หมึกสีดำของไผ่สีทอง
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาในทางปฏิบัติถึงมโนปฏิบัติ เป็นผู้คงที่ ระงับแล้ว มีสติทุกเมื่อ,, การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓ ตอนที่ ๘






หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
ฉบับพิเศษ เล่ม ๓
สนทนาธรรมกับ หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร

ปัญหาเรื่อง ศีล ๒๒๗ ของพระภิกษุ





ผู้ถาม: แล้วอย่างพระเดินซื้อล็อตเตอรี่ ผิดไหมคะ…?

หลวงพ่อ: เดินซื้อไม่เป็นไร ถ้าใส่ย่ามเฉยๆ มีความผิด ไม่ได้พูดว่าใส่ย่ามนี่ แต่ข้อบังคับจริงๆ ตามกฎจริงๆ ถ้ามีล็อตเตอรี่เสี้ยวเดียวอยู่ในย่ามเขาถือว่าเล่นการพนันต้องถูกสึกจากความเป็นพระเว้นไว้แต่พระที่มีอำนาจไม่รักษาพระวินัยเป็นเรื่องหนึ่งต่างหาก นี่พูดกันตามหลักของความเป็นจริง ระเบียบเขามีอย่างนั้น อย่างกินข้าวเย็น หรือกินอาหารตอนบ่าย มีโทษแค่ปาจิตตีย์ แต่เป็นโลกวัชชะต้องสึก เพราะว่าชาวบ้านไม่ยอมรับนับถือ โทษที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม บางทีไม่มีโทษทางธรรม มีอยู่หลายข้อ แต่ว่าชาวบ้านไม่เล่นด้วย เขาถือว่าเป็นความผิด ก็ต้องห้ามพระเหมือนกัน คือ พระนี่ต้องถือกฎหลายอย่าง

๑. พระวินัย
๒. กฎมหาเถรสมาคม
๓. ประเพณีนิยม
๔. กฎหมาย

ประเพณีนิยมนี้อาจไม่ผิดทางพระวินัย แต่ว่าชาวบ้านเขานิยมกันแบบนั้น ถ้าไปฝ่าฝืนเข้า เขาก็ไม่ให้ข้าวกินเป็นโลกวัชชะมีโทษทางโลก ไม่มีโทษทางธรรม

พระนี่มีโทษ ๒ อย่าง คือ ปัณณัตติวัชชะ กับ โลกวัชชะ
ปัณณัติวัชชะ เป็นโทษทางพระธรรมวินัย
โลกวัชชะ เป็นโทษทางโลก เขาไม่นิยม ต้องเว้น
อย่างสมัยที่พระพุทธเจ้า ทรงห้ามพระพรากของเขียวดึงใบไม้เล่นดึงต้นหญ้าเล่น แต่ความจริงไม่มีโทษเป็นบาปเป็นปาณาติบาต แต่เวลานั้นชาวบ้านเขาถือว่าต้นไม้มีชีวิต พระพุทธเจ้าท่านรู้ว่าไม่ได้มีชีวิต แต่ว่าชาวบ้านเขาถือว่ามี ไปทำเข้าชาวบ้านเขาเกลียดเอา ถ้าขืนไม่ห้ามพระไม่มีข้าวกิน เขาหาว่าทำลายต้นไม้ ใช่ไหม…

ผู้ถาม: หลวงพ่อคะ วันที่หนูไปทำความสะอาดที่วัดหนูเห็นหญ้ามันรกก็เลยถอน อย่างนี้จะเป็นอาบัติไหมคะ…?

หลวงพ่อ: ฆราวาสถอนหญ้ามันเป็นอาบัติที่ไหนเล่า นั่นเป็นเรื่องของพระเขาจะมาแย่งอาชีพพระมันเกินไปละ ปัดโธ่เอ๊ย…

ผู้ถาม: (หัวเราะ)

หลวงพ่อ: พระที่เขาดายหญ้าเพื่อทำประโยชน์ยังไม่เป็นอาบัติเลย แต่ทำเล่นไม่ได้ ต้องการทำอย่างเดียวเพื่อให้ที่สะอาด ไม่ต้องการให้รกสถานที่ แต่ว่าทำเพื่อเล่นมันก็ถูกตามลีลาของพระ อย่างทำต้นหญ้าขาดหรือตั้งใจดึงเล่นให้ขาด ยังเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้ ถ้าชาวบ้านไม่เกี่ยวนะ ชาวบ้านไม่เป็นบาป

ผู้ถาม: แล้วการดื่มนมละคะ บางวัดบอกดื่มนมไม่ได้แต่บางวัดบอกดื่มได้

หลวงพ่อ: พระดื่มนี่ นมสด เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ดื่มได้และก็สงเคราะห์เป็นนมข้น นมสด นมใสได้ ในหลักมหาปเทสอย่าถือส่งเดชไปนะ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดในพระวินัย

ผู้ถาม: การรักษาศีล ๘ นมถั่วเหลือง ดื่มได้ไหมคะ…?

