แอ่วเจียงฮาย วันที่ 9 ตัวเมืองเชียงราย-นนทบุรี



ย้อนดูววันที่ 8 ดอยผาตั้ง – ตัวเมืองเชียงราย คลิ๊กเลย


วันเสาร์ 22 ธ.ค.55 

เมื่อคืนหลังจากดูแสง สี เสียง ที่หอนาฬิกาแล้ว เช้านี้ก็ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ

เวลา 08.45 น.ไมล์ 1,514 ก.ม. ออกจาก รร.บีทู ขับรถออกไปทางหอนาฬิกา ก่อนถึงจะเจอร้าน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านรสเยี่ยม แอบเหล่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ เช้านี้ถือโอกาสแวะชิมซะหน่อย





ของผมเกาเหลาทุกอย่างกับเส้นหมี่แห้งทุกอย่าง







ส่วนแฟนผม หมื่แห้งไม่เอาเครื่องในกับหมี่น้ำสด-เปื่อย







ไม่อยากเชียร์มาก ร้านนี้แดงทั้งร้าน 555 แต่ยอมรับรสชาติเลยครับ ฟินสุดๆๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก น้ำเข้มข้น กลมกล่อม หวานนิดๆ เติมน้ำส้มกับพริกไปหน่อยจบ กลิ่นน้ำซุปหอมมาก ถ้าคนชอบกินเนื้อ ใครมาเชียงรายแนะนำเลยครับ อร่อยจริงๆ ผมกับแฟนฟาดไปคนละ 2 ชาม ถ้าไม่จุกก่อนว่าจะสั่งอีกชามแต่ท้องรับไม่ไหวแล้วอ่ะ 

ป.ล.รสชาติยังจำติดปากถึงตอนที่ผมรีวิวเลยครับ ไม่เวอร์จริงๆนะ





ของคาวเสร็จก็ตบหวานซะหน่อย ซาหลิ่ม 1 ถ้วย ช้อน 2 คัน 555 หวานชื่นใจ





เช็คบิลเสร็จ ก็ออกจากร้าน ก็แวะเติมน้ำมันเต็มถัง ตรงปั๊มน้ำมันแยกแม่กรณ์ ไมล์ที่ 1,522 ก.ม.เวลา 09.25 น.





จากแยกแม่กรณ์ก็ไปวัดร่องขุ่นต่อ ทางผ่านพอดี ห่างประมาณ 5 ก.ม.ได้ครับ ผมก็มาถึงคนแน่นตามคาด





























ตอนแรกผมว่าจะไม่แวะแล้ว เคยมาสาม สี่ครั้งแล้ว มาตั้งแต่เริ่มสร้างใหม่ๆ ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหรแถมเจอกับอาจารย์เฉลิมด้วย ตอนนั้นอาจารย์พาขึ้นไปดูทุกห้องเลยครับ แต่ตอนนี้ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปชมห้องข้างบนแล้วครับ ขอเอารูปเก่าที่ถ่ายกับแม่มาให้ดูรำลึกหน่อย







ห้องน้ำอันโด่งดัง วิจิตงามตา มุมนี้ไม่ต้องกลัวนักเที่ยวตรึม 













เดินชมแบบไหลไปตามคลื่นมหาชน ไว้คนน้อยๆค่อยแวะมาเที่ยวใหม่ วันนี้ขอเผ่นก่อนดีกว่าครับ





ผมออกจากวัดร่องขุนเวลา 10.07 น.ระยะทาง 1,528 ก.ม. วัดก็ยังคงสวยเหมือนเดิมแต่ไปครั้งนี้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ อาจจะไม่ได้เตรียมตัว แถมคนเยอะเลยรู้สึกเฉยๆครับ






ออกจากวัดร่องขุ่นผมก็ยังยาวไปทางพะเยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลย 1 เส้นนี้เป็นเส้นทางหลักไปเชียงรายครับ ถนนกว้างขับสบายๆ มีลงเขาบ้างนิดหน่อย ระยะทางประมาณ 80 ก.ม.จะวิ่งผ่าน อ.พาน-อ.แม่ใจ แล้วเข้าพะเยา 

ผมขับเรื่อยๆความเร็วประมาณ 80-100 ก.ม./ชม. มาถึงกว๊านพะเยาในรูปเวลา 11.04 น.หน้าไมล์ 1,609 ก.ม.







