ชมทะเลหมอกที่ ผาหินกูบ...จันทบุรี
เทรกเบาๆ แต่เหนื่อยหนักๆที่ ผาหินกูบ... | ผาหินกูบ | ผาหินกูบ ตั้งอยู่ทางใต้ของเทือกเขาสอยดาวใต้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ภายใต้การดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ผาหินกูบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยได้ยินชื่อบ่อยนัก เพราะเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชม การขึ้นชมจะใช้การเดินเท้าเท่านั้น มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในการขึ้น ไม่สามารถเดินทางขึ้นไปเองได้ จะต้องได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าก่อน และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ระยะทางการเดินทางขึ้นเขาประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาอยู่ที่ 5-6 ชั่วโมง จะต้องพักค้างแรมบนยอดเขา 1 คืน ส่วนจุดหมายปลายทางนั้น รับรองคุ้มค่ากับความเหนื่อยยากในการเดินเท้าขึ้นไปชม เพราะได้เห็นวิวในมุมสูง มุมกว้าง มุมแคบ (ตอนเดินเจอหินซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นทางตัน 5555 ) พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก นอนนับดาว สอยสายลมหนาว เฝ้าดูทะเลหมอก ชมแสงตะวันแรกเบิกฟ้า ครบรสค่ะ แต่การเดินขึ้นก็ครบรสเช่นกัน บุกป่า ผ่าลำธาร ปีนเขา เข้าถ้ำ ต้องใจเท่านั้น!! จึงจะไปได้ตลอดเส้นทาง | ผาหินกูบ | ออกจากกรุงเทพใช้เส้นทางสุขุมวิท route 3 (กรุงเทพ-ชลบุรี) หรือจะวิ่ง route 7 Motorway ก็ได้ แล้วเข้า route 344 เพื่อตรงไปผ่านอ.แกลง จ.ระยอง เข้าจันทบุรี ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. เราไปค้างคืนที่เมืองจันฯ ก่อน 1 คืนเพื่อตอนเช้าจะไม่ต้องออกจากบ้านเช้านัก เมื่อไปถึงเช็คอินเรียบร้อย ตกเย็นเราก็ไปหาอาหารเย็นกินกัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปกินร้านจันทรโภชนา และอีกกลุ่มไปกินร้านลุงเชย อาหารก็อร่อยดีตามอัตภาพ ก็สั่งประเภท หมูชะมวง ต้มแซบไข่ปลาเรียวเซียว กระเพาะปลาผัด น้ำพริกมะขาม ไก่ต้มใบกระวาน หมูป่าผัดเผ็ด ฯลฯ ที่ร้านมีบริการอาหารเด่นดังคือ หมูชะมวง แถมมีแบบกระป๋องให้ซื้อหากลับบ้าน และ น้ำพริกมะขามบรรจุขวด เจ้าของร้านโฆษณาว่าเก็บได้ 2 ปี 🙀 เสร็จก็มาต่อโรตีในตลาดที่อยู่ใกล้ร้านลุงเชย กลับไปพักเอาแรงต่อเพื่อเดินในวันรุ่งขึ้น พวกเรานัดเจ้าหน้าที่อุทยานไว้ประมาณ 9 โมงเช้าแต่ในตัวเมืองจัน ฝนตกหนักมากตั้งแต่เมื่อคืน พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ ติดต่อไม่ได้ แล้วเราจะได้ไปต่อไหมนี่ ลองเสี่ยงดูละกัน ออกไปทานอาหารเช้าที่ตลาดใกล้วงเวียนน้ำพุ และซื้ออาหารเที่ยง พร้อมกับ อีก 3 มื้อที่เหลือที่เราจะต้องอยู่ในป่าไปให้พร้อม แต่ขึ้นได้ไม่ได้ไม่รู้ จากตัวเมืองจันทบุรี ระยะทาง 38 กม.ใช้เส้นทางสุขุมวิทมุ่ง จ.