หลวงพ่อ: นมถั่วเหลืองได้ ถ้าเขาคั้นแล้ว เขากรองแล้วใช้ได้ ในพระวินัยพระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้พระฉันได้ ๘ อย่าง เรียกว่า น้ำอัฏฐบาน คือน้ำผลไม้ มี น้ำมะม่วง น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ น้ำเหง้าอุบล น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น น้ำกล้วยไม่มีเม็ด น้ำมะซาง แต่ว่า ผลไม้นั้นต้องไม่เท่าส้มโอ ตั้งแต่ส้มโอขึ้นไปจัดเป็นมหาผล ดื่มไม่ได้ อย่างมะพร้าวอ่อน ถึงกินน้ำก็ไม่ได้ อันนี้ท่านตรัสอนุญาตไว้ ๘ อย่าง

ต่อมาในหลักมหาปเทสท่านบอกว่า ถ้าอะไรไม่ขัดต่อพระธรรมวินัยที่เราตรัสรู้ไว้ คือ ผลไม้ต่างๆ เอามาคั้นหรือกรองก็ฉันได้ เราต้องดูในวินัยท่านตรัสไว้ตรง

เมื่อตรัสไว้ตรงแล้วก็ยังมีสิ่งประกอบ คือว่า “ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว อะไรที่ขัดต่อพระวินัย ห้ามทำ” อย่างยาฝิ่น เฮโรอีน สมัยนั้นไม่มี เวลานี้ก็สงเคราะห์เข้าไปในยาเสพติด เช่น สุรา ยาเมาด้วย

ทีนี้ถ้าท่านสงเคราะห์ในด้านอนุญาตให้ปฏิบัติได้อย่างผลไม้ท่านตรัสไว้ ๘ อย่าง ขนาดไหนและเว้นขนาดไหนเราทำไม่ได้แน่ ถ้าเป็นขนาดที่ท่านอนุญาต เรากรองเสียก็ใช้ได้

อันนี้ความจริงในวินัยมีอยู่ แต่ท่านถืออย่างไรก็ไม่ทราบทำให้ชาวบ้านหลงผิด แต่ว่าระวังให้ดีเถอะ หน้าวัดไม่ฉัน แต่หลังวัดกระป๋องเกลื่อนหมด เพื่อนๆ กันมีเคยถาม “เฮ้ย วัดแกกินหรือเปล่าวะ…?”
“วัดไม่ได้กินหรอก แต่พระกิน”
นี่พระพุทธเจ้าไม่ทรงห้าม ก็ไม่น่าไปเว้นให้ชาวบ้านเขาเข้าใจผิด มันกลายเป็นมายา เจ้าเล่ห์ ใช่ไหม…หลอกเขาอีก กิเลสมันก็กินหัวผุตรงไปตรงมาเสียดีกว่า”

ผู้ถาม: แล้วพระที่รับเงินหรือไม่รับเงินล่ะครับ…?

หลวงพ่อ: ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามการรับเงินรับทอง ซึ่งเป็นของรูปิยะ วินัยข้อนี้บัญญัติไว้ชัด รับเองก็ดี ให้คนอื่นรับเอาก็ดี หรือคนอื่นเก็บไว้เพื่อตนก็ดี เป็นอาบัตินิสสัคคีย์ปาจิตตีย์ หมด ก็ล่อเสียเองไม่ดีกว่าหรือ ให้คนอื่นรับเดี๋ยวก็ใช้หมด เกิดโมโหอีก