ถ่ายรูปแผนที่เที่ยว จ.พะเยา มาให้ดูครับ 





กว๊านพะเยา ข้อมูลจากเวป คลี๊กเลย

เกิดจาการยุบตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ 70 ล้านปีมาแล้วเป็นแอ่งน้ำซึ่งเป็นที่รวบรวมของลำห้วยต่างๆ 18 สาย ต่อมาในปี 2478 กรมประมงได้ตั้งสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยาขึ้น บริเวณ ต้นแม่น้ำอิงและสร้างฝายกั้นน้ำทำให้เกิดเป็นบึงขนาดใหญ่ มีความลึกเฉลี่ย 1.5 เมตร คำว่า "บึง" ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า "กว๊าน"

กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของจังหวัดพะเยา คือเป็นทั้งแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญที่สุดของภาคเหนือตอนบน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ประมาณ 12,831 ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลากราย ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาจีน ปลาไน รวมทั้งปลานิล อันลือชื่อของจังหวัดพะเยา ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา มีความร่มรื่น สามารถมองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อน งดงามมาก บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและจัดเป็นสวนสาธารณะเหมาะที่จะไปนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกริมกว๊านเป็นภาพที่สวยงามมาก





ผมขับเลาะกว๊านพะเยา มาเรื่อยๆก็มาเจอวัดติโลกอาราม จังหวัดพะเยา 





วัดนี้อยู่กลางน้ำ ในกว๊านพะเยาครับ เราต้องไปขึ้นที่ท่าเรือเพื่อนั่งเรือแจวไปยังวัด ค่าเรือคนละ 20 บาทเอง

ตรงนี้ท่าเรือ ขับรถเลาะริมกว๊านพะเยามาก็จะเจอเองครับ มีที่จอดรถสะดวกสบาย





ใครว่ายน้ำไม่เป็นไม่ต้องกลัวครับ เพราะเค้าบังคับให้ใส่เสื้อชูชีพก่อนขึ้นเรือทุกคน ปลอดภัยครับ





ใส่เสื้อชูชีพเสร็จก็ลงเรือได้ เรือเริ่มออกจากท่าเรือแล้วครับ ไม่มีเรือหางยาวหรือเรือที่ติดเครื่องยนต์ มีแต่เรือพายอย่างเดียว





นั่งเรือใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงวัดติโลกอาราม คลี๊กเลย

เป็นวัดร้างที่จมอยู่ใต้น้ำในกว๊านพะเยา แต่เดิมเป็นเนินสันธาตุท้ายหมู่บ้านร่องไฮ ตำบลแม่ใส อำเภอเมืองพะเยา ต่อมาถูกน้ำกัดเซาะและได้พังทลายลงเป็นกองอิฐอยู่ใต้น้ำ จากหลักศิลาจารึกที่ค้นพบในบริเวณนี้ทำให้ทราบว่า วัดติโลกอารามสร้างขึ้นโดยพระเจ้าติโลกราช มหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ระหว่าง พ.ศ.2019-2031 มีโบราณวัตถุสำคัญ คือ พระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อศิลา ค้นพบเมื่อปี 2526 ชาวบ้านได้นำขึ้นจากน้ำมาประดิษฐานไว้ที่วัดศรีอุโมงค์คำในตัวเมืองพะเยา ต่อมาจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้บนแท่นกลางน้ำบริเวณที่ตั้งของวัดติโลกอารามในปัจจุบัน ในวันมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา จะมีพิธีเวียนเทียนกลางน้ำ มีเรือพายนับร้อยลำจุดเทียนสว่างไสวไปเวียนเทียนรอบแท่นประดิษฐานหลวงพ่อศิลาในกว๊านพะเยา นับเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใคร

