Group Blog
 
<<
เมษายน 2565
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 เมษายน 2565
 
All Blogs
 
143_[ผักชี@ปทุมธานี] : สุนัขเปรี้ยว หนีเที่ยว "De Veranio Resort" (ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต) จ.ตราด ตอน2

 
 


ภารกิจตกค้าง เที่ยว จ.ตราด ตอนที่ 2
ใครจะย้อนไปดู ตอน 1 กดลิงค์ "ก่อนหน้า" ที่ด้านบนเลยค่ะ
^ ^






หมายเหตุ : 
ทริปนี้เราไปต้นเดือนมีนาคม 2565 นะคะ


** ******

อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่กับ 
"De Veranio Resort" (ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต) จ.ตราด
สุนัขใหญ่พักได้ (ไม่ชาร์จเพิ่ม)

งานยามเช้าตรู่ของผักชีคือ รีบตื่น ปลุกคนไปเดินเล่นกันเถอะๆๆ
ใครนอนก่อนก็ต้องพาเธอไปน่ะแหละค่ะ

จากนั้นพอตื่นกันครบถ้วน
ก็ชวนกันไปกินมื้อเช้าที่รวมในค่าห้องพักแล้วนะ
เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าทั่วๆไป มีทั้งขนมปังปิ้ง ข้าวสวยและกับข้าวอีกนิดหน่อย
แต่วันนี้เป็นเช้าวันเสาร์ 7 โมง คนมาพักไม่เยอะ เหมือนอาหารจะน้อยกว่าวันถัดไป
หรือเพราะเราไปไว เขายังทำกับข้าวไม่เสร็จทุกชนิดก็ไม่ทราบได้

เพราะเช้าวันอาทิตย์ที่คนมาพักเยอะๆ
เราออกไปตอนราวๆ 8 โมง อาหารเยอะกว่ากันนิดหน่อยค่ะ




สุนัขพานั่งด้านนอกตามกติกาทุกที่
แต่เนื่องจากเมื่อคืนฝนตก พื้นก็จะเปียกหน่อยๆ
ผักชีไม่ได้บ่นอะไร ก็นั่งรอไป กินเสร็จเดี๋ยวก็ไปเที่ยวต่อล่ะ

ชอบโต๊ะ แข็งแรง มัดหมาได้ไม่ต้องคอยดึงเวลาคนกินอาหารนะ
^ ^
จะปลื้มมากถ้าที่ไหนมีเสา หรือต้นไม้ หรือขาโต๊ะแน่นหนา
ที่มัดผักชีไว้อยู่ เพราะพะวงจับ เดินไปมา
ก็ลำบากไม่มีมือจะกินข้าวเหมือนกันค่ะ
เลยต้องผลัดกันดู ผลัดกันกินแทน 55+



โซนที่นั่งกินอาหารเช้า วิวมองไปเห็นทะเลด้วย
ถ้ามองย้อนมา ด้านข้างตัวอาคารคือสระว่ายน้ำค่ะ

มีห้องน้ำไว้ให้เปลี่ยนชุด
อยู่ใต้อาคารที่เป็นป้ายชื่อโรงแรมนั่นแหละ



อีกสักรูป
กินไปชมวิวไป ฟินมาก
เขาตั้งโต๊ะมีระยะห่างพอประมาณค่ะ

คนทยอยมา ไม่ได้หนาแน่น
บางส่วนก็ไม่มีสุนัขเขานั่งกันในอาคารเป็นห้องแอร์
ก็ข้างหลังเรานี่แหละ

แต่ทำพื้นลดระดับกันมา
คนนั่งด้านนอกไม่บังวิวคนด้านในนะคะ
รู้สึกต่างคนก็ต่างเป็นส่วนตัวพอสมควร






ขนาดไปเที่ยวยังไม่วายมีภาพยาแปะ 555+
เมื่อวานจำได้ไหม ที่บอกผักชีวิ่งหน้าหาด
คึกเอาเป็นเอาตายมาก เธอไม่เจอที่วิ่งเล่นกว้างแบบนี้มานานมากแล้ว

กลับที่พักตอนค่ำมืด ขาเขยกค่ะ
ภารกิจเช้านี้จึงเริ่มจาก ขับรถออกจากที่พักเข้าเมือง
ไปซื้อยาแก้ปวด...เหง่อ...
-"-

อ้อ แล้วสนามหญ้า ทั้งที่รีสอร์ตมี แล้วก็ตามข้างทางที่ลง
หลายจุดมีต้นหญ้าหนาม (ไมยราบ)
ต้นที่พอไปเหยียบแล้วใบจะหุบนั่นน่ะ

