หมึกสีดำของไผ่สีทอง
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาในทางปฏิบัติถึงมโนปฏิบัติ เป็นผู้คงที่ ระงับแล้ว มีสติทุกเมื่อ,, การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓ ตอนที่ ๓






หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
ฉบับพิเศษ เล่ม ๓
สนทนาธรรมกับ หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร

ปัญหาเรื่องเทวดา



ผู้ถาม: คนที่ชอบบนกับพระภูมิ ท่านสามารถจะช่วยได้จริงหรือเปล่าค่ะ…?

หลวงพ่อ: ก็ไปถามท่านซิ ฉันไม่ใช่คนถูกบนนี่…

ผู้ถาม: บางครั้งคนที่ไปบนก็ได้รับความช่วยเหลือก็มีค่ะ แต่ยังไม่แน่ใจว่าท่านจะช่วยได้อย่างไร…?

หลวงพ่อ: ท่านจะช่วยได้ในสิ่งที่ไม่เกินวิสัย อย่าลืมนะคนกับเทวดานั้นไม่เหมือนกัน ถ้าสิ่งที่เกินวิสัยเขาก็หมดทางช่วยเหลือเหมือนกัน เคยถามหลวงพ่อปานว่า เขาบนหลวงพ่อเขาขอให้หลวงพ่อช่วยหลวงพ่อแย่ไหม…ท่านบอกว่าไม่หรอก บางทีเขาบนเกินวิสัยท่าน ท่านก็ให้คณะของท่านมาสงเคราะห์พระโพธิสัตว์ทั้งนั้น ท่านต้องการช่วยคนอยู่แล้ว ท่านมีหน้าที่ช่วยคน ท่านทำเพื่อพระโพธิญาณ ถ้าท่านช่วยไม่ไหว องค์อื่นทำงานแทนทันที คณะของพระโพธิสัตว์นี่บารมีเข้มข้นมาก พระภูมิเจ้าที่หรือเทวดา พวกท่านก็มีเยอะเหมือนกัน ความสามารถไม่เท่ากัน ความสามารถเขาดูกันที่มือ องค์ที่มีอานุภาพมาก มือขวาแดงช้าด แดงมาก มีฤทธิ์มาก แดงน้อยมีฤทธิ์น้อย ที่ไม่แดงเลยไม่มีฤทธิ์เลย

ผู้ถาม: (หัวเราะ) “เราจำเป็นต้องตั้งศาลพระภูมิไหมค่ะ…?

หลวงพ่อ: ก็สุดแท้แต่เรา เพราะว่าที่ต้องมีการยกศาลก็เป็นการยอมรับนับถือกัน เรื่องนี้บางคนเขาชอบสงสัย วันหนึ่งว่างๆ ถามท่านว่าทำไมจึงต้องตั้งศาล ท่านก็เลยบอกว่า ฉันจะเล่าประวัติให้ฟัง

สมัยดึกดำบรรพ์ชาวบ้านยังไม่มีอะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ ไปอยู่ที่ไหนก็ตามก็คิดว่าผีสางเทวดาอาจช่วยเขาได้ เขาก็จุดธูปเทียนบูชา ทีนี้ไอ้ที่บูชาที่ไหนมันก็ไม่เหมาะ เขาก็ปักบนกระบอกไม้ ต่อมาภายหลังความสุขสบายมีขึ้น ความเคารพนับถือมีขึ้น อาจจะใช้เวลาหลายชั่วอายุคนก็ได้ ก็คิดว่าเทวดานี่ดีจริง ทีนี้ทำยังไง จะวางกับดินก็ไม่ได้ หาโต๊ะหาตั่งลำบาก ก็ตั้งเป็นศาลเพียงตา ๒ ชั้น เวลาจะถวายอาหารเขาก็เอาไปวางบนนั้น ต่อมาภายหลังเขาเกิดสงสารเทวดา ก็เลยทำหลังคาให้ และต่อมาก็ทำเป็นเรือนมีหลังคา ต่อมาก็ประดิษฐ์เป็นเรือนไทย เวลานี้เป็นตึกแล้ว

ก็รวมความว่า ศาลก็คือที่บูชานั่นเอง พระภูมิไม่ได้ขึ้นศาล วิมานท่านมีอยู่แล้ว ทีนี้ศาลที่เราทำเป็นที่บูชา การบูชานี่เป็นการยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน ก็เลยถามท่านว่า แล้วไปช่วยอะไรเขาได้บ้าง ก็ช่วยได้เท่าที่จะช่วยได้ ถ้าสิ่งใดที่จะช่วยได้ก็พยายามช่วย ถ้าสิ่งใดที่ช่วยไม่ได้ก็พยายามป้องกัน ถ้ากันไม่ได้มากก็กันน้อย แต่ว่ากำลังกันเขามากกว่า เอาเต็มที่ไม่ได้เอาสิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังดี จนกระทั่งเขาไม่บูชา ทีนี้พอจะกันเขาได้ก็ไม่ได้เสียแล้ว เพราะไม่ได้ให้ช่วยได้ยังไงล่ะ เขาก็เฉย

ทีนี้ถ้าถามว่าควรตั้งศาลไหม ถ้าชอบก็ควร ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องตั้ง แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันตั้งนะ และฉันเคยแนะนำให้เขาตั้งศาลทางทิศเหนือกับทิศตะวันออกของบ้าน ถ้าตั้งทางทิศใต้กับทิศตะวันตก ทำมาหากินมาได้เท่าไร ก็ไม่เหลือ

ผู้ถาม: ผมก็ตั้งครับหลวงพ่อ ผมบูชาทั้งพระภูมิทั้งผีบ้านผีเรือน เวลาถวายข้าวพระภูมิ ผมจะมีข้าวตอกให้ผีบ้านผีเรือนด้วย ทีนี้ถ้าผมจะเชิญพระภูมิเจ้าที่ และผีบ้านผีเรือนพร้อมกันเลยได้ไหมครับ…?