การเดินทาง จากท่าเรือกว๊านพะเยาที่ถนนชายกว๊านในตัวเมืองพะเยา มีเรือพายบริการไปยังบริเวณที่ตั้งของวัดติโลกอารามเพื่อสักการะหลวงพ่อศิลา ค่าบริการคนละ 20 บาท มีชูชีพสวมเพื่อความปลอดภัย ให้บริการระหว่างเวลาประมาณ 8.00 - 17.00 น. ใช้เวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 20 นาที





ใกล้ถึงวัดแล้วครับ เป็นวัดไม่ใหญ่ 









เห็นมีข่าวว่าจะกู้วัดขึ้นจากบาดาล ซื่งใช้งบประมาณ 1,500 ล้านบาท ไม่รู้เรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว การกู้วัดมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ถ้ากู้ขึ้นมาได้จะได้เห็นวัดเต็มๆแบบในรูปจำลองให้ดูครับ 

ขอบคุณแผนที่และข้อมูลวัดติโลกอาราม คลี๊กเลย





ที่วัดติโลกอาราม ได้จัดพิธีเวียนเทียนทางน้ำ รอบวัดติโลกอาราม เนื่องในวันวิสาขบูชาและจัดงานลอยกระทง ที่ผ่านมาด้วยครับ น่าจะจัดทุกปี ใครสนใจลองดูคลิปนี้ได้เลยครับ 












ผมไหว้พระเสร็จ เดินชมวัด วิวกว๊านพะเยา ประมาณ 20 นาทีก็ได้เวลาเดินทางเข้าฝั่งแล้วครับ ดูวิวฝั่งตัวเมืองพะเยา สวยไปอีกแบบเหมือนกัน ถ่ายรูปจากบนเรือครับ

























แถวๆนั้น มีร้านอาหารเกี่ยวกับปลาเผาหลายร้าน เยอะมากเลยครับ แต่ยังไม่หิวกันเลยไม่ได้แวะชิม 

ขึ้นฝั่งได้ก็ออกจากกว๊านพะเยาเวลา 11.55 น. ไมล์ 1,609 ก.ม. ขับออกจากกว๊านตรงไปจะเข้าตัวเมืองพะเยาแล้วกลับรถเข้าเส้นพหลโยธิน ยิงยาวมาถึงลำปางไม่ต้องกลัวหลงครับ ขับตามป้ายเลยไปลำปาง ยิงยาวโลด

แล้วก็มาถึงตัวเมืองลำปาง แวะนู้นแวะนี้ เจอรถม้าลำปาง ใครอยากนั่งถ่ายป้ายราคามาให้ดู







แฟนบอกอยากไปซื้อเซรามิค เอาละสิไม่ได้มีข้อมูลเรื่องร้านเซรามิคด้วยสิ แต่ก่อนเข้าตัวเมืองเห็นป้ายแว๊บๆ อินทราเอ๊าเลท ก็เลยพาแฟนผมไปช๊อปซะหน่อย อยู่นอกตัวเมืองลำปาง











อินทราเอ๊าเลท ที่จอดรถกว้างมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ สะดวกสบาย ร่มรื่น ภายนอกมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก























มาดูข้างในบ้างครับ มีพวกเซรามิคเยอะมาก น่ารักๆไว้ประดับหรือพวกจานชาม แจกันมีให้เลือกจนลานตา









แฟนผมซื้อของได้นิดหน่อยก็ออกเดินทางต่อ

ผมออกจากอินทราเอ๊าเลทเวลา 14.40 น.ไมล์ 1,753 ก.ม. ขับมาเรื่อยๆแล้วก็มาถึง





แวะเข้าไปชมหน่อย อยากบอกว่า ลำปางร้อนมากกกกกกกก สงสารแกะอ่ะ ผมไม่ได้อุดหนุนสินค้าที่นี้เลยครับ แกะก็ไม่ได้เข้าไปเลี้ยง เดินวนหนึ่งรอบไม่ถึงห้านาที ก็เดินทางต่อครับ







ออกจากลำปางก็ยิงยาวมาถึงกำแพงเพชร เริ่มหิวแล้วหาร้านข้างทางก็ไม่มี มาถึง ปั๊ม ปตท.แถวกำแพงเพชร เวลา 17.45 น.ระยะทาง 20.06 น. แวะ 7/11 ซื้อไส้กรอกรองท้องก่อนแล้วกัน ออกจากปั๊มก็ขับไปเรื่อยๆ มาแวะเอาที่ร้านแม่กุหลาบแถวก่อนถึงนครสวรรค์ขายพวกของฝาก กินกันตายไปแล้วกันครับ อิ่มเสร็จก็ออกจากร้านแม่กุหลาบก็ยิงยาวเข้าบ้านนนท์เลยครับ 

มาถึงบ้านเวลา 22.26 น.รวมระยะทางหมดทั้งทริป 2,352 ก.ม. น้ำมันเหลือเท่าที่เห็นครับ 







ทริปนี้ประทับใจมาก เสียดายวันสุดท้าย วางแผนผิด ถ้าไม่ติดดูดอกทิวลิปกับหอนาฬิกา ผมไม่เข้ามานอนในตัวเมืองเชียงราย กะลงจากดอยผาตั้งแล้ววิ่งยาวมานอนที่สุโขทัยหรือแถวตากก็ได้ เพราะดูตัวเมืองเชียงรายมันวุ่นวาย รถติดพอๆกับ กทม.อยากได้ที่มันธรรมชาติ สงบๆตามป่า ตามดอยดีกว่า ไม่ได้วางแผนเรื่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงรายเลย แต่ยังก็ถือว่าโอเค 

สำหรับทริปนี้ก็หาข้อมูลเป็นเดือน ค่อยๆวางแผน ดูที่เที่ยวตรงไหนน่าสนใจ ก็ค่อยมาจองที่พักให้มันตรงกับวัน คุ้มครับ ส่วนข้อมูลก็ได้เล่มนี้ เที่ยวเชียงราย เป็นหลักแล้วค่อยมาหาในกูเกิ้ล ต่ออีกที สำหรับใครสนใจทริปเชียงรายก็เข้ามาคุย มาแชร์ข้อมูลในบล็อกผมได้เลยครับ 





สำหรับรถที่ผมใช้ทริปนี้ เป็นโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู เครื่อง 2500 ขับเคลื่อน 2 ล้อ ขับขึ้นเหนือขึ้นดอยได้สบายๆครับ อาศัยขับไม่ประมาทก็ไปได้





ขอจบทริปเชียงราย 9 วันครับ

ระยะทางจากที่วิ่งเที่ยววันนี้ เชียงราย-นนทบุรี ทั้งหมด 838 ก.ม.

ค่าเสียหายวันนี้

-เช้าที่เชียงราย
-ค่าที่พัก บี 2 หนึ่งคืน 590 บาท
-ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านรสเยี่ยม 233 บาท
-เติมน้ำมัน ปตท. 1,600 บาท (เติมทั้งหมด 52.22 ลิตรๆละ 30.64 บาท)

เที่ยงที่พะเยา+ลำปาง
-ค่าเรือไปไหว้พระที่กว๊านพะเยา 40บาท(2x20)
-ค่าดอกไม้ไหว้พระ 20 (2x10)
-ซื้อเซรามิคที่ลำปาง 785 บาท

บ่าย-เย็นที่กำแพงเพชร+นครสวรรค์
-ขนมในเซเว่น 115+ไส้กรอก-บาโรน่า 67 รวม 182 บาท
-กินข้าวราดแกงร้านแม่กุหลาบ 104 บาท

รวมทั้งหมด 3,554 บาท





สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริปและระยะเดินทาง 

วันที่หนึ่ง 1,110 บาท ระยะทาง 643 ก.ม.
วันที่สอง 3,987 บาท ระยะทาง 212 ก.ม.
วันที่สาม 4,806 บาท ระยะทาง 61 ก.ม.
วันที่สี่ 3,180 บาท ระยะทาง 123 ก.ม.
วันที่ห้า 5,090 บาท ระยะทาง 127 ก.ม.
วันที่หก 4,874 บาท ระยะทาง 66 ก.ม.
วันที่เจ็ด 1,945 บาท ระยะทาง 120 ก.ม.
วันที่แปด 2,352 บาท ระยะทาง 162 ก.ม.
วันที่เก้า 3,554 บาท ระยะทาง 838 ก.ม.
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 30,898 บาท รวมระยะทาง 2,352 ก.ม.