ผักชีก็ชอบวนไปย่ำไปเหยียบเหลือเกิน
ดึงออกมาก็ไม่ค่อยยอม สู้ (เพื่อ???)
ผลก็คือตอนหัวค่ำไปดู อุ้งเท้าบวมเต่ง
รอบขอบอุ้งดำๆ จะเห็นว่าผิวแดงชัด

เราพกสเปรย์นาโน ไปพ่นแก้อักเสบด้วย
สรุปคืนนั้นพ่นแม่นางไป 4 เท้าหลายรอบแบบชุ่มฉ่ำหน่อย
เน้นตอนเธอนอนแล้วนะ พักใหญ่ก็เริ่มทุเลาลง เช้าก็ดูหายสนิทดีพอใช้

** ***

ในส่วนของยาแก้ปวดเข่า
เราก็เอาประวัติเก่าเธอ รูปเก่าๆ
ที่ขาเคยมีอาการ งอๆ ตอนลุก
แล้วก็ยาเก่า อธิบายไปว่าคุณหมอท่านเดิม บอกเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม 
เมื่อวานวิ่งเยอะ จากนั้นก็มีคลิปเดินขาตึงๆแปลกๆเมื่อคืนเพิ่มให้คุณหมอดูด้วย

คุณหมอจึงจ่ายยามาให้
คลินิกรักษาสัตว์เพิ่มรักษ์ จ.ตราด ค่ะ
เปิดตอน 8 โมงเช้าเลย
ทางเดียวกับที่เที่ยวที่เราจะไปพอดี

ผักชีกินยาหลังอาหาร ครึ่ง เม็ด
ตอนเย็นก็กินอีก ครึ่ง เม็ด

จากนั้นวันถัดไปกินตามที่เขียนบนหน้าซอง
ถ้าอาการดีขึ้น คุณหมอก็บอกว่า 2-3 วันก็หยุดยาได้เลยค่ะ
คุณหมอจ่ายามาให้แค่สำหรับ 3-4 วันเท่านั้น
ไม่ควรกินนาน

** *******

เราวนกลับเข้าเมืองมาทำไมตอนเช้า นอกเหนือจากมาหาหมอ
เราว่างค่ะ ...55+

วันนี้เราว่างทั้งวัน คิวเราเลยต้องหาที่ร่อนต่ะสักหน่อย
วนกลับเข้าเมืองแค่ครึ่ง ชม.
ไม่ไกลนะ จุดหมายปลายทางเราคือ ไปวัดค่ะ







เอิ่ม อันนี้ชี้แจงก่อนว่าบ้านเรามิใช่สายเข้าวัดมากนัก แต่ก็ไปบ้าง
รอบนี้เรามีวัตถุประสงค์มาดูอาคารอนุรักษ์

วัดบุปผาราม จ.ตราด
เป็นวัดที่ยังเหลือโบสถ์และอาคารขนาดเล็ก ตั้งแต่สมัยอยุธยา
มีภาพเขียนสีเก่ายุครัตนโกสินทร์ด้วย

เรียกว่าเราพากันมาเปิดหูเปิดตา ตามประสานักท่องเที่ยวนั่นเอง






มีป้ายลานจอดรถหลายจุดค่ะ
ร่มรืนดี
ผักชีนั่งรออ้วนอ๋อง
ท่าเดียวกับพี่หมาปูนปั้นด้านนนอกรถเลย 55+

คนผลัดกันลงไปไหว้พระ ดูโบสถ์วิหาร ถ่ายรูปแบบไม่รีบร้อน
ส่วนผักชีก็รอกับคนที่นั่งเฝ้าในรถนั่นเอง
หมาลงไม่ได้ค่ะ มีหมาวัดเจ้าถิ่น เดี๋ยวจะวุ่นวาย




พลอยเก็บภาพบรรยากาศมาฝากแค่บางส่วนนะคะ
หอระฆังสูงๆนั่นมิใช่ของเก่าค่ะ แต่ทำใหม่สวยดีเลยถ่ายมาด้วย
^ ^




มีหมู่เจดีย์ศิลาแลงของเก่าดั้งเดิมด้วยนะ
อาคารไหนอนุรักษ์ไว้ เขาจะมีประวัติอธิบายบนป้ายหินด้านหน้าให้ค่ะ
กรุณาไปด้วยความเคารพและสำรวม อย่าทำสิ่งของเสียหายเน้อ