และประการที่ ๒ ฉันไม่รับเงิน โกหกชาวบ้านอีก แต่จิตถือว่าเป็นของของตัว ใช่ไหม…

ทีนี้พระพุทธเจ้าทรงห้ามข้อนี้เพราะอะไร เพราะอย่าเอาจิตไปติด เดี๋ยวจะหาว่ารวย คิดว่ารวยมันจะเกิดกิเลส ถ้าเรารับคิดว่าไม่เป็นของเรา รับกี่บาทเป็นของสงฆ์หมดแล้วจิตอย่าไปติด เขาให้มาก็ไปทำเป็นสาธารณประโยชน์ อะไรที่จะเป็นประโยชน์แก่ส่วนกลางได้ เราก็ทำให้หมดไป
เพื่อนพระด้วยกันไม่มีอาหารจะกิน ก็จัดเป็นอาหารถวายพระเป็นสังฆทาน
การก่อสร้างในวัดมีขึ้น เราไปร่วมก่อสร้างกับเขาก็เป็นวิหารทาน
ส่วนใดเป็นเรื่องของธัมมะธัมโม เอาเงินไปร่วมลงทุนด้วยเป็นธรรมทาน

ถ้าทำได้อย่างนี้ เจ้าของถวายได้อานิสงส์หลายอย่าง เจ้าของได้มากขึ้น เราก็ไม่มีโทษตามพระวินัย วินัยปรับเฉพาะจิตคิดโลภเท่านั้นแหละ

ถ้าพระอรหันต์ท่านรับไปปรับท่านได้เมื่อไร พระอรหันต์ท่านรับไหม…ท่านรับ ท่านไม่โกหกชาวบ้านหรอก
มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าใกล้จะปรินิพพาน ตรัสว่า

“เมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว ในกาลภายหลังสิกขาบทเล็กน้อย ในกาลสิกขาบทที่ไม่เหมาะกับกาลสมัย ให้สงฆ์เพิกถอนได้”

ทีนี้คำว่า เพิกถอน ต้องประชุมสงฆ์ทั้งโลก เราทำไม่ได้ เราก็ถอนของเราเอง ชนเลย ก็มีเท่านี้ ถ้ารับเองก็ดี ให้คนอื่นรับก็ดี คนอื่นเก็บไว้เพื่อตนเองก็ดี เรารู้อยู่เป็นอาบัติเองเท่ากัน แล้วให้ชาวบ้านรับทำไม แล้วก็มีโทษอีกคือโมโห
อย่าง เจ้าคุณโพธิวงศาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ท่านบอกว่าตอนที่ท่านเป็นเปรียญอยู่ที่วัดเบญจฯ มีวันหนึ่งเขาโทรเลขจากบ้านไปที่วัดเบญจฯ ว่าเวลานี้โยมที่บ้านป่วยหนัก ให้มา

ท่านบอกว่า เวลานั้นท่านทราบ ท่านเก็บสตางค์มีเงินอยู่ ๘๐๐ บาท เรียกเด็กเข้ามาบอกว่า เวลานี้โยมป่วยจะเอาเงินไปใช้ ไอ้เด็กบอกว่าเหลือ ๒๐๐ บาทครับ ท่านก็ถามว่าอีก ๖๐๐ บาทไปไหน มันบอกว่าใช้หมดแล้วครับ ท่านบอกว่าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เก็บเองดีกว่า ไม่ต้องมีโมโห

อันนี้จิตไปโกรธเด็ก โกรธเด็กมันก็เป็นบาป พอโกรธจิตก็เศร้าหมอง ท่านบอกว่า

“จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคคติ ปาฏิกังขา” ถ้าจิตเศร้าหมองเวลานั้น ถึงแม้เราจะมีบุญอะไรก็ตาม ตายแล้วลงนรกก่อน ดีไหม…ก็ตรงไปตรงมาไม่ดีหรือ ดีไหม…เขาให้เรารับ ชาวบ้านไปพูดว่าองค์นั้นรับสตางค์ เขาไม่ชอบใจเขาก็ไม่ให้ เขาชอบใจเขาก็ให้ มันเปิดเผยดีกว่า ถ้าเราไม่รับทีหลังเขารู้ว่ารวยมันซวยจัด ใช่ไหม…สู้กันตรงไปตรงมาดีกว่า อันนี้มันเลี่ยงไม่ได้

ที่ว่าไม่รับ ไม่ยินดี วัดนั้นมีการก่อสร้างไหม…พระวัดนั้นมีการป่วย ป่วยแล้วรักษาโรคหรือเปล่า เวลารักษา เอาอะไรมารักษา จะกินเข้าไปถ้าอะไรไม่พอกิน จะเอาอะไรมาซื้อ เงินซื้อ ใช่ไหม…ถ้าขึ้นรถขึ้นเรือ เขาเก็บสตางค์แล้วจะไปได้ยังไง ว่าไง…