หลวงพ่อ: ว่าได้เลย ทีเดียวพร้อมกัน ผีบ้านหรือผีเรือนก็หมายถึง ภูมิเทวดา ผีอื่นเข้ามายุ่งไม่ได้

ผู้ถาม: ทีนี้ของถวายเราเอาไว้ในห้องพระได้ไหมครับ…?

หลวงพ่อ: ได้…วางกับพื้นหรือวางกับโต๊ะอีกโต๊ะหนึ่งก็ได้ เทวดาก็เหมือนพระ ถ้าวางไว้คนละโต๊ะไม่เป็นไร ไม่ถือว่าเป็นอาสนะเดียวกัน

ผู้ถาม: แล้วอย่างถวายพวงมาลัยพระ แต่ไม่ต้องจุดธูปเทียน นี่จะได้ไหมคะ…?

หลวงพ่อ: ได้…ฉันนี่ฝ่ายขี้เกียจจุดธูปเทียน ฉันใช้เทียนไฟฟ้า เวลาบูชาก็กดสวิทต์แชะเป็นแสงสวยดีกว่า สว่างกว่าใช่ไหม…
คือว่าการบูชาด้วยเทียนเป็นการบูชาแสงสว่างหรือเป็นการบูชาด้วยประทีปโคมไฟ ถ้าไฟฟ้าก็สว่างกว่าเทียนธรรมดา แล้วไม่มีอันตรายจากไฟด้วย มีประโยชน์กว่าเยอะ แต่ถ้าเราหาอะไรไม่ได้ก็เอาธูปน้อยๆ เทียนน้อยๆ เป็นแสงสว่างนั่นแหละดี

ผู้ถาม: ผมเคยฟังเทปที่คุณพรนุชท่องสวรรค์ บอกว่าวิมานของภูมิเทวดาสูงจากพื้นดินสักคืบหนึ่ง ทีนี้เวลาที่ขับรถผ่านไปก็ดี หรือขี้เยี่ยวก็ดี อย่างนี้ไม่ถูกเขาหรือครับ…?

หลวงพ่อ: วิมานเขาเป็นวิมานทิพย์ขยับได้ พอขี้จะถูกขยับปั๊บ

ผู้ถาม: อ้อ…หลบได้ด้วย

หลวงพ่อ: ไม่ถูก อย่างเขาพระสุเมรุ สูงมากจากพื้นดินไปถึงดาวดึงส์ และดาวดึงส์นั้นอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เครื่องบินยังไม่เคยชนเลย ไม่มีอะไรชนได้หรอก เพราะสภาพเป็นทิพย์

ผู้ถาม: เป็นอันว่า ขี้เยี่ยวตรงไหนไม่ต้องกลัวไปโดนนะครับ…?

หลวงพ่อ: ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องห่วง เอาอย่างนี้ดีกว่า เพื่อความมั่นใจเวลาจะถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ก็ยกมือไหว้ “เจ้าประคู้น หลบหน่อยเถิด มันจำเป็นจริงๆ

ผู้ถาม: (หัวเราะ)

หลวงพ่อ: ไม่เป็นไรหรอกนะ สภาพท่านเป็นทิพย์ ไม่มีอะไรกระทบท่านได้

ผู้ถาม: หลวงพ่อค่ะ บ้านทุกหลังมีพระภูมิเจ้าที่อยู่ไหมค่ะ…?