มีคนมาบ้างในเช้าวันเสาร์ แต่ค่อนข้างน้อย
เลยเงียบสงบร่มเย็น

ใช้เวลาอยู่ในวัดกันพักใหญ่ ไหว้พระ ทำบุญช่วยวัดหย่อนกล่องบริจาคกันตามศรัทธา
จากนั้นเราก็ไปต่อที่ร้าน โกปี๊...อร่อยไม่รู้เล่า



ร้านนี้เป็นร้านของหวานเน้นๆ และบรรดาน้ำและกาแฟนั่นเอง
ถ้าตอนที่เรามาจาก กทม.
มันคือถนนเส้นเดียวกันเลยค่ะ ที่เราจะไปรีสอร์ต
แถวแยกที่เข้าตัวเมืองตราดนั่นแหละ

ดังนั้นขับรถออกจากวัดมาไม่กี่นาที ก็ถึงจุดหาของกิน
เย้เย...



ติดริมถนนใหญ่เลยค่ะ ตามภาพด้านบน
ที่จอดรถมีเท่าที่เห็นน่ะแหละ
ถ้ามาช่วงคนเยอะอาจต้องจอดริมทางก็เป็นไปได้

ร้านนี้เปิดแต่เช้าเลยนะคะ
ตามที่บอกคือเน้นขนม น้ำหวานต่างๆ
มีของกินนิดหน่อย แต่ไม่เป็นตัวหลัก






พลอยเลือกมานี่เพราะเขาบอกมีซุ้มนั่งได้
เลยกะเผื่อว่าถ้าคนไม่เยอะจะถามเขาก่อน เผื่อได้เอาผักชีลงด้วยกัน
หาที่นั่งเล่นนั่นเองค่ะ





เดินตรงเข้าไปจะเป็นเคาน์เตอร์
ป้ายเมนูเยอะมาก และมีป้ายบอกสิ่งต่างๆเกี่ยวกับร้าน
อาทิ จดออเดอร์ก่อนแล้วค่อยส่งพนักงาน

พลอยอ่านไม่ค่อยทัน แต่พอดีตอนไปไม่มีคนเท่าไหร่ เขามายืนรอ
พลอยก็บอกไปเลยว่าจะเอาอะไรบ้าง เขาก็เดินไปทำให้ค่ะ
มิได้มีปัญหาอะไร
รอเขาไปส่งของที่โต๊ะ (บอกเขาด้วยนะว่าจะไปนั่งตรงไหนน่ะ)
กินเสร็จค่อยเดินมาเรียกให้เขาไปเช็คบิลอีกทีที่โต๊ะเรา

ตอนไปก็รู้สึกพนักงานเขาหน้าตานิ่งๆเนาะ
แต่ตอนยกของไปให้ เขาก็ยิ้มแย้มนะคะ ใจดีอยู่ 55+
อาจจะเป็นบุคลิกส่วนตัวกันไปในแต่ละคนน่ะเนาะ





กำแพงเมนูของหวาน
นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เขาเขียนป้ายให้เราจดรายการมาส่งเองก็ได้
เพราะตอนไปยืนอ่าน ตัดสินใจยากน่าดู
เยอะมากกกก ละลานตา
^o^
พลอยสวย มาเพราะสิ่งนี้!!!
(อ้าวๆ ไหนเมื่อกี้บอกมาเพราะจะหาที่นั่งเล่นที่หมาลงได้ไง 55+)






ร้านมีไวไฟบริการฟรี
มีป้ายแปะรหัสตามเสา หากันเอง

แต่ถ้าใครจะชาร์จไฟฟ้าต่างๆ ให้แจ้งพนักงานก่อน
คิดเงินนิดหน่อยค่ะค่าใช้ไฟ เผื่อนั่งนานๆ




แก้วนี้ของพลอยเอง
ชาเขียวถั่วแดงปั่น โฟลท 65 บาทถ้าจำราคาไม่ผิดนะ

คือเป็นชาเขียวปั่น มีแผ่นถั่วแดงบดเป็นสี่เหลี่ยมแปะข้างบน
มีไอติมชาเขียวมาให้ (ไอติมอร่อยดีอยู่นะ)

ราคาและคุณภาพก็ โอ.เค. กันดีค่ะ
ราคาของกินที่นี่จะไม่แพงนะ เรียกว่าราคากันเองมาก
ถ้าใครเบื่อๆมานั่งเล่น แค่หาของกินหวานๆ ก็ควรแวะ