นี่พูดเสียให้รู้ว่า ทำอย่างนี้คบหรือไม่คบ ฉันให้เลือกเอาตามชอบใจ ใช่ไหม…คบก็คบไม่อยากคบก็คบ เอ๊ะ…ยังไง…อีตรงนี้เห็นจะฟังยากหน่อยนะ

ความจริงอาตมาคิดว่าตรงไปตรงมาดีกว่า ถ้าเขาไปรู้ทีหลังจะคิดยังไง เขาก็เสียใจ เวลาที่เรารับ ต่อหน้าคนเรารับ ลับหลังคนเรารับ อันนี้ทำให้จิตสบาย

ผู้ถาม: แล้วเงินที่เขาถวายในขณะเป็นพระ เมื่อสึกมาเป็นฆราวาสแล้ว จะนำมาใช้ได้ไหมคะ…?

หลวงพ่อ: เรื่องเงินที่เขาถวายในฐานะเป็นพระ หรือศัพท์ที่เขาเรียกกันทั่วๆไปว่า เงินสาธุ ก่อนที่จะให้เขาสาธุก่อนนะ ถ้าสึกมาแล้วจะนำมาใช้ไม่ได้ต้องมอบให้แก่สงฆ์ แล้วเงินพระนี่ถึงแม้ว่าถวายเจาะจงเป็นส่วนตัว ก็ใช้นอกรีตนอกรอยไม่ได้ ลงอเวจีเลย คำว่าส่วนตัวต้องอยู่ในขอบเขตของความเป็นพระ หมายถึง หิวข้าวไม่มีข้าวจะกินเอาไปซื้อได้ ไม่มีผ้าจะนุ่งไปซื้อได้ ป่วยไม่มียารักษาโรคไม่มีค่าหมอไปซื้อได้ กุฏิมันจะพังก็ซ่อมแซมได้ ถ้าไปซื้อนาให้เขาเช่าซื้อข้าวขาย มันไม่ใช่เรื่องของพระแล้ว ถ้าซื้อนาต้องเป็นนาของวัด ซื้อข้าวเข้ามาเพื่อประโยชน์แก่วัด ประโยชน์ต่อสงฆ์

ตอนที่บวชกับหลวงพ่อปาน วันแรกท่านสอน ท่านบอกว่า
“เงินที่เขาถวายเข้ามาใน ๑ ปี ถ้ามีเหลืออย่าให้เกิน ๑,๐๐๐ บาท ถ้าเกินต้องทำอะไรให้หมดไป เงินปีนี้อย่าให้เหลือถึงปีหน้า”
ก็ถามท่านว่า “ถ้าเขาถวายวันสิ้นปีละ”

ท่านบอกว่า “ก็ตั้งใจไว้ก่อนว่า ปีหน้าจะทำอะไร” มันจะต้องมากกว่าเงินวันนั้น สร้างส้วมหลังเดียวก็มากกว่าแล้ว อันนี้ท่านตัดไว้เลย ดีจริงๆ แล้วทำให้อารมณ์เราสบาย ความรู้สึกว่ามีสตางค์นะไม่มีทุกวันนะ ที่ญาติโยมให้มานะ ก่อนนี้ตั้งเยอะแยะ มันยังไม่พอกับหนี้ที่มีอยู่นะ หนี้เป็นล้าน สบายโก๋

แต่พระวินัยนี่มีความสำคัญมาก ที่นักบวชจะต้องระมัดระวังก็มีอยู่ ๑๗ สิกขาบท ดีไม่ดีตั้งแต่วันแรก อาจจะต้องอาบัติที่มีความหนักมากทำให้สังฆกรรมเสียก็ได้ นั่นก็คือปราชิก ๔ ข้อ กับสังฆาทิเสส ๑๓ ข้อ ถ้าเผลอโดยเฉพาะอย่างยิ่งปาราชิก อาจจะขาดจากความเป็นภิกษุตั้งแต่บวชวันแรกก็ได้ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาบัตินี่ไม่เคยให้อภัยนะ รู้อยู่ก็เป็นอาบัติ ตั้งใจอยู่ก็เป็นอาบัติ เผลอไปหรือสงสัยก็เป็นอาบัติ รู้หรือไม่รู้ก็เป็น

