155. นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมอบหลักการจัดทำงบประมาณปี 56ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน
วัน พฤหัสบดี ที่ 23 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555
ร่วมเป็นกำลังใจ ฐิติมา ฉายแสง โฆษกรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีกำชับส่วนราชการจัดทำงบประมาณปี 56 ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน เน้นรักษาวินัยการเงินการคลัง
นายกรัฐมนตรีมอบหลักการจัดทำงบประมาณปี 56 กำชับส่วนราชการจัดทำงบฯ โดยให้ทบทวนในนโยบาย 16 ข้อของรัฐบาลเพื่อให้ต่อเนื่องจากปี 55 ย้ำการตั้งงบประมาณต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน เน้นให้รักษาวินัยการเงินการคลัง กระบวนการดำเนินงานต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ คาดจีดีพีเศรษฐกิจไทยปี 55 ขยายตัวร้อยละ 5.5-6.5
วันนี้ (23 ก.พ.55) เวลา 09.15 น. ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 แก่หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารสำนักงบประมาณ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 1,200 คน ที่จัดโดยสำนักงบประมาณ โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าร่วมงาน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 สรุปสาระสำคัญว่า เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความผันผวน ทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีความเปราะบางมีปัญหาเรื่องหนี้สินต่าง ๆ รวมทั้งการเกิดวิกฤตของสหภาพยุโรปที่มีแนวโน้มขยายตัวไปสู่สถาบันการเงินหรือการผลิตต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ที่อาจมีผลกระทบกับประเทศไทย ดังนั้นการจัดทำงบประมาณในปีนี้จะต้องตอบโจทย์ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะลดความเสี่ยงของการพึ่งพาปัจจัยของเศรษฐกิจโลกคือการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ ด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศให้มากขึ้น ทำให้คนในประเทศมีรายได้ดีขึ้นตั้งแต่ระดับชุมชน รวมทั้งกระตุ้นการเพิ่มผลผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี เพื่อให้มีการขายในประเทศและส่งออกได้มากขึ้น ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยได้คือการใช้จ่ายของภาครัฐ ดังนั้นการทำงบประมาณจะต้องเข้าใจและเห็นทิศทางของการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้การทำงบประมาณเป็นแนวทางเดียวกัน " วันนี้เราอยู่ในกลุ่มอาเซียน และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกก็เป็นจุดแข็งที่ทำให้ทุกประเทศให้ความสนใจประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของจีน ญี่ปุ่น หรืออินเดีย เพราะประเทศไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี เป็นจุดที่เรียกว่าเป็นประตูสู่อาเซียน ถามว่าถ้าจะลงทุนในอาเซียน ลงทุนในประเทศไทยน่าสนใจกว่า เพราะมีวัฒนธรรมที่ดี มีแรงงานที่มีคุณภาพฝีมือดี และเพราะสภาพภูมิประเทศที่น่าอยู่ อันนี้ก็เป็นจุดได้เปรียบของประเทศไทยที่เราคงต้องมาร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการเตรียมตัวที่จะก้าวไปสู่ประเทศอาเซียนด้วย" นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าปี 2555 จะเป็นปีของการฟื้นฟูและการเร่งรัดฟื้นฟูหลังอุทกภัยน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา จึงคาดการณ์ว่าจีดีพีเศรษฐกิจไทยในปี 2555 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.5 - 6.5 โดยในปี 2556 รัฐบาลได้กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายไว้ 2.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20,000 ล้านบาท มีกรอบการขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว และที่สำคัญในเรื่องของงบประมาณ รัฐบาลจำกัดไม่ให้มีรายจ่ายที่จะขยายตัวเกินร้อยละ 2.4 เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง และสนับสนุนให้งบประมาณสามารถกลับมาสมดุลในอนาคต ทั้งนี้ ในปี 2556 มีงานด้านการพัฒนาจำนวนมาก จึงต้องรัดเข็มขัดใช้ในสิ่งที่จำเป็น และในการจัดสรรรายจ่ายลงทุน รัฐบาลได้ตั้งไว้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาที่ร้อยละ 18.4 เป็นร้อยละ 19.5 ของวงเงินงบประมาณ ดังนั้น ในหลักการทำงบประมาณปี 2556 มี 3 ส่วนสำคัญคือ 1. ขอให้หน่วยงานได้กลับไปทบทวนรายละเอียดของงบประมาณ ในนโยบายเร่งด่วน 16 ข้อที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อปี 2555 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง โดยหากมีส่วนใดที่ยังตั้งงบประมาณไว้ยังไม่ครบก็ขอให้ตั้งให้ครบถ้วนในนโยบายทั้ง 16 ข้อนี้ รวมทั้งในส่วนที่ไม่ได้จัดสรรก็ต้องจัดสรรให้ครบ ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องดูความต้องการของประชาชนโดยรวมเป็นหลัก 2. เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก และ 3. เป็นการลงทุนเรื่องการพัฒนาเครือข่ายสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เป็นแผนที่จะต้องเตรียมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 อย่างเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำว่า การจัดทำงบประมาณทั้งหมดจะต้องกลับไปที่ประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเป็นความต้องการที่เห็นพ้องต้องกันกับประชาชน ให้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และการใช้จ่ายของภาครัฐมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นการใช้จ่ายของภาครัฐจะต้องเป็นโครงการที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง จะต้องสามารถทำให้โครงการเกิดขึ้นจริงในปี 2556 ได้ ฉะนั้น การตั้งงบประมาณจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน เป็นการรักษาวินัยการเงินการคลัง และกระบวนการดำเนินงานจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ และบนความสมเหตุสมผลในส่วนที่ไม่จำเป็นก็ให้ตัดงบประมาณได้ พร้อมกับขอให้ทุกคนทำหน้าที่ในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชนให้ดีที่สุดในการตัดสินใจใช้งบประมาณร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ได้รับทราบนโยบายและแนวทางในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยมุ่งเน้นแนวทางการจัดทำงบประมาณที่สอดคล้องกับแผนบริหารราชการแผ่นดิน ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ----------------------------------- กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก วิมลมาส รัตนมณี / รายงาน ธวัชชัย คุ้มคลองโยง / ถ่ายภาพ
Source: //www.facebook.com/
-----------------------------------------------------------------------------
Re-reporter by Moonfleet
Create Date : 01 มีนาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 1 มีนาคม 2555 19:59:59 น. |
Counter : 1822 Pageviews. |
|
|
|