ขนมปังชาไทยอัลมอนด์ อันนี้อร่อยกว่าที่คาด
ราคาแค่ 35 บาทเองค่ะ

พลอยไม่ใช่เทพสายกิน
แค่หาที่นั่งเล่นไปเรื่อยๆค่ะ
^ ^





ให้ดูก่อนว่าพาผักชีไปนั่งตรงไหนได้
ต้องอธิบายก่อนว่าวันนี้คนยังมาน้อยมาก
เราไปช่วง วันเสาร์สายๆ 
ประมาณ 11 โมงเห็นจะได้ค่ะ

ซุ้มเลยว่าง ถามแล้วเขาบอกเอาสุนัขนั่งได้

ซุ้มที่ว่ามา มีซุ้มเดียว อยู่ข้างร้าน
คือถ้ามีคนจับจองก่อนหน้านี้ ผักชีก็อดลงค่ะ
อาจได้แค่ซื้อขนมแล้วนั่งรถกลับรีสอร์ตกันไป

ซุ้มนี่เดินไปแล้วจะมี 2 โต๊ะ ค่อนข้างใกล้กันค่ะ
เราเลยต้องระวังก่อนพาผักชีลง
ถ้ามีลูกค้าอื่นนั่งก่อน ก็ไม่ไหว




ผักชีนอนจ้องขนม 55+

ทำไมอ้วนอ๋องไม่แบ่งล่ะ...

ลมพัดเย็นสบายค่ะ
มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นอีกล่ะ

เลยไปจะเป็นโซนห้องน้ำนะคะ
แต่ไม่มีกลิ่นอับอะไร นั่งได้อยู่




หันไปทางครัว ใกล้ๆกันไม่กี่เมตร มีพี่หมาขนยาว แก่และป่วยมาก
มายืนกินข้าวแบบระแวง กลัวผักชีแย่งค่ะ
แต่ก็กินเสร็จแล้วเขาก็ไปเองเงียบๆนะ





จับให้ดุว่า แก้วใหญ่เกินราคาแหละ
กินไม่หมดค่ะ 555+
ได้แค่ไหนแค่นั้น
นั่งเล่นกันพอหายร้อนจากไปวัดเดินถ่ายรูปอาคารมา

เราก็เรียกเช็คบิล แล้วขึ้นรถไปต่อ

ทริปนี้อิ่มนะ จริงๆ 
="=





ย้อนกลับทางเดิมที่จะไป ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต

แต่ว่าเราเลี้ยวเข้าทาง "หาดพลอยแดง"
คือต้องยูเทิร์นรถนิดนึงค่ะ จะได้เลี้ยวเข้าทางลงไปหาดได้
ขับไปนิดเดียวก็เจอร้านล่ะ



ป้ายทางเข้าจะเล็กหน่อย อยู่ซ้ายมือ อย่าขับเลยล่ะ

ข้างในมีที่จอดรถ จอดได้หลายคันอยู่ค่ะ

"ร้านหาดพลอยแดงซีฟู้ด"

ร้านนี้หารีวิวได้เยอะ สุนัขไปได้ทุกขนาดค่ะ



ชื่อเพจเขาจะเขียนว่า 

ร้านหาดพลอยแดงซีฟู้ด
ใครสนใจรายละเอียดหรือดูเมนู ก็ไปส่องเอาเอง
^ ^






ที่นั่งจะเป็นซุ้ม ที่ห่างกันมากค่ะ
มากขนาดตามภาพนี่ล่ะ
เรียกได้ว่าพาหมาลง ไม่ต้องกังวลเรื่องรบกวนโต๊ะอื่นแต่อย่างใด
ชอบมากๆ

ร้านเปิดช่วง 11 โมงเช้า -2 ทุ่ม นะคะ

ถ้ามีปรับเวลายังไง ก็สอบถามกันดูก่อนไปอีกที
น้องเจ้าของร้านร่าเริงดีค่ะ ถามง่ายคุยง่าย สบายๆ

วิวที่เราได้ก็จะตามภาพด้านล่างนี้
สวยงาม




โซนที่เรานั่งมีลมโกรก มีร่มไม้หนามาก
ไม่ร้อน ไม่อึดอัด สามารถนั่งกันยาวๆ กินกันสบายๆได้เลย
พลอยแวะไปก็ช่วงเที่ยงวันแล้วค่ะ