ย้อยดูทริปเชียงรายตั้งแต่วันแรกได้ครับ

วันแรก วันศุกร์ที่ 14 ธ.ค.55 นนทบุรี – ลำปาง คลี๊กเลย

วันที่ 2 วันเสาร์ที่ 15 ธ.ค.55 ลำปาง - เวียงป่าเป้า คลี๊กเลย

วันที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.55 เวียงป่าเป้า – ดอยช้าง คลี๊กเลย

วันที่ 4 วันจันทร์ 17 ธ.ค.55 ดอยช้าง – ดอยแม่สลอง คลี๊กเลย

วันที่ 5 วันอังคาร 18 ธ.ค.55 ดอบแม่สลอง – เชียงแสน คลี๊กเลย

วันที่ 6 วันพุธ 19 ธ.ค.55 เชียงแสน - เชียงของ คลี๊กเลย

วันที่ 7 วันพฤหัส 20 ธ.ค.55 เชียงของ – ดอยผาตั้ง คลี๊กเลย

วันที่ 8 วันศุกร์ 21 ธ.ค.55 ดอยผาตั้ง – ตัวเมืองเชียงราย คลิ๊กเลย





 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2556
3 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2560 12:17:00 น.
Counter : 6345 Pageviews.

 

ที่เที่ยวใน จ.พะเยา
-----------------------------------------

อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง

อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาวลำดับที่ 9 ระหว่างปี พ.ศ. 1801-1841 เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองมากประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพะเยา (สวนสมเด็จย่า 90) หน้ากว๊านพะเยา

เป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงราย




และพ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามพระองค์ได้กระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณแม่น้ำอิง ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณสถานีประมงน้ำจืดพะเยา พ่อขุนงำเมืองเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์กล่าวกันว่าเมื่อพระองค์เสด็จไปทางไหน "แดดก็บ่อฮ้อน ฝนก็บ่อฮำจักให้แดดก็แดด จักให้บดก็บด" จึงได้พระนามว่างำเมือง


-----------------------------------------

กว๊านพะเยา

เกิดจาการยุบตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ 70 ล้านปีมาแล้วเป็นแอ่งน้ำซึ่งเป็นที่รวบรวมของลำห้วยต่างๆ 18 สาย ต่อมาในปี 2478 กรมประมงได้ตั้งสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยาขึ้น บริเวณ ต้นแม่น้ำอิงและสร้างฝายกั้นน้ำทำให้เกิดเป็นบึงขนาดใหญ่ มีความลึกเฉลี่ย 1.5 เมตร คำว่า "บึง" ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า "กว๊าน"




กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของจังหวัดพะเยา คือเป็นทั้งแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญที่สุดของภาคเหนือตอนบน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ประมาณ 12,831 ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลากราย ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาจีน ปลาไน รวมทั้งปลานิล อันลือชื่อของจังหวัดพะเยา ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา มีความร่มรื่น สามารถมองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อน งดงามมาก บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและจัดเป็นสวนสาธารณะเหมาะที่จะไปนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกริมกว๊านเป็นภาพที่สวยงามมาก


-----------------------------------------

สถานีประมงน้ำจืดพะเยา
ตั้งอยู่ตรงถนนพหลโยธินระหว่างหลักกม.ที่ 734-735 เป็นสถานีเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด ปลาที่เพาะพันธุ์เพื่อแจกจ่ายแก่เกษตรกรได้แก่ ปลานิล ปลาไน ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สกเทศ ฯลฯ และสามารถเพาะพันธุ์ปลาบึกได้สำเร็จเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำต่างๆ




สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ห้องจัดแสดงพันธุ์ปลาสวยงามที่หาดูยากไว้หลายชนิด เปิดให้ชมในวันเวลาราชการ และยังมีเรือนประทับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเมื่อครั้งเสด็จมาทรงงานที่จังหวัดพะเยาอยู่ในบริเวณเดียวกัน บริเวณรอบตำหนักจะมีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ สระน้ำพุอันสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณสถานีประมงพะเยา


-----------------------------------------

หอวัฒนธรรมนิทัศน์
อยู่ใกล้กับวัดศรีโคมคำ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงโบราณวัตถุ เอกสารข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดพะเยา และเรื่องราวความเป็นมาทั้งด้านวรรณกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพะเยาโดยใช้รูปแบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ เปิดให้เข้าชมในวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.