แล้วก็ส่วนใหญ่มักจะสอนว่าอาบัติบางสิกขาบท บางส่วนถ้าละเมิดแล้วแสดงตก ก็ขอบอกว่ายิ่งแสดงยิ่งตกนรก ถ้าละเมิดพระวินัยจัดว่าเป็นความผิด โดยเฉพาะปาราชิกข้อที่ ๒ ที่ขาดง่ายก็คือ ถือเอาทรัพย์สินของบุคคลอื่นที่เขาไม่ให้ตั้งแต่ราคา ๑ บาทเป็นอาบัติปาราชิก ข้อนี้ต้องระวังให้มาก คำว่า “วิสาสะ” จงอย่ามีในอารมณ์ ครูบาอาจารย์สมัยก่อนบางท่านบอกว่าไม่เป็นไร เราชอบพอกันถือเป็นวิสาสะได้ อันนี้อย่าถือ เวลาปฏิบัติเป็นอธิศีลต้องปฏิบัติให้ถูก นั่นก็หมายความว่า ขึ้นชื่อว่าทรัพย์สินต่างๆ ถ้าหากเขาไม่อนุญาตให้เราจงอย่าหยิบเป็นอันขาด เพราะเวลา

นี้ของเล็กของน้อยราคามันก็ถึง ๑ บาท ถ้าหยิบขาดจากความเป็นพระทันที คือว่าอาบัตินี่ไม่ต้องรอโจทก์

ฉะนั้นการบวชสมัยก่อนมีคำขอบรรพชา (เดี๋ยวนี้เขาตัดทิ้งไปแล้ว) ว่า “นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คเหตวา” ซึ่งแปลเป็นใจความว่า ข้าพเจ้าขอรับผ้ากาสาวพัสตร์มาเพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ที่นักบวชทุกคนจะลืมข้อนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ผู้ถาม: หลวงพ่อคะ ขอถามปัญหาอีกข้อคะ อย่างเราสร้างเมรุเผาศพคนเดียวคนโบราณเขาบอกว่าไม่ดี จะตายง่ายเพราะบุญมันแรงเกินไป อันนี้จริงไหมคะ…?

หลวงพ่อ: ฉันว่าตายง่ายดีกว่าตายยากนะ ตายยากมันทรมานถูกไหม…?

ผู้ถาม: (หัวเราะ)

หลวงพ่อ: ไม่จริงหรอกหนู ถ้ามันถึงเวลาจะไม่ตายมันก็ไม่ตาย ถ้าบุญมันแรงก็ส่งเราไปนิพพานเลย ดีไหม…ทำคนเดียวไม่ได้ก็ทำหลายคนได้ ทำคนเดียวก็ดี แต่ถ้าเขาช่วยเราก็รับ


ปล. หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๓ มีทั้งหมด ๑๒ ตอนครับผม โปรดติดตามอ่านทุกๆ ตอนด้วยนะครับ
ที่มา เวปพระรัตนตรัย


ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว



Create Date : 17 ธันวาคม 2552
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 22:17:13 น. 34 comments
Counter : 953 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะพี่ไผ่
ที่นำสิ่งดีดีมาให้เราอ่านกัน


โดย: ก้อนหินในดินทราย วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:22:30:18 น.  

 
แวะมาส่งคนแถวนี้นอนบ้างดีกว่า อิอิ


โดย: maxpal วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:23:07:04 น.  

 
ตามมาอ่านต่อค่ะ...
ค่ะ
ขอยอมรับเลยค่ะ..
ว่าแรกๆ ที่อ่านเรื่องเกี่ยวกับธรรมะนี่..
ไม่ค่อยเข้าใจ...แถมง่วงค่ะ...

แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกอยากอ่านมากขึ้น
และอ่านแบบตั้งใจอ่าน..พยายามนึกตาม
เริ่มรู้สึกว่าไม่น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อนค่ะ...

วันนี้ส่งคุณไผ่เข้านอนเลยน่ะค่ะ...

อ้อ..วันนี้คุณนุ่มกลับมาซ่าส์ได้แร๊ะ...
ไม่ต้องห่วงแกแล้ว...ดีจังค่ะ...


โดย: กระป๋องแป้งฝุ่น วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:23:20:45 น.  