ระหว่างรออาหารก็เอาผักชีไปเดินถ่ายรูปนิดนึง

ผักชีก้ม สำรวจโลกอีกตามเคย
ไม่มีรูปเงยหน้าง่ายๆหรอกนะ





คนรอกินข้าว
ผักชีก็นอนแทะน้ำแข็งเล่น
เย็นชื่นใจเธอ

โดนมัดกับขาโต๊ะอีกล่ะ 55+





อันนี้พอเราบอกว่าขอเอาหมาลงนั่งด้วย
น้องเจ้าของร้านก็วิ่งไปหาไม้เรียวมาให้
เอามาทำไม
ขู่เจ้าถิ่นค่ะ
-"-

คุณน้องบอกว่า "หมาผมเองครับพี่ ตีได้เลย"

55+ แต่จริงๆคือน้องหมาก็ไม่ได้ดุเดือดมากมายอะไรนะ
ออกแนวอยากรู้อยากเห็นน่ะแหละ

รอบแรกมาจริง มาแบบ แอบย่องมาเงียบๆด้วย
เกือบมองไม่เห็น เพราะต้นไม้กระถางเยอะบังตา

โดนเราไล่พร้อมเอาไม้เรียวตีโต๊ะขู่ๆ
ตกใจ วิ่งเตลิดหนี



ถามว่าหายไปถาวรไหม..ไม่
สักพักแอบย่องกลับมา ไปชวนเพื่อนมาด้วยอีกตัว

555+ ขำก็ขำ ความร้ายกาจของเหล่าหมาๆนี่เนาะ
ตัวเองสู้ไม่ได้ ไปเรียกพรรค์พวกด้วยนะเอื้อ

แต่ตัวที่มาด้วยกันนี่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย แค่มาช่วยๆดู
มีทำทีจะย่องมาดัก หาทางเข้าใกล้ผักชีบ้าง
แต่พอเราขู่ๆก็หยุด ยืนมองๆ
ตัวมาทีหลังเป็นหมาแก่ค่ะ แก่แบบ แก่มากเลยล่ะ
^ ^

ตอนหลังหมาแก่มาเอง ตอนน้องเจ้าของมาเสิร์ฟของกิน
ก็มายืนมองๆผักชี แล้วก็เลิกสนใจ
แค่มายืนให้เจ้าของเล่นด้วย แล้วก็พากันไป

สรุป มีหมาเจ้าถิ่น
ไม่ดุมาก แต่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้เข้าถึงตัวกระทันหัน
ไล่ๆนิดเดียวเขาก็ไปค่ะ เขาขี้กลัวกัน

ถึงยังไงพาหมาเราไปเที่ยวก็อย่าประมาท
บางทีเขากัดกันเพราะตื่นเต้นที่เจอหมาแปลกหน้าก็มี




อาหาร
ร้านหาดพลอยแดงซีฟู้ด จ.ตราด
ของกินอร่อยมากทุกอย่างที่พลอยลองสั่งมานะ
ของสดดีด้วย

ราคาพอๆกับร้านอาหารซีฟู้ดริมหาดทั่วไปค่ะ
ไม่จัดว่าราคาโหดหรือแรงเกินเหตุ
เมนูบอกชัดเจนว่าอะไรราคาไหน




เนื่องจากเรา อิ่ม..วันนี้เราเลยออกแนวสั่งของมานั่งกินเล่นๆงุ้งงิ้ง
ถ้าดูตารางจะรู้ว่าทำไมเราอิ่มจนไม่สั่งข้าวสวย..

-"-
เรากินข้าวเช้าจาก ดิ เวรานิโอ้

เราไปวัดแป๊บนึง ยังย่อยไม่หมดดี 
เราก็แวะร้าน โกปี๊ อร่อยไม่รู้เล่า อัดขนมหวานเข้าไปต่อ
จากนั้นอีกแป๊บเราก็ต่อมาที่ ร้านหาดพลอยแดงซีฟู้ด

คือเราเว้นช่วงการกินไม่เยอะค่ะ
ยังกะมาทัวร์กิน แต่พอดีบ้านเรากินกันน้อยอยู่แล้ว
ก็เลยกินได้เท่าที่เห็น (ไม่มีกิจกรรมเยอะ กินไม่เยอะค่ะ)

ใครมาตามลิสต์พลอยอันนี้ ก็กลับบ้านไปชั่งน้ำหนักด้วยนะคะ
5555+




แปะส่งท้ายร้านหาดพลอยแดงซีฟู้ด
ด้วยหัวใจใบไม้ 2 ดวง
อิ่มและบรรยากาศดีมากค่ะ
^o^




พาผักชีเข้าที่พักก่อน
เป็นการเบรกกระเพาะอาหารเรานี่เองล่ะ
ให้หมาน้อยลดความตื่นตัวลงหน่อย เพราะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยล่ะ ไม่เจอผู้คน





ถ่ายรูปหมาน้อย เล่นกัน
อวดภาพเฉยๆ ไม่มีอะไร 55+



หน้าตาเวลาโดนพี่พลอยลอบทำร้ายหัวเหม่ง จิ้มๆ
น้องสาวมีหางก็จะทำสีหน้าราวๆนี้ล่ะ อร๊ายๆๆ
ผักชีผู้มีความสุขค่ะ...