-----------------------------------------

หมู่บ้านทำครกและโม่หิน

บ้านงิ้ว ตำบลบ้านสาง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กม. ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปวัดอนาลโย เป็นถนนรอบกว๊านพะเยา รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ทุกฤดูกาล ชาวบ้านมีอาชีพเสริมหลังการทำนาคือการ ทำครก โม่หิน ใบเสมา และลูกนิมิต เป็นต้น โดยทำเป็นอุตสาหกรรมภายในครอบครัว และส่งไปขายในตัวเมืองพะเยา


-----------------------------------------

วัดศรีโคมคำ

เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี และวัดพัฒนาตัวอย่าง ประชาชนทั่วไปเรียกว่า "วัดพระเจ้าตนหลวง" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนาไทย ขนาดหน้าตักกว้าง 16 เมตร สูง 18 เมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2034-2067




พระเจ้าตนหลวง หรือ พระเจ้าองค์หลวง มิใช่เป็น แต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรล้านนาไทยด้วย วันวิสาขบูชามีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวงเป็นประจำทุกปีเรียกว่า "งานประเพณีนมัสการพระเจ้าองค์หลวงเดือนแปดเป็ง"




-----------------------------------------

วัดพระธาตุจอมทอง

ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง ห่างจากตัวเมือง 3 กม. อยู่ตรงข้ามกับกับวัดศรีโคมคำ มีถนนขึ้นไปถึง เจดีย์พระธาตุจอมทองเป็นปูชนียสถานโบราณคู่เมืองพะเยา บริเวณโดยรอบมีป่าไม้ปกคลุม เป็นสวนรุกชาติ มองเห็นตัวเมืองและกว๊านพะเยาได้โดยรอบ





-----------------------------------------

วัดอนาลโยทิพยาราม

ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัมห่างจากตัวจังหวัด 20 กม. ไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 1 (พะเยา-เชียงราย) ประมาณ 7 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1127-1193 อีก 9 กม.ทางลาดยางตลอดสาย บริเวณดอยบุษราคัม และม่อนพระนอน ประกอบด้วยพระพุทธรูปศิลปสุโขทัยลักษณะงดงามมาก และยังมีพระพุทธรูปปางต่างๆ อีกหลายองค์ อาทิ พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางลีลา พระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างด้วยความประณีตสวยงามแบบศิลปไทยรัตนเจดีย์ เป็นศิลปะ แบบอินเดียพุทธคยา เก๋งจีนประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลอง จากยอดเขาสามารถชมทัศนียภาพของกว๊านพะเยาและเมืองพะเยาได้อย่างสวยงาม ขึ้นได้ 2 ทาง คือ ทางบันไดและทางรถยนต์




-----------------------------------------

วัดศรีอุโมงค์คำ

มีพระเจดีย์สมัยเชียงแสนที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาอีกองค์หนึ่งนามว่า "หลวงพ่องามเมืองเรืองฤทธิ์" แต่ชาวบ้านเรียกว่า "พระเจ้าล้านตื้อ" ซึ่งถือกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามที่สุดแห่งล้านนาไทย และนับเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะของภูกามยาวโดยเฉพาะ





-----------------------------------------

วัดลี

ตั้งอยู่หลังโรงเรียนเทศบาล 3 มีสถูปที่เป็นแบบสถาปัตยกรรมของภาคเหนือ และโบราณวัตถุสมัยอาณาจักรพะเยาอีกมากมาย โดยเฉพาะพระพุทธรูปหินทราย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยๆ ได้อีกแห่งหนึ่งยังมีพุทธศาสนสถานเก่าในเมืองพะเยาที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ได้แก่ ป่าแดงบุนนาค มีตำนานเกี่ยวพันครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมายังดินแดนแห่งนี้ วัดศรีจอมเรือง มีศิลปะสวยงามแบบไทยผสมพม่า วัดราชคฤห์ มีเจดีย์เก่าแก่ของเมืองพะเยา และพระพุทธรูปศิลาซึ่งพุทธลักษณะสวยงามแบบเดียวกับพระเจ้าล้านตื้อ