ตราด จนถึงแยกปากแซง, ตรงสามแยกปากแซง ให้เลี้ยวซ้ายไปทางจังหวัดสระแก้ว (route 317) จากนั้นให้ตรงตามเส้นทางจันทบุรี - สระแก้ว ไปอีกประมาณ 23 กิโลเมตร เลยอำเภอมะขามไปจนถึงช่วงโป่งโรงเซ็น พอข้ามสะพานข้ามคลองโป่งโรงเซ็นไปหน่อย จะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ทุ่งเพล เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ให้ตรงไปอีกราว 4 กิโลเมตร จะเจอสามแยก มีป้ายบอกทางเลี้ยวขวาไปน้ำตกอ่างเบง จากตรงตามทางหลักไป จนเจอสามแยก คราวนี้ให้เลี้ยวซ้าย (ไปทางวัดป่าอุทุมพร) เลี้ยวมาแล้ว ตรงไปจนผ่านวัดป่าอุทุมพร จะเจอทางแยกซ้าย ไปหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล (ผาหินกูบ) ตรงเข้าไปจนถึงหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล (โทรสอบถามเส้นทางได้ที่ 084-864-9357) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางขึ้นผาหินกูบ - สำหรับเจ้าหน้าที่นำทาง 200 บาท/คน (สำหรับพวกเรา 9 คน) แต่ตอนโทรจอง จนท. แจ้งว่า 1000 บาท/จนท. จนท. 1 คน สามารถดูแลได้ 5 คน - กรณีจ้างลูกหาบ 1,000 บาท/คน (ลูกหาบ 1 คน แบบน้ำหนักได้ประมาณ 40 กิโลกรัม) เมื่อเราไปถึง เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าเรามาเป็นกรุ๊ปสุดท้าย ไม่มี Porter เหลือแล้ว ทุกท่านต้องแบกสัมภาระขึ้นไปกันเอง🙀🙀🙀 สิ่งของที่ตระเตรียมมา สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายทั้งปวงถูกโยนทิ้งไว้ท้ายรถ เพราะพวกเราแบกไม่ไหว เริ่มเดินที่เวลา 9.36 น. เดินไปเรื่อยๆ เทรลแรกยังสบายๆ ไม่ชันมาก เจ้าหน้าที่แจ้งว่ายิ่งสูงยิ่งชัน ทำเอาอิฉันหวาดกลัวยิ่งนักเพราะทริปนี้ลืมหยิบเทรกกิ้งโพลมาจากบ้าน ไปหาไม้ตามป่ามาใช้เป็นเทร็กกิ้งโพลแทน หมดไปหลายต้นเลยทีเดียวเพราะใช้ๆไปก็หัก ต้องขอโทษคุณต้นไม้ด้วยนะคะ และขอขอบคุณที่เสียสละลำต้นมาให้ ทำให้เดินได้สะดวกขึ้น แบ่งการเดินทางขึ้นเขาออกเป็น 8 ช่วง 1. จากจุดสตาร์ตที่ด้านหลังที่ทำการหน่วยฯ จนถึงหินเพิง สังเกตุเป็นลำธาร หรือน้ำตกเล็กๆ จะเป็นจุดแวะพักที่ 1 ระยะทาง 2.3 กม. | ผาหินกูบ | ทางเดินในระยะนี้เป็นทางเล็กๆ แคบๆ ผ่านป่าดิบชื้น ต้นไม้เขียวครึ้ม บางช่วงแดดส่องแทบไม่ถึงพื้น หายใจไม่ค่อยสะดวกนัก | ผาหินกูบ | เดินไปจมูกพลางไปเตะเอากลิ่นอะไรคุ้นๆ เลยลองมองหาดูว่ามันอยู่ ณ ที่ใด แตร่น แตร่น แตร๊นน ในที่สุดจมูกฉันก็ยังคงทำงานได้ดีเยี่ยม 5555 มันคือสละนั่นเอง หอมเย้ายวนใจมากๆ เด็ดมากินทันที เปรี้ยวได้ใจ แต่ชอบอะ ชุ่มคอดี หอมมากกก แต่ต้องระวังนะคะต้นมันมีหนามแบบพ่อทุเรียนเลย คือแหลมยาวทั้งต้นยิ่งกว่าทุเรียน | ผาหินกูบ | เดินไปชมความงามไปเพราะยังไม่เจอของจริง 555 | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | เมื่อเดินไปถึงจุดแวะพักแรก เป็นน้ำตกเล็กๆ ย้ำค่ะ เล็กกกกๆ หรือว่าเป็นลำธาร เล็กๆ เรียกว่า คลองมะเดื่อ | ผาหินกูบ | ขณะนี้เป็นเวลาประมาณเที่ยง ได้เวลาอาหารกลางวันที่นี่ | ผาหินกูบ | มีปลาเยอะแยะ น่าสปาเท้ามาก | ผาหินกูบ | บริเวณนี้มีผีเสื้อมากเลยค่ะ แต่ระวัง "ผึ้ง" นะคะ มันจะบินรวมๆกับผีเสื้อที่น่ารัก | ผาหินกูบ | อิ่มท้อง ได้พักเหนื่อยพอประมาณ ไปต่อกันเลย | ผาหินกูบ | ระยะ 2. จะใช้ระยะทางเดินประมาณ 1.3 กม. ระยะทางก็ชันขึ้นเรื่อยๆ จากลำธาร ถึงหินเพิง-แผ่นหินรูปแปดเหลี่ยม เมื่อเดินต่อจากลำธาร ทางจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงจุดพักที่ 2 เป็นโขดหินขนาดใหญ่ รูปแปดเหลี่ยมแบน | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | หอยทากผู้น่ารัก เห็นแล้วนึกถึง Escagot ย่าง Opps! | ผาหินกูบ | เหมือนมีแพะอยู่ที่โคนรากไม้ | ผาหินกูบ | ระยะที่ 3. จากหินแปดเหลี่ยม ถึง หินแหลม 1.1 กม. จะถึงหินแหลม เส้นทางจะเริ่มโหดขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นการไต่ระดับความสูงชันขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ยังคงเดินในป่าทึบ มีจุดที่ต้องปีนป่าย ยกตัวเองขึ้นไป ช่วงนี้โหด แต่ยังไม่สุด | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | ระยะที่ 4. ป่าไผ่ เป็นเส้นทางที่เดินฝ่าเข้าไปในดงป่าไผ่ที่ขึ้นหนาแน่น ดูเหมือนเหมือนฉากในหนังจีน หรือ สวนป่าไผ่ที่เกียวโต (55มากไประ) เส้นทางค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อเห็นป่าไผ่ แสดงว่าจุดหมายปลายทางอยู่อีกไม่ไกลแล้ว (คนไปทริปหน้า จะได้มีกำลังใจเดิน เพราะมันเหนื่อยมากจริงๆ | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | เห็ด .. อย่ากะหลินจือ 555 แต่คงไม่ใช่ | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | ระยะที่ 5. เป็นช่วงที่ต้องปีนป่ายอย่างแท้จริง มีทั้งไต่เชือก เกาะเกี่ยวรากไม้ โหนตัวด้วยเถาวัลย์ ช่วงนี้ถือว่าโหดเลย และพื้นก็ลื่นด้วย ระวังเท้าพลิกนะคะ ระหว่างทางบนเขา เป็นหินที่ต้องปีนป่าย แต่ก็แอบเห็นต้นไม้เล็กๆน่ารักที่ขึ้นบนหิน | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | ระยะที่ 6. ลอดถ้ำ ที่หินแหลมถึงทางลงถ้ำ ระยะทาง 1.4 กม. ถ้ำเหมือนหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน ทรุดตัวมาเกยพิงกันอยู่ เกิดเป็นช่องโพรงขนาดใหญ่ ซึ่งต้องเดินผ่านเข้าไป ในถ้ำค่อนข้างมืด ระวังเหยียบพลาดนะคะ | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | ระยะที่ 7. ช่วงปีนหิน เมื่อออกมาจากถ้ำจะสามารถไปได้ 2 ทางทั้งซ้ายและขวา แต่ดูๆแล้วเหมือนจะไปไม่ได้ทั้ง 2 ด้าน 5555 ทางซ้ายจะต้องปีนหินขึ้นไป และจับรากไม้โหนตัวดันขึ้นไปด้านบน ถ้าไปด้านขวา ก็ปีนลงไปเยียบเถาวัลย์ ไต่ๆ แล้วยกตัวโหนเถาวัลย์ขึ้นไปบนหินก้อนใหญ่แบนๆนั้น **ช่วงนี้ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ถึงมากที่สุด | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | ระยะที่ 8. ระยะปลอดภัย .... จุดพักค้างแรม ตรงเพิงซอกหิน ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายจะถึงจุดหมายปลายทาง | ผาหินกูบ | เป็นหินขนาดใหญ่สองก้อนที่วางซ้อนกันอยู่ แล้วมีช่องหินที่เป็นเหมือนเพิงที่พัก วิวด้านหนึ่งมองทะลุเห็นวิวผืนป่าจากมุมสูง ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เมื่อมาถึงก็สามารถเลือกทำเลที่นอนได้ตามชอบ | ผาหินกูบ | พวกเราเลือกที่จะขึ้นไปนอนด้านบนเกือบสุด ก่อนเขาหลังช้าง ทางเดินขึ้นต้องไต่เชือกขึ้นไปค่ะ ไต่ครั้งแรกในชีวิตก็ยากเอาการอยู่ | ผาหินกูบ | Finally!!! We are here!!! | ผาหินกูบ | ระหว่างทางหลังจากที่ไม้หักไปหลายอัน ยัยพลอยก็พูดว่ากลับไปคราวนี้จะกลับไปซื้อไม้เทรกกิ้งโพลชุดใหม่แบบดีเลิศไปเลยดีกว่า แต่เฮียบอกว่า เธอน่าจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ดีกว่านะ ...จบข่าว 555 ความคิดแหล่มมาก 55555 เมื่อมีชีวิตมาถึงจุดนี้ได้ ก็ซัดวิวให้หนำใจซะ จะนั่งจะนอน จะสูดอากาศ จะโยคะ นั่งสมาธิ เอาที่สบายใจ แล้วมากางเพิงที่พักเป็นหลังคา จริงๆเจ้าหน้าที่มีกางให้หน่อยนึงแล้วแต่พวกเรามา 9 คน จึงต้องทำเองเพิ่ม | ผาหินกูบ | การได้นอนดูดาว อากาศดีๆ ในวันพระจันทร์เต็มดวงทั้งคืนนี่มันรู้สึกดีซะนี่กระไร แถมคืนนี้พระจันทร์ยังทรงกลดหลายรอบเลย มากันหมด ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง รัศมีวงกว้างจริงๆ แต่!!!! ใครที่มาที่นี่กรุณานำเสื้อหนาวหนาๆมาด้วยนะคะเพราะด้านบนหนาวมากกกกก ถ้ามิเช่นนั้นควรมีถุงนอนดีๆมาด้วย พวกเราทิ้งถุงนอนทั้งหมดไว้ท้ายรถ ทั้ง 9 ชีวิตเลยต้องเผชิญความหนาวเย็นอย่างสุดขั้ว และทำเลของเราเป็นช่องเขาที่เป็นช่องลมผ่านพอดี ถึงขนาดต้องเอาทุกสิ่งที่มีมาใส่ ไม่ว่าจะเสื้อหนาว เสื้อกันฝน รวมถึงถุงดำใส่ขยะมาใส่เท้ากันเลยทีเดียวในตอนกลางคืน ด้วยความหนาวเหน็บและเจ็บหลังเวลานอนพื้น ในที่สุดพวกเราก็ตื่นขึ้นมาต้มน้ำ โซโล่ชา กาแฟ โอวัลติน และเลยเถิดไปถึงมาม่า กันตอนตึ 3 กินๆ เม๊าส์ๆ ขำๆ กันไปจนพระจันทร์เริ่มลับ | ผาหินกูบ | และ พระอาทิตย์เริ่มขึ้น เราก็โหนตัวลงไปเพื่อไปชมพระอาทิตย์ที่หน้าผาด้านล่าง | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | | ผาหินกูบ | เป็นยอดเขาใกล้ๆ กัน มีหินลักษณะกลม จินตนาการได้ว่าเหมือนหมีหมอบ เป็นจุดชมวิวต่อจากผาหินกูบออกไปอีกหน่อย เมื่อเราไปอยู่ตรงผาหมีแล้วมองกับมาที่จุดตั้งแค้มป์ จะเห็นภาพรวมของจุดที่ตั้งแค้มป์ ที่อยู่ซอกหินขนาดมหึมาได้อย่างชัดเจน | ผาหมี | ภาพถ่ายจากผาหมีย้อนกลับมาที่ผาหินกูบ | ผาหินกูบ | มีลักษณะแหลมเหมือนหลังช้าง ต้องปีนข้ามกิ่งไม้ และโหนเชือกดึงตัวขึ้นไป จึงจะขึ้นไปได้ อยู่ด้านหลังแคมป์ที่นอนของพวกเรา | เขาหลังช้าง | | เขาหลังช้าง | | เขาหลังช้าง | | เขาหลังช้าง | เตรียมตัวก่อนไป และ สิ่งที่ห้ามลืมก่อนไป - เครื่องแต่งกาย: เสื้อ / กางเกง : แบบใส่สบาย มิดชิด คล่องตัว ไม่อึดอัด หรือใส่เสื้อแขนยาว ขายาว เพื่อป้องกันหนามหรือกิ่งไม้เกี่ยวตามร่างกาย