ผมรู้จักหนังสือเล่มนี้จากพี่แป๊ด-ดวงฤทัย ผู้เป็นทั้งบรรณาธิการของเล่มและเจ้าของสำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด ผ่านทางหน้าเพจเฟสบุ๊คของพี่แป๊ดก่อนงานหนังสือจะมาถึง และหมายใจว่าจะพา ช้าง ตัวนี้กลับบ้านเป็นแม่นมั่น ทั้งที่ไม่เคยรู้จักมักจี่ผู้เขียนหรือเคยอ่านงานเขามาก่อน หนักที่สุดคือยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนังสือพูดถึงอะไร สิ่งเดียวที่ทำให้เล่มนี้อยู่ในลิสต์ก็เพราะผู้ที่ทำให้ผมได้รู้จักหนังสือเล่มนี้นั่นแล
การเดินทางของคชสาร เป็นความเรียงจำนวน 15 ตอน เขียนขึ้นใหม่โดย คชสาร ตั้งยามอรุณ อ่านจากคำนำได้ความว่า คชสาร ตั้งยามอรุณ เป็นนามปากกาผู้เสกสรรค์การ์ตูนสามช่อง ช้างคชสารและควายทรพี ให้โลดแล่นอยู่ในสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ค มีแฟนคลับติดตามมากมาย ก่อนที่จะโบกมือลาปิดหน้าเพจของตัวลงแบบไม่มีปี่ขลุ่ย แต่ในที่สุดก็ยอมใจอ่อนกลับมาเขียนความเรียง 15 ตอนใหม่นี้ให้กับสำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด โดยมอบรายได้ในส่วนของผู้เขียนทั้งหมดให้กับมูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย
ความเรียงทั้ง 15 เรื่องในเล่ม เป็นเรื่องราวของผู้เขียนเอง จากมุมมองในสองวัฒนธรรม ยุโรปและเอเชีย เชื่อมโยงร้อยเรียงผ่านเรื่องเล่าของตัวเขาเอง ส่งผ่านอดีตสู่ปัจจุบันบ้าง ย้อนปัจจุบันไปหาวันวานอันแจ่มชัดบ้าง ในแต่ละตอนจะมีการ์ตูนช่องน่ารักน่ารักของช้างคชสารกับควายทรพี ทำให้ผมได้ยิ้มก่อนเข้าเรื่อง ความเรียงแต่ละตอนนั้นเต็มไปด้วยพลัง ทำให้ผู้อ่านนั่งนิ่งฟัง(อ่าน)เรื่องเล่าจากเขา อยากรู้เรื่องราวที่เขากำลังจะเล่า นั่งเงียบ ตาจ้องเขม็ง ไม่ขยับไปไหน ตรึงผมให้อยู่กับที่จนกว่าจะจบตอนค่อยลุกไปทำอย่างอื่น แล้วกลับมาฟัง (อ่าน) ต่อ
เรื่องเล่าเรื่องแรก เป็นเรื่องราวของคุณตา อ่านจบผมน้ำตาซึมกับเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะมันใกล้เคียงชีวิตจริงหรือเพิ่งประสบมา แต่มันทำให้ผู้อ่านอย่างผมซับทราบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตาได้มากมาย แม้จะใช้พื้นที่แค่เพียง 7-8 หน้ากระดาษ จากนั้นผมรู้สึกได้ทันทีถึงความคาดหวังต่อมาว่าหนังสือเล่มนี้คงมิใช่หนังสือธรรมดาสามัญเป็นแน่แท้ ผมจึงใส่ใจกับเรื่องราวจากนั้นมากขึ้น เดิมเป็นเพียงเพื่อนร่วมเดินทาง แปรเปลี่ยนเป็นสหายร่วมวงสนทนาไปในบัดดล
เรื่องราวต่อๆมาในเล่ม เป็นเรื่องสลับฉากไปมา ย้อนนึกถึงวัยเด็ก สิ่งที่ได้พบเจอในชีวิตระหว่างเรียน การเดินทางข้ามทวีปและสิ่งที่ต่างกันในสองวัฒนธรรม เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นและประทับในใจตลอด เรื่องเล่าแต่ละเรื่องนั้นไม่ยาวมาก บางเรื่องเชื่อมโยงเข้ากับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานในบ้างเรา บอกเล่าบางมุมมองที่ผมไม่เคยมองเห็น บางเรื่องไม่อาจทำให้เปลี่ยนมุมมองแต่ก็ทำให้ได้รู้ว่าถ้ามองมุมนี้จะเป็นเช่นไร อ่านมาเรื่อยจนมาสะดุดกับเรื่องที่ห้า (ไม่ใช่)แฟนฉัน บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่เขาได้เจอตอนเรียนประถม ไม่อาจอธิบายได้ว่าอะไรที่ทำให้สะดุดกับเรื่องนี้ เพียงแต่รู้สึกว่าไคลแมกซ์ของเรื่อง (ไม่อยากสปอยล์เนื้อหา เอาเป็นว่าใกล้ตอนจบ) ทำให้ผม ฟิน มากมากเท่านั้นเอง
ในเรื่องอื่น ๆ ใช่ว่าผมจะไม่สะดุดเหมือนเรื่องที่ห้า เพียงแต่ทุกเรื่องทำให้ผมรู้สึกถึงความต่อเนื่อง อ่านแล้วมีความสุข ยิ้มบ้าง นึกถึงอดีตของตัวเองบ้าง นึกถึงเหตุการณ์ปัจจุบันที่ถูกเชื่อมโยงบ้าง ไหลลื่นราวกับนั่งฟังคชสารเล่าเรื่องอยู่จริง จนมาถึงเรื่องสุดท้าย สงคราม ผมไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจของผู้เขียนหรือเปล่าที่หนังสือเล่มนี้เริ่มเล่าด้วยเรื่องของคุณตา และปิดท้ายเล่มด้วยเรื่องของคุณตาเช่นกัน อีกทั้งผมเองเริ่มต้นอ่านด้วยน้ำตาที่คลอหน่วย และจบด้วยน้ำตานั้นค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างเศร้าซึม กับเรื่องเล่าสุดท้ายของเขา
ผมไม่รู้จะบรรยายสรรพคุณหรือโฆษณาชวนเชื่ออย่างไรให้คุณได้คล้อยตามจนนำไปสู่การหยิบหนังสือและจ่ายตังค์ แต่ก็อีกนั่นแหละ แค่บทความเขียนถึงเพียงบางส่วนของหนังสือ จะทำให้บางคนที่บังเอิญผ่านมาอ่านเชื่อได้อย่างไรกัน เอาเป็นว่าผมบอกไว้อย่างนึงเผื่อจะช่วยเพิ่มพลังการตัดสินใจ ผมรอที่จะอ่าน การเดินทางของคชสารเล่ม 2