ช่วงบ่าย 3 เราก็เลยชวนกันไปสระว่ายน้ำสักหน่อย
หากิจกรรมย่อยอาหาร




เวลาเอาหมามาด้วย ลงทะเลไม่สะดวกนะคะ
ต้องมีข้าวของเยอะ ต้องหาที่วางริมหาด

ถ้ามีที่มัดหมาแถวสระ คนก็จะพอได้เล่นน้ำมั่ง
แต่ถ้าไม่มีที่มัดผักชีไว้ ก็ต้องมีคนเฝ้าหมา
หรืออดเล่นน้ำไปโดยปริยาย

รอบนี้มัดไว้ที่เสาปูน แต่แถวนี้มีร่มเงาเรื่อยๆนะคะ ไม่ร้อนค่ะ

ผักชีหลบแดด และชอบหาที่แอบจากสายตาคนอื่น
เป็นเรื่องปกติ แต่เห็นงี้เธอก็แอบส่องลอดตามช่องว่าง
คอยเหล่เจ้าของเป็นระยะนะ ว่าไม่ได้ไปไหนไกลตา

อย่าลืมเอาชามใส่น้ำ วางไว้ให้หมากินด้วยค่ะ
และคอยเดินกลับมาดูเธอเป็นระยะๆ

ป.ล.เราเล่นน้ำที่สระ ก็ห่างกันนิดเดียวนี่ล่ะ 2 เมตรได้



สระน้ำสวยดีค่ะ
แต่แผ่นกระเบื้องด้านใต้ บางจุดจะหลุดร่อนแล้วนะคะ
มองไปก็เห็นด้วยตาเปล่า
ดังนั้นใครลงน้ำ จะเหยียบเดิน ก็ระมัดระวังด้วยค่ะ

ตรงนี้เป็นจุดที่อยากให้ทางรีสอร์ตปรับปรุงไวๆ



เล่นน้ำไป 1 ชั่วโมง
ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า จับผักชีขึ้นรถอีกรอบ
ไปร้าน ตาโจ๊กโรงหมึกตามภาพประกอบด้านบน

วันนี้หมาได้เที่ยวทั้งวัน เรียกว่าเธอยังไม่ได้นอนกลางวันเลย

ถามว่าผักชีแคร์ไหม..ไม่!!!

เธอจะอาศัยช่วงขึ้นรถนี่ล่ะค่ะ ที่คอยหลับเป็นพักๆไป
พอรถจอดเธอก็จะลิ่วลงก่อนใครเพื่อไปเล่นต่อ


เราฝากท้องไว้ร้านตาโจ๊กโรงหมึกทั้ง 2 วัน ตอนเย็น
เนื่องจากสะดวกดี ซื้อใส่กล่องกลับมากินช่วงคำ่ๆที่หิว

รอบนี้ไปซื้อกาแฟ เพราะจะไปขับรถเล่นกันต่อด้วยค่ะ




อันนี้มื้อเย็นเราเอง พลอยถ่ายไม่สวยนะ
คือขับรถไปมา เข้าที่พักค่อยถ่าย ก็เลยเสียหายความงามที่จัดในกล่อง


อ่ะ เล่าต่อๆๆ

สอยมื้อเย็นแล้ว เราขับรถเลยต่อไปค่ะ
ไปทางอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด
ก็เกือบสุดเขตประเทศไทยน่ะแหละ
เป็นอำเภอขนาดใหญ่อยู่นะคะ

ไปทำไม...แค่อยากไปดูบรรยากาศนิดนึงค่ะ
^ ^

แต่ว่าด้วยความที่เริ่มเย็นล่ะ 6 โมงได้
ก็เลยได้แค่ขับรถไปวนๆเล็กน้อยแล้วกลับมากัน






สิ่งที่เราเห็นจากการขับรถผ่าน
คือภาพอาคารแปลกๆหลายแห่ง
ซึ่งปิดมิดชิด ดูไม่มีผู้คนอยู่เลย และมีแค่ช่องระบายอากาศเล็กจิ๋วเรียงราย

