้อแนะนำสำหรับการพบแพทย์ทั่วไป
ในการไปโรงพยาบล หรือคลินิกต่างๆ

หากมีอาการป่วยที่ไม่อยากเอ่ยปาก เนื่องจากเกรงผู้ป่วยรายอื่นจะได้ยินเรื่องส่วนตัว หรือแพทย์อาจไม่ค่อยเข้าใจถ้าเราอธิบายไม่เก่ง พูดจาวกวนไปมา

เขียนใส่กระดาษแล้วยื่นค่ะ
หรือถ้าทำตามพลอยทำ ก็พิมพ์ใส่กระดาษ A4 เลยค่ะ
แพทย์จะอ่านทวน และถามเพิ่มเติมเอง อีกทั้งยังเอากระดาษแนบในแฟ้มประวัติต่อไปได้ด้วยเผื่อต้องย้อนทวนกรณีเปลี่ยนหมอรายใหม่
^ ^

เรื่องแบบไหนที่เราอาจไปขอแจ้งพบหมอแบบไม่สบายใจบ้าง

-เรื่องโรคติดต่อ กลัวคนได้ยินแล้วแสดงท่าทีรังเกียจ
-เรื่องเกี่ยวกับอวัยะส่วนพึงสงวนทั้งหลาย
หรือเรื่องเพศสัมพันธ์ (อันนี้เจอคนไม่อยากตรวจบ่อยแม้จำเป็นสุดๆ)
-ขอคำปรึกษาทางจิตวิทยา
 ฯลฯ

สรุป ทุกเรื่องถ้าไม่อยากพูด คุณเขียนไปยื่นให้พยาบาลที่คัดกรองเคสได้หมดเลยค่ะ

พลอยนี่ตกบันได ปวดหลัง ยังพิมพ์กระดาษไปยื่นเลยค่ะ

ทีแรกเจอหมอเอะอะเหมือนจะโวยด้วยว่าปริ้นท์จากเน็ตมาให้เหรอ
สักพักพอก้มอ่าน เหมือนประหลาดใจว่า นี่เขียนเองเหรอ...

เป็นที่สะดวกต่อแพทย์ทุกท่านที่เจอตอนตรวจต่อเนื่องด้วยนะคะ

ป.ล.หลักการสำคัญคือ ต้องอ่านง่ายสำหรับทุกคนนะคะ
ดังนั้นพลอยแนะนำให้ใช้ตัวพิมพ์มาตรฐานทั่วไป
แล้วปริ้นท์ออกมาถ้าสะดวก

** **************

4. กรณีนำกระดาษพิมพ์เขียนอาการตัวเองไปพบแพทย์
หากเป็นไปได้ ควรไล่เรียงลำดับ ตามวันที่และเวลาคร่าวๆค่ะ

ในกรณีอาการเรื้อรัง ยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ระยะเวลาที่เกิดปัญหาแต่ละสิ่ง มีผลต่อการวินิจฉัยนะ

** ***************
5. งานวิชาชีพแพทย์ พยาบาล (หรือแม้แต่สัตวแพทย์)
ไม่ใช่งานบริการที่ต้องเอาใจใคร

แต่มีคำถามคือ... 
ในความเป็นมนุษย์ด้วยกัน เราปฏิบัติต่อคนอื่นๆแบบไหน?

และสำหรับคนไข้หรือสัตว์เลี้ยงที่เจ็บป่วย คุณมีขอบเขตการวางตัวเช่นไร?

คุณเคยตระหนักถึงข้อเสียในการปฏิบัติวิชาชีพแบบไม่เต็มใจไหมคะ

สำหรับพลอยแล้ว แค่น้ำเสียง ท่าทางต่างๆจากบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขา
ที่เราหวังพึ่งพายามเดือดเนื้อร้อนใจ มีผลมากต่อจิตใจ

และที่คุณอาจคาดไม่ถึง คือสภาพจิตใจ
มีผลต่อเนื่องถึงสภาพร่างกายอย่างรุนแรงได้มากมายแบบน่าอัศจรรย์เสมอ

ความเครียด ความกลัว ความกดดันต่างๆ
สำหรับบางคนคือเรื่องร้ายแรงและอันตราย

** ************************

เราเคยกลัวการไปคลินิกนี้แบบอธิบายไม่ค่อยได้ชัดเจนนัก
และวันนี้เราก็ชี้ชัดได้มากกว่าเดิม

เราดีใจที่ตัดสินใจย้ายผักชีไปหาหมอโบที่ คลินิกแฮปปี้เพ็ท ในกรณีทั่วไป
แต่เสียดายหมอโบไม่ถูกหวยร่ำรวยซื้อสารพัดอุปกรณ์มาไว้บริการได้คล่องๆ
เอ๊ะหรือรวยแล้วเงียบๆกันนะ 555+

(ถ้าหมอโบมาอ่านเจอจะแอบค้อนใส่หรือเปล่า...