ตอนเดินเราจะรู้สึกร้อนมาก โดยเฉพาะที่นี่ป่าดิบชื้น เหงื่อจะออกมากกว่าปกตินะคะ รองเท้า แน่นอนควรเป็น รองเท้าเทรคกิ้ง เพราะพื้นลื่นมาก กรุณาตรวจสภาพรองเท้าก่อนนำไปใช้งานนะคะ หมวก หรือผ้าโพกศรีษะ ควรนำติดตัวไปด้วยเพื่อกันแดด ถุงมือ สำคัญมากค่ะโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง เพราะเวลาโหนเถาวัลย์ หรือรากไม้ เพื่อปีนขึ้น-ลง จากเขา หรือเวลาถือไม้ค้ำ หรือ Trekking pole เดี๋ยวเจ็บมือและมือด้าน จะหาว่าอิฉันไม่เตือน
- เป้สำหรับใส่ของเดินป่า ควรมีน้ำหนักเบา นำเฉพาะของใช้จำเป็น ไม่ควรแบกของหนัก เพราะการเดินทางต้องขึ้นเขาสูงชัน บางช่วงมีการปีนป่าย สัมภาระจะกลายเป็นภาระ และทำให้รู้สึกเหนื่อยมาก
- เสื้อกันหนาว บนผาหินกูบ ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ลมค่อนข้างแรง กลางคืนอากาศหนาวเย็น ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาว เสื้อผ้าที่กันลม กันหนาว ผ้าห่มขึ้นไปด้วย อากาศบนผาหินกูบจะหนาวเย็นกว่าด้านล่างมาก บางครั้งมีก็ลมแรงมากด้วย
- ถ้ามีถุงนอน ควรเตรียมถุงนอนไปด้วย เน้นว่าถุงนอนแบบกันหนาวด้วยจะดีมาก หรือจะเป็นเปล ก็มีที่ผูกเปลนอนได้
- ทริปผาหินกูบนี้ไม่ต้องกางเต็นท์ จึงควรเตรียมผ้าสำหรับปูพื้น เช่นพลาสติกปูพื้นสีฟ้า-ขาว กราวชีส ผ้ายาง เสื่อ สำหรับนอนพื้น หรือปูรองถุงนอน
- Trekking Pole ค่อนข้างสำคัญ ถ้าไม่มีก็ไปตัดไม้ข้างทางเอาแบบอิฉันแต่ก็ระวังไม้บาดมือนิดนึงและจับไม่ค่อยถนัดแบบ Trekking Pole
- หากเดินในช่วงหน้าฝน ต้นฝน หลังฝน ควรเตรียมพลาสติกคลุมเป้ และเสื้อกันฝน ไปด้วย
- Wet Tissue ใช้ได้ทั่วทั้งร่างกาย เมื่อไม่มีห้องน้ำ
- ไฟฉาย ไฟแช็ค ทิชชู่แห้ง มีดพับ
- ยาประจำตัว และ ***ยากันยุง กันทาก กันแมลง และยาทาแก้แพ้เวลาโดนยุงกัดแล้ว หรือจะเป็นยาหม่อง เอาเบตาดีนไปด้วยก็ดี เผื่อโดนกิ่งไม้บาดเลือดออก
- น้ำดื่ม 1 ขวด (มีแหล่งเติมน้ำดื่มบนเขา)
- ถุงขยะ
- อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานสำหรับมื้อกลางวัน วันเสาร์ หรือสำหรับทุกมื้อรวม 4 มื้อ สามารถนำอาหารสดไปทำ Camping ได้บนนั้น ด้านบนเจ้าหน้าที่จะต่อน้ำไว้ให้ใช้ จนท.มีหม้อเล็กๆสำหรับต้มน้ำให้ยืมค่ะ แต่ถ้าทำอาหารต้องพกหม้อไหไปเองค่ะ
- ผาหินกูบ เปิดให้ขึ้นเฉพาะเสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น โดยเดินขึ้นเขาเช้าวันเสาร์ และลงเขาเช้าวันอาทิตย์ ถ้าเป็นช่วงหน้าฝน ควรโทรสอบถามก่อนว่าเปิดให้ขึ้นไปได้หรือไม่
- การขึ้นผาหินกูบในแต่ละรอบ มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะที่พักแรมบนผา มีพื้นที่จำกัด โทรจองการเดินทางล่วงหน้า ที่ 084-864-9357
- หากต้องการลูกหาบ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้าเพื่อการจัดหาจัดจ้างคน ขนาดพวกเราแจ้งล่วงหน้ายังต้องแบกเอง คิดดูละกันว่าควรแจ้งล่วงหน้าแบบคอนเฟริ์มกับเจ้าหน้าที่ไหม