บางหลังดูเป็นอาคารที่สร้างใหม่ด้วยซ้ำ 
มีห้องเล็กด้านบนเหมือนปล่อง ยื่นโผล่มา

ก็พากันสงสัยพักใหญ่เลยว่า ทำไมเขาสร้างตึกแบบนี้กันนะ




บางหลังก็ไปสร้างไว้ลึกๆโน่นเลย
แต่ดูแล้วคือเจตนาสร้างเพื่ออะไรบางอย่าง
และทำกันเยอะแยะในชุมชนด้วยล่ะ



จนเรามาเจอตึกนี้ที่สี่แยกไฟแดง
ระหว่างเราจอดรอไฟเขียว
ก็เลยเห็นว่า มีนกฝูงใหญ่พากันบินเข้าไปในช่องของปล่องด้านบนตึกค่ะ

เลยนึกได้ว่า อ๋อ เขาเลี้ยงนกนางแอ่นนี่เอง

แต่ด้วยความที่ทำกันแบบธุรกิจ
เลยมีการล่อนกเข้าตึกที่สร้างไว้เลียนแบบถ้ำ
อาจเป็นการนำตึกเก่ามาดัดแปลง หรือสร้างเป็นตึกใหม่โดยเฉพาะ

ก็แปลกตาดีค่ะ
คนอื่นจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วก็เป็นไปได้
แต่พลอยเพิ่งเคยเห็นของจริงที่ไม่ใช่ในข่าว
เลยถือว่าเป็นทริปเปิดหูเปิดตาไปละกัน
^_^

เป็นอีกวันที่ได้เห็นโลกใบนี้ในมุมใหม่ๆอันหลากหลายอีกเช่นเคย

กลับไปพักกันตอนที่พระอาทิตย์เอนตัวลงสู่ท้องน้ำเพื่อนิทรา...




เช้ามากับการอำลาจาก ดิ เวรานิโอ้ จ.ตราด
สุนัขพักได้ หมาใหญ่ไปได้

ทะเลก็จะสวยๆ สงบ สบายตาตามภาพประกอบด้านบนเลยค่ะ

วันนี้คนเยอะ เขามากันเมื่อเย็นวานที่เป็นวันเสาร์



มื้อเช้าเราเลยไปตอน 8 โมง
คอยเล็งๆนิดนึงว่าไม่มีคนพาสุนัขมาช่วงนั้น
เดี๋ยวจะนั่งใกล้กันแล้วไม่สงบสุขเท่าที่ควร 55+

วันนี้อาหารเยอะดีมากค่ะ
พลอยได้ต้มยำไก่ร้อนๆ กับขนมมาเพียบ



ให้ดูภาพหน้าหาดตอนเช้า
เลยไปก็จะเห็นคนตื่นไวมาเล่นกันประปราย



วันนี้ผักชีกินยาหลังอาหารเม็ดตอนเช้า แล้วโดนคำสั่งห้ามวิ่ง
เลยได้แต่เดินเล่นไปมารับลม

ก็อบอ้าวนิดหน่อย เดินไปมาก็ลิ้นห้อยอีกล่ะ
เธอน้ำหนักขึ้นเล็กน้อย จะร้อนง่ายขึ้นค่ะ



หาดทรายบริเวณนี้จะขาวสะอาดนะคะ
ไม่มีเปลือกหอยคมๆฝังเยอะแยะมากวนใจด้วย

แต่ข้อเสียคือ ทรายละเอียดไป เลยแน่นมากค่ะ
ฟิลลิ่งเดียวกับเดินบนพื้นปูน
ถ้าวิ่ง คนเองก็จะเจ็บเท้านิดหน่อยนะ
เพราะทรายแน่นเกิน ไม่ยุบซับแรงกระแทกเลย

ก็อย่าวิ่งเยอะแยะ 55+แค่นั้นเอง



มุมดอกหญ้า ที่เล็งไว้นานล่ะ เดินผ่านพอดี แชะสักรูปก่อนกลับบ้าน



บอกลา ดิ เวรานิโอ้
ออกแค่ปากทางก็แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มใหม่กันเลย
จะได้ขับกลับยาวๆ

เขามีร่มที่ระลึก ใหญ่ดีค่ะ เลยอุดหนุนมาคันนึง
ซื้อมาทำไมไม่รู้ ยังไม่ได้ใช้เลย 55+
คนอื่นก็เป็นใช่ไหมคะ แค่อยากได้น่ะ