ยังไงก็ขอบคุณที่ดูแลผักชีแบบใจเย็น ใจดีเสมอมาค่ะ เวลาเราต้องใช้เวลาหาท่าเหมาะๆจับผักชีก่อน หมอก็รอเราตลอดเลย ขอให้หมอโบร่ำรวยเข็งแรงนะคะ คลินิกรักษาสัตว์ แฮปปี้เพ็ท ลำลูกกา คลอง 2 เชียร์นอกหน้าแบบมิได้ส่วนแบ่งอะไรเลย

ป.ล.เถอะ หมอแทบไม่รู้จักเรา ก็แค่ลูกค้าหนึ่งในหลยคนที่นานๆเจอหน้ากันที)

ป.ล.ส่วนคลินิกที่เราไม่ปลื้มทุกที่ เราขอไม่เอ่ยถึงชื่อเสียงเรียงนามก็แล้วกัน
เนื่องจากแต่ละคนก็อาจต่างกรรม ต่างวาระ หากไม่สนิทก็คงบอกว่า แล้วแต่ดวง

** *************

ทำไมเราต้องบ่น ต้องเรื่องมากเลือกคลินิก
เพราะสัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้ บอกไม่เป็น พอๆกับเด็กเล็ก

หมารู้ไหมว่าคุณโกรธ ไม่พอใจ ดุใส่
หมารู้นี่คะ...

ผักชีเป็นหมาขี้กลัว ขี้ระแวง
ถ้าโดนต้อนจนมุมก็อาจกัด
เราจึงคุยตกลงกันในบ้านนานแล้ว
ว่าถ้ามีคนถาม เราจะไม่พูดว่า หมาเราไม่ดุนะ
เราคิดตลอดเวลาว่า ต้องพาหมาอยู่ร่วมกับคนอื่นแบบระมัดระวังที่สุดเสมอ

ฉะนั้นแนวโน้มส่วนใหญ่ ถ้าถามว่าดุไหม
เราจะรีบบอกว่าเธออาจจะกัด อย่าจับตัว

เราเพียรอธิบายทุกข้อที่ไม่ควรทำ กำกับทุกวิธีการเข้าหาผักชีแบบละเอียดให้แก่ผู้คนเสมอ

เราฝึกผักชีให้พร้อมรับขั้นตอนการตรวจต่างๆเท่าที่จำเป็นกับเธอ

เธอนอนตะแคงข้างนิ่งๆได้
แค่ขอเวลาให้เธอผ่อนคลายเล็กน้อย
และคำปลอบใจข้างหูเธอเพียงเบาๆ

เธอฉีดยาได้หมดทุกเข็ม
ขอแค่ให้ปิดตาเธอ...

ผักชีแค่อยากอยู่ในโลกสวยๆไร้เดียงสาหลังหลับตา
เธอแค่อยากคิดว่ามือที่แตะต้อง เป็นมืออุ่นๆของเจ้าของ

เราพึงสังวรว่าเราเป็นฝ่ายอยากเลี้ยงหมาเอง
ต่อให้เอามาแล้วนิสัยหมาดูแลได้ยุ่งยากแค่ไหน
เราก็พึงต้องรับผิดชอบให้เต็มที่

เราอยากตะโกนบอกหมอว่า หยุด! ตอนหมาโดนกระชากเสื้ออย่างแรงจนตัวเขยื้อน โต๊ะมันเล็ก เธอนอนมาริมๆด้านนึงแบบหมิ่นเหม่ อย่างแย่สุดก็คือดิ้นตกลงมา

พลอยอยากหันไปถามอ้วนอ๋องนับครั้งไม่ถ้วนว่า เราไปที่อื่นดีไหม
แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำอะไรแบบนั้น

เราอยู่กับเครื่องเอ็กซเรย์ หมาตกใจ หมาอดทน เราก็ต้องอดทนเช่นกัน
ฟังดูดราม่าเวอร์อ่ะ 555+

เน้นยำ้ว่าอุปกรณ์ที่เราเจาะจงหามันอยู่ตรงหน้าแล้ว!

แต่ขอน้ำตาซึมในใจทีได้ไหมเนี่ย เวลาเราไปพบแพทย์สักคน เราต้องอดทนขนาดนี้จริงๆเหรอ?