หลวงพ่อ: เขาคงไม่อยู่นะ พระภูมิองค์หนึ่งรักษาเขตเป็นกิโลๆ องค์เดียวกันนี่นะ เคยถามเขาว่า คนที่คุณรักษาในเขตกรุงเทพเป็นกิโลนี่คนมันมากเหลือเกิน มีเป็นล้าน แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าเขาทำดีทำชั่ว ต่างกรรมต่างวาระ คุณรู้ได้ยังไง เขาบอกว่าอารมณ์จิตผมเป็นทิพย์ครับ คือไม่ต้องไปถามดูหรอก มันขึ้นเอง คือว่าบัญชีมันขึ้นเลย มันจะบอกเลยว่าใครทำอะไร เขาบอกว่า เขามีหน้าที่รับทราบคนที่ทำความดีความชั่ว เมื่อถึงเวลาวันโกน วันกลางเดือนหรือวันสิ้นเดือน จะมีเทวดาชั้นจาตุมหาราชมารับบัญชี และก็จะไปส่งให้เทวดาที่เป็นมหาอำมาตย์ใหญ่ เทวดาผู้ใหญ่ก็เสนอท้าวมหาราชๆ ท่านก็แบ่งบัญชีเป็น ๒ บัญชี ใครทำบาปกันไว้ประเภทของบาป ใครทำบุญกันไว้ประเภทของบุญ ประเภทบาปก็ให้เทวดา ๔ องค์ ที่เรียกว่าเทวทูตนำไปส่งสำนักพระยายม ตัวท่านท้าวมหาราชเอง พอเวลาวันพระก็นำไปส่งที่ประชุมของเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อเทวดามาประชุมกันที่เทวสภาหรือศาลาสุธรรมา บรรดาเทวดาทั้งหลายเหล่านั้นเมื่อทราบว่าคนทำบุญมากก็ดีใจ แต่หน้าที่ที่จะนำเอาบัญชีนั้นไปกราบทูลให้พระอินทร์ทรงทราบ คือ ท่านปัญจสิกขเทพบุตร มีหน้าที่เป็นเลขาพระอินทร์ เมื่อพระอินทร์ทรงทราบแล้วก็ประกาศนามคนที่ทำบุญเหล่านั้นให้มวลหมู่เทวดาที่มาประชุมกันทราบ ถ้าระหว่างวันพระไหนมีคนทำบุญมาก บัญชีบุญบัญชีกุศลมาก บรรดาเทวดาทั้งหลายก็ดีใจ กล่าวกันว่าต่อแต่นี้ไปพวกบรรดาเทพนิกายมากแล้ว เพราะอาศัยความดีดีใจปลื้มใจที่มีพวกมาก ท่านก็พากันฟ้อนรำทั้งเทวดาและนางฟ้า ความจริงสวยจริงๆนะ แต่วันพระไหนถ้าบังเอิญคนทำบุญน้อย บรรดาเทวดาทั้งหลายได้ทราบจากบัญชีของท้าวมหาราชก็สลดใจ วันนั้นไม่มีการฟ้อนรำ นั่งสลดใจเศร้าสร้อยไปตามๆกัน

ผู้ถาม: ความจริงเราบูชาเทวดาก็ดีเหมือนกันนะครับ

หลวงพ่อ: เขาเป็นเทวดา เราบูชาได้ อย่าลืมว่าเขาเป็นเทวดาแล้ว เรายังไม่เป็นเทวดา เราจะถือว่าเราดีกว่าเขาไม่ได้ ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นภูมิเทวดา ท่านก็เป็นเทวดาแล้ว เรายังไม่เป็นเทวดา ยังเอาแน่ไม่ได้ ใช่ไหม…เวลาที่เราบูชาเทวดาในวิสุทธิมรรคท่านเรียกว่า เทวตานุสสติกรรมฐาน นึกถึงความดีของเทวดา คือเขาจะเป็นเทวดาได้ด้วยคุฯธรรม ๒ ประการคือ หิริ กับ โอตตัปปะ เรื่องชั่วนี่เขาไม่ทำ เขาจึงเป็นเทวดาได้ เราก็ใช้แบบนั้น และเขาก็ดีจริงๆ ถ้ามีอะไรขัดข้องที่จะต้องทำ ถ้าไม่เกินวิสัย เขาจะมาบอกเลย ท่านจะมาบอกก่อนเสมอ

ผู้ถาม: หลวงพ่อค่ะ ภูมิเทวดานี่จะอยู่ถึงศาสนาพระศรีอาริย์ไหมคะ…?

หลวงพ่อ: ถ้าเทวดาองค์นั้นไม่จุติก็อยู่ถึง

ผู้ถาม: (หัวเราะ)

หลวงพ่อ: ภูมิเทวดาก็มีอายุเท่ากับอากาศเทวดา คือจาตุมหาราช แต่ว่าจะเอาแน่อะไรกับท่านละ เทวดามี ๒ ประเภท เทวดาขยัน กับเทวดาขี้เกียจ คือว่าเทวดาขยันนี่ ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์ ก็ขยันจุติมาบำเพ็ญบารมีเพิ่ม ถ้าเทวดาขี้เกียจก็ปล่อยเต็มหุ่ย หมดอายุเมื่อไรจุติเมื่อนั้น

ผู้ถาม: อายุของภูมิเทวดาเท่าไรคะ?

หลวงพ่อ: ภูมิเทวดามีอายุ ๕๐๐ ปีทิพย์ ๕๐ ปี ของเราเป็น ๑ วันของเขา ก็ลองคิดซิ อีกล้านปีพระศรีอาริย์จึงจะตรัส

ผู้ถาม: ภูมิเทวดาเป็นพวกเดียวกับรุกขเทวดา หรือเปล่าคะ…?

หลวงพ่อ: ก็เหมือนกัน แต่รุกขเทวดาอยู่สูงกว่าหน่อย อยู่บนต้นไม้ ถ้าต้นไม้พังวิมานก็พังก็ต้องเดินดินเหมือนกันคือลอยไม่ได้

ผู้ถาม: ค่ะ ทีนี้มีอีกอย่างนะคะที่หนูสงสัย คือเวลาที่หนูสวดมนต์บูชาพระแล้วก็อุทิศส่วนกุศลไปยังสัตว์โลกทั้งหลาย แต่มีเพื่อนคนหนึ่งมาบอกว่า ให้อุทิศส่วนกุศลแก่ท้าวเวสสุวัณด้วย เพื่อให้ท่านเป็นพยาน ท้าวเวสสุวัณคือใครคะ…