จากนั้นเราก็ขับรถกลบบ้านในเส้นทางเดิม
แต่ขากลับผักชีเน้นหลับ หมดแรง
เราก็เลยจอดแวะให้เธอลงไปฉี่น้อยครั้ง

ช่วงพักกลางวันพอดีเราเลยแวะที่ ปั๊มเชลล์ จุดพักรถตา-ยาย จ.ระยอง
เสิร์ชได้ในกูเกิ้ล แมพ เลยค่ะ


คนผลัดกันไปหาของกิน อีกคนเฝ้าหมาที่รถ
แต่พอดีที่นี่มีโซนห้องน้ำสัตว์เลี้ยง 
ค่อนข้างดีนะ เลยพาผักชีลงไปทำธุระส่วนตัวด้วยเลย

ดียังไง ที่อื่นก็มี

คือเขาแบ่งจุดนี้ไว้ให้สวัตว์เลี้ยงจริงๆค่ะ ไม่ปนกับโซนสูบบุหรี่
โซนสูบบุหรี่ก็อยู่ไม่ห่างมาก แต่ก็เป็นอีกซุ้มนั่งไปเลย
คนละที่กัน

เพราะบางปั๊มที่เคยลงไปสำรวจดู
เขาใช้ที่เดียวกัน คนสูบก็ยืนสูบไป
หมาแมวก็จะเข้ามาทำธุระ แต่ก็มีคนแปลกหน้ายืนอยู่
ก็ค่อนข้างเป็นปัญหาเหมือนกัน

รวมถึงคนพาสุนัขมา ก็อาจเป็นแบบพลอย
คือเราจะแพ้ควันบุหรี่หนักมา
ดังนั้นการจัดทุกสิ่งไว้รวมกัน (อาจเพราะพื้นที่มีน้อย)
จึงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก




ปั๊มเชลล์ จุดพักรถตา-ยาย
แบ่งพื้นที่ไว้ดีค่ะ มีร่มเงาใบไม้ใหญ่ด้วย มีแสงแดดส่องด้วยประปราย
ทำให้ไม่เหม็นไม่อับ ไม่สะสมกลิ่น

ใครไปใช้บริการก็ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะคะ
^ ^



นี่คือสภาพผักชีขากลับ
เมื่อเราพาขึ้นรถวันท้ายๆและบอกเธอว่า
"กลับบ้าน" เธอจะพร้อมนอนสลบเหมือนทันที
ไม่ดูแล้ววิวข้างทาง

ผักชีรู้จักคำว่า "กลับบ้าน"
แปลว่า เที่ยวหมดแล้วค่ะ 55+

หมอนโฟมใบโปรดของเธอก็ยังคงอยู่
ซักยากนะ มันชอบลอยน้ำอ่ะ
ต้องหาของกดลงไปแช่ให้จมในกะละมัง
-"-

แต่ข้างในเป็นเม็ดโฟม ก็ดีไปอย่าง
ซักแล้วก็ไม่จับเป็นก้อนเหมือนพวกนุ่นหรือใยสังเคราะห์ค่ะ
^o^



รอบนี้เราได้ภาพครอบครัว แบบไม่เบลอ
แต่มันย้อนแสง ดำ 

อาร์ต ท่องไว้ๆ
(555555555555555+)

คือก็ได้แค่นี้ล่ะนะ ทำใจๆ
อยากได้พระอาทิตย์ตกด้วยนี่นาเนาะ

ทริปนี้สนุกดีค่ะ
ไม่เหนื่อยมากหรอก ไม่ค่อยได้ทำอะไร
แค่ขับรถไปมาแล้วก็หาที่นั่งกิน

จบกับ ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ต จ.ตราด ตอน 2
หมาใหญ่ไปได้นะ
ใครเพิ่งมาก็อย่าลืมไปดูตอน1 ก่อนหน้านี้เอาเองนะคะ

** **********

หมาป่วยจุกจิกอีกล่ะค่ะ
เดี๋ยวมาอัพเดตอีกที
บางอย่างหายแล้ว บางอย่างเพิ่งเป็น
คุณหมอยังงง ผักชีมาอีกแล้ว 555+


ด้วยรัก
จาก...ผักชี




 




 



Create Date : 03 เมษายน 2565
Last Update : 9 เมษายน 2565 18:30:47 น. 2 comments
Counter : 733 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse


 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 6 เมษายน 2565 เวลา:11:28:31 น.  

 
คุณ **mp5**
ขอบคุณค่ะ


โดย: ploy666 IP: 184.22.88.184 วันที่: 6 เมษายน 2565 เวลา:18:32:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.