- เส้นทางเดินเป็นการเดินเข้าป่าดงดิบชื้่น ควรเตรียมเครื่องป้องกัน แมลงต่างๆ เช่น ทาก เห็บลม ผึ้ง
- ควรมีสภาพร่างกายที่พร้อมกับการเดินป่า ไม่เมาค้าง ไม่อดนอน ไม่เจ็บป่วย ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เป็นโรคความดัน โรคลมชัก หรือโรคหัวใจ
- ควรเดินขึ้นแต่เช้า ประมาณ 8โมง เพื่อขึ้นไปแล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศด้านบนนานๆก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าขึ้นไปสายมาก เมื่อไปถึงก็ใกล้มืด อย่าลืมว่าเราต้องเผื่อเวลาหาและจัดที่หลับที่นอน อิฉันเตรียมที่พักเสร็จก็ตะวันก็ใกล้ลาลับพอดี
- บนเขาใกล้ที่พักมีแหล่งน้ำ (ที่ต่อมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ) สามารถอาบน้ำ แปรงฟันล้างหน้าได้ แต่ไม่มีห้องสุขา World Wild is our restroom
- บนเขาไม่มีไฟฟ้า ควรมีไฟฉายไปด้วย และ/หรือพกหลอดไฟ LED ที่มีพลังงานในตัวเปิดแบบไฟฉาย เป็นดวงไฟเลยค่ะ ใช้การได้ดี แขวนไว้ที่พักสว่างทั่วบริเวณ สามารถจัดหาได้แถวคลองถม ตอนซื้อคนขายบอกได้ 8 ชม. แต่เอาเข้าจริง ชม.ท้ายๆแสงจะค่อนข้างดิมมาก แต่ดีงามค่ะ
- บนเขามีสัญญาณโทรศัพท์ งั้นก็อย่าลืมพก Powerbank ไปด้วยหล่ะ ทั้งถ่ายรูป ทั้ง up load (DTAC และ True มีสัญญาณ แต่ AIS: No Service ค่ะ)
ขากลับกทม. ขอแวะจันทบุรี เพื่อชมโบสถ์ และเดินเล่นกินอาหารที่ริมแม่น้ำจันทบูร ก่อนกลับบ้าน | เพิ่มคำอธิบายภาพ | เก๋ไกร๋สไลเดอร์ สามารถชมรายละเอียดเมืองได้โดยการสแกน QR Code จร้า | ริมแม่น้ำจันทบูร | สามารถจอดรถได้ที่ข้างโบสถ์ แล้วเดินข้ามสะพานนิรมลมาอีกฝั่งที่เป็นตลาดคนเดิน | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | ชาวบ้าน 2 ฝั่ง แม่น้ำจันทบูร | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | ก็มีการวาดรูปและบันทึกรายละเอียด เพื่อระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆริมแม่น้ำสมัยก่อน | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร |
เมื่อเดินออกมาจากซอยจนพบถนน | ริมแม่น้ำจันทบูร | วันนี้เป็นวันอาทิตย์บ่าย บรรยากาศค่อยข้างเงียบเหงา | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | | ริมแม่น้ำจันทบูร | ตั้งใจไปกินก๋วยเกี๋ยวหมูเลียงคุณหน่อยแต่ปิด เลยแวะทานก๋วยเตี๋ยวจ้าว... จ้าวสมุทรร้านเจ็อี๊ดแทน ก็โอเคนะคะ ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง ก๋วยเตี๋ยวจ้าวสมุทร มีขนมถ้วยตะไลอร่อยใช้ได้เลยนะ อิ่มหมีพลีมัน เดินกลับไปที่รถ ที่ลานจอดรถมีร้านขายกล้วยปิ้งโบราณ ที่ชุบน้ำกระทิแล้วย่างจนแห้ง อร่อยดีค่ะ มีโรตี และร้านขายชากาแฟ และขนมอื่นๆ ไปแล้วก็ลองชิมๆดูค่ะ แล้วมาเล่าให้ฟังบ้างว่า | ริมแม่น้ำจันทบูร |
Create Date : 29 มิถุนายน 2559 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2560 22:54:55 น. |
|
10 comments
|
Counter : 4288 Pageviews. |
|
|