 
อนุโมทนาในคำตอบของหลวงพ่อค่ะ

ที่บ้านมีบ้างบางเล่ม ที่เพื่อนกรุณาให้ไว้อ่านค่ะ

ขอบคุณคุณไผ่มากที่นำมาให้อ่านเป็นกุศลธรรมค่ะ



โดย: addsiripun วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:0:36:52 น.  

 
แวะมาอ่านหนังสือของหลวงพ่อ
ความจริงซื้อหนังสือหลวงพ่อมาสะสมไว้ก็หลายเล่มนะคะ ยังอ่านไม่หมดเลยค่ะ หุหุ
แต่ได้อ่านหนังสือหลวงพ่อเรื่องประวัติหลวงพ่อปานจบไปแล้วอ่ะค่ะ อ่านเพลินดีค่ะ


โดย: ooy (ooybangyom ) วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:0:44:22 น.  

 
อนุโมทนาสาธุค่ะพี่ไผ่ ตอนนี้หนูดื้อม๊ากค่ะ หนูเคยซื้อจอบถวายวัดค่ะ พอดีเหลือบไปเห็นจอบที่วัดชำรุดแฮะๆ ตอนที่หนูถือศีล8 ก็ดื่มนมถั่วเหลืองและน้ำองุ่นนี่แหละค่ะ พี่ไผ่สบายดีน่ะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ มาส่งเข้านอนค่ะ


โดย: Budratsa วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:0:52:28 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ


โดย: Moon~JulY วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:5:20:00 น.  

 
สวัสดีครับยามเช้าครับพี่ไผ่


หลวงพ่อท่านตอบคำถามได้น่ารักดีนะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:6:02:51 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีวันศุกร์สีฟ้า
มีความสุขตลอดวันนะค่ะคุณไผ่
เห็นด้วยกับคุณก๋าค่ะ
ตอบน่ารัก เข้าใจง่าย


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:7:29:48 น.  

 
morning ja
สุขสดชื่นตลอดวันค่ะพี่ไผ่


โดย: ก้อนหินในดินทราย วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:8:00:18 น.  

 
ตายง่ายดีกว่าเนอะ เพราะตายยากมันทรมาน


โดย: JohnV วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:8:13:49 น.  

 

แวะมาอ่านในตอนเช้าวันศุกร์แห่งชาติค่ะ
สุขตลอดวันนะคะคุณไผ่


โดย: อุ้มสี วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:8:48:40 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะคุณไผ่
ขอบคุณที่ไปแจ้งค่ะ..ไม่อยากนั้นจะพลาด
อ่านเรื่อง ดี ดี ...

อยากถามคุณไผ่หน่อยค่ะ
ว่าพระฉันท์ยาคูลล์ได้ไหมค่ะ
เป็นคำถามที่เหมือนตลกหน่อยค่ะ ฮิ ฮิ
เพราะคิดว่ามีสิ่งมีชีวิต จำพวกจุลินทรีย์อยู่ค่ะ
เคยถามเพื่อน เพื่อนก็หัวเราะค่ะ ฮิ ฮิ
ว่าเราคิดอะไรแปลก ๆ....
ส่วนตัวสมัยก่อนกินบ่อยมาก...เดี๋ยวนี้..
ไม่กล้ากินค่ะ


มีความสุขในทุกวันค่ะคุณไผ่..


โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:9:16:07 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ พี่ไผ่




โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:9:26:22 น.  

 
ท่านตอบคำถามง่ายๆ น่ารักดีค่ะ
ตายง่ายดีกว่าตายยากจริงๆ เห็นหลายคนนอนให้ลูกหลานดูแลเป็นปีๆ นอนนิ่งๆ ช่วยตัวเองไม่ได้น่าสงสาร ทรมานนานมาก





โดย: redclick วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:10:07:26 น.  

 

โห เพิ่งรู้นะเนี่ย
ว่าพระเขามีกฎการใช้เงินของประชาชน
ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างไร
คงดีไม่น้อยถ้าทำได้
แต่ก็อย่างว่าทุกสังคมย่อมมีแกะดำ
เราต้องปลงและทำใจให้ได้
ถึงจะไม่ทุกข์เน๊าะท่านไผ่
(ซีดีกำลังจัดส่งไปให้นะค่ะท่าน)

img src = https://www.bloggang.com/data/feelof40age/picture/1202979363.jpg>



โดย: ขึ้น15ค่ำ วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:10:52:00 น.  