ถ้าเราไม่อดทน หยิ่งในศักดิ์ศรีเบอร์ต้นๆ
เชิดหน้าพาหมาออกมา แทนที่จะแอบวิตกจริตในใจ

เราต้องตะลอนพาหมาไปหาอีกกี่คลินิกทั้งที่เย็นจวนค่ำแล้ว

เราไม่มีปัญหากับขั้นตอนการรักษาแต่อย่างใดเนื่องจากเป็นไปตามหลักวิชาการของคุณ
สิ่งที่ไม่ไหวบางครั้งก็คือสีหน้า น้ำเสียง ท่าทีต่างๆที่พบเจอมา

ถ้าคนอ่านจะตัดสินว่า พลอยคาดหวังมากไป
โอเวอร์ดราม่า หรืออะไรก็ตามแต่
ขอเพียงความกรุณาพิจารณานิสัยเล็กของพลอยแนบท้ายเข้าไปด้วย

หลังจากออกจากที่นั่นแล้วเดินทางกลับบ้าน
พลอยเทียวขอโทษอ้วนอ๋องซ้ำๆ ที่ทำให้เขาต้องมาอดทนกับเรื่องพวกนี้ตามไปด้วยเพียงเพื่อให้หมาได้ตรวจเร็วที่สุดไม่ต้องทนต่อข้ามคืนจากนี้โดยไม่รู้ว่าเป็นเยอะไหม

แต่อ้วนอ๋องก็ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ได้แต่พยักหน้าในทำนองว่าเข้าใจ (เพราะเขาก็พยายามอดทนเพื่อผักชีเช่นกัน ปกติถ้าเป้นเรื่องหมา เขาจะนิ่งและไม่พูดอะไรสักคำจนกว่าจะเสร็จธุระ)

พลอยเป็นพวก "ไม่เก่ง" ค่ะ ^ ^
เลยขอมาบ่นบนหน้ากระดาษบล็อกนี้แทนที่จะโวยอะไรไปตอนนั้น

ถ้าคุณเจอคนแบบนี้ อย่ารังแกเราเลยถือว่าสงสารเราละกัน 555+
ไม่งั้นอาจเห็นพลอยสวยร้องไห้อีกก็ได้นะ
หนก่อนเจออีกคลินิกจ่ายยาผิด พลอยก็โมโหแบบฟ้องหมอที่ตรวจอีกคนว่าห้องยาจ่ายมาผิด

ฟ้องไปร้องไห้ไปน่ะคิดดู อัดอั้นตันใจ 55555555+

บ่นพอล่ะ เริ่มกลับมาผ่อนคลาย
ผักชีเดินมานอนหมอบ มอง ข้างเก้าอี้เมื่อกี้ ทำหูลู่ใส่ทักทายด้วยค่ะ
น่ารักเนอะ ^o^

ขอบคุณคนที่อดทนอ่าน
ขอบคุณแม้กระทั่งคนที่กดผ่านเรื่องดราม่านานๆทีของพลอยไปด้วย

และหวังว่าสำหรับบางคนที่บังเอิญได้อ่าน จะก่อประดยชน์ในด้านใดด้านหนึ่งขึ้นบ้างเหมือนกัน

ยังไม่ต้องห่วงผักชีมากเน้อ รวมๆสบายดี
เดี๋ยวถ้าป่วยอะไรอีก จะหาคลินิกใหม่ที่มีอุปกรณ์อีกค่ะ
แต่ถ้าไม่เร่งด่วน ก็พาผักชีไปรายงานตัวกับหมอโบโน่นล่ะ

หมอเต้ย (คนแรกที่ตรวจชีเป็นปี) ก็ใจดีมาก เสียดายย้ายที่ทำงาน

หมออื่นระหว่างทางก็เจอประปราย นิ่งบ้างอะไรบ้าง
แต่ก็ทำงานตามขั้นตอนไม่มีเรื่องเสียหาย

ส่วนหมอแบบสุดท้ายที่เพิ่งเจอมา
น่าแปลกมากที่รักษาสัตว์
แต่ทำร้าย (จิตใจ) เจ้าของสัตว์ไปได้แบบพร้อมๆกัน 555+

** ***********************

ป.ล.เล่าเรื่องส่วนตัวหน่อย
ตอนญาติรุ่นน้องอีกคน บอกอยากเป็นสัตวแพทย์
พลอยนี่แหละที่ไปเบรกเขาตัวโก่ง ด้วยเล็งเห็นว่าเขาใจอ่อน
ขืนเจอกรณีทิ้งสัตว์ หรือคนทำร้ายสัตว์เลี้ยง
ต้องรับมากองเต็มบ้านจนทุกข์ใจเป็นภาระหนักแน่

ตอนนี้รู้สึกอยากให้เขาเปลี่ยนใจ เผื่อใช้บริการ
แต่ไม่ทันแล้ว 55+ เรียนสาขาอื่นไปเรียบร้อยล่ะ

แถมปกติผักชีที่ไม่ชอบผู้ชาย รายนี้เธอบอกผ่านด้วยนะเอ้อ
ยอมให้เขาจูงทั้งตอนเป็นหมาเด็กและหมาโต
^ ^


 
 



Create Date : 13 กรกฎาคม 2562
Last Update : 18 มกราคม 2565 22:42:27 น. 2 comments
Counter : 2202 Pageviews.