หลวงพ่อ: ท้าวเวสสุวัณ ก็คือเท้ามหาราชองค์หนึ่ง มี ๔ องค์ด้วยกัน คือ ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ และท้าวเวสสุวัณ
ถ้าเทวดาชั้นจาตุมหาราช เขาจะมีสองแบบนะ ยามปกติเขาจะอยู่ในฐานะทหารของพระอินทร์ เขาจะมีรูปร่างเหมือนคนนี่ล่ะ แต่ว่าเป็นคนละแบบ ท่าทางจะไม่สวยนัก แต่ถ้าเขาเข้าเครื่องทรงธรรมดาจะคล้ายพรหมหมด สวยมาก เพราะพวกนี้ก่อนตายเขาได้ฌาน แต่ว่าไม่ได้ถึงฌาน ๔ ได้แค่ฌาน ๑, ๒, ๓ และก่อนจะตายไม่ได้เข้าฌานตาย เขาจึงไปเป็นพรหมไม่ได้ จึงต้องพักแค่จาตุมหาราช พอไปชั้นนี้ฌานก็ทรงตัวตามเดิม แต่ก็ยังเป็นพรหมไม่ได้ ต้องทำงานตามเวลาก่อน เมื่อหมดวาระก็ไปเป็นพรหมตามกำลังของฌาน เวลาเขาแต่งเครื่องทรงเทวดานี่ รูปร่างเพรียวหมด มีสภาพเหมือนกับพรหม เพราะเขาไปจากฌาน

เวลาอยู่ปกติเขาจะมีรูปร่างไม่เหมือนกัน อย่างลูกศิษย์ท้าวธตรฐนี่ มีรูปร่างเพรียวๆ สวยสะโอดสะองหน่อยๆ

ถ้าลูกศิษย์ท้าววิรุฬหก เขาเรียกกุมภัณฑ์ อ้วนต่ำ
ถ้าลูกศิษย์ท้าววิรูปักษ์ บอกลักษณะยาก ก็เหมือนกับคนเรานี่ อ้วนๆ ล่ำๆ แต่สูง

ถ้าลูกศิษย์ท้าวเวสสุวัณนี่ ผมหยักโศก ท่าทางทะมัดทะแมงแข็งแรงมาก
แต่เทวดา ๔ ทิศนี่ มีพระท่านหนึ่ง จ.อยุธยาบอกว่า เทวดา ๔ ทิศนี่ มีเกเรจริงๆ อยู่ ๒ ทิศ คือลูกศิษย์ท้าวเวสสุวัณ กับลูกศิษย์ท้าววิรุฬหก แต่ความจริงเขาเข้มแข็งเอาเหมือนกัน ถามว่าเกเรเพราะอะไร แกก็ไม่บอกให้ฟัง มีวันหนึ่งเขาสร้างศาลาหลังใหญ่ เขาจะยกเสาขึ้นไปท่านก็จัดการบวงสรวง ฉันก็ไปในงานนั้นด้วย แต่มีเหล้าอยู่แก้ว ถามว่าทำไมต้องมีเหล้า เขาบอกว่าตำราเขามีอย่างนี้ ก็บอกว่า ตายล่ะ…ที่ท่านบอกว่าเทวดา ๒ ทิศเกเร ก็ท่านทำอย่างนี้ก็เกเรซิ เขาก็ถามว่าทำไม ก็บอกว่าแกเลี้ยงเหล้าก็เมา วันนี้เมาหมด ก็จริงๆ เสาขึ้นเสาเมา ขื่อขึ้นขื่อเมา เมาหมดทุกอย่าง นี่เป็นอย่างนี้
ทีนี้เวลาอุทิศส่วนกุศลแล้วบอกให้ท่านเป็นพยานอันนี้ดี เมื่อก่อนฉันนึกว่าเขาพูดเล่น คิดว่าเขาพูดเพ้อ ฝากเทวดาให้เป็นพยานว่าก็ว่าไม่น่าเชื่อ ต่อมาพอมีประสบการณ์จริงจังจึงเชื่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงมีหลายคน พวกที่บอกฝากนี่นะ เวลาที่แกตายบางทีกำลังใจแกอ่อน คือสมถวิปัสสนานี่แกไม่เอาเอาแต่ทำบุญธรรมดา เวลาจะตายจิตก็เฝือ ก็ต้องลงไปที่สำนักพยายมก่อน เวลาไปอยู่สำนักพระยายม เวลาท่านสอบสวนกรรมบางอย่างมันปกปิด ถามเรื่องบุญมันนึกไม่ออก ถ้าเขานึกถึงบุญไม่ออก ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปล่อยให้ลงนรก หากถาม ๓ เที่ยวนึกไม่ออก ท่านก็จะได้ประกาศว่า เขาเคยบอกฉันไว้ว่า เวลาเขาทำบุญให้ฉันเป้นพยาน แล้วท่านก็ประกาศกุศลนั้น ก็ได้ไปสวรรค์ อันนี้ดีนะ แต่ว่าหาว่าท่านเล่นพรรคเล่นพวกไม่ได้นะท่านไม่ได้จำกัด

ผู้ถาม: แล้วพระยายมล่ะคะ…?