-----------------------------------------

หมู่บ้านทำผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา
อยู่ที่บ้านสันป่าม่วงใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหมู่บ้านทำครกและโม่หิน ห่างกันประมาณ 2 กม. ชาวป่าม่วงได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มขึ้นทำเป็นงานอดิเรก ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผักตบชวา ได้แก่ หมวกกระเป๋า จานรองแก้ว และของประดับตกแต่งต่างๆ


-----------------------------------------
วัดพระเจ้านั่งดิน

อยู่ในตำบลเวียง ไปตามทางหลวง 1148 ห่างจากตัวอำเภอ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่องค์พระประธานของวัดไม่มีฐานชุกชีรองรับเหมือนกับพระประธานองค์อื่นๆ เคยมีราษฎรสร้างฐานชุกชีเพื่ออัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐาน แต่ปรากฏว่าพยายามยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า พระนั่งดิน



-----------------------------------------

วัดนันตาราม

อยู่ที่บ้านดอนไชย ไม่ปรากฎว่าสร้างเมื่อไร เป็นวัดที่มีศิลปะแบบไทยใหญ่ ตัววิหารสร้างด้วยไม้สักทั้งหลังตกแต่งลวดลายฉลุไม้อย่างสวยงามตามส่วนประกอบต่างๆ เช่น หน้าต่าง หน้าบัน ระเบียง เป็นต้น ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ธนบัตรเก่า เครื่องใช้โบราณ ผ้าลายโบราณ ภาพวาดโบราณเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเทศน์มหาชาติแต่ละตอน เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00 - 18.00 น.




-----------------------------------------

วัดแสงเมืองมา

สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ราว พ.ศ.2351 สร้างโดยชาวเมืองมาง มณฑลยูนานที่ถูกเจ้าเมืองน่านกวาดต้อนมาจนกระทั่งมาตั่งถิ่นฐานที่อำเภอเชียงคำนี้ จุดเด่นของวัดอยู่ที่หลังคาวิหารที่ซ้อนลดกันหลายชั้น ไม่นิยมทำหลังคาสูง ตรงหลังคาประดับด้วยช่อฟ้า ซึ่งทำเป็นรูปหงษ์แกะสลัก หรือตัวนาคคาบแก้ว นอกนั้นมีการประดับประดาด้วยไม้แกะสลัก ตกแต่งด้วยสีต่างๆดูงดงามตา ส่วนบานประตูทำด้วยไม่แกะสลักทุกบาน ประตูเข้าสู่พระวิหารจะทำเป็นสามมุข มุขแต่ละทิศทำเป็นสัตว์สามอย่างที่เชื่อว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองศาสนา ได้แก่ พญานาค เสือ และ สิงห์ และภายในฝาผนังมีจิตรกรรมฝาผนังที่วาดเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวไทลื้อ และพระประธานเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน

ที่ตั้ง113 บ้านมาง หมู่ที่ 4 ต.หย่วน โทร.0 5445 1399



----------------------------------------

ขอบคุณเวปเอื้อเฟื้อข้อมูลและรูปภาพ

www.thai-tour.com คลี๊กเลย

www.siamfreestyle.comคลี๊กเลย


 

โดย: nongmalakor 22 กรกฎาคม 2556 17:38:01 น.  

 

สวัสดีค่ะ ไม่ได้ทักทายกันเลยทางบล็อกค่ะพี่ แวะมาแอ่วทางเหนือหลายวัน
แบบนี้ ต้องอ่านติดตามไล่เรียงตั่งแต่วันแรกนะค่ะ

มาลงชื่อก่อนค่ะเดี๋ยวตามอ่านแบบยาวๆค่ะ

 

โดย: JewNid 22 กรกฎาคม 2556 17:44:37 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 23 กรกฎาคม 2556 5:12:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.