 
หมอไม่ใส่ใจเราในระดับไหน

ก็ในระดับที่ พอจบฉีดยา
หมอก็ไม่ได้พูดเรื่องที่เราบอกว่า หมาน้ำมูกไหล หมาเหมือนเป็นไข้

หรือจริงๆหมออาจไม่ได้สนใจเราตั้งแต่อธิบายอาการ เพราะหมอมัวแต่ขัดขึ้นเสียงดังกว่าเรื่อยๆยาวๆเฉพาะเรื่องฟันกับจมูก

เราเองก็ไม่อยากอยู่ต่อแล้ว อยากเผ่น
ถ้ารากฟันไม่อักเสบอะไร ที่เหลือแค่ไข้ น้ำมูกไหลปกติ เดี๋ยวก็รอหายเองดีกว่า

สเต็ปปกติที่เราเจอมาเวลาพาหมาไปเกือบทุกคลินิก
หากเป็นกรณีเจ็บป่วยมา
คือ ชั่งน้ำหนัก ขอเสียบปรอทวัดไข้ก่อน

อ้อ ได้ประโยชน์หนึ่งอย่างในความอดทนของเรานะคะ
หมอบอกมาว่าถ้ารากฟันอักเสบเป็นหนอง จมูกจะค่อยๆบวม
ใช้เวลาราวๆ 2-3 วัน

ปัญหาที่เราแจ้งหมอคือ เราไม่แน่ใจ เราเพิ่งไปธุระ ฝากผักชีไว้
เพิ่งรับกล้บบ้านเมื่อบ่ายนี้เอง ผักชีไม่สุงสิงกับคนมากนัก ถ้าพี่เลี้ยงไม่ได้สังเกต ก็ค่อนข้างปกติค่ะเพราะหมาไม่ชอบให้มาใกล้ๆ

ไว้หาคลินิกใหม่ถ้าเจอป่วยแบบนี้อีก
ยังไงเครื่องเอ็กซเรย์ก็คงไม่ได้มีที่เดียว พอไหว
^o^

แค่ภาวนาให้ผักชีอย่ามาป่วยเยอะเอาตอนจวนค่ำ
คลินิกรอบนอกเมืองแบบนี้ส่วนมากเขาปิดกันไว 55+




โดย: ploy666 IP: 27.130.80.135 วันที่: 13 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:54:54 น.  

 
ป.ล.ประคบเย็น ที่ดั้งพรุ่งนี้(น้ำแข็ง)
ยาแก้อักเสบ ฉีดแล้ววันนี้
พรุ่งนี้เริ่มกิน วันละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า

ยาฉีด+ยากิน (60+100)
ค่าหมอ 150
ค่าเอ็กซเรย์ฟัน 450

สรุป เอาแก้มข้างที่ปกติแนบลงก็ไม่เป็นไร
เพราะไม่มีเส้นหนองเป็นสันแหลมๆ
โผล่เลยไปที่แถวดั้งสักข้าง ถือว่าฟันปกติทั้งสองข้างค่ะ

ซี่ที่โยกจัด หมอคิดว่าน่าจะเป็นก้อนหินปูน
เลยไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน

** *************
หมายเหตุให้ชัดเจน

-เราไม่ได้ติเรื่องการรักษาตามหลักวิชาการ

-เราติ เฉพาะในส่วนกิริยาท่าทาง การแสดงออกต่างๆ
ซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคล ต่างกรรม ต่างวาระ

และเราอยู่ในขอบเขตที่ เมื่อเจอเหตุการณ์นี้ชัดๆสักหน
ตามปกติชนก็เลือกตัดสินใจได้ว่า
เราควรไปหาคลินิกอื่นแทน
ฉะนั้นไม่มีดราม่าอื่นให้เรามาบ่นตามมาอีก ^ ^

จบแต่เพียงเท่านี้ค่ะ.



โดย: ploy666 IP: 27.130.80.135 วันที่: 13 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:23:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.