หลวงพ่อ: พระยายมนี่เป็นตำแหน่ง ความจริงท่านเป็นพรหมและสำนักพระยายมก็อยู่ในเขตของจาตุมหาราช ไม่ใช่เขตนรก เวลาเราไปที่สำนักพระยายม เราจะเห็นมีวิมานสวยสดงดงาม แล้วก็เป็นทุ่งโล่งเตียน มีสวนดอกไม้สวยสดงดงาม เวลาจะมองดูนรกต้องมองไปทางทิศตะวันออกไกลมาก จะเห็นแสงเพลิงมันสว่างพุ่งขึ้นบนอากาศ เป็นลานกว้างมาก ทีนี้โดยมากคนเข้าใจว่าพระยายมเป็นพวกของนรก ความจริงท่านไปนั่งกันมิให้ลงนรกนะ

ผู้ถาม: ยังงั้นให้ท่านพระยายมเป็นพยานองค์เดียวก็ได้ใช่ไหมคะ…?

หลวงพ่อ: องค์นั้นองค์เดียวพอ เพราะถ้าท่านไม่กั้นละก็..ป๋อง…

ผู้ถาม: หลวงพ่อลงไปเที่ยงคงร้อนมากซิคะ…?

หลวงพ่อ: ใช่…ร้อนกว่าไฟธรรมดาหลายแสนเท่า มันร้อนกว่าไฟที่เราใช้อยู่นี่นะ แต่ถ้าเราลงไปเที่ยวไม่ร้อน แต่ว่าผู้ลงไปเที่ยว เขาห้ามลงขุมนรกลงได้แต่ขอบๆ ลงไปในขุมเขาไม่ได้นะ มีเจ้าหน้าที่เขาคอยกันอยู่ ถ้าลงขุมไฟเขาดับ ถ้าเราจะไปเที่ยวนรก เราจะไปตามลำพัง มันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ เราต้องไปสำนักพระยายมก่อนแล้วไปขอคนจากสำนักพระยายมคนหนึ่ง เราจะไปขุมไหนเขาจะพาไป ถ้าเราไปคนเดียว ถ้าเราเจอสัตว์นรกสักคนหนึ่ง เราเห็นเราก็รู้เลยว่าใครเป็นใคร ถ้าเราต้องการจะเรียกขึ้นมาพูดเขาไม่ให้ขึ้นมาหรอก ถ้าหากไปพูดกับนายนิริยบาลขอให้คนนั้นขึ้นมา เขาจะไม่พูดกับเรา ต้องให้คนจากสำนักพระยายมไปบอก คนที่ได้ก็คือเทวดา ถ้าเทวดาองค์นั้นท่านไปกับเรา เราต้องการจะคุยกับคนนี้ เขาก็บอกนายนิริยบาลให้เอาคนนั้นขึ้นมา พอเขาบอกเขาเรียกขึ้นมา เครื่องพันธนาการก็หลุด ไอ้หอกดาบที่ติดตัวเขาก็หลุด ไฟที่ไหม้ท่วมตัวเขาก็ดับ พอขึ้นมาก็เป็นรูปเดิม ถ้าเราถามประวัติเดิม เขาจะบอกตามความเป็นจริงหมด มันมี เมืองโกหกอยู่เมืองเดียว คือเมืองมนุษย์ เมืองผีนี่ไม่มีการโกหก

ผู้ถาม: หลวงพ่อคะ กาลเวลาของโลกทิพย์กับโลกมนุษย์มันตรงกันไหมคะ…?

หลวงพ่อ: ตรงกันพอดี ของเรา ๑๐๐ ปี ตรงกับดาวดึงส์ ๑ วันพอดี ของเรา ๕๐ ปี ตรงกับจาตุมหาราช ๑ วันพอดี ของเรา ๒๐๐ ปี ตรงกับยามา ๑ วันพอดี แต่ว่าของเรา ๙ ล้านปี ตรงกับสัญชีพนรก ๑ วันพอดี ตรงกัน

ผู้ถาม: หลวงพ่อครับ แล้วอย่างพวกอสูรนี่เป็นพวกยักษ์หรือว่าเทวดาครับ…?

หลวงพ่อ: อสูรเป็นเทวดาพวกหนึ่ง อสูร เขาแปลว่า ไม่กล้า ยักษ์ เขาแปลว่า บุคคลที่ควรบูชา ถ้าแปลอีกคำหนึ่งให้ตรงศัพท์ เขาแปลว่า เทวดา แต่เราไปตีความหมายเขาผิด ถ้ายักษ์ละก็รูปร่างน่ากลัว แต่ไอ้ยักษ์ที่น่ากลัวก็มียักเดียวคือ “ยักยอก” ยักนี้มันไม่มีเขี้ยว มีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เผลอเมื่อไรเป็นเอาหมดเลย

คนที่จะเป็นอสูรได้เพราะทำบุญผสมโทสะ หมายความว่าเวลาจะทำบุญมีคนมาพูดนิดๆ หน่อยๆ มันเกิดโมโห พอจะรับศีลก็มีคนมาสะกิดแขนอีกแล้ว ก็โมโห ฉะนั้นหน้าก็ยุ่งไปนิด หน้าเขาสวยน้อยกว่าเทวดานิดเดียว และเขาก็มีวิมานเหมือนกัน

และอีกประการหนึ่งคำว่า กามาวจร ซึ่งแปลว่า อารมณ์ที่เที่ยวไปในความใคร่ คำว่าใคร่ตัวนี้ อย่านึกว่าเทวดาเขาใคร่เหมือนคนนะ ถ้าเทวดามีความใคร่เท่าคนเขาไม่เรียกเทวดา เขาเรียกว่าคน เทว แปลว่า ประเสริฐ