 



โดย: ขึ้น15ค่ำ วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:10:54:54 น.  

 
สวัสดียามเที่ยงค่ะพี่ไผ่ ทานข้าวหรือยังค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:12:31:58 น.  

 
ขอให้พี่ไผ่มีความสุขมากๆเช่นกันนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:13:49:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ไผ่

อนุโมทนานะคะ
อ่านไปยิ้มไปค่ะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:13:51:19 น.  

 
สวัสดีคะคุณไผ่ (ขอเรียกคุณไผ่ตามๆเค้าก็แล้วกันนะคะ) แวะมาอ่านบ้าง(อ่านยังไม่หมดไงคะ...แบบว่าแอบอ่านในเวลางาน...ทีบ้านไม่มีคอมฯ...แฮ่ๆ) รู้สึกดีที่ได้อ่านที่ไ้ด้รับรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ขอบคุณนะคะ แล้วจะหมั่นแวะเข้ามาอ่าน.....ขอเป็นญาติธรรมด้วยอีกคนนะคะ......


โดย: ต้นอ้อ (บ้านต้นอ้อ ) วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:15:13:40 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

นอนหลับฝันดี นะคะ คุณไผ่


โดย: มินทิวา วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:18:44:17 น.  

 


ฝันดีนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: redclick วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:21:06:41 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ooy (ooybangyom ) วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:21:41:41 น.  

 
มาส่งเข้านอนด้วยบทกลอนค่ะ พี่ไผ่

๏ สรรส่งคำภาษามาอ้างเอ่ย
ถ้อยเฉลยอิงแอบมาแนบขวัญ
รัตติกาลล่วงผ่านเข้าอีกวัน
นิทราฝันรื่นสุขค่อยปลุกเอย..๚ะ


โดย: พ่อระนาด วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:22:55:24 น.  

 
แวะมาส่งคุณไผ่..เข้านอนค่ะ..ฝันดีค่ะ..


โดย: กระป๋องแป้งฝุ่น วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:23:03:23 น.  

 
ขอให้นิทราอย่างมีความสุข
ขอให้นิทราอยู่บนนิพพาน...

...มาส่งเข้านิพพานค่ะ ;)


โดย: ไอฟ้า IP: 111.84.44.165 วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:0:15:14 น.  

 



สวัสดีค่ะคุณไผ่


ป้ามารับธรรมะจากหลวงพ่อต่อค่ะ

มาทักทายในวันสุดท้ายของวันทำงาน
พรุ่งนี้ก็ได้พักเหนื่อยแล้ว
ใช้วันหยุดอย่างมีความสุขนะคะ


คืนนี้หลับสบาย …. ฝันดีค่ะ


รักษาสุขภาพ และขอให้รับทุกการกระทบได้ ….โดยไม่กระเทือนค่ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:0:32:12 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะพี่ไผ่ วันหยุดสุดหรรษา ไปเที่ยวไหนบ้าง
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:6:10:06 น.  

 
กะก๋ามาส่งใบลาพักร้อนครับพี่ไผ่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:8:17:25 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไผ่
เลิฟขอถามคำถามนะคะ
พี่ไผ่ใช้เวลาช่วงไหน
ปฎิบัติธรรมคะ


โดย: อาลีอา วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:11:08:40 น.  

 
อ่านคำถามคำตอบสุดท้ายแล้วให้คิดว่าความตายเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่ว่าแต่ละคนเตรียมพร้อมแล้วยัง อย่าได้ประมาท รักษาศีล 5 ให้มั่น มีสติ ก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว

อ่านแล้วกระจ่างในหลายเรื่อง ขอบคุณและขออนุโมทนา

รออ่านตอนต่อไปค่ะ



โดย: nathanon วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:13:59:42 น.  

 

พี่โรสมาอนุโมทนาค่ะ


src=https://www.bloggang.com/emo/emo26.gif>


ขอบคุณค่ะคุณไผ่
ที่นำสิ่งดีดีมาให้เราอ่านกัน


โดย: นายกุหลาบ วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:18:24:05 น.  

 
นอนหลับฝันดีนะคะ คุณไผ่ ราตรีสวัสดิืค่ะ


โดย: redclick วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:22:06:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมึกสีดำ
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมึกสีดำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.