ทีนี้ความใคร่ของผู้ประเสริฐนั้นหมายความถึงมีความเนื่องถึงกัน โดยมีความรู้สึกว่า คนนี้เป็นสามี คนนั้นเป็นภรรยา คนนี้เป็นลูก คนนั้นเป็นบริวาร ก็มีเท่านั้น ยังมีความห่วงใยกันอยู่ในฐานะที่เคยมีความสัมพันธ์กันมา ก็ยังมีความกังวลเรื่องความประพฤติว่าเขาจะทำดีหรือทำชั่ว จะต้องพลัดลงไปในอบายภูมิหรือเปล่า ฉะนั้นเทวดาพวกที่มีผัวเมียก็เหมือนกับคนที่รักษาอุโยสถ คนที่เขารักษาอุโบสถ เขาก็เว้นจากกามารมณ์เหมือนกัน เทวดาจึงไม่มีการเสพกาม

การเกิดของเทวดาถ้าจะเกิดเป็นลูก พอตายจากมนุษย์ปั๊บก็ไปเกิดบนตักของเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง ถ้าเป็นผู้ชายเขาเรียกว่าเทพบุตร ถ้าเป็นผู้หญิงเรียกว่า เทพธิดา เป็นหนุ่มสาวเท่านั้นจนกว่าจะจุติ

ถ้าหากว่าไปเกิดในที่นอนของใคร หมายถึงว่าเป็นคู่ครองขององค์นั้น บรรดาบริวารทั้งหลายเป็นพันเป็นหมื่นไม่มีการเลื่อนฐานะไม่มีการยกอันดับเหมือนเมืองมนุษย์นะ

ถ้าหากว่าจะเกิดเป็นบริวาร ถ้าเกิดในวิมารของใครตั้งแต่รั้ววิมานเข้าไป ก็เป็นขององค์นั้น แต่ถ้าเกิดกึ่งกลางจาก วิมานไหนก็ตามสี่หลังวัดไปเท่ากัน แต่ว่าหันหน้าไปวิมานไหน ก็เป็นบริวารของวิมานนั้นของเทวดาองค์นั้น

ทีนี้ความรู้สึกของพรหม ซึ่งแปลว่า เป็นผู้ประเสริฐที่ไม่เรียกว่า กามาวจรก็เพราะว่าความใคร่ไม่มี เพราะพรหมอยู่ผู้เดียว ขึ้นชื่อว่าสามี ภรรยา บุตรธิดาไม่มี คำว่าบริวารนั้นหมายถึงพวกพ้อง ต่างคนต่างอยู่วิมานคนละหลัง ฉะนั้นอารมณ์เนื่องถึงกันในฐานะต่างๆ จึงไม่มีในพรหม พรหมเขาอยู่ด้วยอำนาจของธรรมปีติเฉยๆ คำว่าเฉยๆ ถ้าท่านจะคุยกันก็คุยด้วยธรรมปีติ ดังนั้นพวกพรหมจึงมีอารมณ์สงบกว่าเทวดา ไม่มีกังวลอย่างเทวดา จิตเขาเลยเบากว่าเทวดา




ปล. หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓ มีทั้งหมด ๑๒ ตอนครับผม โปรดติดตามอ่านทุกๆ ตอนด้วยนะครับ
ที่มา เวปพระรัตนตรัย


ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว




Create Date : 01 ธันวาคม 2552
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 21:08:44 น. 50 comments
Counter : 867 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ พี่ไผ่

มาอ่านตอนที่ 3
ปัญหาเรื่องเทวดาค่ะ

น่าจะเรียกว่าประวัติเทวดาน่าจะดีกว่านะคะ พี่ไผ่

อนุโมทนาค่ะ

ส่งเข้านอนเลยนะคะ
ราตรีสวัสดิ์ หลับไม่ฝันค่ะ

ปล.ลงชื่อไว้แล้วกลับไปอ่านด้วยนะคะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:21:09:21 น.  

 
มาแล้วคะพี่ไผ่ แบบว่าหนูเพิ่งไปจ่ายค่า โทร คริคริ

อาย


โดย: tukta (tukta510 ) วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:21:44:18 น.  

 
มาแว้ว รายงานตัวเจ้าค่ะ
แหม ขยัน up จังนะ


โดย: ก้อนหินในดินทราย วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:21:58:28 น.  

 
หวัดดีค่ะ..คุณไผ่...วันนี้ได้แวะมาอ่าน...

เลยได้รู้อะไรๆ ที่แอบสงสัยอยู่หลายอย่างเลยค่ะ

งั้นก็ขอส่งคุณไผ่เข้านอนเลยแล้วกันน่ะค่ะ...


โดย: กระป๋องแป้งฝุ่น วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:22:30:26 น.  

 
ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ
ฝันดีนะคะ


โดย: redclick วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:22:52:57 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไผ่

เทวดาใจดี

โมทนาด้วยนะคะ..


โดย: อะนิตา IP: 212.198.55.84 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:23:00:22 น.  

 
แวะมาดูคนขยันอัพบล๊อก

ดึกแล้วเดี๋ยว ค่อยมาใหม่นะค่ะ

ฝันดีค่ะ


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:23:04:16 น.  

 
สวยจริงป่าวคะพี่ไผ่


แอบเมาท์ว่าเจ้าบ่าวงานนี้อาชีพเดียวกะพี่ไผ่เลยคะ แถม บ. ที่พี่ไผ่เคยทำด้วยอะคะ


โดย: tukta (tukta510 ) วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:23:29:21 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาอ่านตามคำชวนแล้วค่ะ

ไม่อยู่ครึ่งเดือนฝากบ้านด้วยนะคะพี่ไผ่ ^_^


โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (http://beee.bloggang.com) IP: 58.11.30.112 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:23:50:33 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:2:22:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ........แวะมาเยี่ยมเยือนเพื่อนแสนดีค่ะ เข้ามาทีไรก็อบอุ่นนะค่ะ


โดย: golo_me วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:2:37:48 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไผ่



ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับพี่ อิอิอิ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:5:20:21 น.  

 
สวัสดีตอนเช้า
เมื่อวานยายยุ่งๆเลยไม่ได้มาเยี่ยม
แวะมาเช้านี้ก็ยังไม่ได้อ่าน เพราะจะรีบเตรียมตัวไปวัดค่ะ ขอตัวก่อน จะเอาบุญมาฝากค่ะ......


โดย: กัดหมอน (กัดหมอน ) วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:5:23:57 น.  

 
สวัสดีเช้าวันพระค่ะ

ขอให้วันนี้อารมฌ์ดี สุข สงบ ตลอดวันนะ



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:7:09:12 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


เช้าวันที่อากาศสดใสมาพร้อมคำทักทาย
และกำลังใจดี ๆ ที่มอบให้กัน
สวัสดีเช้าวันพุธค่ะคุณไผ่


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:7:09:36 น.  

 


♥...ขอให้มีความสุข มาก มาก ในวันสีเขียวนะจ๊ะพี่ไผ่...♥


โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:7:29:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าเจ้าค่ะพี่ไผ่


โดย: ก้อนหินในดินทราย วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:7:45:39 น.  

 
อัพบล็อกไวจังพี่ไผ่ หรือเราไม่ค่อยได้มาไม่รู้...emo


โดย: ตัวp_box วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:9:37:51 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไผ่
ธัญแวะมาทักทาย..แบบไวปานอะไรน๊า..สายฟ้าเน๊าะ

คุณไผ่มีความสุขมากๆนะคะ..รักษาสุขภาพด้วยค่ะ



โดย: tanjira วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:10:30:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไผ่
ตามมาอ่านปัญหาฯค่ะ
ได้ความรู้และยังได้ฟังเพลงเย็นใจด้วย ดีจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับไมตรีที่มีให้กันตลอดมาค่ะ
คิดถึงเสมอนะคะ



โดย: busabap วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:10:51:30 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันนะคะ
ช่วงนี้ภารกิจรัดตัวมากมายค่ะ อาจจะหายไปนานๆค่ะ
Have a nice day naka


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:12:47:40 น.  

 
มาอ่านตอบปัญหาธรรมแล้วคะ

คำถามแรกก็ขำกลิ้งแล้วคะ อ่านให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอก อ้าวๆๆๆ หลวงพ่อตอบงี้ได้งัย (ขำๆ นะคะ)


โดย: พี่นู๋อ้อ (pinuaoo2006 ) วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:12:58:34 น.  

 
สวัสดีวันพระค่ะ
ทำความดีเพื่อถวายเป็นพุทธบูชากันนะค่ะ

ได้รับความรู้เยอะเลยค่ะ
ตอนแพร่เมตตาคุณไผ่ได้ทำอย่างที่หลวงพ่อ
บอกด้วยหรือเปล่าค่ะ


โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:13:18:36 น.  

 
วันพระสวัสดีค่ะ พี่ไผ่

ทานข้าวรึยังคะ ยุ่งมั้ยวันนี้


โดย: พ่อระนาด วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:13:33:01 น.  

 
เข้ามาอ่านต่อค่ะ...จบละ

อ่านไปจิบน้ำไป ชื่นใจ ชื่นใจ

ขอบคุณค่ะที่เอาความรู้มาฝาก



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:13:42:11 น.  

 
555 พี่ไผ่ เห็นรูปที่ส่งไปแล้วอดขำไม่ได้ค่ะ

แบบว่า คิดถึง...ข้ามปีเลยหรอค๊าา



โดย: พ่อระนาด วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:15:03:54 น.  

 
มาอยู่ลำพูนก็ศึกษาธรรมมะที่บล็อคนี้ได้
เรายังไม่เลิกงานเลยนะคะ
มีประชุมอีก..หิวจังเลย
(แอบบ่น)
ลำพูนหนาวเล็กน้อยค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:18:44:54 น.  

 


สวัสดีค่ะพี่ไผ่
ตามมาอ่านเรื่องดีดีที่แนะนำค่ะ
พี่ไผ่ขยันอัพบล็อคจังเลย
อนุโมทนากับเรื่องดีดีที่นำมาฝากค่ะ



โดย: พธู วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:19:23:23 น.  

 
ยายอ่านแล้ว ต้องพักสายตาเป็นระยะๆ
สายตาคงแย่แล้ว เพราะมองนานๆไม่ได้เลย
อาจจะง่วงจัดก็เป็นไปได้ค่ะ ลืมตาไม่ขึ้น ยายจะแวะมาใหม่
วันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...


โดย: กัดหมอน (กัดหมอน ) วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:21:30:41 น.  

 




♥...คืนนี้ขอให้หลับฝันดีนะจ๊ะพี่ไผ่...♥


โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:21:39:43 น.  

 
มีแซวนะคะำี่พี่ไผ่ คริคริ


โดย: tukta (tukta510 ) วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:22:53:22 น.  

 



สวัสดีค่ะคุณไผ่


ป้าหายไปหลายวันเพราะติดภาระเรื่องเปลี่ยนหลังคาบ้านค่ะ
หลังคาบ้านจริงๆนะคะ…ไม่ใช่หลังคาครัว หรือ หลังคาโรงรถ
เหตุที่ต้องเปลี่ยนเพราะเห็นสมควรแก่เวลาเนื่องจากอายุหลังคาแก่งั๋กเต็มที
เปลี่ยนๆซะก่อนที่มันจะยุบลงมาครอบหัวค่ะ …..ล้อเล่นนนนนนน


เรื่องเปลี่ยนหลังคาไม่ใช่หน้าที่ป้าหรอก ช่างเขาจัดการเองทุกอย่าง
เราแค่ดูแลขาดเหลืออะไรก็จัดหาให้เขา
หน้าที่หลักของป้าคือเก็บกวาดค่ะ ……ขอบอกว่าเหนื่อยมากกกกกกก


หลังคายังหมดอายุ ….อะไรอะไรก็หมดอายุได้ทั้งนั้น
แล้วตัวเราจะยืนยงค้ำฟ้าได้อย่างไร


หลังคาหมดอายุยังเปลี่ยนได้
แต่ตัวเราหมดอายุเมื่อไหร่…..มิมีอาหลั่ยให้เปลี่ยนเน้ออออออออออ
………………………………..


ป้าตามลิ้งค์ไปที่เวปพระรัตนตรัย ….เซฟเก็บไว้แล้ว
ขอบคุณนะคะคุณไผ่

รักษาสุขภาพ และอยู่กับสุขที่อิ่มเย็นค่ะ


เตรียมตัวล่วงหน้าไว้บ้าง …..จะดีกว่าไหม????




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:23:35:59 น.  

 
สาธุ อนุโมทนาสาูุธุค่ะพี่ไผ่ อ่านแล้วได้รู้หลายๆอย่างเลยค่ะ ธูปและเทียนหนูแทบจะไม่ได้จุดเลยค่ะ นอกจากจุด 16 ดอกกลางแจ้งนอกบ้านค่ะ นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: Budratsa วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:3:46:44 น.  

 
ยายแวะมาอ่านใหม่อีกรอบแล้วค่ะ
ได้ทราบประวัติเทวดา สนุกดีนะค่ะ
อากาศวันนี้เย็นพอสบาย
ทางกทม. คงหนาวกว่าทางใต้นะค่ะ....รักค่ะ


โดย: กัดหมอน วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:6:59:39 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไผ่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:7:14:44 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ พี่ไผ่

เมื่อคืนหลับสบายมั๊ยค่ะ



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:7:19:31 น.  

 
หมวยเล็กหายไปเลยอ่ะพี่ไผ่ สงสัยเลิกเลิฟซิคแล้ว อิอิ..

มีความสุขกับการทำงานจ้าคุณพี่..


โดย: ตัวp_box วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:8:12:31 น.  

 


โดย: อาลีอา วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:9:02:34 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดียามเช้าของวันพฤหัสบดีค่ะคุณไผ่


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:9:15:41 น.  

 
มาส่งข้าวเที่ยงให้พี่ไผ่ค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:12:25:48 น.  

 
เข้ามาชิมธรรมมะยามบ่ายครับคุณไผ่ อิ่มตื้อเลยอ่ะ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:16:03:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ไผ่

ค่ำแล้ว ทานข้าวยังคะ
พักนี้คงยุ่งๆ หายไปเลย


โดย: พ่อระนาด วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:19:06:10 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ



โดย: busabap วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:0:10:35 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ พี่ไผ่
พักผ่อนเยอะๆนะค่ะ
สำหรับคนม่ายซาบายน๊า.........



โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:7:35:52 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไผ่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:7:51:08 น.  

 
title=

สวัสดีค่ะ พี่ไผ่

มีความสุข รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:9:26:59 น.  

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ปล.วันพ่อ พาคุณพ่อไปไหนพี่ไผ่ อย่าลืมเที่ยวเผื่อน้องด้วยเน้อ...


โดย: ตัวp_box วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:11:39:37 น.  

 
ไปวัดค่ะ ทำบุญครบรอบวันที่พ่อจากไป
พี่ไผ่ล่ะ ไปไหน


โดย: ก้อนหินในดินทราย วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:14:15:44 น.  

 
- หวัดดียามค่ำครับ

- รู้แหล่งว่าที่ไหนมีหนังสือ "หลวงพ่อปาน" แต่เนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเทศน์สอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ... วางจำหน่ายบ้างหรือเปล่าครับ (หลายปีก่อนเคยยืมรุ่นน้องอ่านหนะ) ตอนนี้อยากได้ไว้ครอบครองเองอ่ะครับ


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:18:56:59 น.  

 
หวัดดีคะ ที่รัก แวะมาทักทายยามดึก ขอให้มีความสุขกับวันพ่อนะ คนดี


โดย: คนบ้านไกล IP: 219.78.181.32 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:20:13:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมึกสีดำ
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมึกสีดำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.